สิวและวิธีการรักษา
สิว นับได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่สำหรับทั้งชายและหญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยรุ่น
ผลิตภัณฑ์ขจัดสิวที่มีจำหน่ายในท้องตลาดแม้ว่าจะมีมากมายให้เลือกทั้งจากเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง และแผนกยา แต่ก็ไม่มีผลิตภัณฑ์ใดสามารถรักษาสิวให้หายขาดได้ 100% ทั้งนี้เนื่องจากสิวนั้นมีหลายชนิด เช่น สิวหัวขาว สิวหัวดำ สิวหัวแดง และสิวหัวหนอง เป็นต้น
สาเหตุการเกิดสิวชนิดต่าง ๆก็แตกต่างกันออกไป ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวจึงขึ้นกับชนิดของสิว
สาเหตุการเกิดสิว
โดยทั่วไปสิวเกิดจากสาเหตุร่วมกันอย่างน้อย 4 ประการ คือ
1. มีการหลั่งของไขมันจากต่อมไขมันมากกว่าปกติ ซึ่งสาเหตุจากการมีฮอร์โมนแอนโดรเจนหรือฮอร์โมนเพศชายในกระแสเลือดสูงนั่นเอง
2. มีการอุดตันของท่อต่อมไขมัน หากมีการหลั่งของไขมันออกมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้ท่อต่อมไขมันพองโตและแตกง่าย จะตามมาด้วยการอักเสบ โดยจะเห็นเป็นตุ่มหนองหรือถุงน้ำ
3. เกิดจากการสะสมหมักหมมของเชื้อแบคทีเรียชนิด P.Acne ที่ตำแหน่งลึก ๆ ของท่อไขมัน ซึ่งมักพบในเด็กวัยรุ่นอายุประมาณ 15-16 ปี จะพบน้อยในเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี ความรุนแรงของสิวจะสัมพันธ์โดยตรงกับปริมาณเชื้อแบคทีเรียในท่อไขมัน แต่จะไม่สัมพันธ์กับเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหน้าเลย
4. พบปฏิกิริยาของการอักเสบ โดยเชื้อแบคทีเรีย P.Acne ซึ่งเป็นการอักเสบโดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับภูมิต้านทานของร่างกาย
นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ที่เป็นสิวยังสามารถเกิดจากสาเหตุการแพ้เครื่องสำอางได้ เช่น ครีมรองพื้น ครีมบำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า เป็นต้น หรือพบในผู้ที่รับประทานยารักษาโรคบางชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาเม็ดสเตียรอยด์ที่เรียกกันว่า Steroid acne
เมื่อทราบถึงสาเหตุหลักของการเกิดสิวแล้ว ก็จะเห็นได้ชัดว่าการที่คนเป็นสิวพยายามล้างหน้าบ่อย ๆ เป็นสิ่งที่ทำได้ แต่จะได้ประโยชน์ในการชำระล้างไขมันส่วนเกินออกไปจากผิวหน้าเท่านั้น การใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ผสมตัวยาทำลายเชื้อแบคทีเรียมักจะไม่ได้ผล เพราะแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวจะสะสมอยู่ในที่อไขมันส่วนที่อยู่ลึกลงไปมากใต้ผิวหนังซึ่งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจะเข้าไปไม่ถึง
วิธีการรักษาโดยทั่วไปคือ ต้องลดการทำงานของต่อมไขมัน ลดจำนวนเชื้อ P.Acne ในท่อ และลดอาการอักเสบ
ผลิตภัณฑ์รักษาสิวส่วนมากจะเป็นทะเบียนยาและยาควบคุม ซึ่งต้องซื้อในร้านขายยาหรือจ่ายโดยมีใบสั่งยาจากแพทย์ เช่น กรดวิตามินเอ , อซีเลอิคแอซิด(Azelaic acid) ผลิตภัณฑ์ทั้งสองชนิดนี้ในอดีต เป็นเพียงเครื่องสำอางขจัดสิวที่หาซื้อได้ทั่วไป แต่ปัจจุบันถูกจัดเป็นยาควบคุมพิเศษ ทั้งนี้เนื่องจากทายาบนผิวหน้าแล้ว อาจมีอาการแพ้อย่างรุนแรงได้เมื่อได้รับแสงแดด จึงควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ และยังพบว่าผลิตภัณฑ์ทั้งสองชนิดได้ผลในการรักษาฝ้าด้วย
ยาทาประเภทยาปฏิชีวนะสามารถทาผิวหน้าเพื่อทำหน้าที่ในการลดปริมาณเชื้อแบคทีเรียและลดปริมาณกรดไขมันอิสระ อย่างไรก็ตามวิธีการนี้ไม่ได้ผลกับทุกคน
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กวัยรุ่นและคุณพ่อคุณแม่ของเด็กวัยรุ่นได้ทราบถึงข้อเท็จจริงของการเกิดสิว การพยายามหาซื้อผลิตภัณฑ์มาทาแก้สิว บางครั้งก็เป็นการเพิ่มปริมาณสิวให้มากขึ้นเนื่องจากอาการแพ้ได้
ควรล้างหน้าบ่อย ๆ เพื่อขจัดไขมันส่วนเกินและปรึกษาแพทย์ผิวหนังหากต้องการใช้ยาอันตราย และจะปลอดภัยกว่าการหาซื้อเครื่องสำอางรักษาสิวมาใช้เอง
เครดิต :
http://iam.hunsa.com/cream6326/article/4290ปล.อ่านแล้วได้ประโยชน์ดี แบ่งปันครับๆ