Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Sengoku : 11

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Sengoku : 11 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Sengoku : 11   Sengoku : 11 EmptySat Sep 06, 2014 4:30 pm

ฝนตกลงมาจากฟากฟ้าที่มืดมิด ชายหนุ่มผมสีดำนั่งมองนครของตนเองที่ถูกฝนปกคลุมจากชั้นสูงสุดของปราสาทของนครแคว้นโอวาริ ในมือของเขากำลังลูบหัวสุนัขพันธุ์ชิบะของเขาที่มีนามว่ายามะ ดูเหมือนสุนัขของเขาจะมีความสุขกับการที่เจ้านายของตนแสดงความรักต่อมัน ชายหนุ่มคนนี้แหงนหน้ามองขึ้นเพดานก่อนจะเห็นสตรีผมสีชมพูนั่งอยู่บนคานไม้ของปราสาท

“เจ้ามีอะไรจะรายงานข้างั้นหรือมุชิ?” ชายคนนี้พูดกับสตรีที่กำลังนั่งบนคาน
“ท่านซูตะ...ข้าไปสืบมาว่าในคุกของแคว้นทัมบะมีนักโทษที่มีนามว่าไทโซอยู่ด้วย” สตรีนามมุชิตอบ
“งั้นหรือ...เจ้าสนใจจะไปสะสางบัญชีแค้นกับมันไหมล่ะ?” ซูตะเอ่ยปากถาม
“ข้าขอเพียงรับชมจากข้างสมรภูมิจะดีกว่า...ข้าคิดว่าคงมีเรื่องอะไรสนุกๆให้ชมอีกเยอะ” มุชิตอบ
“ถ้าเจ้าประสงค์เช่นนั้น” ไดเมียวตอบกลับ

ในขณะที่ทั้งสองยังคุยกันอยู่นั้น ประตูห้องก็แง้มเล็กน้อย พร้อมกับสายตาของใครบางคนที่มีนัยน์ตาสีน้ำตาล ก่อนที่ประตูบานนี้จะถูกปิดลงเบาๆ

=====

ณ ในขณะเดียวกันที่แคว้นทังโกะ หญิงสาวผมทองนั่งอยู่กับพื้นก่อนจะมองฝนที่โปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า เสียงฝนตกลงกระทบหลังคาดังต่อเนื่อง ท้องฟ้านั้นมืดครึ้มไม่ต่างจากจิตใจของมาซามิที่ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก เธอเหม่อลอยออกไป ภาพในอดีตของเธอกับไทโซถูกฉายขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันจนถึงวันสุดท้ายที่จากลา มาซามิกำหมัดก่อนจะทุบลงไปบนพื้น

“ทำไมเราต้องนึกถึงมันตลอดด้วย...มันก็แค่ไอ้คนทรยศเท่านั้น” มาซามิพูดกับตัวเองเบาๆ

“ครืด” เสียงประตูถูกเลื่อนขึ้น ก่อนที่จะมีหญิงสาวผมดำยาวสลวยในชุดกิโมโนถือถาดอาหารมา บนถาดนั้นเต็มไปด้วยอาหารหลากหลาย หญิงคนนี้ยกถาดเข้ามาก่อนจะคลานและวางไว้ข้างหน้ามาซามิ ไดเมียวหญิงก้มมองอาหารของตนก่อนจะแหงนหน้ามองคนรับใช้คนนี้ มาซามิเอื้อมมือไปคว้าปืนของเธอก่อนจะจ่อไปที่หน้าผากของหญิงคนนี้ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยพลัง

“เจ้าเป็นใคร”
“ขะ ข้าเป็นคนรับใช้ใหม่ ข้าพึ่งมาทำงานในวังนี้ครั้งแรกค่ะ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว
“เจ้าไม่สังเกตเลยหรือ...ว่าคนใช้ของข้ามีแต่หญิงชรา หากทว่าใบหน้าเจ้าดูอ่อนเยาว์ ดังนั้นเจ้าไม่ใช่คนที่นี่”
“บอกมา..เจ้าเป็นใคร? มิเช่นนั้นกระสุนนี้จะเจาะหน้าผากของเจ้า” มาซามิข่มขู่

สาวใช้คนนี้เมื่อเจอคำพูดข่มขู่ก็สั่นด้วยความกลัว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกลัว ก่อนที่เธอจะถอยออกจากกระบอกปืนสองสามก้าวก่อนจะก้มกราบมาซามิที่อยู่ข้างหน้าตนเอง

“กระผมต้องกราบขออภัยจริงๆขอรับ...แต่กระผมไม่ได้มีเจตนามาทำร้ายท่าน”

“กระผม” นั่นคือสรรพนามที่สาวใช้คนนี้เรียกแทนตนเอง มาซามิได้ยินก็ทำหน้างงๆหลังจากได้ยินคำพูดของคนแปลกหน้าคนนี้ หญิงสาว (?) เงยหน้าขึ้นมาก่อนจะเอามือล้วงไปหยิบที่มัดผมขึ้นมา เธอรวบและมัดผมของเธอเป็นหางม้าที่ยาวถึงกลางหลังของเธอ มาซามิที่ยังคงเอาปืนจ่ออยู่นั้น เห็นใบหน้าของเธอแล้วก็นึกออกว่าหญิงปริศนา...ไม่ซิคงต้องพูดว่าชายปริศนาคนนี้มากกว่า

“เจ้านั่นเอง...คนรับใช้ของไอ้คนทรยศนั่น...เจ้ามีนามว่าอะไรล่ะ?” มาซามิเอ่ยปากถาม
“กระผมชินซึเกะ ยาโนะขอรับ” ชายหน้าสวยตอบ
“แล้ว...ที่เจ้าลงทุนแต่งหญิงมาหาข้าเนี่ย เจ้าต้องการอะไร?” ไดเมียวหญิงเอ่ยปากถาม
“คือกระผมอยากให้ท่านช่วยปล่อยตัวท่านไทโซน่ะขอรับ” ยาโนะบอกจุดประสงค์
“โฮ่...แล้วทำไมข้าต้องทำเช่นนั้นล่ะ?” มาซามิเอ่ยปากถาม
“กระผมพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อท่านแลกกับการที่ท่านปล่อยท่านไทโซไป” ยาโนะตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง

มาซามิจ้องไปที่ดวงตาของยาโนะ ดวงตาของยาโนะเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น มาซามิเห็นแล้วก็ถอนหายใจก่อนจะลดปืนลงกับพื้นและวางปืนไว้ใกล้ๆตัว เสียงฝนที่ตกกระทบลงกับหลังคาเริ่มหายไป เสียงฝนเริ่มเบาบางลง เป็นสัญญาณว่าฝนได้ซาลงแล้ว ไม่นานนักเสียงฝนก็หยุดลงก่อนที่เมฆสีดำจะเริ่มหายไปจากท้องฟ้า ก่อนที่ดวงจันทร์เต็มดวงจะปรากฏขึ้นมาแทนที่

“เจ้ารู้ใช่ไหมว่าเรากำลังจะมีสงคราม” หญิงผมทองเอ่ยปากถาม

ยาโนะพยักหน้าเป็นการบ่งบอกว่าเขาทราบ มาซามิลุกขึ้นมาก่อนจะเดินตรงไปที่รูปภาพที่เป็นภาพที่ถูกวาดด้วยสีน้ำมันแขวนอยู่ มันเป็นรูปทิวทัศน์ของที่ไหนซักแห่งที่ยาโนะไม่เคยเห็นมาก่อน ในรูปนั้นเต็มไปด้วยหลังคาของบ้านเรือนมากมาย หลังคาของแต่ละหลังนั้นมีสีสันที่ไม่เหมือนกัน มาซามิยืนดูรูปนี้เงียบๆ เช่นเดียวกันกับยาโนะที่ได้แต่นั่งเงียบๆเช่นกัน เธอหันกลับมาหายาโนะก่อนจะเอ่ยปากพูด

“ข้าจะปล่อยไทโซไป...แต่สิ่งที่เจ้าต้องทำคือ เจ้าต้องทำยังไงก็ได้ให้เราชนะศึกนี้”

ยาโนะนั่งนึกอยู่ชั่วครู่ก่อนจะยิ้มด้วยความมั่นใจ

“ได้เลยขอรับ...กระผมสามารถทำให้ท่านชนะศึกครั้งนี้ได้แน่นอน”

=====

ในห้องขังเล็กๆที่มีโรนินผมสีน้ำตาลคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้นฟาง ห้องขังรอบๆนั้นว่างเปล่า มีเพียงแต่เขาคนเดียว ดวงตาของเขาปิดสนิทอาจจะเพราะความเหนื่อยล้าหรืออะไรก็ตาม เสียงกรนดังออกมาจากไทโซเบาๆ หากทว่าเขาก็ต้องตื่นขึ้นเมื่อมีน้ำเย็นสาดลงใส่ร่างกายของเขา ไทโซสะดุ้งตื่นขึ้นมาก่อนจะหันไปเห็นมาซามิที่ในมือถือถังไม้ที่ก่อนหน้านี้เคยมีน้ำอยู่ ไทโซเห็นแล้วก็ได้แต่เงียบ เช่นเดียวกันกับมาซามิที่มองหน้าของไทโซตาไม่กระพริบ ไดเมียวหญิงชี้ไปที่หน้าต่างเล็กๆ ไทโซหันไปก่อนจะเห็นแสงส่องลงมาดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเช้าแล้ว

“ข้าให้เจ้าออกไปจากคุกได้...แต่เจ้าห้ามออกจากวังนี้เป็นอันขาด” มาซามิพูดกับไทโซ
“ทำไมเจ้าถึงปล่อยข้าไปล่ะ?” ไทโซเอ่ยปากถามมาซามิ
“เจ้าตอบขอบคุณยาโนะนะ เพราะเขาทำให้เจ้าออกไปได้” มาซามิตอบ
“ยาโนะ? เจ้าทำอะไรกับเขา?” ไทโซเอ่ยปากถามด้วยสีหน้ากังวล
“ไม่ต้องห่วงหรอก...เขาแค่ออกไปทำอะไรนิดๆหน่อยก็แค่นั้น” มาซามิพูดกับไทโซ
“แต่ถ้าข้าเป็นเจ้า...ข้าจะห่วงเรื่องของตัวเองมากกว่า” ท่านหญิงพูดอีกครั้ง
“เพราะเจ้าจะต้องร่วมสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ด้วย”

สิ้นเสียงของมาซามิเธอก็หันหลังกลับไปและเดินออกจากห้องนี้ ไทโซก็ได้แต่นั่งเงียบๆ ก่อนจะพยุงตัวขึ้นมาจากพื้น เมื่อไทโซยืนขึ้นมาเขาก็รู้สึกถึงความเจ็บปวด เขาก้มลงไปมองหัวเข่าของเขาที่มีผ้าพันแผลพันอยู่ ผ้าพันแผลนั้นซึมไปด้วยเลือด ดูเหมือนแผลบนหัวเข่าของเขานั้นยังไม่หายดี เช่นเดียวกันกับแผลในจิตใจของเขา ไทโซเดินไปช้าๆก่อนจะเปิดประตูห้องขังออกไป เมื่อประตูถูกเปิดจนสุด เขาก็เห็นเพื่อนของเขาที่เป็นพ่อค้ายืนรับอยู่ด้วยรอยยิ้ม ไทโซเดินช้าๆก่อนจะเดินตรงไปที่อากิระที่ถือฝักดาบของตนอยู่ เมื่อไทโซเดินเข้าไปใกล้ๆนั้น อากิระก็ยื่นฝักดาบเล่มนั้นให้ไทโซ โรนินคนนี้รับไว้ก่อนจะเก็บฝักดาบของตนเองไว้ใกล้ตัว

“ดูเหมือนยาโนะจะทำสำเร็จนะ...เขาทำให้เจ้ารอดตายได้” อากิระพูด
“แล้วยาโนะล่ะ?” ไทโซเอ่ยปากถามถึงชายหน้าสวย
“ข้าเองก็ไม่รู้...ข้าเห็นเขาขี่ม้าออกไปตั้งแต่เมื่อคืน ตอนนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าอยู่ไหน” พ่อค้าตอบ
“งั้นหรือ...ถ้างั้นข้าขอตัวก่อนล่ะ” ไทโซตอบสั้นๆก่อนจะเดินจากไป

ไทโซเดินตรงไปที่ไหนซักแห่ง เขาเดินช้าๆ สายตาของเหล่าขุนนางคนเก่าคนแก่ต่างจับจ้องมาที่เขา บ้างก็ซุบซิบนินทา บ้างก็จ้องมองด้วยสายตารังเกียจ หรือบ้างก็ตะโกนด่าทอออกมา หากทว่าไทโซไม่ได้สนใจอะไร เขาเดินตรงไปที่ปราสาทหลังเล็กๆที่ไม่สูงมาก เขาก้มมองลงไปที่พสุธาก่อนจะเห็นกระสุนที่ยังคงฝังอยู่ในดิน ไทโซแหงนมองขึ้นไป ก่อนจะเห็นระเบียงที่ว่างเปล่า ภาพของมาซามิที่หยิบปืนและยิงลงพื้นยังอยู่ในหัวของเขา ไทโซมองที่ประตูปราสาทที่ไม่มีใครยืนเฝ้าอยู่ ไทโซเดินไปช้าๆก่อนจะเอามือเลื่อนประตูไม้ออกไปด้านข้าง เมื่อประตูนั้นถูกเลื่อนจนสุดเขาก็เห็นห้องที่มีแต่ความว่างเปล่า ไทโซก้าวเท้าเข้าในปราสาทหลังนี้ก่อนจะมองรอบๆ

“นี่คือปราสาทที่มาซามิเคยอยู่งั้นหรอ” ไทโซคิดในใจ

ไทโซเดินไปรอบๆ ก่อนจะเดินขึ้นไปที่ชั้นสองของปราสาท บนชั้นสองนั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรจากชั้นแรกเท่าไหร่ เพราะไม่มีอะไรนอกจากความว่างเปล่าเช่นกัน ไทโซเดินตรงไปยังระเบียงไม้ที่มาซามิเคยอยู่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เขามองออกไป เขาเห็นอะไรหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นภาพของทหารที่กำลังฟังแม่ทัพของตัวเอง ภาพของเหล่าแม่บ้านที่กำลังแบกตะกร้าผ้าไปที่ไหนซักแห่ง รวมถึงอากิระที่กำลังเดินออกไปข้างนอกด้วยเหตุผลอะไรซักอย่าง ไทโซเอามือวางไว้บนระเบียงไม้ก่อนจะนึกถึงวันเก่าๆ สายลมอ่อนพัดผ่านใบหน้าของไทโซในขณะที่ไทโซกำลังชมทิวทัศน์ ดอกซากุระลอยตัดหน้าของเขาก่อนจะตกลงไปบนพื้นใกล้ๆ ไทโซหันไปก่อนจะเดินไปหยิบกลีบดอกซากุระ หากทว่าในจังหวะที่เขาก้มเก็บดอกซากุระนั้นเขาก็เห็นอะไรซักอย่างตกอยู่บนพื้น ไทโซเดินตรงเข้าไปที่วัตถุชินนั้นก่อนจะเห็นสมุดสีน้ำตาลเล่มเล็กๆตกอยู่ที่พื้น ไทโซหยิบขึ้นมาก่อนจะเปิดดู ข้างในนั้นเต็มด้วยอักษร ส่วนใหญ่เป็นภาษาญี่ปุ่นแต่ก็มีภาษาต่างประเทศปนๆอยู่บ้าง ดูๆแล้วคงเป็นบันทึกของมาซามินั่นแหละ

“บันทึกเดินทางงั้นหรอ...ทำไมอยู่ตรงนี้ได้นะ?” ไทโซพูดกับตัวเองเบาๆในขณะที่ถือสมุดเล่มนี้อยู่

หากทว่าเมื่อไทโซเริ่มอ่านบรรทัดแรกมันกลับไม่ใช่สิ่งที่เขาคิด เพราะหน้าแรกนั้นเป็นเรื่องราวของเขากับมาซามิ เธอเขียนทุกๆอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ไทโซยิงปืนครั้งแรก เรื่องที่เล่าให้ไทโซฟังเกี่ยวกับการเดินทางของเธอ ไทโซเปิดไปเรื่อยๆดูเหมือนทุกเรื่องที่เขียนลงไปมันจะเกี่ยวกับเขาหมด ไทโซเปิดไปเรื่อยๆจนถึงประมาณกลางๆเล่ม โดยหน้ากระดาษทางซ้ายนั้นเขียนเพียงแค่ไม่กี่บรรทัด ทั้งหมดนั้นล้วนแต่เป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งสิ้น ส่วนทางขวานั้นเป็นหน้ากระดาษเปล่าๆ ไทโซถอนหายใจเพราะเขารู้ว่าหน้ากระดาษเล่มนี้เกี่ยวกับอะไร แต่ถึงกระนั้นไทโซก็อยากจะอ่านบันทึกหน้าสุดท้ายของหน้านี้

มันเป็นวันที่ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเกิดขึ้น คนที่ข้าสนิทที่สุดต้องจากข้าไป เขาฆ่าพี่ชายของข้า มันทำให้ข้าโกรธมากและปวดใจมาก ทุกครั้งที่ข้านึกถึงใบหน้าของเขา ข้าก็รู้สึกปวดใจตลอด ดังนั้นแล้วข้าคิดว่าบันทึกหน้านี้จะเป็นหน้าสุดท้าย และข้าหวังว่าไทโซเองก็จะโชคดีกับเส้นทางชีวิตของเขา

ไทโซอ่านจบก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เพราะเนื้อหานั้นผิดไปจากที่เขาคิด ไทโซนึกว่าจะเต็มไปด้วยคำสาปแช่ง ความเกลียดชัง แต่มันไม่ได้มีข้อความเช่นนั้นอยู่ในหน้ากระดาษแผ่นนี้ ไทโซปิดสมุดบันทึกนี้ก่อนจะวางลงไว้บนที่เดิม ไทโซยืนมอง ก่อนที่ดวงตาของเขาจะคลอไปด้วยน้ำตา หยดน้ำตานั้นตกลงบนหน้าปกของสมุดสีน้ำตาลเล่มนี้ ไทโซเอามือปิดตาของตนก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอน

“มาซามิ...ข้าขอโทษ...ข้าขอโทษ” ไทโซพูดน้ำตา

เสียงแตรดังขึ้นมา ไทโซเช็ดน้ำตาก่อนจะรีบวิ่งไปที่ระเบียงชั้นสอง สิ่งที่เขาเห็นคือทหารที่วิ่งมาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ก่อนที่เขาจะตะโกนแจ้งข่าว “ทัพของจินและมาซารุมาถึงแล้ว!!” เขาตะโกนซ้ำไปซ้ำมาหลายๆรอบเพื่อให้ทหารทุกคนได้ยิน ไทโซจับฝักดาบของตัวเองก่อนจะพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

”ข้าจะปกป้องแคว้นทังโกะ…ต่อให้แลกกับชีวิตของข้าก็ตาม”
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Sengoku : 11
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: