Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Sengoku : 12

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Sengoku : 12 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Sengoku : 12   Sengoku : 12 EmptySun Sep 07, 2014 3:38 pm

เสียงกีบม้าย่ำพื้นดังกระฮึ่ม ชายในชุดเกราะหนักพร้อมกับดาบยาว 80 เซนของเขานำทัพมา โดยข้างๆนั้นเป็นเพื่อนร่วมของเขาควบม้ามา เป็นชายผมขาวดำตัดสลับกัน ดวงตาของทั้งคู่นั้นมุ่งตรงไปที่ปราสาทของแคว้นทังโกะ ส่วนในขณะเดียวกันไทโซวิ่งไปหามาซามิที่กำลังสวมหมวกซามูไร หมวกของเธอนั้นเป็นหมวกสีแดง เธอสวมชุดเกราะสีแดงทั้งตัว ไทโซมองก่อนจะทำสีหน้างงๆ เมื่อมาซามิสวมหมวกเสร็จเธอก็หันมาทางไทโซที่ยืนมองเธออยู่

“เจ้าอย่าอยู่เฉย...สงครามกำลังจะเริ่มแล้ว” มาซามิพูดกับไทโซ
“แต่เจ้าไม่เคยจับดาบมาก่อนเลยนะ...เจ้าจะร่วมศึกครั้งนี้จริงๆหรือ?” ไทโซเอ่ยปากถามไดเมียวหญิง
“เจ้ารู้ได้ไงว่าข้าไม่เคยจับดาบมาก่อน ในช่วงเวลาห้าปีที่ผ่านมา ข้าอาจจะฝึกดาบมามากกว่าเจ้าก็ได้” มาซามิพูด

ไทโซเงียบ มาซามิเห็นท่าทีของไทโซก็เดินออกไป ไทโซก็ได้แต่เดินตามนายหญิงของตัวเอง ก่อนที่เธอจะหยุดลงที่บันไดของปราสาทเบื้องหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยเหล่าทหารที่ถืออาวุธยืนเรียงเป็นแถวเต็มไปหมด ใบหน้าและดวงตาของเขานั้นปราศจากความกลัว เหมือนกับเตรียมพร้อมที่จะต้องเผชิญหน้ากับสงครามที่จะขึ้นในระยะใกล้นี้ ไดเมียวหญิงมองไปรอบๆก่อนจะเริ่มเปล่งน้ำเสียงของเธอที่เต็มไปด้วยพลังออกมาจากปอดของเธอ

“พวกเจ้าคงรู้ดีว่าศึกนี้สำคัญขนาดไหน”

สิ้นเสียงของเธอ เธอก็มองไปที่ดวงตาของทหารหลายนายที่จ้องมองมาที่เธอ มาซามิเองก็กวาดสายตามองทหารของเธอ ก่อนที่เธอจะพูดต่อ

“คู่ต่อสู้ครั้งนี้ของเรานั้นแข็งแกร่งมาก...เคซึเกะ จินและเหยี่ยวดำ มาซารุ ทั้งสองเป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา”
“หากทว่า...ข้าเชื่อว่าถ้าหากพวกเราทำเต็มที่ มันก็ไม่มีสิ่งใดที่เราทำไม่ได้”
“ดังนั้นในฐานะไดเมียวแล้ว ข้าอยากให้เจ้าทำเต็มที่ สู้เต็มที่”
“ไม่ได้เพื่อตัวข้าที่เป็นไดเมียว แต่เพื่อครอบครัวของเจ้า...ภรรยาของพวกเจ้า ลูกๆของพวกเจ้า”
“เอาชีวิตรอดจากศึกนี้ให้ได้....แล้วกลับไปสวมกอดคนที่พวกเจ้ารักและพูดกับเขา”
“ว่าเจ้ารักพวกเขา…บอกพวกเขาว่าพวกเขาเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิต”

มาซามิหยุดพูดอีกครั้งก่อนจะยังมองไปที่ทหารของตัวเอง ดวงตาของบางคนนั้นแดงก่ำ อาจจะเพราะซึ้งกับคำพูดของไดเมียวหญิงคนนี้ เธอก้าวลงจากบันไดก่อนจะเหยียบลงบนพื้นดิน ก่อนที่เธอจะชูกำปั้นขึ้นเหนือศีรษะของตนเอง ก่อนจะตะเบ็งเสียงออกมาอีกครั้ง

“เราจะชนะศึกนี้ไปด้วยกัน!!”

เหล่าทหารได้ยินคำพูดนี้ก็ต่างคำรามไปพร้อมๆกับ ไทโซที่ยืนอยู่เบื้องหล้งก็ได้แต่ยืนยิ้มกับคำพูดของเธอ สิ้นสุดคำพูดของเธอ เหล่าทหารก็เริ่มทยอยเดินออกจากแคว้นทังโกะ เมื่อออกจากแคว้นทังโกะนั้นสิ่งแรกที่พวกเขาเห็นคือธงสัญลักษณ์ของตระกูลซูตะที่พริ้วไหวไปตามสายลม มาซามิที่นั่งอยู่บนหลังม้าดึงดาบออกมาจากฝังก่อนจะชี้ไปทางกองทัพที่นำโดยจินและมาซารุก่อนเธอจะตะโกน “บุก!!” สิ้นเสียงของเธอเหล่าทหารก็ต่างดึงอาวุธของตัวเองก่อนจะพุ่งตรงไปที่ทหารของอีกฝ่าย เช่นเดียวกันกับไทโซที่กำลังจะพุ่งเข้าไป แต่เขาถูกมาซามิจับไหล่ห้ามไว้ก่อน ไทโซหยุดก่อนจะหันมามองมาซามิที่นั่งบนหลังม้า พร้อมกับทำสีหน้าสงสัย

“เจ้าเป็นทหารของข้า..และข้าสั่งให้เจ้าอยู่กับข้า” มาซามิพูด
“ทำไมล่ะ?” ไทโซสงสัยกับคำสั่งของมาซามิ
“เจ้าไม่ต้องสงสัย...ให้เจ้าคิดว่านี่เป็นคำสั่งก็พอแล้ว” มาซามิตอบกลับ

ไทโซเงียบก่อนจะเก็บดาบของตน เหล่าทหารของทั้งสองทัพเริ่มเข้าปะทะกัน เหล่าทหารเริ่มล้มตายทีละน้อยๆ ส่วนจินนั้นก็ใช้ดาบอันยาวของเขาคร่าวิญญาณของทหารทัพของมาซามิ เหล่าทหารล้มลงไปนอนกับพื้นพร้อมกับของเหลวสีแดงค้นที่ไหลออกมา มาซามิที่ดูสถานการณ์อยู่หันไปก่อนจะพยักหน้ากับทหารตนเอง เมื่อเห็นสัญญาณดังนั้นพวกเขาก็เข็นปืนใหญ่กระบอกหนึ่งออกมาก่อนที่จะจุดไฟ ลูกระเบิดลูกหนึ่งพุ่งตรงไปที่จิน ชายในชุดเกราะใหญ่นั้นมองก่อนจะใช้ดาบตัดลูกปืนใหญ่นั้นแยกออกเป็นสองท่อน หากทว่าเมื่อลูกปืนใหญ่นั้นแยกออกจากกันควันนั้นลอยฟุ้งไปทั่วและทำลายทัศนะวิสัยของทหารทัพซูตะ ไทโซที่ยืนมองอยู่ก็รู้สึกอึ้งกับแผนการของมาซามิ

“สิ่งประดิษฐ์ของคาเมอินี่ดีจริงๆ” มาซามิพูดพร้อมกับรอยยิ้ม
“ถึงเวลาบุกแล้ว!!” มาซามิหันหลังก่อนจะตะโกนออกคำสั่ง

หากทว่าภาพที่เธอเห็นนั้นคือภาพของทหารตนเองที่เริ่มล้มตายทีละคนสองคน เธอเห็นชายผมดำขาวตัดสลับกันพร้อมกับทัพทหารของเขา ใช้ดาบของเขาฟันเข้าไปที่ลำตัวของทหารอย่างรวดเร็ว ทหารของในทัพของมาซามิเริ่มเหลือน้อยลงเรื่อยๆ ไทโซรีบดึงดาบออกจากฝักดาบก่อนจะพุ่งตรงไปที่ชายคนนี้ ไทโซยกดาบจะฟันเข้าไปที่ร่างของชายคนนี้ หากทว่าเขายกดาบขึ้นมาป้องกันได้อย่างรวดเร็ว ไทโซดึงดาบออกก่อนจะลองฟันไปในทิศอื่น แต่ผลนั้นก็เหมือนเดิม เขาก็ยังยกดาบมาปัดได้เช่นเคย ทหารสองสามคนที่อยู่แถวนั้นเห็นโอกาสรีบพุ่งเข้ามาช่วยไทโซหวังจะรุมสังหารศัตรู ชายที่มีดวงตาคมดุจเหยี่ยวจัดการใช้ดาบของเขาแกว่งไปที่ร่างของทหารทั้งสองอย่างรวดเร็ว เลือดนั้นกระเซ็นไปที่หน้าของเขา ไทโซเห็นช่องว่างรีบใช้ดาบจะแทงเข้าไปที่กลางร่างหากทว่าเขาใช้ดาบงัดดาบของไทโซขึ้น ไทโซเสียสมดุล ก่อนที่เขาจะใช้ดาบฟันเข้าไปที่กลางอกของไทโซ แต่ว่ามาซามิรีบลงมาก่อนจะยกดาบรับดาบของชายคนนี้ แต่ว่าไม่ทันที่จะทำอะไร ชายตาเหยี่ยวใช้มือของเขาตบไปที่ใบหน้าของมาซามิ มาซามิล้มลงไปนอนกับพื้น ชายคนนี้เห็นดังนั้นรีบพุ่งตรงไปที่มาซามิหวังจะสังหารเธอ ไทโซรีบวิ่งเข้าไปก่อนจะเอาดาบรับดาบของชายผมดำคนนี้ ก่อนที่ไทโซจะออกแรงผลักเขาออก เมื่อเขาถูกผลักไป เขาก็จ้องหน้ากับไทโซ หัวเข่าของไทโซเริ่มมีเลือดไหลออกมา ก่อนที่เลือดนั้นจะหยดลงบนพื้น

“เข่าของเจ้า...” มาซามิพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ
“ไม่เป็นไรหรอกน่า...แค่นี้ข้ายังสู้ไหว” ไทโซพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“อีกอย่าง...เรายังมีงานหนักอยู่ข้างหน้าเรา” ไทโซพูดในขณะที่หันไปมองหน้าศัตรูของตน
“เหยี่ยวดำ มาซารุ...นั่นคือชื่อของมัน” มาซามิพูดขึ้นมาในขณะที่พยายามจะลุกขึ้นมาแต่ก็ยังลุกไม่ขึ้น
“เหยี่ยวดำ มาซารุงั้นหรือ...น่าสนุกดีนี่” ไทโซแสยะยิ้มก่อนจะตั้งดาบขึ้น

ในขณะเดียวกันท่ามกลางสมรภูมิที่เต็มไปด้วยควัน จินที่ยืนอยู่ยังคงแกว่งดาบอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สนว่าจะเป็นใคร รอบๆตัวเขานั้นเต็มไปด้วยร่างของทหารทั้งสองฝ่ายนอนกองอยู่ ผู้สังหารอาจจะเป็นชายในชุดเกราะเหล็กคนนี้ หมอกเริ่มจางหายไปช้าๆ เขาเริ่มเห็นภาพของทหารของเขายังคงสู้รบกันอยู่ในสนาม ไม่นานนักหมอกนั้นก็จางหายไปหมด จินได้หันกลับไปที่หน้าประตูเมืองก่อนที่เขาจะเห็นไทโซกับมาซารุยังคงประลองฝีมือกันอยู่ จินออกคำสั่งบุกเตรียมจะถล่มประตูเมืองแคว้นทังโกะ หากทว่าในขณะที่จินวิ่งไป ดาวกระจายจำนวนมากก็ปักลงที่พื้น จินเห็นแล้วก็แหงนหน้ามองก่อนจะเห็นนินจาผมสีทองยืนขวางหน้าเขา

“มุนตะงั้นหรือ...เจ้ามาทำอะไรที่นี่” จินเอ่ยปากถามด้วยความตกใจ
“ข้าล่ะดีใจที่เจ้าจำข้าได้ด้วย” มุนตะพูดในขณะที่ดึงมีดทั้งสองด้ามออกมาจากแผ่นหลังของเขา

สิ้นเสียงของมุนตะ มุนตะก็พุ่งไปพร้อมกับมีดทั้งสองเล่มของตน ก่อนที่มุนตะจะใช้มีดฟันเข้าไปที่ใบหน้าของจิน แต่จินยดาบกันได้ทัน ก่อนที่จินจะแกว่งดาบหวังจะตัดร่างของมุนตะ หากทว่ามุนตะกระโดดก่อนจะเหยียบบนดาบของจิน มุนตะหยิบดาวกระจายก่อนจะปาใส่จิน แต่จินนั้นออกแรงยกดาบขึ้น ทำให้จังหวะที่นินจาคนนี้ปาดาวกระจายเสียจังหวะ และทำให้ดาวกระจายปักลงไปบนพื้นแทน เมื่อเท้าของมุนตะเหยียบถึงพื้น เขาก็หันไปเจอจินยกดาบก่อนจะผ่าร่างของตนเอง จินใช้ดาบตัดร่างของมุนตะออกเป็นสองข้าง แต่ไม่ทันที่จินจะได้ดีใจ ร่างของมุนตะที่แยกออกก็เปลี่ยนสภาพกลายเป็นท่อนไม้

“ปัก” เสียงธนูลอยเข้ามาปักเข้าที่หัวไหล่ของจิน

จินโดนหันไปก่อนจะเจอกองทัพที่มีธงสัญลักษณ์ของตระกูลโยชิคุนิโบกสะบัด โดยมุนตะยืนข้างๆกับชายผมดำที่มีผมพะรุพะรัง ในมือของชายคนนี้ถือธนูอยู่....ใช่ ชายคนนี้คือชายที่มีชื่อว่าเคนตะ จินได้แต่มองกองทัพของตระกูลโยชิคุนิที่มีจำนวนมากกว่าตนเยอะ ลูกชายตระกูลเคซึเกะได้แต่ยืนมองก่อนจะหันไปมองข้างหลังที่ไม่ได้มีใครปิดเส้นทางไว้อยู่ จินหันไปก่อนจะตะโกน “ถอย!!” สิ้นเสียงของจิน ทัพของตระกูลเคซึเกะก็เริ่มถอย เคนตะได้แต่นั่งบนหลังม้ามองทัพของเคซึเกะถอยหายไป เคนตะกับมุนตะมองหน้ากันก่อนที่จะหันไปมองข้างหลังพร้อมกัน เขามองไปที่ชายหน้าสวยที่มีนามว่า “ยาโนะ”

ในขณะเดียวกัน ไทโซกับมาซารุยังคงประลองกันอยู่ ฝีมือของทั้งคู่ถือว่าสูสีมาก หากทว่าสีหน้าของไทโซเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ อาจจะเพราะเลือดของไทโซที่ไหลออกจากหัวเข่าของเขา เขาเริ่มมองไม่เห็นดาบของมาซารุ ก่อนที่เมื่อเขารู้ตัวอีกทีดาบในมือของเขาก็ถูกเหยี่ยวดำปัดออกจากมือไปแล้ว ดาบของไทโซลอยก่อนจะปักลงพื้นดิน มาซารุยกดาบขึ้นก่อนจะเตรียมปิดบัญชี

“เก๊ง!!”

ร่างของไทโซลงไปนอนกับพื้น หากทว่าไม่ใช่เพราะดาบของมาซารุ เพราะดาบของมาซารุนั้นถูกหยุดไว้ด้วยชายผมขาว ก่อนที่ชายผมขาวคนนี้จะผลักมาซารุออกไป มาซามิที่มองอยู่บนพื้นนั้นก็ตกใจกับการปรากฏตัวของชายคนนี้

“เท็ตซึกะ...เจ้า!!” มาซามิพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ
“ท่านพี่...ท่านไม่เป็นไรนะ?” เท็ตซึกะหันมาถามพี่สาวของตนเองที่นอนอยู่บนพื้น
“ข้าไม่เป็นไร...” มาซามิตอบกลับ

เท็ตซึกะพยักหน้าก่อนจะมองหน้าของมาซารุที่ยืนอยู่ข้างหน้า มาซารุหันไปมองทัพของจินที่กำลังถอยอยู่ และเขาก็เห็นทัพของเคนตะที่กำลังตรงมาที่ตนเอง มาซารุเก็บดาบของตน ก่อนจะเริ่มถอย เท็ตซึกะก็ได้แต่ยืนมองมาซารุเดินจากหายไป มาซามิพยายามออกแรงลุกขึ้นมาก่อนจะวิ่งตรงไปที่ไทโซที่นอนหมดสติอยู่ มาซามิเขย่าร่างของไทโซก่อนจะเรียกชื่อของไทโซ...เธอตะโกนเรียกพร้อมน้ำตาที่หยดลงไปบนร่างของไทโซ

“พาเขาไปรักษาตัวเดี๋ยวนี้!! นั่นคือคำสั่ง!!”

=====

ไทโซลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องๆหนึ่ง มันเป็นห้องเล็กๆ ไทโซหันไปข้างซ้ายเป็นต้นซากุระที่เขาเคยเห็นเมื่อห้าปีก่อน และเมื่อไทโซหันไปข้างขวาก่อนจะมาซามินั่งร้องไห้อยู่ ดวงตาของเธอนั้นแดงก่ำ เมื่อเธอเห็นหน้าของไทโซตื่นขึ้นมาเธอก็เอามือปาดน้ำตาของตน ไทโซลุกขึ้นมาก่อนที่จะมองไปที่หัวเข่าของตนเองที่มีผ้าพันแผลฝืนใหม่พันไว้ โรนินผมน้ำตาลคนนี้หันไปมองข้างๆมาซามิก่อนจะเห็นผ้าพันแผลผืนเก่าของเขาวางไว้ ดูเหมือนมาซามิจะเป็นคนที่เปลี่ยนผ้าพันแผลนี้เอง

“เจ้าทำให้ข้าตกใจมากเลยรู้ไหม” มาซามิเอ่ยปากต่อว่าไทโซ

ไทโซก็ยิ้มก่อนจะสวมกอดมาซามิ ก่อนที่ไทโซจะกระซิบข้างหูของมาซามิเบาๆ

“ข้ารักเจ้านะ....เจ้าเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตข้า”

ใบหน้าของมาซามิแดงก่ำก่อนที่จะผลักไทโซออกไป ก่อนที่เธอจะเดินออกไปจากห้อง เวลาผ่านไปครึ่งเดือนหลังจากสงครามครั้งนี้ ดูเหมือนอาการบาดเจ็บของไทโซนั้นจะดีขึ้นมากแล้ว ไทโซกับยาโนะเดินตรงไปที่ห้องโถงของปราสาทเมื่อประตูถูกเปิดขึ้น พวกเขาก็เห็นคนมากมายนั่งอยู่บนพื้น ไทโซเองกับยาโนะก็ไปนั่งอยู่แถวหลังๆของห้อง ไม่นานนักมาซามิก็ปรากฏตัวมาในชุดยุโรปสีแดงของเธอ มาซามินั่งลงบนบัลลังค์ของเธอ ก่อนที่จะมองไปรอบๆ

“ที่พวกข้าเรียกพวกเจ้ามาวันนี้...เพราะข้ามีประกาศสำคัญ” มาซามิพูดขึ้น
“ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าตัวข้าคนเดียวนั้นสามารถบริหารแคว้นทังโกะได้”
“หากทว่าหลังจากศึกที่ผ่านมา มันทำให้ข้าเห็นอย่างหนึ่ง...ข้าเห็นว่าตัวข้าคนเดียวนั้นไม่สามารถปกป้องแผ่นดินนี้”
“ดังนั้นข้าคิดว่า...ข้าต้องการใครบางคนมาช่วยข้า และข้าจะประกาศชื่อของเขาตอนนี้”

ทุกคนต่างเงียบและตั้งใจฟังมาซามิและต่างภาวนาว่าจะเป็นตนเอง

“ชายคนนั้นคือฮิมูระ ไทโซ” มาซามิพูด

เสียงฮือฮานั้นดังขึ้นมาทันที แน่นอนเหล่าขุนนางหลายคนต่างไม่พอใจกับการตัดสินใจ ก่อนจะเริ่มมีเสียงคัดค้านดังกึกก้องไปหมด หากทว่ามาซามิกุมหมัดก่อนจะทุบลงไปตรงพนักของเก้าอี้ เสียงนี้ทำให้ทุกคนเงียบสงัด เสียงคัดค้านเหล่านั้นหายไปจนหมดสิ้น เหล่าขุนนางต่างจ้องมองมาที่มาซามิที่นั่งอยู่บนบัลลังค์

“ถ้างั้นข้าขอถาม...คนที่มีส่วนที่ทำให้เราชนะศึกครั้งนี้ได้...ก็คือไทโซไม่ใช่หรือ?” มาซามิเอ่ยปากถาม
“แต่ว่าท่านไทโซฆ่าท่านทาโร่นะขอรับ” ขุนนางคนหนึ่งค้านขึ้นมา
“แล้วทำไม? ไม่แน่หากท่านพี่ของข้ายังมีชีวิตอยู่ พวกเราอาจจะไม่นั่งอยู่ตรงนี้ก็ได้” มาซามิพูดขึ้นมา

คำพูดของมาซามินั้นทำให้เหล่าขุนนางเริ่มคิดก่อนจะเริ่มคุยกันเอง บทสนทนาของพวกเขาเริ่มตั้งแต่กลุ่มกบฏ สินค้าราคาแพงขึ้น รวมถึงพฤติกรรมของชายที่ชื่อว่าทาโร่ พวกเขาถกเถียงกันซักพักใหญ่ก่อนที่ทุกคนจะได้ข้อสรุปเดียวกันว่า “ไม่มีทาโร่จะดีกว่า” เมื่อทุกคนได้ข้อสรุปดั้งนั้นก็เงียบสงัด มาซามิที่นั่งอยู่บนบัลลังค์มองมาที่ไทโซก่อนจะพยักหน้าให้ไทโซ ไทโซลุกขึ้นมาจากแถวหลังสุดก่อนจะเดินไปหามาซามิที่ยืนอยู่หน้าห้อง สายตาของขุนนางทุกคนต่างจับจ้องมาที่เขา เมื่อไทโซเดินมายังข้างมาซามิ มาซามิก็ลุกขึ้นมาจากบัลลังค์ของเธอก่อนจะตะเบ็งเสียงออกมา

“หลังจากนี้!! แคว้นทังโกะจะตกอยู่ใต้การดูแลของข้ามาซามิ...และสามีของข้าไทโซ!!”

สิ้นเสียงของเธอเหล่าขุนนางก็ต่างโห่ร้องให้ด้วยความยินดี มาซามิควงแขนของไทโซก่อนจะมองหน้าของไทโซด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เธอจะกระซิบไปที่หูของไทโซด้วยน้ำเสียงอันอ่อนหวาน

“หลังจากนี้ดูแลข้าและแคว้นทังโกะให้ดีล่ะ”
“อืม...ข้าจะทำให้เต็มที่” ไทโซพยักหน้าและตอบมาซามิ

ดูเหมือนเรื่องราวบทใหม่ของไทโซกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

=====

หลังจากงานแต่งงานของทั้งคู่ก็มีอะไรหลายๆอย่างเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำพันธมิตรกันระหว่างตระกูลโยชิคุนิและตระกูลโฮมุระ , เท็ตซึกะกลับมาเป็นแม่ทัพในแคว้นทังโกะ รวมถึงการที่ยาโนะได้กลายเป็นกุนซือของตระกูลโฮมุระ ดูเหมือนอะไรหลายๆอย่างจะเริ่มดำเนินไปในทิศทางดีขึ้น

ไทโซได้ยืนมองแคว้นทังโกะจากชั้นสูงสุดของปราสาท ข้างหลังเขานั้นมียาโนะที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น ไทโซมองจากยอดปราสาทก็เห็นภาพของผู้คนที่กำลังพูดคุยกันอย่างมีความสุข มันทำให้จิตใจของไทโซเบิกบานไม่น้อย ไทโซหันกลับไปก่อนจะเห็นยาโนะนั่งอยู่ ไทโซนั่งลงไปตรงข้ามกับยาโนะ

“ที่ทัพของเคนตะมาช่วยข้า...เป็นผลงานของเจ้างั้นหรือ?” ไทโซเอ่ยปากถาม
“ครับ...ข้าคิดว่าคนที่อยากจะทำลายทัพของซูตะมากที่สุดก็คงเป็นท่านเคนตะนี่แหละ”
“ข้าเลยรีบไปแจ้งเรื่องให้ท่านเคนตะทราบ เพื่อให้ท่านเคนตะยกทัพมาช่วยท่าน” ยาโนะตอบ
“แล้ว...เท็ตซึกะล่ะ? นี่ก็ฝีมือเจ้ารึเปล่า?” ไทโซเอ่ยปากถาม
“ไม่ใช่ข้า...แต่ข้าก็พอเดาได้ว่าเป็นฝีมือใคร” ยาโนะพูดขึ้นมาพร้อมกับจิบน้ำชาของตน
“แล้วเจ้าว่าใครล่ะ?” อดีตโรนินเอ่ยปากถาม
“ข้าคิดว่าคงเป็นองค์หญิงฮานะ” ยาโนะร่างสมมุติฐานขึ้นมา

ไทโซฟังแล้วก็ไม่ได้ตั้งคำถามอะไรขึ้นมา ไทโซหยิบกาน้ำก่อนจะรินลงแก้วน้ำของตนเองก่อนจะยกขึ้นมาจิบ และวางลงบนฝืนเสื่อ

“ข้าต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ...ถ้าหากไม่มีเจ้า ข้าคงไม่มาอยู่ตรงนี้” ไทโซเอ่ยปากขอบคุณชายหน้าหวาน
“ข้าเองก็ต้องขอบคุณท่านเช่นกัน...เพราะถ้าหากข้าไม่มีท่าน ข้าเองก็คงไม่นั่งอยู่ตรงนี้” ยาโนะก้มกราบขอบคุณ
“หลังจากนี้ไป...ข้าคงต้องรบกวนเจ้าอีกเยอะนะ ยาโนะ” ไทโซพูดกับยาโนะ

ยาโนะเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะตอบสั้นๆ “ครับ”
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Sengoku : 12
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Sengoku : 3
» Sengoku : 28
» Sengoku : 46
» Sengoku : 4
» Sengoku : 16

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: