Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Sengoku : 15

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Sengoku : 15 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Sengoku : 15   Sengoku : 15 EmptyTue Sep 16, 2014 10:36 am

ที่ชั้นสูงสุดของปราสาทแคว้นมิโนะ สถานที่ที่ใช้จัดประชุมเมื่อก่อนหน้านี้ แต่ที่ต่างออกไปนั้นในห้องนั้นว่างเปล่า ไร้ซึ่งผู้คน ต่างกับคราวก่อนที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายนั่งอยู่ในห้องนี้ ไม่ว่าจะเป็นไดเมียวจากหลายแคว้น เหล่าผู้บริวารผู้ซื่อสัตย์ที่พร้อมจะปกป้องนายของตนเองเต็มที่ หากทว่าตอนนี้ไม่มีผู้คนเหล่านั้นอยู่ในห้องนี้แล้ว เหลือเพียงแต่ยาโนะที่พึ่งกลับมาจากภารกิจ ยาโนะนั่งอยู่บนพื้น ไม่นานนักประตูก็ถูกเปิดขึ้น ผู้เปิดประตูนั้นเป็นชาวผมดำ ในมือของเขานั้นอุ้มสุนัขพันธ์ชิบะที่ดูน่ารัก ชายผู้นี้เป็นเจ้าของปราสาทหลังนี้ ซึ่งคนทั่วแผ่นดินนั้นรู้จักเขาในนาม “ซูต” เขาเดินเข้ามาก่อนที่จะมองยาโนะที่นั่งอยู่

“แล้วโดจิ คาเมอิล่ะ? ข้าได้ข่าวว่าเจ้าเจอเขาแล้วไม่ใช่หรือ” ซูตะเอ่ยปากถามยาโนะที่นั่งอยู่
“ข้าพบแล้วหากทว่า ท่านคาเมอิ วางเงื่อนไขกับข้า ทำให้ข้าไม่สามารถพาเขามาได้” ยาโนะรายงาน
“เงื่อนไขอะไรหรือ? เจ้าพอจะบอกข้าได้รึเปล่า?” ซูตะถามด้วยสีหน้าสงสัย

ยาโนะพยักหน้าก่อนจะนั่งเล่าเหตุการณ์ทั้งหมด เมื่อซูตะได้ฟังจนหมด เขาก็เดินไปที่ระเบียงห้องพร้อมกับสุนัขของเขา เขาเงียบหลังจากฟังเรื่องของยาโนะจนจบ

“ข้าต้องขออภัยด้วยที่ข้าตัดสินใจไปก่อน แต่ข้ากลัวว่าถ้าหากข้ากลับมาถามท่านแล้วจะไม่ทันการ” ยาโนะก้มกราบ

ซูตะหันกลับมามองยาโนะที่ก้มโค้งอยู่ เขาบอกให้ยาโนะเงยหน้าขึ้นมา ชายหนุ่มได้ยินคำสั่งดังนั้นก็ทำตามที่บอก เขาเงยหน้าขึ้นมองเจ้าเมืองแห่งแคว้นมิโนะ เขายิ้มด้วยความพอใจก่อนจะเปล่งเสียงออกมาเพื่อชื่นชมเขา

“เจ้าทำถูกแล้วล่ะยาโนะ...เจ้าทำถูกแล้วที่ยอมรับเงื่อนไขโดยไม่บอกข้า”
“อย่างที่เจ้าพูดนั่นแหละ ถ้าหากเจ้ากลับมาถามข้า บางทีมันอาจจะไม่ทันเสียแล้ว”

ยาโนะได้ยินก็รู้สึกยินดีกับคำชื่นชมของชายคนนี้

“ไทโซช่างโชคดีจริงๆที่ลูกน้องหลักแหลมอย่างเจ้า” ซูตะพูดคนเดียว

เมื่อพูดจบซูตะก็วางถุงเงินไว้ให้ข้างหน้า ยาโนะมองมันก่อนจะแหงนหน้ามองผู้วาง ซูตะพูดกับยาโนะสั้นๆว่า “รับไว้ซิ” ยาโนะรับไว้ก่อนจะลุกขึ้นมาพร้อมกับโค้งให้กับซูตะและเดินออกจากห้องไป ยาโนะเดินไปยังประตูทางออก เขาเดินตรงไปที่อาชาของเขาที่ถูกผูกไว้อยู่ หากทว่าเขาก็หยุดแก้เงื่อนที่เขาผูกไว้เมื่อเขาได้ยินเสียงบทเพลงที่ถูกขับขานออกมา เสียงนั้นเป็นเสียงของสตรีที่เต็มไปด้วยความนุ่มนวลและบทเพลงนั้นก็เป็นบทเพลงที่ไพเราะมาก ชายหนุ่มหน้าหวานหันไปตามเสียงก่อนจะเห็นหญิงสาวผมสีน้ำตาลในชุดกิโมโนสีชมพูกำลังขับร้องเพลงอยู่บนระเบียงของของปราสาทอีกหลังที่ไม่ได้อยู่ไกลจากตรงนี้เสียเท่าไหร่ เมื่อบทเพลงของเธอจบลง เธอก็เหลือบมามองหน้าของยาโนะที่กำลังมองเธอเหมือนกัน

“ท่านยาโนะ ท่านมาทำอะไรที่นี่งั้นหรือ?” เธอถามด้วยรอยยิ้ม
“กระผมมารายงานเรื่องของท่านคาเมอิน่ะขอรับ” ยาโนะตอบหญิงคนนี้
“งั้นหรือ...จะว่าไปดิชั้นได้ยินเรื่องของท่านมากมายเลยนะ ท่านพอจะเล่าให้ดิชั้นฟังได้ไหม” หญิงสาวคนนี้เอ่ยปากถามอีก
“ได้ขอรับ..แต่เรื่องราวของผมมันคงไม่ได้ตื่นเต้นอย่างที่ องค์หญิงฮานะคาดหวังไว้หรอกขอรับ” ยาโนะเอ่ยด้วยความท่อม
“เรื่องนี้ดิชั้นขอเป็นคนตัดสินใจเองดีกว่า” ฮานะตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“เข้ามาก่อนซิ” ฮานะเอ่ยเชิญชวน

ยาโนะโค้งก่อนจะเดินเข้าไปในปราสาทของฮานะ มันเป็นปราสาทสูงสี่ชั้น เมื่อยาโนะพลักประตูกระดาษนั้น ยาโนะก็เห็นแจกันดอกไม้มากมายวางเรียงกันอยู่ แต่ละอันนั้นงดงามมากและมีสีสันต่างกัน ในขณะที่ยาโนะกำลังชื่นชมความงามของดอกไม้เหล่านี้เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครซักคนกำลังก้าวลงมา เขาหันไปตามเสียงก่อนจะเห็นหญิงผมน้ำตาลที่ชื่อว่าฮานะเดินลงมาจากบันได ฮานะโค้งให้กับยาโนะด้วยกริยาที่สำรวม เมื่อเธอโค้งให้เธอก็นั่งคุกเข่าลงไปกับพื้น ยาโนะเห็นดังนั้นก็คุกเข่าลงไปบนพื้นเช่นกัน ฮานะหันไปทางบริวารของเธอก่อนจะบอกให้ไปหยิบน้ำชามา บริวารของเธอโค้งรับคำสั่งก่อนจะคลานหายไปจากระยะสายตาของทั้งสอง

“ดอกใม้พวกนี้ท่านจัดเองหรือขอรับ?” ยาโนะเอ่ยปากถาม
“ค่ะ ดิชั้นจัดเองทั้งหมด ปกติแล้วยามว่าง ดิชั้นก็มักจะจัดดอกไม้น่ะค่ะ” ฮานะตอบคำถามของยาโนะ
“งั้นหรือขอรับ กระผมว่ามันงดงามมากขอรับ”


ฮานะได้ยินก็ยิ้มด้วยความเขินอายก่อนจะเอ่ยขอบคุณ ไม่นานนักบริวารของฮานะก็นำอุปกรณ์ชงชามาให้ ฮานะรับไว้ก่อนจะเริ่มชงอย่างพิถีพิถัน ยาโนะนั่งมองเงียบๆ โดยรอจนกว่าให้ฮานะชงชาเสร็จ เมื่อฮานะชงเสร็จก็ดันแก้วน้ำชามาให้ ยาโนะรับไว้ก่อนจะยกดื่ม รสชาตินั้นจะบอกว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถ้าหากวัดตามประสาทรับรสของชายหนุ่มหน้าสวยคนนี้ แต่เพื่อไม่ให้เสียน้ำใจยาโนะก็ฝืนดื่มไป

“หลังจากที่เราเจอกันสุดท้ายดูเหมือนจะมีเรื่องราวเกิดขึ้นมาเลยนะค่ะ” ฮานะพูดพลางชงชาของตนเอง
“ขอรับ กระผมต้องร่วมสงครามมากมาย และดูเหมือนโชคยังจะเข้าข้างกระผมทุกครั้ง” ยาโนะตอบกลับ

เธอหยุดมือของเธอที่กำลังชงชาอยู่ก่อนจะมองหน้าของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้าม

“ท่านพอจะเล่าให้ดิชั้นฟังได้ไหมคะ” หญิงสาวเอ่ยปากถาม

ยาโนะพยักหน้าก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวของเขาหลังจากสงครามระหว่างตระกูลเท็ตซึยะและตระกูลโยชิคุนิ ไม่ว่าจะเป็นสงครามระหว่างแคว้นโอนิสึกะและตระกูลยาชิโระที่ยาโนะต้องเผชิญกับยอดฝีมืออย่างคาวาเนโร่และฮารุกะ รวมถึงยอดมันสมองอย่างอิโอชิมะ หรือสงครามที่แคว้นทังโกะที่ไทโซได้ขึ้นเป็นไดเมียวคนใหม่ของแคว้น ยาโนะนั้นได้เล่าหลายๆอย่างให้ฮานะฟัง แต่ก็ไม่ได้เล่าทั้งหมดมีบางเรื่องนั้นยาโนะไม่ได้เล่าให้ฟัง ทางฮานะที่นั่งฟังนั้นก็ตั้งใจก่อนจะหัวเราะไปกับยาโนะในบางจังหวะ เวลาเดินผ่านไปซักพักก่อนที่เรื่องเล่าของยาโนะจะจบลง

“ช่างเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเลยนะคะ” ฮานะเอ่ยปากพูด
“ขอรับ ถ้าหากมานึกย้อน มันก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นไม่น้อย” ยาโนะแสดงความเห็นเช่นกัน

จบประโยคของยาโนะนั้น ความเงียบก็เข้าปกคลุมอีกครั้ง ย่าโนะหยิบแก้วน้ำชาขึ้นมาก่อนจะจิบ เมื่อยาโนะดื่มจนหมดก็วางลงไปบนผืนเสื่อ

“ถ้าหากไม่เป็นการก้าวก่ายท่าน...กระผมขอถามได้อะไรหน่อยได้ไหมขอรับ” ยาโนะเอ่ยปากถาม
“ได้ซิ...เจ้าอยากถามอะไรดิชั้นงั้นหรือ?” หญิงสาวในกิโมโนสีชมพูตอบ
“เรื่องของท่านเท็ตซึกะที่มาช่วยท่านไทโซ...เกี่ยวกับท่านรึเปล่า?” ยาโนะเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย

ฮานะเงียบก่อนจะดื่มชาของตนเอง สีหน้าของเธอเมื่อลิ้มรสแล้ว เธอก็ทำสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดูเหมือนรสชาติคงไม่ถูกปากเหมือนกัน เธอวางแก้วน้ำชาลงก่อนจะมองหน้าของยาโนะที่รอฟังคำตอบของเธออยู่

“ถ้าให้พูดตรงๆ ก็ทั้งเกี่ยวและไม่เกี่ยวแหละค่ะ” ฮานะตอบแบบให้ปริศนามา
“ท่านหมายความว่าเช่นไร?” ยาโนะถามด้วยสีหน้าสงสัย
“ก่อนอื่น ดิชั้นขอถามตรงๆท่านยาโนะก่อนว่าชานี้รสชาติเป็นยังไงบ้าง” ฮานะเปลี่ยนประเด็น
“เอ่อ ถ้าให้กระผมตอบตรงๆรสชาตินั้นไม่ค่อยถูกปากของกระผมเท่าไหร่” ยาโนะตอบตรงๆ

ฮานะได้ยินก็ยิ้มกับคำตอบของยาโนะพร้อมกับหัวเราะด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ทั้งชีวิตของดิชั้น ดิชั้นไม่ค่อยได้ชงชาหรอกค่ะ เพราะดังนี้รสชาติมันเลยออกมาไม่ดีเท่าไหร่นัก” องค์หญิงสารภาพ
“แล้วท่านยาโนะเคยชงชารึเปล่าคะ?” เธอเอ่ยปากถาม
“กระผมเกิดมาในครอบครัวที่เปิดกิจการร้านน้ำชาดังนั้นกระผมเคยชงมาก่อนขอรับ” ยาโนะตอบ
“งั้นหรือคะ...ถ้าไม่เป็นการรบกวนช่วยลองชงให้ดิชั้นได้ไหมคะ?” เธอเอ่ยปากขอร้อง

ยาโนะพยักหน้าก่อนจะเริ่มคว้าอุปกรณ์ชงชามาก่อนจะเริ่มชงในระหว่างนั้นทั้งคู่ก็นั่งคุยกันเรื่องจิปาถะทั่วไป ไม่นานนักยาโนะก็ชงชาเสร็จ ชายหนุ่มยื่นแก้วไปให้กับหญิงสาวที่ขอร้องตน เธอคว้าแก้วไว้ก่อนจะจิบ สีหน้าของเธอนั้นเป็นเครื่องบ่งบอกว่ารสชาติชาเขียวที่เด็กจากบ้านน้ำชาชงนั้นดีไม่น้อย ยาโนะเห็นดังนั้นก็โล่งอกไม่น้อย

“ดิชั้นแค่บอกเท็ตซึกะว่าจะมีสงครามเกิดขึ้นที่แคว้นทังโกะ” ฮานะเริ่มเล่าขึ้นมา
“ในตอนนั้นเท็ตซึกะก็เอ่ยปากถามดิชั้นว่า ถ้าหากเขาทรยศตระกูลเท็ตซึกะ จะเป็นอะไรไหม?”
“ดิชั้นก็ตอบไปว่า ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับท่าน”
“สิ้นเสียงของดิชั้น เขาก็ก้มกราบดิชั้นและควบม้าออกไปอย่างรวดเร็ว ก็แค่นั้นแหละคะ”

ยาโนะได้ยินก็พยักหน้าก่อนที่จะหยิบน้ำชามาดื่มต่อ แม้ว่ารสชาติมันจะแย่ขนาดแต่ดูเหมือนยาโนะก็ดื่มจนหมด มันเป็นวินาทีอันสงบสุขของชายหญิงคู่หนึ่ง แต่แล้วความสงบสุขก็ถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว เมื่อเกิดเสียงโวยวายขึ้นด้านน้อง ยาโนะลุกขึ้นมาก่อนจะเดินไปเลื่อนประตูกระดาษ ก่อนที่ยาโนะจะเห็นทหารคนหนึ่งป่าวประกาศด้วยน้ำเสียงกึกก้องไปทั่ว สิ่งที่เขาประกาศคือ “ทัพอังกฤษบุกมาแล้ว” “ทัพอังกฤษบุกมาแล้ว” คำป่าวประกาศนี้สร้างความตื่นตระหนกกับเหล่าทหารอย่างมาก ใบหน้าของพวกเขานั้นเต็มด้วยหวาดกลัว บ้างก็ถึงกับร้องไห้แม้ว่ายังไม่ทันจะได้สู้

“พวกเจ้าเลิกงี่เง่าได้แล้ว!!” เสียงของใครบางคนตะโกนขึ้นมาด้วยความเกรงขาม

ทุกสายตาหันไปที่เสียงนั่น เจ้าของเสียงคือเจ้าของปราสาทแคว้นมิโนะที่กำลังก้าวเท้าลงมาจากบันไดของปราสาท ในมือของเขานั้นกุมฝักดาบสีดำของเขา ข้างๆกายด้านซ้ายเขามีชายผมดำขาวตัดสลับที่นามว่า มาซารุ ในด้านขวานั้นมีหญิงผมชมพูที่แต่งตัวน้อยชิ้นยืนอยู่ เมื่อเท้าทั้งสองข้างของซูตะย่ำลงแผ่นดิน เขาก็เริ่มเปล่งเสียงพูดต่อ

“แน่นอน พวกมันแข็งแกร่งแต่ถ้าหากเรามีแผนการดีๆ เราย่อมชนะได้” ซูตะพูดต่อ
“คนที่บุกมาใช่ เอ็ดเวริด์กับแมรี่รึเปล่า?” ซูตะเอ่ยปากถามคนประกาศข่าว
“ไม่ใช่ขอรับ...เป็นชายผมสีขาวที่ถือดาบและโล่ห์ขอรับ” ทหารคนนี้ตอบ

ซูตะได้ยินก็ฉุดคิดและเงียบลง เช่นเดียวกันกับเหล่าทหารที่ต่างเงียบไม่ส่งเสียงอะไรทั้งสิ้น และต่างรอคอยให้เจ้านายที่น่าเกรงขามของเขาพูด

“จิน...เจ้าถ่วงเวลาไว้ไม่ให้ทัพของพวกอังกฤษบุกเข้ามาถึงตัวปราสาทได้” ซูตะหันไปออกคำสั่งกับชายในชุดเกราะ
“และในระหว่างนี้มาซารุกับมุชิจะอ้อมไปดักทัพของพวกมัน และสังหารพวกมัน”
“ข้าขออาสาช่วยได้ไหมขอรับ?” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นมา

ทุกคนหันไปก่อนจะเห็นยาโนะที่เดินลงมาจากตำหรับของฮานะ ดวงตาของยาโนะนั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ซูตะเห็นดังนี้จึงเอ่ยปากขึ้นถามชายหนุ่มหน้าหวาน

“เจ้าสามารถสู้ในฐานะนักรบของตระกูลเท็ตซึยะได้หรือ?” ซูตะเอ่ยปากถาม

ยาโนะส่ายหน้าก่อนจะตอบ

“ข้าไม่ได้สู้ในฐานะทหารของตระกูลเท็ตซึยะ หากทว่าข้าสู้ในฐานะนักรบแห่งประเทศญี่ปุ่น” ยาโนะตอบ

ในขณะเดียวกันห่างออกไปอีกหลายกิโลเมตรจากปราสาทของซูตะ กองทัพของอังกฤษที่นำโดยชายผมสีขาวที่บนใบหน้านั้นเต็มไปด้วยบาดแผลมากมายที่เต็มสัญลักษณ์บ่งบอกถึงประสบการณ์ในสมรภูมิ รวมถึงริ้วลอยที่แสดงให้เห็นว่าเขาชายที่มีอายุแล้ว ดวงตาของเขานั้นดุร้ายราวกับดวงตาของหมาป่า เบื้องหลังของเขาเต็มไปด้วยเหล่าทหารที่ในมือมีอาวุธพร้อมเพราะเป้าหมายของเขานั้นมีเพียงอย่างเดียวคือ

”ทำลายทุกอย่างให้สิ้นซาก”
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Sengoku : 15
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Sengoku : 2
» Sengoku : 11
» Sengoku : 24
» Sengoku : 40
» Sengoku : 13

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: