Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Sengoku : 18

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Sengoku : 18 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Sengoku : 18   Sengoku : 18 EmptySun Sep 28, 2014 9:38 am

“เรามาถึงแล้วครับ” ชาวต่างชาติพูดขึ้นพร้อมเปิดประตูเกวียน

เมื่อประตูถูกเปิดออก ผู้โดยสารทั้งสองก็ก้าวออกมาจากเกวียน เมื่อทั้งคู่ออกมาก็ได้ยินเสียงของไวโอลินดังออกมาจากคฤหาสน์สองชั้นสีขาว ใกล้ๆกับคฤหาสน์นั้นมีน้ำพุตั้งอยู่ ไม่ห่างจากน้ำพุมีโคมไฟที่ข้างในถูกจุดไฟจำนวนมากเรียงกัน เนื่องด้วยตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้วดวงไฟจึงเป็นแสงสว่างที่สว่างไสวตลอดทาง ผู้คนเริ่มเดินเข้าไปยังคฤหาสน์ ยาโนะกับเมโกะก็เช่นกัน ทั้งคู่เดินช้าๆ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปยังคฤหาสน์ ในขณะที่ยาโนะกับเมโกะกำลังเดินอยู่นั้น ยาโนะหันไปด้านซ้ายของตนก่อนจะเห็นเรือขนาดใหญ่สองลำเทียบท่าอยู่ ยาโนะสะกิดเมโกะที่เดินข้างๆ ก่อนจะชี้ไปที่เรือทั้งสอง เมโกะเห็นเรือทั้งสองก็พยักหน้าให้กับยาโนะ ถ้าหากเรือลำนี้จอดอยู่ที่นี่นั่นก็แปลว่าจินก็อาจจะอยู่ที่ห้องขังก็ได้ ทั้งคู่เดินมาถึงหน้าทางเข้าคฤหาสถ์ก่อนจะเห็นชายผมทองในชุดสูทสีดำกับหญิงผมทองในชุดเดรสสีน้ำเงินยืนต้อนรับแขกอยู่ ยาโนะกับเมโกะเดินตรงไปหาชาวต่างชาติก่อนจะที่ชายผมทองคนนี้จะจุมจิตลงบนมือของเมโกะและยาโนะเพื่อเป็นการแสดงการทักทาย

“ผมเอ็ดเวริด์ ขอต้อนรับสู่งานเลี้ยงเฉลิมฉลองของพวกเรา” ชายหนุ่มผมทองพูดด้วยรอยยิ้ม
“ดิชั้นเมโกะ ดิชั้นมาแทนคุณแม่ของดิชั้น ที่ติดธุระ” เมโกะพูด
“เมโกะงั้นหรือ...เหตุใดเจ้าถึงมีชื่อญี่ปุ่นทั้งๆที่มีใบหน้าแบบพวกเราล่ะ?” น้องสาวอย่างแมรี่ที่ยืนอยู่ข้างๆตั้งคำถาม
“พ่อของดิชั้นเป็นชาวญี่ปุ่น ส่วนแม่ของดิชั้นเป็นชาวอังกฤษค่ะ” เมโกะแถลงความสงสัยของแมรี่

แมรี่พยักหน้าก่อนจะเห็นยาโนะที่สวมชุดกิโมโนสีม่วงอยู่ข้างๆ

“แล้วสตรีข้างๆท่านล่ะ? ใครหรือ?” แมรี่เอ่ยปากถาม
“นี่น้องสาวของดิชั้น เธอมีนามว่ายาโนะ” เมโกะแนะนำยาโนะ

แมรี่พยักหน้าก่อนจะส่งยิ้มให้ผู้มาเยือนทั้งสอง

“ถ้างั้นก็ขอให้สนุกกับงานเลี้ยงก็แล้วกัน” เอ็ดเวริด์พูดพร้อมกับรอยยิ้ม

ทั้งสองเดินเข้าไปในอาคาร เมื่อเข้าไปในอาคารนั้น เสียงดนตรีที่ได้ยินนั้นเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคู่เดินตรงขึ้นบันไดและเดินไปจนถึงโถงขนาดใหญ่ที่มีผู้คนมากมาย ข้างบนนั้นถูกตกแต่งด้วยชานเดอเลียร์ที่ดูอลังการ บนผนังนั้นเต็มไปด้วยรูปภาพที่ถูกวาดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพของผู้คนหรือจะเป็นทิวทัศน์ แขกที่มาเยือนงานสังสรรค์แห่งนี้ต่างถือจานอาหารของตัวเองหรือไม่ก็แก้วไวน์ ผู้มาร่วมงานพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แม้ว่าบรรยากาศจะเต็มไปด้วยความสนุกสนานแต่ชายหนุ่มหน้าหวานกลับรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลอาจจะเพราะเขาเป็น “ชาวต่างชาติ” สำหรับคนอังกฤษพวกนี้

“แล้วเราควรจะทำไงบ้างหรอครับ?” ยาโนะกระซิบถามเมโกะที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ทำตัวปกติ พอพวกมันเริ่มทยอยกลับค่อยหาโอกาศไปช่วยจิน” เมโกะตอบด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา

ยาโนะพยักหน้า ไม่นานนักก็มีชาวต่างชาติคู่หนึ่งตรงเข้ามา คนหนึ่งนั้นเป็นผู้ชายวัยชราร่างท้วม ส่วนข้างเขาก็เป็นหญิงชรารูปร่างไม่ต่างอะไรกับชายชรา พวกเขายิ้มให้กับชาวญี่ปุ่นสองคน ฝ่ายที่ถูกยิ้มก็ยิ้มตอบ ชาวต่างชาติคู่นี้เดินตรงมาหายาโนะและเมโกะก่อนจะเอ่ยทักทายทั้งสอง พวกเขาแนะนำตัวให้ฟัง พวกเขาเป็นคู่สามีภรรยา ชื่อ “อลิสตาร์” และ “แคลร์” ดูเหมือนจะเป็นชาวอังกฤษที่อาศัยในประเทศญี่ปุ่นมาได้ซักพักแล้ว และเล่าเรื่องต่างๆให้เมโกะและยาโนะฟัง ซึ่งยาโนะก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง เมโกะก็แสดงความเห็นขึ้นมาเกือบตลอดทั้งเรื่อง คุยกันไปได้ซักพัก หญิงชรานามแคลร์ก็เอ่ยถามยาโนะที่ยืนอยู่

“ทำไมเจ้าดูเงียบจังเลย...ไม่สบายรึเปล่า?”

ยาโนะเข้าใจสิ่งที่เธอสิ่งทีเธอพูด หากทว่ายาโนะไม่สามารถจะเรียบเรียงคำพูดขึ้นมาได้ คำศัพท์ต่างๆที่เขาเรียนมาเริ่มตีกันในหัวมั่วไปหมด ยาโนะเริ่มรู้สึกอึดอัด จะพูดก็พูดไม่ออก ไม่ว่าจะพยายามขนาดไหน ยาโนะก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ เหงื่อเริ่มไหลออกมาแสดงให้เห็นว่ายาโนะเริ่มรู้สึกกดดัน เมโกะที่อยู่ข้างๆเห็นก็รีบเอ่ยกับคู่สามีภรรยาที่อยู่ข้างหน้าตนทันที

“ดูเหมือนจะไม่สบายจริงๆด้วยนะคะ”
“ออกไปรับลมก่อนดีไหม ยาโนะ?” เมโกะหันมาพูดกับยาโนะเป็นภาษาญี่ปุ่น

ยาโนะพยักหน้าก่อนจะเดินตรงไปที่ระเบียง ยาโนะก้าวเท้าออกไปยังระเบียง ยาโนะมองไปที่ดวงจันทร์เต็มดวงที่ส่องแสงมายังตน รอบๆดวงจันทร์นั้นมีดวงดาวมากมายระยิบระยับอยู่บนท้องฟ้า สายลมอ่อนๆพัดใบไม้ จนเกิดเป็นเสียงขึ้นมา หากทว่าเสียงนั้นไม่ได้ยินชัดเท่าไหร่เพราะเสียงของดนตรีสากลที่ถูกบรรเลงอยู่นั้นกลบเสียงเสียเกือบหมด ยาโนะถอนหายใจเฮือกใหญ่ ในจิตใจของเขายังคงตั้งคำถามว่าเพราะเหตุใดเขาต้องทำงานนี้ แน่นอนว่าตัวของยาโนะคงไม่ชื่นชอบการแต่งหญิงเสียเท่าไหร่หรอก แต่ถึงกระนั้นเขาก็พยายามหาคำตอบเพื่อมองโลกในแง่ดีและทำให้เขามีกำลังใจมากขึ้นในภารกิจนี้ ในหัวของเขาพยายามสร้างคำตอบขึ้นมาไม่หยุด คำตอบมากมาย เสียงในหัวของเขาตีกันไปหมด บางเสียงในหัวของเขาก็พูดว่า “มีเพียงแต่เขาเท่านั้นที่ทำงานนี้ได้” ในขณะเดียวกันบางเสียงในหัวของเขาก็แย้งขึ้นมาว่าให้ “คนอื่น” ทำก็ได้ แต่ไม่นานนักเสียงของฝีเท้าใครบางคนก็ทำให้เสียงในหัวของยาโนะเงียบลง ยาโนะหันหลังกลับไปก่อนจะเห็นหญิงผมสีทรายในชุดเดรสสีน้ำเงินเดินตรงมาก่อนจะยืนข้างๆเขา ในมือของเธอถือแก้วไวน์ที่เหลือไวน์เพียงนิดเดียว เธอหันมามองยาโนะที่กำลังจ้องมองเธออยู่เช่นกัน

“ไม่สนุกกับงานเลี้ยงงั้นหรือ?” เธอเอ่ยปากถาม
“ค่ะ” สตรีปลอมตอบสั้นๆ
“งั้นหรือ ตัวข้าเองก็ไม่ชอบงานเลี้ยงสังสรรค์เหมือนกัน ตรงข้ามกับพี่ชายของข้าโดยสิ้นเชิง” แมรี่เล่าให้ฟัง

ยาโนะเงียบ เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไร แมรี่หันมามองยาโนะก่อนจะยิ้มให้และเริ่มเปิดประเด็นขึ้นมา

“เจ้าพอจะเล่าชีวิตของเจ้าในประเทศญี่ปุ่นให้ข้าฟังได้ไหม”

ยาโนะพยักหน้าก่อนจะเริ่มเล่าให้กับแมรี่ฟัง เรื่องราวที่ยาโนะเล่านั้นไม่ได้เป็นเรื่องจริงทั้งหมด แต่ก็ไม่ใช่เรื่องลวงทั้งหมดเช่นกัน แม้ว่าตอนแรกๆยาโนะจะตะกุกตะกัก หากทว่าเมื่อยาโนะยิ่งเล่าไปเรื่อยๆ เขาเริ่มพูดได้อย่างคล่องแคล่ว แมรี่หัวเราะในเรื่องเล่าของยาโนะเป็นตัวบ่งบอกว่าเธอเข้าใจในสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นผู้นี้พูด เวลาของทั้งคู่เดินไปอย่างรวดเร็วเพราะทั้งคู่ต่างมีความสุขกับช่วงเวลานี้ เมื่อทั้งคู่รู้ตัวอีกทีหนึ่ง พวกเขาก็ได้ยินเสียงดนตรีที่ต่างไปจากเดิม เขาหันกลับไปก่อนจะเริ่มเห็นผู้คนเริ่มจับคู่กันก่อนจะเริ่มเต้นรำกัน ยาโนะกับแมรี่ยืนมอง มันเป็นภาพที่งดงามมาก เหล่าผู้คนเริ่มเต้นรำกันภายใต้แสงไฟจากชานเดอร์เลียร์ ชายหนุ่มหน้าหวานหันไปก่อนจะเห็นแมรี่ยื่นมือมาพร้อมด้วยรอยยิ้ม

“เจ้าสนใจมาเต้นรำกับข้าไหม?” แมรี่เอ่ยปากถาม
“ตะ แต่ข้าเต้นรำไม่เป็น” ยาโนะปฏิเสธ
“ไม่เป็นไรหรอก...เจ้าแค่เคลื่อนไหวตามข้าก็เพียงพอแล้ว”

ยาโนะคว้ามือของแมรี่ไว้ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มเต้นรำ ในขณะที่คนส่วนใหญ่กำลังเต้นไปตามจังหวะเพลงใต้แสงไฟ ก็มีชายหญิงคู่หนึ่งเต้นรำใต้แสงดวงจันทร์ ยาโนะขยับร่างไปตามที่แมรี่ขยับ ถ้าให้พูดจริงๆนี่คือครั้งแรกที่ยาโนะได้เข้าใกล้ผู้หญิงขนาดนี้ (ถ้าหากไม่นับคุณแม่ของยาโนะเอง) ดนตรียังคงบรรเลงต่อไป และเมื่อดนตรีหยุดลง ใบหน้าของแมรี่นั้นก็อยู่ใกล้กับใบหน้าของยาโนะมาก อีกเพียงไม่กี่เซนริมฝีปากของทั้งคู่คงได้ประกันแน่ ใบหน้าของยาโนะเริ่มแดงก่ำ หัวใจของเขาเริ่มเต้นรัวจนไม่เป็นจังหวะ

“เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า สีหน้าของเจ้าดูไม่ดีเลยนะ” แมรี่เอ่ยปากถาม
“มะ มะ ไม่เป็นไรค่ะ” ยาโนะรีบตอบก่อนจะปล่อยมือออกจากแมรี่
“ดิชั้นขอตัวก่อนค่ะ” ชายหนุ่มหน้าสวยโค้งให้ก่อนจะรีบแยกตัวออกไป

ยาโนะวิ่งลงไปชั้นล่างก่อนที่เขาจะหยุดหายใจ เขาเอามือวางไว้บนอกของเขา เขายังสามารถสัมผัสเสียงหัวใจของเขาที่เต้นไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าของหญิงชาวอังกฤษที่เขาเต้นรำด้วยยังคงตราตึงอยู่บนดวงตาของเขา ทำไมกันนะที่ยาโนะไม่สามารถลืมใบหน้าของเธอได้ หรือว่านี่คือสิ่งที่เรียกว่า “รัก” ยาโนะพยายามส่ายหน้าปฏิเสธความรู้สึกของตน และพยายามพูดกับตนเองว่าเธอเป็นศัตรู ในขณะที่ยาโนะกำลังสับสนอยู่นั้น ก็มีมือของใครบางคนแตะไปบนไหล่ของบุรุษในชุดกิโมโนสีม่วง ยาโนะสะดุ้งด้วยความตกใจก่อนจะหันหลังไป เขาหันไปเห็นหญิงในชุดเดรสสีขาว ยืนอยู่ ยาโนะถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะพูดกับสตรีที่แตะไหล่ตนเอง

“โถ่...เมโกะเองหรือ ข้าตกใจหมด” ยาโนะพูดกับเมโกะ
“ข้าต้องขอโทษด้วย ว่าแต่ทำไมหน้าเจ้าแดงเช่นนั้นล่ะ?” เมโกะตั้งข้อสงสัย
“มะ มะ ไม่มีอะไรหรอกครับ” ยาโนะปฏิเสธด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน
“หรือว่าเจ้ายังจะเขินกับการเต้นรำใต้แสงจันทร์ล่ะ” เมโกะพูดแซว

ยาโนะได้ยินก็ผงะไปชั่วครู่ ก่อนจะหันมามองเมโกะที่พึ่งพูดแซวยาโนะ สีหน้าของยาโนะนั้นเต็มไปด้วยความตกใจ ราวกับตั้งคำถามว่า “รู้ได้ยังไง”

“ตอนที่ข้าจะออกไปตามเจ้า ข้าเห็นเจ้าเต้นรำกับนาง ข้าเห็นเจ้าดูมีความสุขดี เลยไม่อยากขัดเท่าไหร่” เมโกะตอบพร้อมหัวเราะ
“ไม่ตลกเลยนะครับ!!” ยาโนะพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนิดๆ
“จะว่าไปที่เมโกะลงมาตามข้ามีอะไรหรอครับ?” ยาโนะเปลี่ยนประเด็น

เมโกะพยักหน้าก่อนจะชี้ไปที่โถงยาว ภาพแผนที่ที่มุนตะวาดไว้ขึ้นไหลเข้ามาในหัวของทั้งสอง ถ้าหากจำไม่ผิดตรงๆที่เมโกะชี้อยู่นั้นก็คือห้องขัง ทั้งคู่พยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปช้าๆ เมื่อพวกเขามาถึงสิ่งที่พวกเขารู้สึกผิดคาดคือไม่มีใครยืนเฝ้าเลย ประตูนั้นก็ไม่ได้ล็อค ราวกับเชื้อเชิญให้ทั้งสองเข้ามา ยาโนะเอื้อมมือไปก่อนจะเปิดประตูช้าๆ ยาโนะแง้มมองไปก่อนจะไม่เห็นอะไรนอกจาก ชายในชุดเกราะนั่งที่อยู่หลังกรง แม้ว่าจะไม่เห็นหน้าเนื่องจากความมืดปกปิดใบหน้าเขา แต่ก็น่าจะมั่นใจได้ว่าชายคนนี้คือจิน ยาโนะกับเมโกะเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะเรียกชื่อของจินด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เขาแหงนหน้าขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าเขาคือ “จิน” จริงๆ หากทว่าแม้จะแหงนหน้าแต่ด้วยความมืดยังคงปิดบังใบหน้าของเขาเว้นเพียงแต่บริเวณปากและคางของเขา

“ท่านจินครับ พวกเรามาช่วยแล้วครับ” ยาโนะพูดขึ้น
“….กุญแจอยู่ที่พื้น” จินพูดขึ้นมา

ยาโนะกับเมโกะก้มมองตามที่จินพูดก่อนจะเห็นกุญแจตามที่เขาพูด ยาโนะก้มไปหยิบก่อนจะไขกุญแจเพื่อเปิดประตูห้องขัง ในขณะเดียวกันเมโกะก็เหลือบไปเห็นหน้ากากของจินและดาบของจินวางอยู่ใกล้กัน เมโกะเดินไปก่อนจะหยิบหน้ากากของเขาขึ้นมาและยื่นให้ยาโนะ ชายหนุ่มรับไว้ก่อนจะยื่นไปให้จิน จินสวมหน้ากากก่อนจะลุกขึ้นมาออกจากเงามืด ดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความแค้น เขาเดินไปคว้าดาบของเขาที่วางไว้อยู่บนโต๊ะก่อนจะประกาศกร่าวขึ้นมา

“ข้าจะขึ้นไปฆ่าไอ้พวกอังกฤษที่อยู่ข้างบนให้หมด”
“ช้าก่อน ท่านจิน ถ้าหากท่านทำเช่นนั้น คราวนี้ท่านคงมิได้แค่โดนจับแน่ๆ แต่ชีวิตของเจ้าคงหาไม่แน่นอน” เมโกะห้ามไว้

จินเงียบก่อนจะสงบสติอารมณ์ ยาโนะกับเมโกะมองหน้ากันก่อนจะรีบพาตัวของจินออกจากห้องขังแห่งนี้ พวกเขาใช้ทางออกอีกทางหนึ่ง มันเป็นทางออกที่ถูกเขียนขึ้นในแผนที่ของมุนตะ โดยเส้นทางนั้น ใช้ผ่านทางห้องครัว และออกไปทางประตูหลังซึ่งจะลงเป็นตรงหาดทรายพอดี ในใจของยาโนะและเมโกะนั้นเตรียมพร้อมจะต้องสู้อยู่แล้ว แต่ว่ามันกลับผิดคาดเพราะตลอดเส้นทางของพวกเขานั้นไร้ซึ่งผู้คน ไม่มีทั้งทหารหรือแม้แต่ชนชั้นแรงงานให้เห็นเลยแม้แต่คนเดียว พวกเขาออกมาถึงภายนอกได้อย่างปลอดภัยและราบรื่น ยาโนะและเมโกะเห็นเกวียนคันเดิมที่พวกเขานั่งมา พวกเขารีบวิ่งตรงไปที่เกวียนของพวกเขา ก่อนจะขึ้นเกวียนและรีบออกจากคฤหาสน์แห่งนี้ให้เร็วที่สุด โดยที่จินนั้นนั่งข้างๆคนขับ ไม่กี่วันต่อมาพวกเขาก็กลับมาถึงแคว้นทังโกะ เกวียนหยุดลงที่หน้าปราสาทของตระกูลโฮมุระ ยาโนะกับเมโกะก้าวเท้าลงมาจากจากเกวียน เช่นเดียวกันกับจินที่ลงมาจากที่นั่งคนขับ เมื่อเท้าของเขาเหยียบสู่พื้นดินสิ่งแรกที่เขาทำคือแกว่งมือของเขากระแทกกับต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ เสียงกระแทกของต้นไม้นั้นดังพอที่จะไล่นกฝูงหนึ่งที่เกาะบนกิ่งไม้ได้

“ไอ้พวกชาวต่างชาติ” จินพูดด้วยน้ำเสียงโกรธแค้น
“ท่านจิน...ถ้าหากเป็นไปได้ ท่านช่วยบอกได้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมกุญแจถึงอยู่ที่พื้นได้ และอาวุธของท่านด้วย” ยาโนะเอ่ยปากถาม
“ไอ้แก่นั่น...มันดูถูกข้า มันโยนกุญแจไว้ที่พื้น ราวกับว่าถ้าหากข้าหนีออกไปได้ ข้าก็ไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้” จินตอบ

ยาโนะนึกถึงชายแก่ที่สู้กับจินในสมรภูมิเมื่อช่วงประมาณเกือบครึ่งเดือนที่แล้ว เขาเป็นชายที่แม้ว่าจะถูกดาบปักเข้าที่กลางลำตัว เขาก็ยังสามารถยืนหยัดและสู้ได้ น่าคิดว่าถ้าหากจินไม่ใช้จังหวะเผลอ เขาจะสามารถชนะชายคนนี้ได้ไหม จินกำหมัดแน่นก่อนจะแหงนมองท้องฟ้า ด้วยดวงตาคู่นั้นที่อยู่ภายใต้หน้ากากเหล็กสีเทา

“และข้าจะแสดงให้ดูว่าการที่เจ้าปล่อยข้าออกไปจะเป็นภัยให้กับพวกเจ้าขนาดไหน” จินพูดด้วยสายตาแน่วแน่

สิ้นเสียงของเขา เขาก็เดินจากไปโดยไม่ได้พูดอะไร ยาโนะกับเมโกะมองเขาเดินจากหายไป แน่นอนปัญหานี้จบลงแล้ว แต่เชื่อว่าหลังจากนี้ปัญหาก็จะมีมากกว่าเดิมและจะยิ่งใหญ่กว่าเดิม
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Sengoku : 18
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Sengoku : 3
» Sengoku : 28
» Sengoku : 46
» Sengoku : 4
» Sengoku : 16

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: