Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Sengoku : 19

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Sengoku : 19 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Sengoku : 19   Sengoku : 19 EmptyWed Oct 01, 2014 7:42 am

ณ ห้องของยาโนะ มันเป็นห้องเล็กๆ ที่มีหนังสือมากมายกองอยู่บนพื้น ใกล้ๆกับกองหนังสือ มีโตะไม้เล็กๆอยู่ บนโต๊ะไม้นั้นก็เต็มไปด้วยกระดาษมากมายวางเละเทะไม่เป็นระเบียบ ยาโนะนั่งอยู่บนพื้นโดนศอกของเขาวางเท้าไว้กับโต๊ะไม้เล็กๆนั่น ดวงตาของเขาเหม่อลอยออกไป เขามองท้องฟ้าผ่านหน้าต่างบานเล็กๆที่อยู่บนกำแพง ท้องฟ้าสีครามที่มีก้อนเมฆมากมายเคลื่อนไหวไปช้าๆ ไปตามสายลม แม้ว่าดวงตาของเขาจะมองออกไปที่ผืนนภาแต่ภาพที่เขาเห็นนั้นกลับเป็นหน้าของหญิงสาวชาวต่างชาติที่ชื่อว่า “แมรี่” ภาพของเขากับเธอที่เต้นรำภายใต้แสงจันทร์ยังคงตราตึงในหัวใจของเขา น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและมีพลังไปพร้อมๆกัน นัยต์ตาสีเขียวที่งดงามของเธอ ชวนน่าหลงใหล

“ยาโนะ...ยาโนะ...ยาโนะ” เสียงของไทโซเรียกยาโนะถึงสามครั้ง

ยาโนะสะดุ้งก่อนจะหันไปเห็นเจ้านายของเขาที่ชื่อว่าไทโซยืนอยู่ ในมือของเขาถือจดหมายฉบับหนึ่งอยู่ เขายื่นมาให้กับยาโนะที่เมื่อครู่นี้กำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ ยาโนะรับไว้ก่อนจะมองซองจดหมาย ซองจดหมายฉบับนี้นั้นถูกเขียนด้วยน้ำหมึกสีดำว่า “ถึง ยาโนะ” ในขณะเดียวกันนั้นด้านหลังไม่ได้เขียนไว้เลยว่าจ่าถึงใคร ยาโนะรับจดหมายไว้ก่อนจะเปิดซองจดหมายขึ้นมา ชายที่ถูกจ่าหน้าซองถึงดึงกระดาษออกมาก่อนจะพบว่าในซองจดหมายนั้นมีกระดาษถึง 5 แผ่น ภายในนั้นถูกเขียนด้วยลายมือที่ไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่และอ่านยากนิดๆ จดหมายฉบับนี้ถูกเขียนโดย “โดจิ คาเมอิ” ยอดนักประดิษฐ์ที่เขาเจอในช่วงหลายสัปดาห์ก่อน ใน 4 แผ่นนั้นเขียนเป็นรายงานถึงการทำสิ่งประดิษฐ์ของตน ซึ่งยาโนะไม่ได้สนใจตรงนั้นเท่าไหร่ เขาแยกกระดาษ 4 แผ่นนั้นก่อนจะวางรวมๆกับกองกระดาษที่อยู่บนโต๊ะ ยาโนะหยิบกระดาษหน้าสุดท้ายก่อนจะนั่งอ่าน เมื่ออ่านจนจบ ยาโนะก็ยิ้มด้วยความยินดี ยาโนะลุกขึ้นมาก่อนจะวิ่งออกไปข้างนอก ไทโซเห็นยาโนะวิ่งออกไปก็ตะโกนถามว่า “เกิดอะไรขึ้น” ชายที่ถูกเรียกหยุดก่อนจะหันไปทางไทโซ

“สิ่งประดิษฐ์ของท่านคาเมอิเสร็จแล้วครับ”
“งั้นหรือ ก็ดี” ไทโซได้ยินก็พยักหน้าตอบรับไทโซ

สิ้นเสียงของยาโนะเขาก็รีบวิ่งลงชั้นล่างก่อนจะควบม้าเขาและมุ่งตรงไปยังน้ำตกหรือให้พูดอีกนัยคือที่ซ่อนตัวและจุดนัดพบของเขากับคาเมอิ ดวงตาของยาโนะนั้นเป็นประกายที่เต็มไปด้วยความหวัง ความหวังที่จะชนะสงครามครั้งนี้และหยุดการอาละวาดอย่างบ้าละห่ำของชาวต่างชาติ

=====

ณ ขณะเดียวกันที่ฮิดะ แคว้นที่ ณ เวลานี้ถูกปกครองโดยตระกูลยาชิโระ กำลังเกิดสงครามขึ้น แน่นอนสงครามนี้เป็นสงครามระหว่างชาวต่างชาติและตระกูลยาชิโระที่ในคราวนี้นำทัพโดยคาวาเนโร่ ชายหนุ่มลูกครึ่งอิตาลี่ยืนอยู่ในสมรภูมิ เขาใช้กำปั้นของเขาชกเข้ากลางหน้าท้องของชาวอังกฤษที่ยกดาบจะปลิดชีวิตเขา ดวงตาของเต็มไปด้วยความตื่นเต้นในการต่อสู้ครั้งนี้ คาวาเนโร่ก้มหลบเพลงดาบของคู่ต่อสู้ก่อนจะดึงดาบออกมาจากฝักดาบของเขาและใช้มันเปิดแผลบนร่างกายของทหารชาวอังกฤษ เมื่อคมดาบกรีดปากแผลเปิดออก หยดเลือดสีแดงก็ไหลออกจากปากแผลของเขา ชาวอังกฤษคนนี้มองหน้าของคาวาเนโร่ด้วยสายตาโกรธแค้นก่อนที่เขาจะล้มลงไปกับพื้น

“พวกเรากำลังได้เปรียบ...ฆ่ามันให้หมด!! เพื่อท่านอิโอชิมะ” คาวาเนโร่ตะโกนปลุกใจทหารของตน

อีกฟากของสมรภูมิ ชายผมขาวที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นนั่งอยู่บนม้าของเขา เบื้องหลังของเขาก็ยังคงมีหทารมากมายที่ยังคงรอคอยคำสั่งของเขา เขายังคงสวมชุดเกราะชุดเดิมของเขา ข้างๆของเขานั้นมีชายอีกคนที่มีผมสีส้มนั่งอยู่บนม้าสีชาข้างๆเขา สีผิวของเขานั้นเป็นสีแทนผิดไปจากชาวอังกฤษทั่วไป สีผมของเขานั้นเป็นสีส้ม ใบหน้าของเขานั้นดูเยาว์วัยต่างจาก “พอล” ที่อยู่ข้างๆเขา ดวงตาของชายหนุ่มคนนี้มองไปที่สมรภูมิก่อนจะเหลือบมองชายชราที่อยู่ใกล้ๆกับตน ราวกับว่าเขาพยายามจะส่งสัญญาณขอให้เจ้านายของเขาส่งตนเข้าสู่สนามรบเพื่อต่อกรกับลูกครึ่งอิตาลี่คนนั้น หากทว่าพอลส่ายหน้าให้กับเขาและพูดกับชายหนุ่มที่กระหายสงครามผู้นี้

“อย่าพึ่งรีบร้อนใจไป จอร์แดน...คราของเจ้ามาถึงแน่ หากมิใช่เวลานี้” พอลพูดกับชายหนุ่มผิวแทน

เขาพยักหน้ารับรู้คำพูดของชายแก่ผู้นี้ บางทีเขาอาจจะพอใจหรืออาจจะไม่พอลคำสั่งของนายตนเอง แต่เขาก็ไม่ได้ปริปากพูดแต่อย่างใด พวกเขายังคงมองไปที่คาวาเนโร่ที่กำลังไล่สังหารเพื่อนพ้องของเขาอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มนามจอร์แดนเหลือบมองอีกครั้ง หากทว่าพอลยังคงส่ายหน้าเช่นเดิม ทัพของคาวาเนโร่เริ่มเข้าใกล้ทัพอังกฤษมากขึ้น เขายังคงแกว่งดาบ พร้อมกับใช้หมัดของเขาปราบทหารอังกฤษเรื่อยๆ ก่อนจะยกทัพเข้าใกล้ทัพใหญ่ของพอลขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มนามจอร์แดนกุมดาบเตรียมออกไปสู้กับคาวาเนโร่ หากทว่าพอลทำมือห้ามไว้

“ใกล้ถึงเวลาแล้ว แต่ใจเย็นๆไว้ก่อน” พอลพูดอีกครั้ง

สายตาของพอลยังคงจับจ้องไปที่ศัตรูของเขา ใบหน้าเขานิ่งสนิทราวกับไม่ได้รู้สึกถึงความอันตราย ต่างกับจอร์แดนที่เริ่มร้อนรนกับการเคลื่อนทัพของทัพญี่ปุ่น คาวาเนโร่ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ศัตรูของเขาก็เห็นทัพของพอลรอเขาอยู่ คาวาเนโร่หันหลังกลับไปก่อนจะตะโกนให้กำลังใจทหารของตนเอง หากทว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้น มันทำให้ดวงตาของเขาเบิกโพลนขึ้นมา เขาเห็นทหารส่วนหนึ่งล้มลงไปกับพื้น โดยผู้สังหารนั้นไม่ใช่ชาวต่างชาติแต่ประการใดแต่กลับเป็นทหารที่สวมชุดเกราะที่มีตราสัญลักษณ์กรงเล็บอยู่ ดาบคาตานะของพวกเขาเปื้อนเลือดของชาวญี่ปุ่น ไม่ทันที่จะได้ตั้งตัว เสียงของอาชาก็พุ่งตรงมาที่เขา โดยคนที่นำทัพนั้นคือชายผมส้มที่ชื่อว่าจอร์แดน

“พวกแก....” คาวาเนโร่กัดริมฝีปากพูดด้วยความโกรธแค้น
“ขอโทษด้วยท่านคาวาเนโร่ แต่พวกเราต้องทำเพื่อความอยู่รอด” เหล่าทหารของคาวาเนโร่พูดขึ้น
“ไอ้บัดซบเอ๊ย” ชายหนุ่มที่ถูกหักหลังพูดขึ้น

คาวาเนโร่กวาดสายตามองไปรอบๆก่อนจะพบว่าเขาเป็นคนเดียวที่ยืนอยู่ที่นี่ รอบๆตัวเขามีแต่ศัตรู , คนทรยศ และซากศพของทหารที่จงรักภักดีกับเขา เมื่อเขาหันหลังกลับไปก่อนจะเห็นจอร์แดนที่มุ่งตรงมาหาเขาเรื่อยๆ เขากำหมัดก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปหาจอร์แดนที่นั่งอยู่บนหลังม้า เขากระโดดขึ้นไปก่อนจะง้างหมัดและชกเข้าเต็มๆหน้าของเป้าหมาย แรงของหมัดเข้ามากพอที่จะดันจอร์แดนตกลงมาจากม้าได้ ร่างของจอร์แดนตกกระแทกกับพื้น เมื่อร่างของจอร์แดนกระแทกกับพื้นนั้น คาวาเนโร่ก็ชักดาบของเขาออกมาเตรียมจะสังหารชาวต่างชาติคนนี้ หากทว่าจอร์แดนออกหมัดต่อยเข้าไปยังใบหน้าของชายชาวลูกครึ่งผู้นี่ ร่างของเขาถูกผลักออกไป เหล่าคนทรยศมุ่งตรงมายังคาวาเนโร่หากทว่าเขาชักศอกใส่หน้าของเหล่าคนทรยศเหล่านั้นก่อนจะดึงดาบที่อยู่ที่เอวของตนเองและแทงเข้าไปที่กลางหน้าท้องของผู้ทรยศ เมื่อผู้ทรยศคนแรกล้มลง เหล่าผู้ทรยศที่เหลือก็ต่างวิ่งกรูมาที่คาวาเนโร่ ชายหนุ่มผู้ทรยศเองก็ไม่ได้กลัวจำนวนของคู่ต่อสู้ของเขา เขาพุ่งตรงเข้าไปหาศัตรูของเขาโดยไม่ได้มีความกลัวแต่อย่างใด แม้ว่าจะมีคมดาบเฉือนร่างเขามากขนาดไหน เขาจะเสียเลือดขนาดไหน เขาก็ยังยืนหยัดได้ บนพื้นนั้นเต็มไปด้วยคราบเลือด และร่างของคนทรยศ บนร่างของเขานั้นเต็มไปด้วยบาดแผล บาดแผลของคาวาเนโร่นั้นมีมากจนรอยสักของเขานั้นถูกกลบไปหมด เขาหายใจหนักขึ้น ทัพของอังกฤษนั้นได้แต่ยืนมอง ชายคนนี้ดิ้นรน การต่อสู้ดำเนินไปเรื่อยๆ เหล่าผู้ทรยศเริ่มตายจากไปทีละคน ชายผู้ถูกทรยศยืนหยัดด้วยกำปั้นทั้งสองข้าง รอบกายๆนั้นมีแต่ร่างของเหล่าทหารของเขา ตอนนี้เหลือเพียงแค่ “เขา” กับทัพอังกฤษเท่านั้น

“เข้ามาเลย...ข้าจะทำลายพวกเจ้าอย่างที่ข้าทำกับไอ้พวกทรยศ” คาวาเนโร่คำราม

เหล่าทัพอังกฤษยกปืนขึ้นมา ก่อนที่พอลจะสั่งยิง กระสุนจำนวนมากลอยออกมาจากปากกระบอกปืน คาวาเนโร่พุ่งตรงเข้าไปที่คนเหล่านั้น กระสุนมากมายเจาะเข้าไปที่ร่างของเขา ไม่ว่าจะเป็นไหล่ อก หน้าท้อง เข่า ขา เขาล้มลงไปกับพื้น ชายที่ยืนหยัดในสมรภูมิคนสุดท้ายพยายามจะลุกขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะเจอชายที่ชื่อจอร์แดนใช้ดาบของเขาเสียบทะลุเข้าไปที่ร่างของคาวาเนโร่ จอร์แดนดึงดาบของเขาออกมา เมื่อดาบหลุดจากร่างของเขา ร่างของคาวาเนโร่ก็ลงไปนอนกับพื้น เหล่าทหารอังกฤษต่างมองไปที่ร่างของเขาก่อนจะเงยหน้ามองไปที่ปราสาทของแคว้นฮิดะ พอลที่เป็นแม่ทัพศึกครั้งนี้มองไปที่ปราสาทแห่งนั้นก่อนจะออกคำสั่ง

“เผามัน”

=====

เหล่าซามูไรจำนวนมากที่มีตราธงสัญลักษณ์ของตระกูลโอนิสึกะตรงมา ผู้นำทัพคือเรียวชิน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล เพราะเขาเห็นควันจำนวนมากลอยออกมาจากสถานที่แห่งนี้ “ขอให้ไปทันเถิด” นั่นคือสิ่งที่เขาคิด เขาพยายามเร่งความเร็วให้ได้มากที่สุดเท่าที่เขาทำได้ หากทว่าดูเหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกกับเขา เพราะสิ่งที่เขาเห็นคือร่างจำนวนมากนอนกระจัดกระจายเต็มไปหมด เรียวชินรีบควบม้าตรงเข้าไปที่แคว้นฮิดะหวังว่าตนจะทำอะไรดีขึ้นบ้าง หากทว่าในขณะที่เขากำลังควบม้าอยู่นั้นเขาก็เหลือบเห็นร่างของคาวาเนโร่ที่นอนอยู่บนพื้น เรียวชินรีบกระโดดลงมาจากหลังม้าก่อนจะคุกเข่าลงไปนอนร่างของเขา เรียวชินเอ่ยปากเรียกเขาสองถึงสามครั้ง หากทว่าไร้เสียงตอบรับ เรียวชินได้แต่หลับตาด้วยความเสียใจก่อนจะใช้มือของเขาปิดเปลือกตาของเขา

“ข้าต้องขอโทษด้วยที่ข้ามาไม่ทัน” เรียวชินพูดกับร่างไร้วิญญาณของคาวาเนโร่

เรียวชินกระโดดขึ้นหลังม้าก่อนจะตรงเข้าไปในแคว้น สิ่งที่เขาเห็นนั้นคือร่างของเหล่าประชาชนที่พยายามจะป้องกันดินแดนแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง คนชราหรือแม้แต่เด็กก็ตาม แต่ดูเหมือนความพยายามของพวกเขาจะไม่เป็นผล เรียวชินตะโกนสั่งให้ลูกน้องของตนหาผู้รอดชีวิต เช่นเดียวกันกับตัวเขา เขาระดมพลให้ทหารของช่วยกันดับไฟ แน่นอนมันใช้เวลา เกือบจะชั่วโมงเลยเสียด้วยซ้ำกว่าที่เปลวไฟพวกนี้จะมอดลงไป เหล่าทหารของเขาพยายามยกสิ่งของต่างๆที่ทับร่างของผู้คนขึ้น หากทว่าน่าอนิจจาร่างพวกนั้นล้วนแต่เป็นร่างไร้วิญญาณทั้งสิ้น เรียวชินเองก็ช่วยเช่นกัน เขาพยายามตามหาผู้รอดชีวิต แต่หากทว่า เขาแทบจะไม่เจอผู้เหลือรอดเลยแม้แต่น้อย ในวินาทีแม้แค่คนๆเดียวก็เกินพอแล้ว

“ท่านเรียวชินครับ เราเจอผู้รอดชีวิตแล้วครับ” ทหารคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
“เชิญทางนี้ครับ” ทหารคนเดิมนำทาง

ทหารคนนั้นเริ่มวิ่งนำไป เรียวชินวิ่งตามมา ก่อนที่เขาจะเห็นทหารแพทย์ของเขากำลังปฐมพยาบาทเด็กผู้หญิงที่อายุราวๆ 13 – 14 นอนอยู่บนพื้น ผมของเธอสีดำ ยาวเพียงแค่ประบ่าเท่านั้น ดวงตาของเธอปิดสนิท เหล่าทหารแพทย์ทำทุกอย่างเพื่อช่วยเธอ ดวงตาของเธอเปิดขึ้นช้าๆ เธอพยุงตัวขึ้นมานั่งก่อนที่เธอจะกวาดสายตาไปรอบๆ ดวงตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความสับสน เหล่าทหารเห็นก็ต่างดีใจกับการพื้นขึ้นมาของเธอ

“ไม่เป็นไรใช่ไหมหนู?” เรียวชินพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง

เธอส่ายหน้าเป็นการบ่งบอกว่าคำตอบของเธอคือ “ไม่เป็นไร” ในขณะเดียวกันเรียวชินพยักหน้าเป็นสัญญาณบอกว่า “เข้าใจแล้ว”

“หนูชื่ออะไร?” เรียวชินเอ่ยปากถามเด็กน้อยที่พึ่งได้สติขึ้นมา
“คานาเดะ” เธอตอบสั้นๆด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา

เรียวชินพยักหน้าอีกครั้งก่อนที่เขากับทหารอีกคนจะช่วยพยุงร่างของเด็กน้อยคนนี้ขึ้นมา เมื่อเธอลุกขึ้นมาและเห็นสภาพโดยรอบ ดวงตาของเธอก็โตขึ้นมาด้วยความกลัว ก่อนจะกรีดร้องส่งเสียงอันแหลมคม ภาพของซากศพ ภาพของซากปรักหักพัง กลิ่นคาวเลือดที่อยู่ทุกหนทุกแห่ง ก่อนที่เธอจะเป็นลมหมดสติไปด้วยความกลัว โชคยังดีที่ทหารที่พยุงเธอกับเรียวชินคว้าตัวได้ทัน ศึกนี้เป็นการสูญเสียทิ่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่ง แต่นั่นก็เป็นเรื่องปกติของสงคราม การสูญเสียกับสงครามมักจะเป็นของคู่กันเสมอ และในใจของผู้คนก็ยังคงตั้งคำถามเสมอว่า “เมื่อไหร่สงครามจะจบลง”

=====

ณ ขณะเดียวกันทางด้านของยาโนะที่กำลังเดินทางไปหาสหายของเขา ยาโนะเดินมาถึงสะพานไม้ที่วางเป็นทางผ่านให้ไปถึงอีกด้าน ภายใต้นั้นยังคงเป็นสายน้ำที่ไหลเชี่ยว ถ้าจำกันได้ก่อนหน้านี้ยาโนะก็เคยมีปัญหากับสะพานนี้มาก่อนและเกือบจะได้ตายในหน้าที่เสียแล้ว ยาโนะยังคงมองก่อนจะนึกถึงคำพูดของคาเมอิเกี่ยวกับสะพานแห่งนี้ ถ้าจำไม่ผิดเขาพูดว่า “ให้ดูที่สีของไม้กระดาน” เมื่อเขานึกออกแล้วก็สูดหายใจลึกๆ และก้าวเท้าขึ้นสะพานไม้แห่งนี้ เขาเดินช้าๆและระมัดระวังพร้อมมองไปที่แผ่นไม้ ก่อนที่เขาจะเห็นแผ่นหนึ่งที่อยู่ตรงกลางมีสีต่างออกไปจากแผ่นไม้อื่นๆ ยาโนะก้าวข้ามแผ่นไม้นี้ไปอย่างระมัดระวัง เมื่อก้าวข้ามไปแล้วยาโนะก็เดินต่อไปจนถึงสุดสะพาน ชายหนุ่มก้าวลงมาจากบันไดก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตลอดทางนั้นไม่ได้มีความแตกต่างจากรอบที่แล้วที่เขามาซักนิดนึง เขายังคงเดินไปตามเส้นทางที่แผนในหัวของเขาวาดไว้ เขายังตามหาเสียงน้ำตกอยู่และเมื่อเขาได้ยินเสียงน้ำตกนั้น เขาก็รีบมุ่งไปตามเสียงทันที เมื่อเขามาถึงเขาก็เจอน้ำตกที่อยู่ข้างหน้าเขา ถ้ำเบื้องหลังน้ำตกนั้นคือจุดหมายของยาโนะ เมื่อรู้จุดหมายแล้ว เขาก็เดินเข้าไปในถ้ำใต้น้ำตก เมื่อเข้ามาแล้วสิ่งแรกที่เขาเห็นก็คืออะไรซักอย่างที่มีขนาดใหญ่และถูกคลุมด้วยผ้าสีขาว ยาโนะยืนมองก่อนจะตั้งคำถามว่า “มันคืออะไร” ซักพักนั้นยาโนะก็ได้ยินเสียงใครซักคนกำลังปีนบันไดลงมาจากชั้นบน ผู้มาเยือนหันไปก่อนจะเห็นเจ้าบ้านปีนลงมา เมื่อเท้าทั้งสองของคาเมอิแตะพื้น ยาโนะก็ตั้งคำถามทันที

“นี่มันคืออะไรน่ะครับ”
“มันคือสิ่งที่จะทำให้เราชนะสงครามยังไงล่ะ” คาเมอิตอบด้วยความมั่นใจ

สิ้นเสียงเขาก็ดึงผ้าลงก่อนจะปรากฏเป็นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นหนึ่ง ยาโนะมองด้วยความตะลึง แววตาของเขาเต็มไปด้วยประกายแห่งความหวัง ในขณะเดียวก็เต็มไปด้วยความกลัว มันคืออะไรกันนะ?
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Sengoku : 19
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Sengoku : 20
» Sengoku : 36
» Sengoku : 21
» Sengoku : 37
» Sengoku : 41

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: