Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Sengoku : 22

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Sengoku : 22 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Sengoku : 22   Sengoku : 22 EmptyTue Oct 07, 2014 6:03 pm

การเจรจาที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยยาโนะจบลงด้วยความล้มเหลว เหล่าทหารอังกฤษและทหารญี่ปุ่นนอนเป็นร่างไร้วิญญาณทั่วทุกที่ หากทว่าในไม่มีร่างของเอ็ดเวริด์ปะปนอยู่ด้วย เหล่าทหารผู้รอดชีวิตต่างรวบรวมกันแบกร่างของพวกเขาไปฝังลงบนดิน พร้อมกับนำอาวุธคู่กายของพวกเขาปักลงบนหน้าดิน ราวกับเป็นป้ายหลุมศพของพวกเขา ไม่เว้นแต่แมรี่เองก็ถูกฝังลงไปเช่นกัน หลุมศพของเธออยู่ในรั้วของปราสาท ร่างของเธอถูกฝังบริเวณใกล้ๆกับจุดชมวิวที่ยาโนะพาเธอไป ชายหนุ่มหน้าหวานมองป้ายหลุมศพที่มีดาบของเธอปักไว้ ดวงตาของยาโนะเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ใบหน้าของเขายังแสดงให้เห็นคราบน้ำตาที่ไหลผ่านแก้มของเขา ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงตลอดหลายวันยังคงไหลโดยไม่หยุด น้ำเสียงของเธอ สัมผัสของเธอ ยังคงตราตึงอยู่ในจิตใจของเขา หัวใจของเขานั้นหนักอึ้ง แม้ว่าเปลือกนอกชายคนนี้จะไม่ได้ร้องไห้แล้วแต่หากภายในหัวใจอันแสนจะอ่อนไหวของเขายังคงร่ำไห้อยู่ ริมฝีปากของยาโนะนั้นยังคงรำพันถึงหญิงอันเป็นที่รักของเขาที่พึ่งจากเขาไป

ในขณะเดียว ณ ห้องๆหนึ่ง ไดเมียวทั้งห้านั่งล้อมวง มันเป็นภาพที่เห็นได้บ่อยมากในช่วงนี้ ตรงกลางห้องนั้นมีโต๊ะตั้งอยู่ บนโต๊นั้นมีแผนที่ผังเมืองของแคว้นทังโกะอยู่ด้วย ทั้งห้านั้นนั่งด้วยสีหน้าตึงเครียด พวกเขายังไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น เหล่าไดเมียวต่างยังคงคิดถึงภาพที่เกิดขึ้นในวันนี้ จากการเจรจาเพื่อหาข้อยุติอย่างสงบสุขกลับกลายเป็นความอลหม่าน เพียงแค่กระสุนนัดเดียวที่เจาะร่างของผู้หญิงคนหนึ่งนำพามาซึ่งกลายตายของผู้คนนับร้อย คำถามต่อมาที่เกิดขึ้นในหัวคือใครกันนะที่เป็นคนลั่นไกปืนที่นำพากระสุนแห่งความวุ่นวาย ไม่ว่าจะตามยังไง ก็ไม่เจอใครที่น่าสงสัยเลยแม้แต่น้อย ท่ามกลางความเงียบ ในที่สุดซูตะก็เป็นคนที่ทำลายความเงียบนี้

“ช่างเป็นวันที่ยุ่งเหยิงเสียจริง” ซูตะพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า

ทุกคนพยักหน้าแสดงให้เห็นว่าทุกคนคิดเหมือนกัน

“ข้าได้ยินมาว่าเอ็ดเวริด์หนีไปได้...ข้าว่ามันคงต้องยกทัพมาที่นี่เพื่อแก้แค้นแน่ๆ” เรียวชินพูดขึ้นมา
“ดังนั้นพวกเราควรจะหาแผนรับมือพวกมันให้เร็วที่สุด”
“ศึกนี้เราคงจะได้เผชิญหน้ากับพอล เอ็ดเวริด์ และจอร์แดนด้วย” ชายคนเดิมพูดต่อ
“ช้าก่อนท่านเรียวชิน...จอร์แดนคือใคร?” เคนตะเอ่ยปากถาม
“เป็นลูกน้องของพอลน่ะ เด็กที่ข้าช่วยไว้เล่าให้ข้าฟัง” ผู้นำตระกูลโอนิสึกะแจง
“ข้าว่าไม่ใช่แค่พวกนั้นหรอก พวกอังกฤษต้องยกพลด้วยกำลังทั้งหมดที่มันมีแน่นอน” อิโอชิมะพูดขึ้นมาบ้าง
“ทหารของเราก็ล้าและเริ่มเหลือน้อยแล้ว จะให้ปะทะตรงๆก็คงยาก” ชายหนุ่มผมยาวพูดต่อ
“แล้วสิ่งประดิษฐ์ของคาเมอิล่ะ?” เคนตะเสนอขึ้นมา
“คงยาก...คนเดียวที่รู้ว่าคาเมอิอยู่ที่ไหนคือยาโนะ และตอนนี้หมอนั่นก็ดันอยู่ในสภาวะอาลัยอาวรณ์ด้วย” ไทโซค้าน

เมื่อสิ้นเสียงของไทโซนั้น เขาก็ได้ยินเสียงประตูกระดาษถูกเลื่อนออก ทั้งห้าหันไปก่อนจะเห็นชายหนุ่มผมสีเขียว เขาเป็นชายตัวเล็ก เรียกได้ว่าตัวเล็กกว่ายาโนะหรือเท็ตซึกะเสียด้วยซ้ำ ดวงตาทีเป็นสีมรกต เขาสวมเสื้อกล้ามสีดำ ไม่มีใครเคยเห็นเขามาก่อน ทุกคนต่างทำหน้างุนงงพร้อมกับตั้งคำถามว่าชายคนนี้คือใคร ว่าแล้วเขาก็คุกเข่าลงเพื่อแสดงความเคารพต่อเหล่าผู้นำของประเทศญี่ปุ่น เขาแหงนหน้ามองเหล่าผู้นำที่จ้องมองเขาตาไม่กระพริบ ก่อนที่เขาจะเปล่งเสียของเขาเพื่อแนะนำตัว

“ข้านักประดิษฐ์อัจฉริยะโดจิ คาเมอิเป็นเกียรติมากที่ได้พบกับพวกท่าน”
“เจ้าเองหรือคาเมอิ....แล้วเจ้ามาที่ไหนได้เยี่ยงไรล่ะ?” ซูตะเอ่ยปากถาม
“ยาโนะได้ฝากให้อากิระตามข้ามา เผื่อเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้น และดูเหมือนเขาจะคาดเดาไม่ผิด” นักประดิษฐ์ตอบ
“เมื่อครู่นี้ข้าได้ยินพวกท่านคุยกันเรื่องสิ่งประดิษฐ์ของข้าใช่ไหม?” คาเมอิเอ่ยถามต่อ
“ใช่ เจ้าฟังไม่ผิดหรอก...แล้วสิ่งประดิษฐ์ของเจ้าล่ะเป็นเช่นไรแล้ว?” เคนตะเอ่ยปากถาม
“เสร็จแล้วขอรับ...และตอนนี้ข้าก็กำลังให้ทหารของพวกท่านช่วยติดตั้งอาวุธชิ้นนี้อยู่” เขาตอบพร้อมด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภูมิใจ

ทั้งห้าได้ยินก็หันมาคุยกันด้วยความตกตะลึงในดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยประกายแห่งความหวังที่จะชนะสงครามครั้งนี้ คาเมอิคว้าพู่กันที่อยู่บนโต๊ะก่อนจะเริ่มวาดวงกลมขนาดใหญ่ใกล้ๆกับแคว้นทังโกะดวงตาทั้งสิบคู่ต่างจ้องสิ่งที่เขาวาด เมื่อเขาวาดเสร็จเขาก็วางพู่กันลงบนโต๊ะก่อนจะแสยะยิ้มอีกครั้งและเอ่ยปากพูดขึ้นมา

“ข้าขอตั้งชื่อมันว่าคันฉ่องตะวัน”

=====

ยาโนะลืมตาขึ้นมาช้าๆ เมื่อเขาลืมตาขึ้นมานั้นเขาก็เห็นสิ่งที่ผิดแปลกไปจากเดิม เขาเห็นเพดานที่ถูกฉาบด้วยปูน ไม่ได้เป็นไม้ เขาลุกขึ้นมานั่งก่อนที่เขาจะเห็นว่าตัวเองนั่งอยู่บนเตียงไม่ได้นั่งอยู่บนฟูกอย่างเช่นเคย ยาโนะทำหน้างงๆพร้อมกับตั้งคำถามว่าที่นี่ที่ไหน เขาลงมาจากเตียงก่อนจะเดินบนพรมสีแดงเพื่อตรงไปที่กระจก เมื่อเขาเดินไปถึงกระจก มันก็สะท้อนเป็นภาพของชายหนุ่มผมยาว พร้อมกับใบหน้าอันอ่อนเยาว์ หากทว่าที่แปลกไปคือชุดที่เขาสวมใส่ มันเป็นชุดสไตล์ยุโรปสีขาว ยาโนะมองด้วยสายตาฉงน เขาหันไปก่อนจะเห็นผ้าม่านที่บดบังทิวทัศน์ภายนอก ยาโนะเดินไปที่หน้าต่างนั่นก่อนจะเลื่อนออก เมื่อม่านที่บดบังถูกเลื่อนออก สิ่งที่เขาเห็นนั้นแทบจะทำให้เขาไม่เชื่อสายตาของตนเองเลยแม้แต่น้อย มันเป็นภาพของเมืองชาวยุโรป ทุกๆอย่างที่เขาเห็นนั้นไม่ต่างอะไรกับที่มาซามิเล่าให้เขาฟังเลยแม้แต่น้อย คงไม่ผิดแน่ๆว่าตอนนี้เขาอยู่ที่อีกซีกโลกหนึ่ง แต่คำถามที่เกิดขึ้นมาคือ “เขาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน” ในขณะที่เขากำลังสับสนนั้นเขาก็ได้ยินเสียงใครบางคนพูดขึ้นมา หลังประตูไม้อันนั้น เสียงของเธอนั้นคุ้นหูของเขามาก ยาโนะได้ยินก็รู้ทันที่ว่าเป็นเสียงของใคร หากทว่าเขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะได้ยินเสียงของคนๆนี้

“ที่รัก...ตื่นแล้วรึยังคะ?” หญิงที่อยู่หลังประตูพูดขึ้นมา
“อ๊ะ อืม ตื่นแล้ว” ยาโนะตอบด้วยเสียงตะกุกตะกัก

เมื่อยาโนะให้คำตอบเธอ ประตูก็ถูกแง้มออกช้าๆ ก่อนที่จะปรากฏเป็นภาพของหญิงผมทองที่มีดวงตาสีเขียว เธอยังคงก้าวผมขึ้นเช่นเดิม หากทว่าเธอไม่ได้อยู่ในชุดเกราะเหมือนทุกที เธอสวมชุดคล้ายๆกับที่มาซามิใส่ แต่เป็นสีน้ำเงิน ใช่...เธอคือแมรี่ คนรักของยาโนะ ชายหนุ่มหน้าหวานเห็นใบหน้าของคนรักของตนเองก็อึ้งไปซักพัก เขาอยากจะหยิกแก้มตัวเองแรงๆซักที หากทว่าถ้าหากเขาไม่เจ็บ เขาก็จะรู้ว่านี่เป็นความฝันและภาพทั้งหมดก็จะสลายหายไปทั้งหมด ถ้าหากเกิดเช่นนั้นมันคงเป็นอะไรที่ปวดใจไม่น้อย

“แมรี่...ทำไมท่านถึงเรียกผมว่าที่รักล่ะ?” ยาโนะถามด้วยความไม่รู้

หญิงสาวได้ยินคำถามนี้ก็ทำหน้างุนงงกับคำถามของเขา ก่อนจะเอ่ยปากถามยาโนะกลับ

“ล้อเล่นกันรึเปล่าคะ...เราแต่งงานกันมาได้ 5 ปีแล้วนะ” เธอเอ่ยขึ้นมา
“อ่อๆ ใช่...พอดีมึนๆไปหน่อยน่ะ โทษที” ยาโนะรีบเออออ
“ไม่ตลกเลยนะคะ ล้อเล่นแบบนี้” แมรี่ทำหน้างอนก่อนจะเดินนำหน้ายาโนะไป

ยาโนะเห็นแล้วก็ยิ้มก่อนจะเดินไปสวมกอดภรรยาของตนจากข้างหลัง เมื่อแมรี่ถูกโอบสีหน้าของเธอก็แดงก่ำด้วยความอาย ยาโนะกระซิบข้างหูว่า “รักนะ” เมื่อเธอได้ยินก็หันกลับมาหายาโนะ ก่อนที่เธอจะยื่นหน้าของเธอมาประกบริมฝีปากของยาโนะ หากทว่าทั้งคู่จูบกันได้ไม่นานก็ต้องแยกออกจากกันเพราะสายตาของผู้หญิงผมสีชมพูดในชุดคนใช้ยืนอยู่ใกล้ๆ ในมือของเธอถังน้ำที่ถูกทำจากไม้อยู่ด้วย เธอมองคู่สามีภรรยาก่อนจะแสยะยิ้มและพูดแซวเจ้านายของตนเอง

“หวานกันตั้งแต่เช้าเลยนะเจ้าค่ะ”
“มูชิ?” ยาโนะเอ่ยถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นหน้าเธอ

ใบหน้าของเธอนั้นคล้ายกับนินจาคู่ใจของซูตะไม่ซิใช้คำว่าเหมือนเลยน่าจะดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นสีผมที่เป็นสีชมพูที่ดูเด่นเป็นสง่า รวมถึงแววตาที่เต็มไปด้วยความดุร้าย รวมถึงรูปร่างที่ถือว่าดูดีถูกใจผู้ชายหลายๆคน หากทว่าเมื่อยาโนะเอ่ยนามของเธอนั้นสิ่งที่ได้รับกลับมาคือใบหน้าที่ทำหน้าฉงนกลับมา ก่อนที่เธอจะเอ่ยปากขึ้นมาว่า “ใครค่ะ มูชิ?” ประโยคนี้ทำให้ผู้ถามถึงกับตะลึงเพราะไม่ว่าจะดูด้วยมุมไหน ในหัวของยาโนะก็ยังเห็นเป็นมูชิอยู่ดี

“ดิชั้นชื่อเจสซิก้าเจ้าค่ะ...และดิชั้นก็จะมาบอกท่านว่าดิชั้นได้เตรียมน้ำไว้ให้ท่านอาบแล้ว” เธอพูดกับยาโนะ
“อ่า อืม ขอบใจนะ” ยาโนะตอบกลับพร้อมกับเดินตรงไปตามทาง

ยาโนะเดินตรงไปเรื่อยๆก่อนจะเห็นภาพที่ถูกแขวนอยู่เหนือปล่องไฟ โดยภาพนี้ถูกวาดด้วยสีน้ำมัน มันเป็นภาพของตนที่สวมชุดอัศวินยืนอยู่ข้างหลังแมรี่ โดยแมรี่สวมชุดเดรสสีน้ำเงินนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าสง่างาม หากมองไปที่กรอบรูปสีน้ำตาลดีๆก็มีภาษาอังกฤษเขียนได้ใจความว่า “ของขวัญวันแต่งงาน” ดูเหมือนภาพนี้จะถูกวาดขั้นในวันที่ทั้งสองแต่งงาน เมื่อเขานึกย้อนไปเขาก็นึกได้ถึงวันที่เขากับคนรักของเขาจูงมือกันเข้าพิธีวิวาห์ได้อย่างชัดเจน แต่สิ่งที่เขาสงสัยคือความทรงจำนี้เป็นความจริงงั้นหรือ? แล้วเหตุการณ์อื่นๆที่เกิดขึ้นในชีวิตเขาล่ะ? ยาโนะตั้งคำถาม แต่ว่าเขาก็คำถามนี้ไว้เบื้องหลังก่อน เขาเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำ ในห้องนั้นมีเพียงแค่อ่างอาบน้ำที่ทำจากไม้ตั้งอยู่กลางห้องและมีฉากกั้น ในอ่างน้ำมีน้ำอยู่เต็ม ดูเหมือนมูชิ (แต่เธอบอกว่าชื่อเจสซิก้า) จะเตรียมไว้ให้แล้ว มองไปใกล้ๆกับอ่างอาบน้ำมีเสื้อผ้าเตรียมไว้ให้แล้ว ยาโนะถอดเสื้อผ้าของตนก่อนจะแขวนไว้บนฉากกั้น ยาโนะลงไปนั่งในอ่างที่ขนาดใหญ่กว่าตนนิดนึง ยาโนะยืดตัวเพื่อความผ่อนคลาย เมื่อยาโนะแช่น้ำไปได้ครู่หนึ่งเขาก็นึกอะไรออกขึ้นมา

“แล้วการเจรจาล่ะ...แล้วสงครามล่ะ” ยาโนะพูดกับตนเองเบาๆ

ยาโนะออกจากอ่างก่อนจะรีบคว้าเสื้อผ้าที่ถูกเตรียมไว้ขึ้นมาใส่ มันเป็นเสื้อสีนภา และกางเกงสีเดียวกันเช่นกัน ยาโนะเดินออกจากห้องน้ำก่อนจะรีบเดินตรงไปหาภรรยาของตนเพื่อถามสิ่งที่เกิดขึ้น ยาโนะเดินลงบันไดก่อนที่จะเห็นภรรยาของตนเองนั่งเล่นอยู่กับเด็กผู้หญิงผมทองที่มีใบหน้างดงามของยาโนะแต่มีดวงตาที่เข้มแข็งของแมรี่ ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของทั้งสองแน่นอน แต่ประเด็นตรงนั้นไว้ทีหลัง เขามีสิ่งที่อยากรู้อยู่ในหัวของเขามากที่สุด ยาโนะเดินตรงไปก่อนจะลากเก้าอี้ไม้เกรดหรูออกมาจากใต้โต๊ะและนั่งลงไป

“แมรี่...ผมมีเรื่องอยากจะถามหน่อย...เกิดอะไรขึ้นที่สงครามระหว่างอังกฤษกับญี่ปุ่นหรอครับ?” ยาโนะเอ่ยปากถาม

เธอเงียบก่อนที่จะหยุดเล่นกับลูกสาวของเธอ แมรี่หันกลับมา เธอไม่ได้พูดอะไร ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความลังเล ยาโนะเห็นดังนี้จึงเอ่ยปากถามอีกครั้ง ผู้ถูกถามถอนหายใจฟอดใหญ่ก่อนจะให้คำตอบกับยาโนะ

“ข้าไม่อยากจะพูดถึงมัน เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ มันทำให้จิตใจของเจ้าแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ” แมรี่พูด
“หมายความว่าอะไร....” ยาโนะได้ยินก็อดสงสัยไม่ได้
“มันเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายมาก...จนจิตใจของเจ้าเลือกที่จะลืมเรื่องนี้” เธอพูดต่อ
“เลิกตอบแบบเลี่ยงๆได้แล้วแมรี่...บอกผมเถิดว่าเกิดอะไรขึ้น” ยาโนะขึ้นเสียงพร้อมกับลุกขึ้นมาทุบโต๊ะ

แมรี่ได้ยินก็เงียบ แน่นอนว่ายาโนะรู้ตัวว่าเขาทำสิ่งที่ไม่ควรทำ เขาอ้อมไปนั่งข้างๆกับภรรยาของเขาพร้อมกับใช้มือจับไปที่หัวไหล่ของเธอพร้อมกับเอ่ยขอโทษเบาๆ และถามเธอด้วยคำถามเดิมแต่ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนลง แมรี่พยักหน้าก่อนจะให้คำตอบกับยาโนะที่อยากรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตของเขา

“หลังจากที่การเจรจาจบลงด้วยความล้มเหลว...ทัพของอังกฤษก็บุกขึ้นมาหวังจะทำลายทัพของญี่ปุ่น”
“แม้ว่าคาเมอิจะเตรียมสิ่งประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อจะทำลายล้างพวกเรา แต่มันก็ไม่ได้ผล”
“เพราะวันนั้นฟ้าครึ้มจึงทำให้ไม่มีแสงตะวัน ทำให้พวกเราชนะสงครามครั้งนี้” แมรี่เล่าให้ฟัง
“ละ...แล้วประเทศญี่ปุ่นล่ะ?” ยาโนะเอ่ยปากถามด้วยความหวาดกลัว
“ตอนนี้ไม่มีดินแดนญี่ปุ่นอีกต่อไปแล้ว” เธอตอบ

ประโยคนี้เป็นเหมือนศรแทงใจของยาโนะ มันทำให้ยาโนะลุกขึ้นมา ดวงตาของเขาสั่นไปด้วยความตกตะลึง เขาพยายามพูดถึงเหตุการณ์ที่แมรี่ถูกยิงในวันเจรจา แต่ว่าแมรี่กลับตอบว่าเหตุการณ์นั้นมันไม่ได้เกิดขึ้น ยาโนะเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าความทรงจำไหนเป็นความจริงกันแน่ แล้วนี่เป็นความจริงหรือความฝัน? เขาเริ่มทรงตัวไม่ได้ก่อนที่เขาจะล้มลงไปกับพื้น ดวงตาของเขาเห็นเพดานห้องที่มีชานเดอเลียร์แขวนอยู่ แมรี่ตะโกนเรียกชื่อของยาโนะซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากทว่าชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นคนนี้ไม่อยากลุกขึ้นมาอีกแล้ว
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Sengoku : 22
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Sengoku : 2
» Sengoku : 11
» Sengoku : 24
» Sengoku : 40
» Sengoku : 13

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: