Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Sengoku : 23

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Sengoku : 23 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Sengoku : 23   Sengoku : 23 EmptyThu Oct 09, 2014 9:53 pm

“อะ...อืม”

ชายหนุ่มหน้าหวานได้สติขึ้นมาอีกครั้ง เขานอนอยู่บนเตียงที่เขาตื่นขึ้นมาในเช้านี้ เขาหันไปทางซ้ายของเขาก่อนจะเห็นแต่ความมืด ดูเหมือนตอนนี้จะมืดเสียแล้ว ยาโนะใช้มือของตัวเองจับไปที่โหนกจมูกของตัวเอง พลางคิดถึงสิ่งที่เขาได้ยิน ญี่ปุ่นถูกทำลายแล้วจริงๆหรือ เขาตั้งคำถาม แน่นอนว่าในตอนนี้เขาเองก็ยังตอบไม่ได้ ได้เพียงแต่สร้างทฤษฐีขึ้นมาเท่านั้นเอง ในขณะที่เขานอนคิดอยู่นั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงมือของใครบางคนกุมมือของเขาอีกข้าง ยาโนะหันไปทางขวาก่อนจะเห็นใบหน้าของแมรี่ เพราะแสงเทียนเล็กๆที่วางอยู่บนโต๊ะทำให้ชายหนุ่มหน้าหวานสามารถเห็นใบหน้าของภรรยาของเขาได้ นัยต์ตาสีเขียวของแมรี่จ้องมองยาโนะด้วยความเป็นห่วง

“ขอโทษนะ...ข้าไม่น่าเล่าให้เจ้าฟังเลย” แมรี่เอ่ยปากขอโทษ
“ไม่ใช่ความผิดของท่านหรอก...มันเป็นความผิดของผมต่างหากที่อยากรู้อยากเห็น” ยาโนะตอบกลับพร้อมด้วยรอยยิ้ม

แมรี่ได้ยินก็เงียบไปซักครู่ก่อนที่เธอจะเขยิบตัวเข้ามาใกล้กับยาโนะ เธอสวมกอดยาโนะราวกับเป็นการให้กำลังใจสามีของตน

“ข้ารู้ว่าท่านรักญี่ปุ่น...การที่ไม่มีญี่ปุ่น มันคงเป็นอะไรที่ทำให้ท่านปวดร้าวมาก”
“ข้าคงทำอะไรกับความรู้สึกของท่านไม่ได้...แต่ข้าอยากบอกให้ท่านรู้ว่า ข้ายังอยู่ข้างท่านเสมอ”
“เมื่อใดที่ท่านรู้สึกไม่ดี ข้าก็จะคอยอยู่ข้างปลอบโยนท่านเสมอ” แมรี่พูด

ยาโนะได้ยินนั้นคำพูดเหล่านี้ก็ทำให้น้ำใสๆจากดวงตาของเขาไหลลงหยดลงบนศีรษะของแมรี่ เธอแหงนหน้ามองสามีของเธอที่กำลังร้องไห้อยู่ ยาโนะใช้มืออีกข้างเช็ดน้ำตา แมรี่เห็นเช่นนี้ก็ได้แต่พูดว่า “อย่าร้องไห้” “อย่าร้องไห้” แต่เธอเองก็ร้องไห้ไปพร้อมๆกับสามีชาวญี่ปุ่นของเธอเช่นกัน ยาโนะยิ้มพร้อมน้ำตาก่อนจะพูดกับภรรยาของเขาที่พูดให้กำลังใจเขา ด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอน

“ผมเองก็เชื่อว่าถ้าแมรี่อยู่ข้างๆผม ผมก็สามารถผ่านทุกอย่างไปได้”

หลังจากค่ำคืนนั้นยาโนะก็ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ของเขา เขาเก็บอดีตทั้งหมดของเขาไว้เบื้องหลังทั้งหมด เขาพยายามทำตัวเป็นสามีที่ดีคอยดูแลภรรยาของเขา และ รวมถึงเป็นพ่อที่ดีต่อลูกสาวของเขา พยายามสอนสิ่งดีๆให้กับเธอ มันเป็นชีวิตที่สงบสุขและเป็นชีวิตที่ดีของเขา ยาโนะยิ้มทุกวันและหัวเราะทุกวัน ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากให้ชีวิตของเขาดำเนินอย่างงี้ไปเรื่อยๆ ชีวิตที่ไม่มีสงคราม ชีวิตที่ไม่ต้องเห็นผู้คนล้มตาย มันเป็นชีวิตที่ยาโนะใฝ่ฝันมาตลอดชีวิต

เวลาผ่านไปเดือนหนึ่งราวกับโกหก ในขณะที่ยาโนะกำลังใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับครอบครัวของเขา เขาก็ได้ยินเสียงของเกวียนที่จอดหน้าบ้านของเขา ทุกคนในบ้านล้วนแต่หันไปมองต้นตอของเสียง มันเป็นเกวียนสีดำ ประตูสีดำนั้นถูกเปิดออกก่อนที่ชายหนุ่มผมทองในชุดเกราะสีเงินจะก้าวเท้าลงมาจากเกวียนคันนี้ ยาโนะรู้จักเขาดี เช่นเดียวกันกับแมรี่ เขาเป็นพี่ชายของแมรี่และเป็นพี่เขยของยาโนะ ลูกสาวของยาโนะและแมรี่เห็นชายคนนี้ก็ยิ้มก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดบุรุษผู้นี้พร้อมกับรอยยิ้ม เขาเห็นหลานสาวของเขาก็อุ้มมาพร้อมกับทักทายด้วยรอยยิ้ม ชายหนุ่มหน้าหวานและหญิงผมสีทรายลุกขึ้นมาจากที่เขาๆอยู่ก่อนจะเดินตรงไปหาชายคนนี้พร้อมด้วยรอยยิ้ม เมื่อพี่ชายของแมรี่เห็นทั้งสองเดินมาก็วางหลานสาวลงก่อนจะยิ้มให้ทั้งสอง

“สวัสดี ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ แมรี่ ยาโนะ” เขาทักทาย
“สวัสดีค่ะท่านพี่เอ็ดเวริด์...ดูท่าทางท่านพี่จะสบายดีนะ” แมรี่เอ่ยทักทายพี่ชายของตนเช่นกัน
“ข้าสบายดี แล้วเจ้าล่ะสบายดีไหมแมรี่? ยาโนะ?” ชายนามเอ็ดเวริด์ถามกลับ
“ข้าเองก็สบายดีเช่นกัน...เช่นเดียวกันกับสามีของข้า” น้องสาวให้คำตอบพี่ชาย
“งั้นหรือ ก็ดี” ชายหนุ่มผมสีบลอนด์ได้ยินก็ยิ้มด้วยความยินดี
“แล้วท่านพี่มีธุระอันใดงั้นหรือถึงมาหาพวกข้า” แมรี่ตั้งคำถามขึ้นมา
“อ่อ ข้ามีธุระกับยาโนะน่ะ ขอยืมตัวไปซักพักได้ไหม?” เอ็ดเวริด์แจงจุดประสงค์ของเขา

ยาโนะได้ยินก็ใช้มือชี้ไปที่ตัวเอง ราวกับตั้งคำถามว่า “ผมหรือ?” เอ็ดเวริด์พยักหน้าเป็นสัญลักษณ์บอกว่า “ใช่” ยาโนะเดินตรงไปที่เกวียนสีดำของเอ็ดเวริด์ ทั้งคู่ขึ้นเกวียนก่อนที่คนขับจะเดินมาปิดประตู เมื่อประตูถูกปิดยาโนะก็หันออกไปมองแมรี่ที่ยืนอยู่ข้างๆลูกสาวของนาง ยาโนะโบกมือพร้อมยิ้มให้ พวกเธอเห็นก็ยิ้มและโบกมือกลับเช่นกัน ไม่นานนักล้อเกวียนก็เริ่มหมุน มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ยาโนะขึ้นเกวียน เป็นครั้งที่เท่าไหร่เขาเองก็จำไม่ได้เช่นกัน แต่ที่แน่ๆมันต่างกับตอนที่เขานั่งเกวียนที่ญี่ปุ่นมากๆ เพราะถนนของที่นี่ไม่ขรุขระเหมือนที่นั่น ยาโนะมองทิวทัศน์รอบๆเมือง เมื่อดูใกล้ๆนั้นเขาก็ได้เห็นเมืองที่มีความคึกคัก มองไปทางไหนก็เจอแต่ผู้คนแต่งตัวสไตล์ยุโรป พวกเขาเดินไปมาด้วยรอยยิ้ม รอบๆนั้นไม่ได้เพียงแต่รถเกวียนของพวกเขา ยังมีรถเกวียนของคนอื่นขับผ่านไปมา หากทว่าในขณะที่ยาโนะกำลังดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์นั้น เขาก็ถูกขัดจังหวะด้วยชายในชุดเกราะสีเงินที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา

“จะว่าไปเจ้ารู้แล้วหรือยังว่า ข้าเรียกตัวท่านมาทำไม?” เอ็ดเวริด์เอ่ยปากถาม

ยาโนะส่ายหน้า

“พระองค์ท่านกำลังจะประกาศสงครามกับฝรั่งเศส ท่านจึงอยากจะได้กุนซือดีๆ”
“ข้าจึงคิดว่าท่านน่าจะเป็นคนที่เหมาะสมกับงานนี้ที่สุด” พี่เขยกล่าว

ยาโนะได้ยินก็ถึงกับไปไม่เป็นเพราะว่าในตอนนี้เขาวาดฝันไว้ว่าเขาจะได้อยู่อย่างสงบสุขกับครอบครัวของเขา ในโลกที่ไม่มีสงคราม แต่สิ่งที่พี่เขยของเขาพูดนั้นได้ฉีกภาพแห่งความฝันนี้ทิ้งเป็นเสี่ยงๆ เพราะว่าสงครามครั้งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายจะต้องเดินทางไปยังสนามรบ ผู้คนมากมายต้องจากครอบครัวไปและหลายๆคนก็อาจจะไม่ได้เห็นหน้าของลูกเมียอีกเป็นครั้งที่สอง

“ผมปฏิเสธได้ไหมขอรับ?” ยาโนะเอ่ยปากถามเอ็ดเวริด์
“เรื่องนี้ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน...เจ้าลองไปพูดกับพระองค์ท่านเองจะดีกว่า” เอ็ดเวริด์พูดกับยาโนะ

ยาโนะพยักหน้าตอบรับ ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงยังพระราชวัง ยาโนะก้าวเท้าออกมาจากรถเกวียน เขาแหงนหน้ามองก่อนจะเห็นพระราชวังสไตล์ยุโรป เอ็ดเวริด์เองก็ลงมาจากเกวียนก่อนจะเดินนำยาโนะไป ยาโนะเดินตามพี่เขยของตัวเอง เขาเดินไปตามพรมสีแดงที่ถูกปูไปเป็นทางยาว ตลอดทางมีรูปภาพต่างๆมากมาย รวมถึงของตกแต่งมากมายที่ดูมีราคาแพง และคงไม่ได้หาได้ตามร้านค้าทั่วไป เมื่อเขาเดินมาถึงสุดทาง เขาก็เห็นประตูไม้อยู่เบื้องหน้าเขา เอ็ดเวริด์เปิดประตูไม้นี้ออกก่อนจะปรากฏภาพเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ โดยห้องโถงขนาดใหญ่นี้ ตลอดทางมีเหล่านักรบในชุดเกราะพร้อมอาวุธยืนเรียงกันเป็นแถวยาว หากใครคิดจะทำร้ายกษัตริย์แห่งดินแดนอังกฤษ พวกเขาจะวิ่งกรูเข้ามาพร้อมกับลงทัณฑ์กับกบฏคนนั้นอย่างสาสม ยาโนะเดินตรงไปตลอดทางตามเอ็ดเวริด์ก่อนจะหยุดลงที่หน้าชายร่างท้วมที่มีหนวดเฟิ้ม บนศีรษะของเขานั้นไม่มีเส้นผมเลยแม้แต่เส้นเดียว หรือพูดง่ายๆก็คือหัวล้านนั่นแหละ เขานั่งอยู่บนบัลลังค์สีแดงของเขา เอ็ดเวริด์คุกเข่าลง เช่นเดียวกันกับยาโนะที่คุกเข่าลงไป

“คนๆนี้หรือที่เจ้าหมายถึง?” ชายร่างท้วมคนนี้ถามเอ็ดเวริด์
“ใช่ขอรับ ชายคนนี้แหละคือคนที่มากด้วยฝีมือและมีประสบการณ์มากมายบนสนามรบ” เอ็ดเวริด์ตอบ
“งั้นหรือ...เจ้าชื่อยาโนะใช่ไหม?” เขาเอ่ยปากถาม
“ใช่ขอรับ...ข้ามีนามว่าชินซึเกะ ยาโนะขอรับ” ยาโนะตอบคำถามของกษัตริย์แห่งเกาะอังกฤษ
“ข้าจะเข้าประเด็นเลยละกัน ข้ากำลังจะยกทัพไปบุกฝรั่งเศส และข้าต้องการคนมีฝีมืออย่างเจ้า”
“ถ้าหากเจ้าสามารถนำพามาได้ซึ่งชัยชนะได้ ข้าจะมอบรางวัลมากมายให้กับเจ้า”
“ว่ายังไงล่ะ สนใจไหม?” กษัตริย์แห่งเกาะนี้เอ่ยปากถามยาโนะ

ยาโนะนิ่งเงียบไปซักพักก่อนที่เขาจะแหงนหน้าตอบพระองค์ท่าน

“ข้ารู้สึกเป็นเกียรติมากที่ท่านเห็นคุณค่าของข้า แต่ข้าต้องขอปฏิเสธ” ยาโนะตอบ
“ทำไมล่ะ?” ชายหัวล้านเอ่ยถามด้วยสีหน้าตะลึง
“ตัวข้านั้นมิได้ต้องการเงินทองและลาภยศแต่ประสงค์จะอยู่กับครอบครัวของข้าเท่านั้น” ยาโนะพูด
“งั้นหรือ...” ชายร่างท้วมพูดสั้นๆ
“ถ้างั้นข้าขอตัวก่อนได้ไหมขอรับ” ยาโนะเอ่ยปากถาม

กษัตริย์แห่งอังกฤษพยักหน้าก่อนที่ยาโนะจะลุกขึ้นและหันหลังเดินจากไป เขากลับขึ้นเกวียนพร้อมกับเดินทางกลับไปยังบ้านของเขา ยาโนะแหงนมองออกนอกหน้าต่างก่อนที่เขาจะเห็นท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว เขาหลับตาลงก่อนจะนึกภาพเวลาแห่งความสุขที่เขาได้อยู่กับครอบครัวของเขา รถเกวียนของเขาพาเขากลับมายังบ้านของเขา ยาโนะรออย่างใจจดใจจ่อที่จะใช้ชีวิตร่วมกับคนรักของพวกเขา หากทว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้นเป็นอะไรที่ทำให้ดวงตาของเบิกโพลนด้วยความตกตะลึง เขาเห็นบ้านของเขาถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิง ยาโนะหันไปมองข้างๆก่อนจะเห็นชายชุดเกราะวิ่งหายไปในเงามืด ภาพนี้มันคุ้นๆ ราวกับมันเคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาแล้ว แต่ในตอนนี้เขาไม่สนใจแล้ว เขารีบวิ่งเข้าไปก่อนจะถีบประตู เขาตะโกนเรียกชื่อทุกคนตั้งแต่ “แมรี่” “เจซสิก้า” รวมถึง “คอร์เดเลีย” ซึ่งเป็นชื่อของลูกสาวของเขา แต่ก็ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ ยาโนะวิ่งไปรอบๆ แต่เขาก็ไม่เจอใครทั้งนั้น ควันเริ่มปกคลุมรอบๆ ยาโนะรีบวิ่งขึ้นชั้นสองก่อนจะเห็นร่างของคนรักของเขาคว่ำหน้าอยู่บนพื้น ยาโนะรีบวิ่งไปก่อนจะหงายร่างของเธอ

“แมรี่...แมรี่!!” ยาโนะตะโกนเรียกชื่อของเธอ

เธอลืมตาขึ้นมาช้าๆ ยาโนะยิ้มด้วยความโล่งอก ก่อนที่ยาโนะจะอุ้มร่างของเธอขึ้นมาก่อนจะวิ่งพาเธอออกไปยังนอกบ้าน แต่หากทว่าเมื่อเขาพยายามจะออกจากอาคารแห่งนี้ เขาก็เห็นซากไม้จำนวนมากกองสูงบังเส้นทางของเขา ยาโนะหันกลับไปหวังจะหาทางออกทางอื่น เขาเห็นประตูหลังบ้านที่อยู่ตรงห้องครัว ยาโนะรีบเร่งฝีเท้าเพื่อไปยังประตูหลังบ้าน แต่เหมือนโชคชะตาจะกลั่นแกล้งเขา เพราะกองไม้รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆล้มลงบังเส้นทางของเขาอีกแล้ว ยาโนะกัดริมฝีปากของเขาและมองไปรอบๆ ในหัวของเขาพยายามจะนึกถึงทางออกทุกทางเท่าที่เป็นไปได้ หากทว่าไม่ว่าจะคิดยังไงเขาก็คิดไม่ออก ในขณะที่ยาโนะอุ้มแมรี่อยู่นั้นเธอก็เอื้อมมือจับใบหน้าอันเรียวบางของยาโนะ

“เจ้าหนีไปเถอะ...ข้าอยู่ไปตอนนี้ก็จะถ่วงเจ้าเปล่าๆ” แมรี่พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“ไม่!! ผมจะไม่ทิ้งท่านเป็นอันขาด ผมอยู่ไม่ได้หากไม่มีท่าน” ยาโนะปฏิเสธเสียงแข็ง

แมรี่ส่ายหน้าก่อนจะยิ้มให้

“ไม่หรอก...เจ้าต้องอยู่ได้ ข้ารู้ว่าท่านเข้มแข็ง บางทีท่านอาจจะเข้มแข็งกว่าข้าเสียอีก” แมรี่พูด

ยาโนะไม่สนใจสิ่งที่แมรี่พูดแต่ยังคงหาทางออกที่จะช่วยตนกับภรรยาของตนได้ แต่เมื่อเขารู้ตัวอีกทีเขาก็เห็นร่างของคนรักเขานั้นหลับตาลง ยาโนะเอ่ยปากเรียกเรียกชื่อเธอซ้ำแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ตอบอะไร แต่ยังคงนอนแน่นิ่ง ยาโนะทรุดลงไป น้ำตาไหลหยดลงบนใบหน้าอันซีดเซียวของเธอ ยาโนะกอดร่างของเธอก่อนจะตะโกนเรียกชื่อเธอออกสุดกำลัง หวังว่าเสียงของเขาจะสามารถเรียกวิญญาณของเธอจะอีกโลกนึงได้ แต่มันไม่สามารถ

=====

“อ๊ะ!!” ยาโนะสะดุ้งตื่นขึ้นมา

ยาโนะนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ ข้างหน้าของเขาเป็นป้ายหลุมศพของแมรี่ ดวงตะวันนั้นเริ่มโผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้าแล้ว ดูเหมือนเรื่องที่เขาเห็นทั้งหมดนั้นจะเป็นความฝัน เมื่อยาโนะรู้ตัวอีกที เขาก็รู้สึกได้ว่ามีผ้าห่มร่างกายของเขาเพื่อป้องกันเขาจะลมหนาว บนผ้าห่มนั้นมีกระดาษวางอยู่ เขาหยิบกระดาษขึ้นมา แม้แสงจากดวงตะวันจะน้อยนิด แต่มันก็มากพอที่จะให้เขาเห็นตัวอักษรที่เขียนด้วยหมึกสีดำ โดยบนกระดาษถูกเขียนด้วยลายมือที่สวยงาม ยาโนะมองก็รู้ทันทีว่านี่เป็นลายมือของนายของเขา

“คืนผ้าห่มด้วยล่ะ”

ยาโนะพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นมา เขานึกถึงความฝันของเขาทั้งหมด มันเป็นความฝันที่สวยงามแต่ก็เจ็บปวดเหมือนกัน เสียงของแมรี่ในฝันยังดังก้องในหัวของเขา และมีประโยคหนึ่งที่ดังก้องเป็นพิเศษ

“เจ้าต้องอยู่ได้ ข้ารู้ว่าท่านเข้มแข็ง บางทีท่านอาจจะเข้มแข็งกว่าข้าเสียอีก”

ชายหนุ่มหน้าสวยเดินไปที่สุสานของแมรี่ก่อนที่ยาโนะจะคุกเข่าลง เขาพูดเบาๆว่า “ขอบคุณนะ...ข้ารักเจ้าแมรี่” เมื่อเขาพูดเสร็จเขาก็ลุกขึ้นมาก่อนจะมองไปยังดวงตะวันที่ขึ้นมาจากขอบฟ้า อีกไม่นานนักเขาก็จะต้องสู้กับสงครามที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของพวกเขา และพวกเขาต้องชนะศึกนี้ มิเช่นนั้นจะไม่มีดินแดนที่ถูกเรียกว่าญี่ปุ่นอีกต่อไป
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Sengoku : 23
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Sengoku : 41
» Sengoku : 9
» Sengoku : 22
» Sengoku : 38
» Sengoku : 10

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: