Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Sengoku : 25

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Sengoku : 25 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Sengoku : 25   Sengoku : 25 EmptyMon Oct 13, 2014 7:29 pm

ย้อนกลับไปก่อนที่ฮารุกะจะปลิดชีพศัตรูของเธอ ณ เส้นทางอีกเส้นทางที่สามารถใช้เดินทางไปยังปราสาทแคว้นทังโกะได้ ชายหนุ่มผมน้ำตาลพร้อมกับดาบเล่มใหญ่ของเขาก็ยังคงยืนรอศัตรูของเขา แม้ว่าจะเบาบางแต่ถ้าหากเงี่ยหูฟังดีๆ เขาจะได้ยินเสียงฝีเท้าของอาชาพุ่งตรงมายังทางเขา เรียวชินที่ยืนอยู่บนพื้นดินสามารถสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นมาจากฝีเท้าของม้า ไดเมียวคนนี้กำลังตั้งตารอคอยคู่ต่อสู้ของเขาปรากฏออกมา เสียงฝีเท้าดังขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดภาพของชายแก่ในชุดเกราะสีแดงก็ปรากฏตัวออกมา เบื้องหลังของเขามีทหารมากมายยืนอยู่ ทั้งสองจ้องมองหน้าของอีกฝ่าย ทุกๆคนต่างหยุดนิ่งราวกับถูกเวทย์มนต์สะกดเอาไว้

“เจ้าเองรึ เรียวชิน....ช่างบังเอิญเสียจริง” พอลพูดขึ้นมาเป็นภาษาอังกฤษ
“ข้าเองก็ไม่คิดว่าจะได้เจอท่านบนสนามรบเหมือนกันนะ ท่านพ่อตา” เรียวชินพูดแซวชายแก่ที่อยู่ตรงข้ามเขาเป็นภาษาอังกฤษ
“ลูกสาวของข้าเป็นไงบ้างล่ะ? หวังว่าเจ้าจะไม่ได้ทำให้นางร้องไห้นะ” พอลที่เป็นพ่อตาเอ่ยถามถึงลูกสาวของตนเอง
“ข้าทำนางร้องไห้ เพราะข้าไม่สามารถปกป้องลูกชายของพวกเราไว้ได้” ลูกเขยสารภาพตรงๆ
“เจ้านี่เป็นพ่อที่แย่จริงๆ” พอลต่อว่า
“ท่านก็เหมือนกันแหละ” เรียวชินโจมตีพอลกลับด้วยคำพูด
“แล้วเจ้าจะให้ข้าผ่านไปได้ไหม หรือ ข้าจะต้องผ่านศพของเจ้าไป” ผู้บุกรุกเปลี่ยนประเด็น
“ไม่ต้องทั้งนั้น เพราะท่านจะไม่มีทางผ่านข้าไปได้ เพราะข้าจะหยุดท่านเอง” เรียวชินพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ

พอลได้ยินก็ถอนหายใจก่อนจะกระโดดจากหลังม้าและหยิบขวานเล่มใหญ่ออกมา พอลตะโกนคำว่า “บุก” ดังสนั่นกึกก้อง เช่นเดียวกันกับเรียวชินที่สั่งให้ทหารของตัวเองเคลื่อนทัพเช่นกัน เหล่าผู้คนต่างคำรามและมุ่งตรงไปยังทัพอีกฝ่ายเพื่อทำลายพวกเขา เหล่าทหารญี่ปุ่นมากมายต่างพุ่งไปที่พอลเพื่อหวังจะสังหารเขา แต่เพียงการแกว่งขวานแค่ครั้งเดียวมันก็กวาดร่างของทหารญี่ปุ่นหมดราวกับพายุที่พัดร่างของพวกเขา เช่นเดียวกันกับทหารอังกฤษที่หวังจะทำร้ายเรียวชินก็ทำอะไรเรียวชินไม่ได้เช่นกัน เมื่อรู้ตัวอีกทีทั้งคู่ก็เผชิญหน้ากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่มองกันอยู่ชั่วครู่ก่อนที่เรียวชินจะใช้ดาบเล่มยักษ์ของเขาฟันเข้าไปที่พอล แต่พอลยกขวานและรับน้ำหนักขวานไว้ได้ ก่อนที่ชายชราจะดันมันออกอย่างง่ายดาย เมื่อเรียวชินถูกผลักไปก็เสียสมดุล พอลตรงเข้าไปพร้อมกับขวานของเขา เรียวชินรีบคว้าทหารอังกฤษคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆเข้ามา พอลเหวี่ยงขวานของเขาตัดถูกร่างของโล่มนุษย์คนนี้ เลือดของชาวอังกฤษผู้นี้กระเซ็นติดหน้าพอล เรียวชินรีบอาศัยโอกาสนี้ใช้ดาบแทงเข้าไปที่ร่างของเขา หากทว่าพอลนั้นไหวตัวทันโยกหลบออกมาได้ เรียวชินยังคงโจมตีอย่างต่อเนื่อง แต่การโจมตีทุกกระบวนท่าของเขาก็ไม่เป็นผลราวกับ ชายแก่คนนี้สามารถอ่านการเคลื่อนไหวของเขาออกหมดทุกกระบวนท่า การปะทะของทั้งคู่ดำเนินไปพักหนึ่งก่อนที่จะเป็นเรียวชินที่เลือกจะกระโดดถอยออกมา ซึ่งพอลเห็นเรียวชินถอยออกมา เขาก็หยุดเช่นกัน

“น่าแปลก...ข้ายังไม่ได้ยินเสียงปืนใหญ่เลยซักลูก” พอลพูดขึ้นมา
“ดูเหมือนทัพของข้าจะบุกยึดเรือของพวกท่านได้สำเร็จนะ” เรียวชินตอบกลับ
“งั้นหรือ...ไม่เป็นไร เพราะตอนนี้สิ่งที่ข้าสนใจมากกว่าคือการตัดร่างของเจ้า และก้าวต่อไปข้างหน้า” ชายแก่พูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น

สิ้นเสียงของเขา เขาก็พุ่งมาอีกครั้งพร้อมกับขวานเล่มใหญ่ของเขา คราวนี้กลายเป็นคนหนุ่มที่เป็นฝ่ายยกดาบมาปัดป้องขวานเล่มนั้น แม้ว่าพอลจะมีอายุแล้ว แต่การเคลื่อนไหวของเขายังถึงว่าเร็วพอๆกับคนหนุ่มหลายๆคนหรือบางทีอาจจะพูดได้ว่าเร็วกว่าก็เป็นได้ พอลแกว่งขวานหวังจะตัดศีรษะของเรียวชิน แต่เรียวชินโยกหลบออกมาได้ โชคดีที่คมขวานเพียงแค่เฉี่ยวคอของเขาเท่านั้น มันเป็นบาดแผลเล็กๆ เลือดไหลออกมาจากปากแผลนั้น หากทว่าวิกฤษของเรียวชินก็ยังไม่จบสิ้น พอลงัดดาบเล่มยักษ์ของเรียวชินลอยขึ้นไปในอากาศ ดาบของเรียวชินตกมาอยู่ไม่ไกลจากเขาเท่าไหร่ หากทว่าเอื้อมมือของเขาไม่ยาวพอที่หยิบดาบเล่มนี้ได้ เรียวชินหันกลับมาเจอพอลวิ่งมาพร้อมกับเตรียมจะแกว่งขวานสับร่างของเขา เขาอยากจะหลบหากทว่าร่างกายของเขาไม่ตอบสนองดั่งใจเขาเท่าไหร่ ร่างกายเขายืนนิ่งอยู่บนพื้น ถ้าเป็นแบบนี้ร่างกายของเรียวชินต้องถูกแยกเป็นสองส่วนแน่นอน แต่แล้วชายผู้ถือขวานต้องกระโดดถอยออกไป เพราะมีธนูของใครก็ไม่รู้ลอยมาปักอยู่ที่พื้น เรียวชินรีบอาศัยจังหวะนี้กลิ้งไปก่อนจะดึงดาบเล่มยักษ์ของเขาขึ้นมา เรียวชินหันไปข้างหลังก่อนจะเห็นเคนตะยืนอยู่บนกิ่งไม้พร้อมกับธนูของเขา มันเป็นระยะที่ค่อนข้างไกลพอควร ไม่รู้ว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า แต่ที่แน่ธนูดอกมะกี้ช่วยชีวิตของเรียวชินไว้

“เกือบไปแล้ว….” เคนตะพูดขึ้นกับตนเอง
“เคนตะ คราวหน้าไม่ต้องช่วยข้านะ” เรียวชินหันมาตะโกนบอกกับเคนตะ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ยกนิ้วโป้งเป็นการขอบคุณนักธนูผู้นี้

เรียวชินเมื่อพูดเสร็จก็หันมาจ้องมองพอลที่ยังคงถือขวานของเขาอยู่ ชายแก่พุ่งเข้ามาอีกครั้ง พอลแกว่งขวานอีกครั้ง แต่คราวนี้สิ่งที่เขาได้คืออากาศ พอลมองไปรอบๆพยายามหาเรียวชิน เมื่อเขารู้ตัวอีกทีเขาก็พบเรียวชินที่วิ่งมาบนขวานของเขา พอลพยายามจะยกเรียวชินออกไป หากทว่าด้วยน้ำหนักตัวของเรียวชิและดาบของเขา มันไม่สามารถทำให้พอลยกอาวุธของเขาได้ เมื่อเขารู้ตัวอีกที เขาก็ถูกคมดาบแทงเข้าไปที่หัวใจของเขา เรียวชินดึงดาบออกมาจากอกข้างซ้ายอย่างรวดเร็วก่อนจะกระโดดลงมาจากขวาน พอลพยายามจะแกว่งขวานเป็นครั้งสุดท้าย แต่มันไร้ซึ่งน้ำหนักและความรุนแรง ก่อนที่ร่างของพอลจะกระแทกกับพื้น เรียวชินได้แต่ยืนมองร่างของพ่อเขยก่อนจะเอ่ย “ขอโทษ” เบาๆ หากทว่าแม้ว่าแม่ทัพจะตายแล้วแต่เหล่าอัศวินก็ต่างสู้ต่อไป เรียวชินหันไปก่อนจะเห็นทัพของฮารุกะตรงเข้ามา เรียวชินยิ้มด้วยความยินดีเพราะนั่นแปลว่าเขาได้กำลังเสริมและนั่นก็แปลว่าฮารุกะเองก็สามารถเอาชนะจอร์แดนได้เช่นกัน

ณ ขณะเดียวกันที่หน้าคันฉ่องตะวัน แม่ทัพทั้งสามที่ได้รับมอบหมายงานนี้ถูกล้อมโดยทหารอังกฤษจำนวนหนึ่ง หากทว่าจำนวนหนึ่งที่ได้กล่าวมานั้น มันมากกว่าทหารของทัพญี่ปุ่นค่อนข้างมาก ดูเหมือนซูตะจะคิดไม่ถึงว่าจะมีทัพอังกฤษหลุดมาถึงตรงนี้ได้ ยาโนะเหลือบมองคาเมอิที่ยืนแผ่นไม้หลังคันฉ่อง ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องปกป้องนักประดิษฐ์ให้ได้ เพราะเขาคือหนทางสุดท้ายในการชนะศึกนี้ ยาโนะกวาดตาไปรอบๆ พลางนับจำนวนของคู่ต่อสู้ไปด้วย ในขณะที่ยาโนะกำลังสังเกตการณ์อยู่นั้น เขาก็เหลือบมองชายในชุดเกราะที่อยู่ใกล้ๆกับเขา มันเป็นชุดเกราะที่ดูคุ้นเคยมาก ราวกับว่าเขาเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ยาโนะยืนคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนที่เขาจะนึกออก

“จิน...ข้าขอถามท่านตรงๆนะ คนที่ยิงแมรี่น่ะ...ท่านรึเปล่า?” ยาโนะเอ่ยปากถาม

คำถามนี้ทำให้เมโกะที่อยู่ใกล้ๆหันมามองจินเช่นกัน ถ้าไม่กระสุนลูกนั้น พวกเขาก็อาจจะไม่ต้องยืนอยู่ในจุดนี้ก็ได้ การเจรจาจะจบลงด้วยดีทุกคนก็จะมีความสุข แมรี่ก็ไม่ต้องตาย ยาโนะจ้องมองจินตาไม่กระพริบ เขาเฝ้ารอคำตอบของชายคนนี้อย่างใจจดใจจ่อจนลืมไปแล้วว่าเขายืนอยู่ในสมรภูมิ จินที่ได้ยินก็ไม่ได้เอ่ยอะไรเขาได้แต่เงียบ ยาโนะเห็นปฏิกิริยาเช่นนี้ก็ได้แต่กุมดาบแน่น

“แปลว่าใช่ซินะ...” ยาโนะตีความ

สิ้นเสียงของยาโนะเขาก็คำรามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ก่อนที่เขาจะวิ่งตรงเข้าไปหากองทัพอังกฤษ เหล่าทหารก็วิ่งตามเขาเช่นกัน เมโกะกับจินที่ยืนอยู่ก็ต่างวิ่งตามเขาไป ยาโนะกวัดแกว่งดาบของเขาเพื่อเฉือนร่างของศัตรูของเขา เลือดนั้นกระเซ็นใส่ใบหน้าของยาโนะแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดการอาละวาดครั้งนี้ มันต่างจากคราวๆก่อนที่เวลาเขาจะลงดาบเขาจะต้องลังเลและคิดถึงชีวิตอีกฝ่าย หากทว่าในตอนนี้มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเปลวเพลิงแห่งความโกรธแค้น ความเกลียดชัง มันเป็นภาพที่เมโกะไม่เคยเห็นมาก่อนจากเด็กหนุ่มที่มีความฝันและรักความสงบสุข แต่ ณ บัดนี้เขาได้กลายเป็นเครื่องจักรสังหาร ที่พร้อมจะปลิดชีพคนทุกคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา

=====

ทัพของเอ็ดเวริด์นั้นก็กำลังมุ่งตรงมายังปราสาทแคว้นทังโกะ หากทว่าเขาก็ต้องหยุดลงเมื่อเจอกับชายหนุ่มผมน้ำตาลนั่งอยู่บนหลังม้า เอ็ดเวริด์หยุดอาชาของเขาก่อนจะมองไปที่ไทโซที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับเขา เบื้องหลังนั้นมีทหารที่ตราประจำตระกูลฮิมุระโบกพริ้วไหวไปตามสายลม ไทโซจ้องมองศัตรูของเขา สิ่งน่าแปลกคือทหารของเอ็ดเวริด์นั้นดูน้อยกว่าเท่าที่ควร ไทโซแหงนมองท้องฟ้าหาตะวัน ดูเหมือนยังไม่ถึงเวลาที่จะคันฉ่องจะได้เฉิดฉาย ชาวอังกฤษเห็นกริยาท่าทีของไทโซก็พอเข้าใจว่าเขาทำอะไร และสิ่งที่เขาต้องทำคือโค่นไทโซลงให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ หรือไม่ก็ภาวนาให้ทหารของตัวเองทำลาย “อาวุธ” ได้ทันเวลา น่าแปลก แม้ว่าเอ็ดเวริด์กำลังแข่งกับเวลาแต่เขาก็ไม่ได้พลีพลามสั่งให้บุกแต่อย่างใด แต่เขากลับเลือกที่จะมองการเคลื่อนไหวของไทโซ ถ้าให้ว่ากันจริงๆ มันเป็นสิ่งที่ไทโซต้องการอยู่แล้ว

“ข้าขอท้าเจ้าในการประลอง” เอ็ดเวริด์พูดขึ้นเป็นภาษาอังกฤษพลางชี้ไปที่ไทโซ

แน่นอนว่าไทโซเข้าใจ ถึงแม้ว่าไทโซจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ในบางประโยคนั้นมาซามิก็ได้สอนไทโซเอาไว้และประโยคนี้ก็เช่นกัน หากทว่าด้วยนโยบายถ่วงเวลาของเขา เขาก็แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ และยังคงยืนนิ่ง เอ็ดเวริด์เห็นดังนั้นก็จึงพูดประโยคเดิมซ้ำอีกครั้ง และแน่นอนว่าไทโซก็ยังคงตอบรับเช่นเดิมก็คือไม่ตอบรับ มันทำให้เอ็ดเวริด์เริ่มฉุนเฉียวก็จะควบม้าของเขาและดึงดาบของเขาออกมา หวังจะฟันไทโซที่นั่งอยู่บนหลังม้า ไทโซเห็นก็ดึงดาบก่อนจะรับดาบของเอ็ดเวริด์ไว้ เหล่าทหารรอบๆเห็นการปะทะเกิดขึ้นก็ต่างวิ่งเข้าไป เป็นเหมือนสัญญาณว่าสงครามได้เริ่มขึ้นแล้ว เอ็ดเวริด์พยายามออกแรงเต็มที่เพื่อจะสังหารไทโซ ไทโซเองก็พยายามจะดันเอ็ดเวริด์ออกไปให้เร็วที่สุด ด้วยขนาดดาบของทั้งสองที่ต่างกันราวฟ้ากับเหวนั้น ดาบของไทโซคงจะรับน้ำหนักได้ไม่นาน ไทโซยกเท้าขึ้นก่อนจะถีบเข้าไปที่กลางชุดเกราะของเอ็ดเวริด์ แรงถีบนั้นทำให้เอ็ดเวริด์ตกลงมาจากหลังม้า ฝรั่งคนนี้ลุกขึ้นมาก่อนจะเจอไทโซควบม้าเข้ามา ไทโซง้างมือเตรียมจะใช้คาตานะของเขาปลิดชีพเอ็ดเวริด์ หากทว่าผู้รุกรานใช้ดาบเล่มใหญ่ของเขาแทงเข้าไปที่ไทโซ ไทโซโดนคมดาบเข้าไปก็ถึงกับตกลงมาจากหลังม้า โชคดีที่เมื่อครู่นี้มันโดนแค่สีข้างของไทโซเท่านั้น ไทโซพยุงตัวขึ้นมา สีหน้าของเขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด เขาเหลือบมองสีข้างของที่เป็นแผลขึ้นมา เลือดนั้นไหลก่อนจะหยดลงไปบนผืนดิน แต่ไม่ได้มีเวลาหายให้กับไทโซ เอ็ดเวริด์ตรงมาอีกครั้งก่อนจะแกว่งดาบของเขาเต็มแรง ไทโซก้มหลบด้วยความรวดเร็วก่อนจะแทงสวนเข้าไปที่ใบหน้าของเอ็ดเวริด์ หากทว่าไทโซพลาด...เขาทำได้แค่สร้างบาดแผลบนแก้มของเอ็ดเวริด์เท่านั้น เลือดนั้นไหลออกมาจากแก้มของชายผมสีทราย ชายในเกราะสีเงินยกเท้าขึ้นก่อนจะถีบเข้าเต็มหน้าท้องของไทโซ แรงกระแทกนี้ทำให้ไทโซลงไปนอนบนพื้น เมื่อไทโซรู้ตัวอีกทีเขาก็เห็นศัตรูของเขาเตรียมลงดาบใส่หน้าท้องของเขา ไทโซไหวตัวทันก่อนจะกลิ้งหลบได้ ดาบของเอ็ดเวริด์นั้นปักลงผืนดิน เอ็ดเวริด์รีบดึงดาบขึ้นมา ไทโซแหงนหน้ามองท้องฟ้าอีกครั้ง

“ยังไม่ถึงเวลางั้นหรือ...” ไทโซบ่นพึมพำ

ไทโซก้มลงมาก่อนจะเจอเอ็ดเวริด์แกว่งดาบของเขาอีกครั้ง ไทโซรีบยกดาบขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพราะด้วยขนาดาบที่ต่างกันจึงทำให้ไทโซถอยออกมา ไทโซรีบมองไปรอบๆก่อนจะหาอะไรซักอย่างที่พอจะช่วยเขาได้บ้าง เขาคว้าดาบของทหารชาวญี่ปุ่นที่นอนอยู่กับพื้น ไทโซหันกลับมาก่อนจะเจอเอ็ดเวริด์เตรียมจะผ่าร่างของเขา ไทโซไขว้มือทั้งสองก่อนจะรับดาบของเอ็ดเวริด์ไว้ มือไม้ของยาโนะสั่นไปหมด เอ็ดเวริด์พยายามจะออกแรงเต็มที่เพื่อทำลายการป้องกันของไทโซ เหงื่อเริ่มไหลออกมาจากทุกซอกทุกมุมของไทโซ ชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นคำรามก่อนจะจัดการงัดดาบเล่มยักษ์ของเอ็ดเวริด์ได้สำเร็จ ไทโซใช้ดาบที่เขาพึ่งหยิบมาจะฟันใส่ร่างของเอ็ดเวริด์ ชายผมทองตั้งดาบเตรียมจะรับมือ หากทว่ามันเป็นเพียงแค่การหลอกเท่านั้น ไทโซปล่อยดาบที่เขาพึ่งหยิบมา ก่อนจะใช้ดาบอีกเล่มฟันเข้าไปที่หัวเข่าของเอ็ดเวริด์ แต่ว่ายกเท้าหลบได้ ชายหนุ่มที่ฟันพลาดไปรู้ตัวอีกทีเขาก็เจอเท้าของเอ็ดเวริด์กดลงไปที่หลังศีรษะของตนเอง ไทโซหน้ากระแทกกับผืนดิน ชายหนุ่มชาวต่างชาติเอาเท้ากดไว้ไม่ให้เขาเงยหน้าขึ้นมา

“มีอะไรจะสั่งเสียไหม” เอ็ดเวริด์เอ่ยปากถามเป็นภาษาอังกฤษ

ไทโซไม่ได้พูดอะไร เอ็ดเวริด์เตรียมจะลงดาบ หากทว่าอยู่ดีๆพลุสีแดงก็ถูกจุดขึ้นมาบนท้องฟ้า เอ็ดเวริด์แหงนหน้ามอง เขาไม่เข้าใจว่าจุดพลุเพราะอะไร แต่เมื่อเขารู้ตัวอีกที เหยื่อของเขาก็หลุดรอดออกไปแล้ว เอ็ดเวริด์ได้แต่ยืนมองเพราะรู้ตัวอีกทีไทโซก็หนีหายไปจากระยะสายตาเขาแล้ว ทหารอังกฤษต่างงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น หากทว่าพวกเขาไม่สนใจและยังคงบุกต่อไปเพื่อหวังจะคว้าชัยชนะโดยไม่รู้เลยว่าอะไรกำลังรอคอยพวกเขาอยู่และสิ่งที่พวกเขากำลังจะเผชิญนั้นมันเป็นอะไรที่เหนือการคาดเดาของพวกเขาแน่นอน

ฉากกั้นของคันฉ่องตะวันถูกเลื่อนขึ้นมาช้าๆ ข้างหน้าคันฉ่องนั้นมีซากศพทหารอังกฤษและญี่ปุ่นเต็มไปหมด แต่สามแม่ทัพก็ยังเอาชีวิตรอดได้ ทั้งเสื้อผ้า ทั้งใบหน้าของชายหนุ่มหน้าสวยนั้นเต็มไปด้วยเลือด ยาโนะหันกลับไปก่อนจะเห็นฉากกั้นของอาวุธเคลื่อนขึ้นมา เขาก็รีบไปหลบหลังกระจกบานนี้ เมื่อฉากกั้นไม่ได้บดบังบานกระจกแล้ว แสงก็สามารถส่งไปที่บานกระจกได้ ก่อนที่แสงอาทิตย์จะสะท้อนและกลายเป็นลำแสงที่มีอานุภาพเผาพลาญทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามแต่ มันต่างถูกทำลายจนหมดสิ้น เรือลำใหญ่ทั้งสองลำของอังกฤษท่วมไปด้วยเพลิงก่อนมันจะจมลงสู่ท้องทะเลอย่างช้าๆ การทำลายล้างดำเนินไปได้พักนึงก่อนจะหยุดลง ดวงตะวันหลุดออกจากตำแหน่งเดิมของมันทำให้อาวุธชนิดนี้หยุดทำงาน เมฆดำเริ่มก่อตัวก่อนที่ฝนจะโปรยปรายจากฟากฟ้า น้ำนั้นชำระเลือดออกจากใบหน้าของยาโนะจนหมด ทั้งตัวของเขาเปียกโชก เขายืนมองภาพแห่งความพินาศที่เกิดขึ้น ร่างของเหล่าทหารที่ก่อนหน้านี้นอนกระจัดกระจายหายไปหมด ไม่เหลือแม้แต่กระดูกด้วยซ้ำ

“เราชนะแล้วงั้นหรือ....” เมโกะพูดขึ้น

สิ้นเสียงของเธอเหล่าทหารญี่ปุ่นต่างโห่ร้องด้วยความยินดี พวกเขาทำได้แล้ว พวกเขาสามารถชนะที่ไม่มีใครคิดว่าจะชนะได้ หากทว่ายาโนะได้แต่ยืนมองความพินาศที่เกิดขึ้น ทำไมเขาไม่รู้สึกดีใจเลยนะ? เขาถามตัวเองเช่นนี้ เขาหันหลังกลับไปก่อนจะเห็นชายในชุดเกราะหนักนามว่าจินยืนอยู่ เมื่อยาโนะเห็นเขา ภาพของแมรี่ก็ไหลเข้ามาในหัวของเขา เขาดึงดาบออกมาก่อนจะพุ่งเข้าไปหวังจะฟันจิน หากทว่าจินได้แต่โยกหลบ โดยไม่ได้โต้ตอบอะไรก่อนที่เขาจะเตะตัดขาของชายหน้าสวย ร่างของยาโนะนั้นล้มลงไปก่อน ใบหน้าของยาโนะจะจุ่มลงไปกับโคลน เขาแหงนหน้ามามองจินที่เอาดาบจ่อ เข้าไปที่คอของยาโนะ เมโกะที่อยู่แถวนั้นเตรียมเข้ามาช่วยหากมีอะไรเกิดขึ้น ชายที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นมองดวงตาของจินที่อยู่เบื้องหลังหน้ากากเหล็กนั่น เขาเก็บดาบเล่มยักษ์ของเขาก่อนจะหันหลังกลับไป

“ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า...ถือเสียว่าเป็นการตอบแทนที่เจ้าช่วยข้าเอาไว้”
“หากทว่า...ถ้าหากเราเจอกันอีกเมื่อไหร่ ข้าจะไม่มีทางไว้ชีวิตเจ้าอีก” จินพูดก่อนจะเดินหายไป

ยาโนะลุกขึ้นมานั่งก่อนจะมองภาพของอริเขาเดินหายไป น้ำตานั้นไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองของยาโนะ ยาโนะพลางทุบพื้นดินที่ชุ่มไปด้วยฝนด้วยความโกรธแค้น ทำไมเขาถึงอ่อนแอเช่นนี้ ถ้าเราเข้มแข็งกว่านี้คงจะดีกว่านี้ ยาโนะต่อว่าตัวเอง เมโกะผู้เป็นเพื่อนได้แต่ยืนมองโดยไม่ได้พูดอะไร เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงฝีเท้าของใครบางคนก็ดังขึ้นมา ภาพของชายนามซูตะปรากฏขึ้นในมือของเขาถือร่มสีดำอยู่ด้วย เขาหยุดหน้ายาโนะก่อนจะหันไปพูดกับคาเมอิและเมโกะ

“พวกเจ้าไปก่อนได้ไหม...ข้ามีธุระกับยาโนะ”

คาเมอิกับเมโกะพยักหน้าก่อนจะเดินจากหายไปเหลือเพียงแค่ซูตะกับยาโนะ ยาโนะใช้มือของเขาเช็ดน้ำตาก่อนที่จะลุกขึ้นมาและคุกเข่าลงไปใหม่เพื่อแสดงความเคารพต่อซูตะแม้ว่าสภาพพื้นจะไม่อำนวยเสียเท่าไหร่

“ข้ามาคิดดูแล้ว ข้าอยากให้เจ้าเข้าร่วมกับตระกูลเท็ตซึยะ เพราะข้าเล็งเห็นความสามารถของเจ้า”
“ถ้าหากเจ้ามาร่วมกับข้า...ข้าจะยกฮานะ น้องของข้าให้ด้วย”
“แล้วเรามาช่วยกันยึดครองใต้หล้าและนำพาประเทศในแบบของเรา” ซูตะพูดกับยาโนะ

ยาโนะเงียบก่อนที่จะเอ่ยปากตอบซูตะ

“ข้ายินดีที่ท่านเห็นฝีมือในตัวข้า...หากทว่า”
“ตัวเจ้านั้นมีเพียงนายเดียวคือ ฮิมูระ ไทโซ” ชายหนุ่มนามซูตะพูดขัดเขา
“ขอรับ” ยาโนะพยักหน้าตอบ
“น่าเสียดายนะ...ไม่เป็นไร เพราะหลังจากนี้ข้านี่แหละจะแสดงให้ดูว่าข้าคือผู้เหมาะที่จะครองใต้หล้า” ซูตะพูดด้วยความมั่นใจ

พูดจบเขาก็หันหลังและเดินจากไป ยาโนะพยุงตัวขึ้นมาก่อนจะมองซูตะที่เดินหายไปในความมืด และม่านของสงครามครั้งนี้ก็จบลง แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าสงครามนี้จะเป็นสงครามสุดท้าย เพราะตราบใดที่ยังมีเหล่าไดเมียวผู้ทะเยอทยานบนแผ่นดินนี้ สงครามก็จะไม่จบไม่สิ้น จนกว่าจะมีใครคนนึงได้กลายเป็นโชกุนและนำพาประเทศในแบบที่เขาต้องการ
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Sengoku : 25
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Sengoku : 12
» Sengoku : 34
» Sengoku : 19
» Sengoku : 35
» Sengoku : 20

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: