Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Sengoku : 29

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Sengoku : 29 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Sengoku : 29   Sengoku : 29 EmptySat Oct 25, 2014 10:48 am

ณ ยอดของปราสาท หญิงผมชมพูที่แต่งตัวน้อยชิ้นนั่งอยู่บนหลังคา ท้องฟ้าวันนี้แจ่มใส ไร้ซึ่งเมฆหมอกบดบังทำให้ดวงตะวันส่องลงอาบพื้นดิน ดวงตาของเธอนั้นมองไปยังเบื้องหน้า จากตรงที่เธอนั่งนั้นเธอสามารถเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ผู้คนที่ตัวเล็กราวกับปลวก เธอก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนหรือแม้แต่กองทัพของตระกูลฮิมูระที่กำลังยกทัพมาทางปราสาทแห่งนี้เธอก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน มูชิโหนตัวจากหลังคาก่อนจะกระโดดลงมายังห้องที่อยู่ชั้นบนสุดของปราสาท เธอเห็นชายหนุ่มผมดำขาวตัดสลับนาม “มาซารุ” นั่งเขียนอะไรบางอย่างด้วยพู่กัน

“ทัพของฮิมูระบุกมาหาเจ้าแล้วนะ” มูชิพูดกับมิตรสหายของตน
“ข้ารู้แล้ว...” มาซารุตอบสั้นๆโดยไม่ได้หันมามองเธอด้วยซ้ำ
“แล้วเจ้าต้องการความช่วยเหลือของข้าไหม? หรือเจ้าจะสู้เพียงลำพัง” หญิงผมสีชมพูเอ่ยปากถามต่อ
“ไม่เป็นไร ข้าจะสู้คนเดียว เจ้ากลับไปหาท่านซูตะเถิด” มาซารุปฏิเสธความช่วยเหลือของเธอ

มูชิพยักหน้าก่อนจะหายตัวไป มาซารุหันกลับไปและเห็นแต่ความว่างเปล่า ราวกับว่าไม่เคยมีใครยืนอยู่ตรงนั้น มาซารุหยุดเขียนก่อนจะวางพู่กันลงกับโต๊ะไม้ เขาลุกขึ้นมาก่อนจะเดินตรงไปที่ระเบียง เขามองออกไปก่อนจะเห็นเหล่าชาวบ้านที่ต่างหลบเข้าบ้านเพื่อหลีกทัพให้กับทัพของตระกูลฮิมูระที่ตรงไปที่ปราสาท เขาก้มมองลงไปก่อนจะเห็นกองทัพของเขายืนกันอย่างเป็นแบบแผน ราวกับว่าเขาคาดเดาได้อยู่แล้วว่าทัพของฮิมูระจะบุกมาหาเขา

ในขณะเดียวกันนั้นทัพของฮิมูระ (ส่วนหนึ่ง) ที่นำโดยอากิโตะและเท็ตซึกะ พวกเขานำทัพของมุ่งไปยังหน้าประตูของปราสาท และเมื่อพวกเขาไปถึงนั้นพวกเขาก็ถูกต้อนรับลูกธนูจำนวนมากที่ลอยตรงมายังพวกเขา เท็ตซึกะรีบตะโกนให้พลโล่วิ่งแซงขึ้นมา เมื่อพวกเขาได้ยินคำสั่งก็รีบวิ่งขึ้นมาก่อนจะยกโล่ไม้ขึ้นมา ลูกธนูนั้นปักลงบนโล่ไม้ที่ถูกยกขึ้นมา แต่หากทว่าพลทหารม้าของตระกูลเท็ตซึยะวิ่งออกมาก่อนจะตรงและจัดการกวาดพลโล่ ร่างของพวกเขากระจัดกระจายไปทั่วพื้น เหล่าทหารม้ายังควบอาชาตรงมาทางอากิโตะและเท็ตซึกะ พวกเขาต่างดึงดาบออกมาก่อนจะนำพลทหารม้าของพวกเขาตรงไปยังศัตรู

ทั้งสองกวัดแกว่งดาบเพื่อสังหารศัตรูของพวกเขา เมื่อคมดาบนั้นกรีดร่างของทหารตระกูลเท็ตซึยะ พวกเขาก็ตกลงมาจากหลังอาชา ในขณะที่กำลังชุลมุนอยู่นั้น ธนูจากพลทหารประจำแคว้นก็ลอยมาหาอากิโตะ แต่โชคยังดีที่ธนูนั้นปักไปที่แขนของเขา มันเจ็บไม่น้อย เลือดนั้นไหลออกมาจากบริเวณที่ธนูปักลงไป หากทว่าเขาก็ยังตั้งสติก่อนจะใช้ดาบทั้งสองเล่มที่อยู่ในมือของเขา ฟันไปที่พลทหารม้าฝ่ายศัตรู

“ท่านเท็ตซึกะ....พลธนูของพวกเราล่ะ?” อากิโตะหันไปถามชายผมขาว
“ข้าเองก็มิทราบ...” ผู้ที่ถูกถามเองก็ไม่รู้

ในขณะที่พวกเขากำลังสงสัยอยู่นั้น ก็ได้มีชายคนหนึ่งวิ่งฝ่าวงล้อมเข้ามาก่อนจะคุกเข่ามาอยู่ข้างๆ เท็ตซึกะและอากิโตะ

“แย่แล้วขอรับ...พลธนูของพวกเรา โดนตลบหลังขอรับ” เขารายงาน
“ดูเหมือนจะไม่ดีแล้วแฮะ...” อากิโตะพูดด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยยินดีกับข่าวนี้เท่าไหร่
“ถ้างั้นเราก็ถ่วงเวลาแล้วให้ยาโนะก็พอ ยังไงหน้าที่ของเราตั้งแต่แรกก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว” เท็ตซึกะกล่าวพลางแกว่งดาบของเขา
“ข้าเองก็เห็นเช่นนั้น” อากิโตะเห็นด้วยกับความคิดของเท็ตซึกะ

ณ เวลาเดียวกัน ยาโนะและฮารุกะทีนำทัพจากอีกด้านก็ยังคงควบม้าต่อไป เป้าหมายของพวกเขาคือการเดินเข้าเหมืองและเข้าไปช่วยคาเมอิออกมา ในขณะที่พวกเขามุ่งหน้าไปนั้น มันน่าแปลกที่ว่าไม่มีใครมายืนขวางพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ไร้ซึ่งทหาร และเมื่อพวกเขามาถึงที่เหมืองสิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือเหมืองที่ถูกปิดไว้ด้วยหิน มันเป็นก้อนหินจำนวนมาก เมื่อเห็นดังนี้ยาโนะก็เข้าใจทันทีว่าทำไมถึงไม่มีคนอยู่เลย นั่นแปลว่ามาซารุคาดเดาได้อยู่แล้วว่าพวกเขาจะมาที่เหมืองนี่ กล่าวคือพวกเขาโดนหลอกแล้ว ยาโนะกัดริมฝีปากของตัวเองก่อนจะนั่งคิดหาหนทางอื่น ฮารุกะที่อยู่ข้างๆนั่งมอง เธอเห็นสีหน้าอันตึงเครียดของยาโนะ ว่าแล้วเธอก็ควบม้าของเธอโดยไม่ได้พูดอะไร

“ฮารุกะ!?” ยาโนะเอ่ยปากเรียกนามของเธอ

เธอไม่หันกลับมาเลยแม้แต่น้อย มันทำให้ยาโนะต้องควบม้าของเขาตามเธอไป ฮารุกะกลับเข้าสู่สมรภูมิ มันทำให้อากิโตะและเท็ตซึกะมองด้วยความตกตะลึง เธอกลับมาทำไม? เกิดอะไรขึ้นกับแผนการของพวกเขา? ฮารุกะมองไปที่ประตูปราสาทก่อนที่เธอจะควบอาชาและวิ่งตรงไปพร้อมกับดาบ เธอแกว่งดาบของเธอเพื่อกำจัดคนที่อยู่หน้าเธอ ศัตรูล้มตายลงไปทีละคนสองคน ยาโนะพยายามจะนำทัพของเขาเพื่อตามฮารุกะไป หากทว่าทัพของตระกูลเท็ตซึยะตั้งตัวทันพวกเขานำทหารมายืนขวางพวกเขาไว้ ยาโนะรีบถอยกลับไปรวมกับเท็ตซึกะและอากิโตะที่ยังคงวุ่นวายอยู่กับศัตรูที่ล้อมกรอบพวกเขาอยู่

“เกิดอะไรขึ้นหรือท่านยาโนะ?” อากิโตะเอ่ยปากถามยาโนะที่กลับมา
“มาซารุทำลายเหมือง....ดูเหมือนเราจะต้องหาทางอื่นเข้าไป” ยาโนะตอบกลับมา
“แล้วฮารุกะล่ะ?” เท็ตซึกะหันมาถามยาโนะ
“ทะลวงเข้าไปแล้ว...ข้าเองก็ไล่นางไม่ทัน” ยาโนะตอบ
“ถ้างั้นเราก็คงต้องบุกเข้าไปตรงๆเสียแล้ว” เท็ตซึกะแนะนำยาโนะ
“เท็ตซึกะ....เจ้านำทัพส่วนหนึ่งไปเอาสิ่งนั้นมา...เราจำเป็นต้องใช้มัน” ยาโนะออกคำสั่งเท็ตซึกะ

เท็ตซึกะพยักหน้าก่อนจะตะโกนให้ทหารของพวกเขาส่วนหนึ่งตามเขามา เขามุ่งตรงไปยังเส้นทางที่เขามาก่อนหน้านี้ ไม่นานนักเท็ตซึกะก็หายไปจากระยะสายตาของชายทั้งสอง ยาโนะหันกลับไปก่อนจะเจอทหารง้างดาบของเขา แต่ยาโนะยังไหวตัวทันก่อนจะดึงดาบออกมาจากฝักดาบและแทงเข้าไปที่คอของเขา ยาโนะรีบดึงดาบออก เมื่อดาบนั้นออกจากร่างของเขา ชายที่หมายปองชีวิตของเขาก็ตกลงมาจากหลังของม้า ยาโนะตะโกนให้ทุกคน “อดทนเข้าไว้” สิ่งที่พวกเขาทำได้ในตอนนี้คือถ่วงเวลาให้เท็ตซึกะนำกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะ ยาโนะก็ได้แต่ภาวนาให้หญิงสาวผู้บ้าบิ่นนั้นกลับออกมาได้อย่างปลอดภัย

ณ ภายในปราสาท ฮารุกะผู้บ้าบิ่นนั้นกวัดแกว่งดาบของเธอเพื่อสังหารศัตรูของเธอ บนชุดเกราะของเธอนั้นเต็มไปด้วยรอยเลือด เช่นเดียวกันกับใบหน้าของเธอที่มีคราบเลือด รอบๆตัวเธอนั้นเต็มไปด้วยร่างของผู้คนที่พยายามจะหยุดเธอ แต่ดูเหมือนพวกเขาจะทำไม่สำเร็จ เธอเดินตรงขึ้นไปบนบันไดก่อนจะเห็นชายผมขาวดำนั่งอยู่ที่อยู่ ดวงตาของเขาปิดสนิทราวกับว่าเขากำลังทำสมาธิอยู่ ข้างๆตัวเขามีฝักดาบสีดำวางไว้ เขาลืมตาขึ้นมาช้าๆก่อนจะมองหน้าของฮารุกะที่เต็มไปด้วยคราบเลือด ในมือของเธอกุมดาบด้วยความเตรียมพร้อม ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยเปลวเพลิงแห่งความแค้น มาซารุลุกขึ้นมาพร้อมคว้าดาบของเขาและดึงมันออกมาจากฝักดาบ เมื่อดาบนั้นออกมาจากฝักแล้ว ชายตาเหยี่ยวก็โยนฝักดาบทิ้งก่อนจะจ้องมองกับศัตรูของตนเอง

“เหยี่ยวดำ..มาซารุ” ฮารุกะเอ่ยนามคู่ต่อสู้ของตน
“วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้าแบบที่เจ้าฆ่าครอบครัวของข้า” หญิงสาวผู้เต็มไปด้วยความโกรธเอ่ยขึ้น
“งั้นหรือ...” มาซารุพูดเบา

ฮารุกะเห็นท่าทีของมาซารุก็ฉุนขึ้นมาก่อนจะวิ่งตรงเข้าไปหาอริของเธอ เสียงฝีเท้าของฮารุกะที่ย่ำลงแผ่นไม้ดังกึกก้องไปทั่ว ฮารุกะกระโดดขึ้นกลางอากาศเพื่อจะสับร่างของชายผู้นี้ หากทว่าเขาโยกหลบ คมดาบของสตรีผมดำนั้นตัดผ่านอากาศไป มาซารุใช้ดาบของเขาแทงไปที่แผลเก่าที่เขาสร้างไว้กับฮารุกะ หากทว่ารอบนี้เธอสามารถกลิ้งหลบได้ก่อนจะยืนขึ้นมามองหน้าของมาซารุที่นิ่งสนิทราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในขณะเดียวกันด้วยความเหนื่อยล้า ทำให้ฮารุกะหายใจแรงขึ้น มาซารุเห็นฮารุกะผู้เหนื่อยล้าก็ตรงมาพร้อมกับจะปลิดชีวิตของเธอ หากทว่าฮารุกะนั้นยกดาบของเธอขึ้นมาก่อนจะเล็งไปที่มาซารุพร้อมลั่นไก กระสุนพุ่งทยานออกจากปากกระบอกปืน แต่กระสุนนั้นยิงไม่โดน มันแค่เฉี่ยวใบหน้าของชายตาเหยี่ยวเท่านั้น มันสร้างบาดแผลให้กับแก้มของเขา โลหิตสีแดงไหลออกจากปากแผล มันดูเจ็บปวด แต่สีหน้าของมาซารุนั้นไม่ได้แสดงถึงความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย เขาแกว่งดาบของเขา ฮารุกะกระโดดหลบออกมา แต่แม้ว่าเธอจะหลบได้ มันก็ไม่ได้ทำให้ชายคนหนุ่มคนนี้หยุดการโจมตีอันบ้าระห่ำเลยแม้แต่น้อย เขาแกว่งดาบอย่างต่อเนื่องและฟาดฟันลงไป ฮารุกะได้เพียงแต่ยกดาบป้องกันเท่านั้น เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้นโดยไม่มีทีท่าจะหยุดลง ฮารุกะที่กำลังป้องกันเพื่อรักษาชีวิตของเธอนั้นก็ไม่รู้ว่าเธอจะป้องกันได้นานอีกขนาดไหน

เช่นเดียวกันกับยาโนะที่กำลังเผชิญปัญหาเช่นกัน เพราะพลหอกซึ่งเป็นสิ่งที่ทหารม้าเกลียดที่สุด ยาโนะหลบคมหอกของทหารเลว จนเสียสมดุล ยาโนะตกลงมาจากหลังม้า หลังของเขากระแทกพื้น มันเจ็บไม่น้อย เขาพยุงตัวขึ้นมาแต่เขายังโชคดีที่เขายังสามารถหลบคมหอกนั้นได้ เพราะเพื่อนร่วมทัพของเขาบางคนก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ยาโนะหันกลับไปก่อนจะเห็นองค์รักษ์ของเขากระโดดลงมาจากม้า ก่อนจะมายืนเพื่อคุ้มกันเจ้านายของตนเอง ทหารเลวของตระกูลเท็ตซึยะเห็นแม่ทัพก็วิ่งตรงมาที่เขา หากทว่าอากิโตะปัดดาบของชายคนนั้นทิ้งก่อนจะใช้ดาบอีกเล่มเสียบเข้าไปที่ลำตัวของเขา อากิโตะดึงดาบออกมา เขาทรุดลงไปก่อนจะล้มลงไปนอนกับพื้น

“อากิโตะ...เจ้าไปช่วยเท็ตซึยะดีกว่า ข้าถ่วงเวลาไว้ได้” ยาโนะหันไปพูดกับอากิโตะ
“ไม่ได้...ในฐานะที่ข้าเป็นองค์รักษ์ของท่าน ข้าจะไม่ทิ้งท่านเป็นอันขาด” อากิโตะปฏิเสธคำสั่งของเจ้านายตัวเอง
“ท่านไปเองเถิด ข้าจะถ่วงเวลาให้ท่านเอง” องค์รักษ์เสนอความเห็น
“แบบนั้นเจ้าก็เสี่ยงเกินไปนะ ทหารของเราก็ไม่ได้เหลือมากแล้ว” ยาโนะไม่เห็นด้วยกับความคิดของอากิโตะ
“แต่ถ้าเราไม่ทำอะไร พวกเราได้ตายกันหมดก่อนแน่ๆ” อากิโตะพูดกับยาโนะ

ในขณะที่ทั้งคู่กำลังเถียงกันนั้น แส้ก็ลอยตรงมาที่ยาโนะ อากิโตะเห็นก่อนจะพุ่งไปปัดแส้นั้นทิ้ง เขามองไปก่อนจะเห็นหญิงสีชมพูในชุดน้อยชิ้น ดูเหมือนเธอไม่ได้ไปไหนแต่ยังคงวงเวียนอยู่ที่นี่ คอยดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และท้ายที่สุดเธอก็กลับมาร่วมในสมรภูมิรบจนได้ อากิโตะเห็นใบหน้าของเธอนั้นก็ตกตะลึง มือไม้ของเขาสั่นไปหมด เขาอ้าปากก่อนจะพยายามจะพูดอะไรซะอย่าง

“ซะ...ซากุระ” เขาเอ่ยชื่อที่ไม่คุ้นหูสำหรับยาโนะออกมา

มูชิที่ถูกเรียกว่าซากุระก็ได้แต่มอง เธอไม่ได้พูดอะไร แต่เธอกลับตรงมาด้วยมีดของเธอ ยาโนะต้องรีบกระโดดขวางก่อนจะรับมีดไว้ได้ อากิโตะนั้นอ้ำอึ้งและพูดไม่ถูก ยาโนะใช้ดาบของเขาผลักมูชิออกไป เมื่อเธอถูกผลักไปเธอก็ลังกาตัวของเธอก่อนจะยืนมองยาโนะ ชายหนุ่มหน้าสวยก็จ้องมองใบหน้าของเธอเช่นกัน ยาโนะเหลือบมองไปอากิโตะที่ยังคงอยู่ในภวังค์ ยาโนะตะโกนเรียกชื่อของเขา เมื่อเขาได้ยินคนเรียกตัวเขา เขาก็รู้สึกตัวก่อนจะหันมามองหน้ายาโนะที่เป็นคนเรียก

“เจ้าไปช่วยเท็ตซึกะเถิด...ดูเหมือนเจ้าจะไม่พร้อมที่จะสู้กับนางนะ” ยาโนะพูด
“แต่....” เท็ตซึกะพยายามจะค้าน
“ไปเสีย!! นี่เป็นคำสั่งของเจ้านายของเจ้า” ยาโนะพูดกับอากิโตะ

เขาพยักหน้าก่อนจะวิ่งไป ยาโนะหันกลับมามองนินจาผมสีชมพูที่ยืนถือมีดอยู่ข้างหน้าเขา ยาโนะมองกลับไปยังพื้นที่ว่างเปล่า ยาโนะหันกลับมามูชิที่ยืนดูท่าทีของเขา ยาโนะสูดหายก่อนจะเริ่มออกแรงวิ่ง มูชิออกตัววิ่งตาม ยาโนะวิ่งไปยังพื้นที่โล่งที่ไร้ซึ่งผู้คน ในขณะเดียวเขาต้องเหลือบมองด้วยว่ามีดนั้นลอยมาหาเขาในทิศทางไหน มีดของมูชินั้นลอยมาหายาโนะอย่างต่อเนื่อง เขาพยายามโยกตัวหลบ แม้มีดบางเล่มจะสร้างบาดแผลให้กับเขาได้แต่มันไม่ได้เท้าทั้งสองของชายคนนี้หยุดวิ่งแต่อย่างใด เมื่อเขามาถึงที่หมายของเขา ยาโนะก็หยุดก่อนจะหันกลับไปก่อนจะเห็นมูชิที่ยืนถือมีดและแส้อยู่

“เลิกหนีแล้วหรือไง?” มูชิถามยาโนะพลางแสยะยิ้ม

ยาโนะไม่ได้ตอบอะไรเขาเหลือบมองไป ก่อนจะเห็นรถไม้เคลื่อนลงมาช้าๆ มันมุ่งตรงไปยังประตูของปราสาท โดยรอบๆรถไม้คันนั้นมีเหล่าทหารของตระกูลฮิมูระล้อมรอบอยู่ มูชิสังเกตเห็นสายตาของยาโนะที่ไม่ได้มองเธออยู่ มันทำให้เธออดสงสัยไม่ได้ว่าเหยื่อของเธอนั้นมองอะไรอยู่ เธอหันกลับไปมองก่อนจะเห็นรถไม้คันเดียวกันกับที่ยาโนะเห็น แม้เธอจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เธอรับรู้ได้ว่าสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งดีต่อกองทัพของเธอแน่ๆ มูชิพยายามจะเร่งฝีเท้าไปยังรถไม้คันนั้น หากทว่าเธอไม่รวดเร็วพอที่จะหยุดยั้งรถคันกล่าวได้ รถคันนี้กระแทกเข้ากับกำแพง เมื่อมันกระแทกกับกำแพงนั้นก็เกิดระเบิดอย่างรุนแรง ทำให้กำแพงนั้นกลายเป็นรูโหว่และทำให้ทหารของตระกูลฮิมูระวิ่งเข้าไปได้อย่างง่ายดาย มูชิเห็นดังนั้นก็หันกลับมาหายาโนะที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ เธอรู้ทันทีว่าสิ่งที่เธอพบนั้นคือสิ่งประดิษฐ์ของคาเมอิ

“มูชิ...เจ้าแพ้แล้วล่ะ ศึกนี้พวกข้าชนะแล้ว” ยาโนะพูดกับเธอ

มูชิไม่สนใจก่อนจะตรงไปหายาโนะ และยกมีดขึ้นเตรียมจะแทงเข้าไปที่ร่างของยาโนะ หากทว่าในจังหวะที่เธอกำลังจะลงมีด ชายตาเดียวก็ใช้ดาบทั้งสองเล่มรับไว้ ก่อนที่เขาจะงัดมีดของมูชิออกไป มีดของเธอนั้นลอยก่อนจะปักลงไปที่ผืนพสุธา ดวงตาของอากิโตะนั้นจ้องมองมาที่เธอ

“ซากุระ...นั่นเจ้าใช่ไหม” อากิโตะพูดอีกครั้ง

แต่เธอก็ยังคงเพิกเฉยกับคำพูดของอากิโตะ หญิงสาวที่ถูกเรียกว่ามูชิหายไปกับสายลม อากิโตะลดดาบลงก่อนจะกัดริมฝีปากของตนเอง ยาโนะมองไปที่องค์รักษ์ของตนเอง ก่อนจะมองไปที่เหล่าทหารที่วิ่งเข้าไปในตัวปราสาท ดูเหมือนศึกนี้จะจบลงด้วยชัยชนะแล้ว

ย้อนกลับไปก่อนที่สิ่งประดิษฐ์ของคาเมอิจะเข้าชนกับกำแพง ฮารุกะยังคงรับการโจมตีอย่างต่อเนื่อง เธอเริ่มทรุดลงไปเรื่อยๆ ถ้าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปความตายคงไม่พ้นฮารุกะแน่นอน แต่แล้วเสียงระเบิดก็ดังขึ้นมา ทั้งฮารุกะและมาซารุไม่รู้ว่าอะไรเป็นต้นเหตุของเสียงนี้ แต่เสียงนี้มันทำให้มาซารุเสียจังหวะ การโจมตีของเขาหยุดไป ฮากุระรีบคว้าโอกาสนี้ก่อนจะใช้ดาบของเธอเสียบเข้าไปที่ร่างของมาซารุ ดาบนั้นทะลุร่างของชายตาเหยี่ยว เขาก้มมองดาบที่แทงร่างของตน ฮารุกะรีบดึงดาบของตนเองออก ร่างของเขาล้มลงไปนอนกับพื้นช้าๆ ของเหลวสีแดงข้นไหลออกร่างของผู้ตาย ฮารุกะทรุดลงไป ก่อนจะแหงนหน้ามองเพดาน ความแค้นที่ถูกสะสมมานานในที่สุดก็ถูกปลดปล่อยซะที

ฮารุกะลุกขึ้นมาจากพื้นก่อนจะมองไปที่กำแพงที่ถูกทำลายลง เธอเห็นเหล่าทหารของตระกูลฮิมูระมากมายที่บุกทะลวงแนวรับของตระกูลเท็ตซึยะได้ ฮารุกะเตรียมจะลงไปข้างล่างเพื่อกลับไปช่วยเหลือเหล่าทหารพวกนี้ หากทว่าเธอก็เห็นสมุดเล่มหนึ่งถูกวางไว้บนโต๊ะ ดูเหมือนจะเป็นบันทึกของมาซารุ เธอมองมัน แน่นอนเธออยากจะเผาสมุดเล่มนี้ทิ้ง เธออยากจะทำลายทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับอสูรกายตนนี้ แต่ดูเหมือนมันจะมีมนต์วิเศษที่ทำให้เธอเลือกจะหยิบอ่านบันทึกเล่มนี้ เธออ่านตั้งแต่หน้าแรก ตั้งแต่ที่ชายคนนี้เริ่มเขียนบันทึก

ยาโนะที่อยู่ข้างล่างนั้นเมื่อเข้ามาถึงปราสาทก็เห็นซากศพของทหารจำนวนมากนอนเกลื่อนไปหมด บ้างก็ถูกยิงด้วยกระสุนปืน บ้างก็ถูกคมดาบฟันไปที่ร่างกายของเขา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของ ฮารุกะ ยาโนะกวาดสายไปตาไปรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่เย็นชา ยาโนะหันไปสั่งให้ทหารตนเองวิ่งลงไปชั้นใต้ดินเพื่อช่วย “เพื่อน” ของเขาออกมา ส่วนตัวยาโนะเองนั้นก็วิ่งขึ้นไปยังชั้นสูงสุดของปราสาท เมื่อเขาถึงนั้นเขาก็เห็นหญิงสาวผมดำยืนอยู่ เธอไม่ได้หันมาทั้งสิ้น ยาโนะหันไปมองก่อนจะเห็นร่างของมาซารุนอนอยู่ ดูเหมือนเธอจะทำได้สำเร็จ

“ฮารุกะ?” ยาโนะเอ่ยเรียก

เธอหันกลับมาช้าๆ ใบหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยน้ำตา มันเป็นปฏิกิริยาที่ยาโนะคิดไม่ถึงเลย เพราะมันไม่ใช่รอยยิ้มแห่งความปลื้มปิติ หรือใบหน้าเปี่ยมสุขแต่กลับเป็นน้ำตาแห่งความโศก

“ยาโนะ...ช้า...ข้า...ข้าได้ทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดไปแล้ว” ฮารุกะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน
“เกิดอะไรขึ้นหรือฮารุกะ” ยาโนะเอ่ยปากถามด้วยความตกตะลึงและพิศวง

เธอยื่นสมุดเล่มที่เธออ่านให้กับยาโนะ ยาโนะรับไว้ก่อนจะเปิดกลับไปหน้าแรก และเริ่มอ่านทุกตัวอักษรอย่างละเอียด
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Sengoku : 29
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Sengoku : 19
» Sengoku : 35
» Sengoku : 20
» Sengoku : 36
» Sengoku : 21

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: