Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Sengoku : 32

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Sengoku : 32 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Sengoku : 32   Sengoku : 32 EmptySun Nov 02, 2014 2:19 pm

นี่ก็สามเดือนผ่านไปแล้วหลังจากสงครามระหว่างตระกูลเท็ตซึยะที่นำโดยมาซารุและตระกูลฮิมูระที่นำโดยยาโนะ ซึ่งศึกนี้จบลงด้วยชัยชนะของตระกูลฮิมูระ มันเป็นเหตุการณ์ที่น่าเจ็บปวดของใครหลายๆคน การสูญเสียที่เกิดขึ้นทุกครั้งในทุกๆสมรภูมิ น้ำตาที่ไหลรินจากดวงตาของผู้สูญเสียที่ร่ำไห้ให้กับคนที่ตัวเองรักที่ต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่มีวันหวนกลับ แต่เหล่าผู้มีชิวิตทุกคนก็ต่างต้องเข้มแข็งขึ้นและก้าวผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้

ณ แคว้นฮิดะ ซึ่งเป็นแคว้นที่ถูกปกครองโดยตระกูลโอนิสึกะ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายปีหลังจากที่ไทโซและเรียวชินร่วมมือกันยึดแคว้นนี้ได้สำเร็จ แต่เหล่าซามูไรจากตระกูลโอนิสึกะก็ช่วยกันปกป้องผืนแผ่นดินนี้จากผู้รุกรานได้ตลอด ถึงแม้พวกเขาจะไม่มียุทโธปากรณ์ที่ล้ำสมัย หรือ กุนซือจอมเจ้าเล่ห์อย่างตระกูลอื่นๆ แต่ด้วยดาบของผู้นำตระกูลอย่างเรียวชินที่คอยทิ่มแทงร่างของศัตรูและโล่ของลูกสาวอย่างเมโกะที่คอยป้องกันเหล่าทหารให้พ้นจากอันตราย ด้วยเพียงสองสิ่งนี้ก็ทำให้ตระกูลโอนิสึกะแข็งแกร่งเทียบเท่ากับตระกูลอื่นๆ

หญิงสาวผมขาวในชุดกิโมโนสีขาวราวกับหิมะที่นั่งอยู่บนทางเดินไม้ เธอแกว่งเท้าของเธอก่อนจะแหงนหน้ามองท้องฟ้า มันเป็นวันสงบสุขอีกวันหนึ่ง สายลมอ่อนๆที่พัดก้อนเมฆสีขาวให้เคลื่อนไหวไปช้าๆ เหล่าผีเสื้อที่โบยบินอยู่รอบตัวเธอราวกับเป็นบริวารของนาง เธอยื่นนิ้วชี้ของเธอออกไปก่อนที่ผีเสื้อจะบินมาเกาะบนนิ้วชี้ของเธอ เมโกะยิ้มเมื่อเห็นผีเสื้อเกาะบนนิ้วของตนเอง เช่นเดียวกันกับผีเสื้อตัวอื่นๆที่เกาะบนไหล่ของเธอ เมโกะหันไปมองผีเสื้อเหล่านั้นด้วยรอยยิ้ม หากทว่าไม่นานนักเหล่าผีเสื้อพวกนั้นก็บินออกจากตัวของเมโกะ เพราะของฝีเท้าใครบางคนที่วิ่งบนพื้นไม้ เจ้าของฝีเท้านั้นวิ่งตรงมาทางเมโกะ หญิงสาวผมสีหิมะหันกลับไปก่อนจะเห็นหญิงผมดำยาวสลวย เธอสวมชุดกิโมโนสีเขียว เธอหายใจหอบๆด้วยความเหนื่อย

“เกิดอะไรขึ้นหรือคานาเดะ?” เมโกะเอ่ยปากด้วยสีหน้าสงสัยและกังวล

คานาเดะ...ถ้าจำกันได้ ในช่วงสงครามต่างชาตินั้น เรียวชินได้ช่วยชีวิตเด็กผู้หญิงคนหนึ่งไว้ เธอเป็นเด็กคนเดียวที่รอดชีวิตจากการบุกรุกของชาวอังกฤษ เรียวชินช่วยเธอและรับเด็กคนนี้มาเป็นลูกของตน เลี้ยงดูอย่างดี ฝึกฝนเธอให้เป็นกุลสตรีที่ดีในแผ่นดินญี่ปุ่น แม้ว่าเธอจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ว่าเธอก็ไม่ต่างอะไรกับลูกแท้ๆของเรียวชิน และเหมือนน้องสาวแท้ๆของเมโกะ และตัวคานาเดะเองก็ว่าที่นี่คือครอบครัวของเธอเช่นกัน

“ท่านพี่เมโกะ...ท่านพ่อบอกข้ามาว่า กองทัพของตระกูลเท็ตซึยะกำลังมุ่งตรงมาที่เรา” หญิงผมดำนามคานาเดะพูด
“อะไรนะ!?” เมโกะได้ยินดวงตาของเธอก็เบิกโพลนขึ้นมาด้วยความตะลึง
“พวกเท็ตซึยะงั้นหรือ?” เมโกะถามน้องสาวของตัวเองเพื่อความมั่นใจ

น้องสาวของเธอพยักหน้าเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่า “ใช่” เมโกะรีบลุกขึ้นมาจากจุดที่เธอนั่ง ก่อนที่เธอจะรีบตรงไปยังห้องของเธอ เมโกะใช้มืออันขาวซีดของเธอเลื่อนเปิดประตูกระดาษไปทางขวา เมื่อประตูที่บดบังวิสัยทัศน์ถูกผลักออกไป ภาพของชุดเกราะสีเงินที่เงางามและเปล่งประกาย ใกล้ๆกับชุดเกราะนั่นก็มีโล่สีเงินและหอกของเธอแขวนไว้บนกำแพง เมโกะถอดชุดกิโมโนของเธอออกก่อนจะสวมชุดเกราะสีเงินของเธอ ไม่นานนักเมโกะก็อยู่ในชุดเกราะสีเงินของเธอ เธอเดินออกไปจากตำหนักของเธอและมุ่งไปหาพ่อของเธอซึ่งเป็นเจ้าแคว้น หญิงผมขาวเห็นพ่อของเธอยืนบนกำแพงเมือง ลูกสาวเดินขึ้นบันไดไปก่อนจะยืนอยู่บนกำแพงเมืองเช่นกันกับพ่อของเธอ หญิงผมสีขาวมองออกไปนอกเมืองเช่นเดียวกันกับเรียวชินพ่อของนาง สิ่งที่พวกเขาเห็นนั้นคือเหล่าทหารของตระกูลเท็ตซึยะที่ยืนเรียงกันจำนวนมาก ซูตะนั่งอยู่บนอานม้าที่ติดอยู่บนหลังของม้าสีดำ เขาอยู่นั่งอยู่หลังทหารของเขา พวกเขาหยุดนิ่งรอดูการเคลื่อนไหวของศัตรูพวกเขา เรียวชินยืนมองก่อนจะหันกลับไปและเดินลงไปข้างล่าง

“เมโกะ เจ้าเตรียมตัวเข้าปะทะกับตระกูลเท็ตซึยะ” เรียวชินพูดกับลูกสาวตนเอง
“ค่ะ” เมโกะพยักหน้า

ไม่นานนักทหารของตระกูลโอนิสึกะก็ก้าวออกมาจากประตูเมืองพวกเขา พวกเขาจัดทัพเป็นแนวยาวเช่นเดียวกันกับคู่ต่อสู้ของพวกเขา หากทว่าจุดต่างกันจุดหนึ่งคือเมโกะและเรียวชินที่ยืนอยู่หน้าสุด มันเป็นกลยุทธ์ของพวกเขาที่ยืนอยู่หน้าสุดในสมรภูมิ ด้วยทักษะอันมหาศาลของพวกเขา จึงทำให้วิธีแนวตะลุยไปข้างหน้าของตระกูลโอนิสึกะได้ผลตลอดมา ผู้นำทัพตะโกนขึ้นมาว่า “บุก” ซึ่งสิ้นเสียงของแม่ทัพ เมโกะและเรียวชินก็วิ่งไปหาทัพของศัตรู ซูตะที่นั่งอยู่ทัพหลัง ไม่ได้เลือกจะสั่งให้ทัพของตนเองบุก แต่กลับตะโกนเรียกให้พลปืนขึ้นมา เมโกะเห็นพลปืนของตระกูลเท็ตซึยะยกปืนขึ้นก็วิ่งนำหน้าทัพของเธอขึ้นมาพร้อมกับยกโล่สีเงินขึ้นมา หากทว่าเธอไม่สามารถสัมผัสได้ถึงกระสุนที่ปะทะกับโล่เงินของเธอเลยแม้แต่น้อย เมโกะหันหลังกลับไปก่อนจะเห็นพลทหารของเธอบางส่วนถูกธนูปักเข้าไปที่ร่างของทหารที่อยู่ข้างหลังเธอ เมโกะแหงนหน้ามองผืนนภาก่อนจะเห็นลูกธนูลอยตรงมาที่เธอ เมโกะยกโล่เพื่อป้องกันร่างของเธอจากลูกธนู เมโกะมองออกไปก่อนจะเห็นพลปืนที่แค่ยกปืนมาหลอกเฉยๆ แต่จริงๆแล้วเป็นพลธนูที่ยืนอยู่ใกล้ๆที่ยิงเข้ามาหาทัพของตระกูลโอนิสึกะ

“เมโกะ...ข้าจะบุกเข้าไปที่พลธนูนั่น เจ้ามาคุ้มกันข้าหน่อย” เรียวชินพูดกับลูกสาวของตนเอง
“รับทราบค่ะ” เมโกะพยักหน้าตอบรับ

เรียวชินนำทัพส่วนหนึ่งของตนก่อนจะโหมกระหน่ำเข้าไปยังพลธนู ระหว่างทางนั้นกระสุนมากมายเริ่มลอยมาที่พวกเขา แต่เมโกะใช้โล่ของตนเองป้องกันเหล่าผู้คนไว้ได้ เพื่อเรียวชินเข้าถึงประชิดตัว และเมื่อชายผมน้ำตาลเข้าถึงตัวของทัพธนู เขาก็แกว่งดาบอันแสนมหึมหาของเขาเพื่อสังหารศัตรูทั้งหมด ร่างของทหารตระกูลเท็ตซึยะล้มลงอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดพลธนูของตระกูลเท็ตซึยะก็โดนกวาดล้างจนหมด เมื่อพลธนูถูกกวาดล้าง พวกเขาก็รีบยกทัพไปหาพลปืน และเช่นเคยด้วยฝีมือของเรียวชินและการป้องกันที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบจึงทำให้พลปืนนั้นสู้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เจ้าของแคว้นฮิดะมองไปที่เท็ตซึยะที่นั่งอยู่บนอานม้า สีหน้าของเขาไม่ได้แสดงถึงความตกใจแม้แต่น้อย

“ทุกคนเกาะกลุ่มกันไว้!! เราจะบุกไปที่ตัวของซูตะ” เรียวชินหันมาตะโกนสั่งลูกน้องของตน
“มูชิ...” ซูตะพูดเบาๆ
“รับทราบค่ะ” หญิงนามมูชิตอบรับคำพูดของเจ้านายตน

ในขณะที่ทัพของตระกูลเท็ตซึยะวิ่งมานั้น อยู่ดีๆควันก็โพยพุ่งออกมาจากพื้น ดูเหมือนจะเป็นฝีมือของมูชิ ควันนั้นอบอวยไปทุกสารทิศ แม้แต่พ่อลูก ก็ยังพอกันไม่เห็น เรียวชินพยายามกวาดสายตาหาลูกสาวของตัวเอง แต่สิ่งที่เขาเห็นคือเงาของใครบางที่พุ่งตรงมาทางเขา และเมื่อร่างของเขาปรากฏออกมาก็เป็นชายในชุดเกราะหนักนามว่า “จิน” เขายกดาบขึ้นและเตรียมจะฟันลงไปบนร่างของเรียวชิน แต่เรียวชินยกดาบของเขามากันได้สำเร็จ เรียวชินออกแรงผลักจินออกไป เมื่อจินถูกผลักออกไปเขาก็ถอยออกไปสองถึงสามก้าว เรียวชินยังคงกวาดสายตาหาเมโกะอยู่แต่ด้วยสภาพเช่นนี้ การตามหาดูเหมือนจะเป็นเรื่องเป็นไปได้ยาก แต่เขาก็ลืมไปไม่ได้ว่าจินยังอยู่ข้างหน้าเขา จินวิ่งมาพร้อมแกว่งดาบ แต่เรียวชินโยกหลบออกมาได้ ชายหนุ่มผมน้ำตาลยกดาบขึ้นและเตรียมจะฟันเข้าร่างของจิน หากทว่าจินเองก็ยกดาบมาขวางไว้ได้ ดาบของทั้งคู่ปะทะกัน เรียวชินกับจินจ้องมองตาของอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาตและมีเป้าหมายเดียวกันคือล้มคู่ต่อสู้ที่อยู่ข้างหน้าของตน ดาบของทั้งคู่นั้นมีขนาดใกล้เคียงกัน ควันนั้นเริ่มจางหายไปทีละน้อย เมโกะที่ยืนห่างออกไปเห็นพ่อของตัวเองกำลังต่อสู้กับจินอยู่ เมโกะยกโล่ขึ้นพร้อมกับหอกของเธอและเตรียมไปจะเป็นกำลังเสริม หากทว่าในขณะที่เธอกำลังจะวิ่งไป ทหารคนหนึ้งวิ่งมาก่อนจะคุกเข่าหน้าเมโกะ

“ท่านเมโกะขอรับ เราได้รับรายงานว่ามีทหารเข้ามาในแคว้นเราครับ”

เมโกะได้ยินถึงกับไปไม่เป็น อาจจะเพราะกลยุทธ์ของพวกเขา จึงทำให้มีทหารส่วนหนึ่งหลุดเข้าไปในเมืองได้ หรือ อาจจะมีทหารบุกมาจากอีกทาง แต่ยังไงก็แล้วแต่คงไม่ใช่เรื่องดีถ้าปล่อยให้ทหารของข้าศึกทำลายแคว้นฮิดะ แต่ว่าพ่อของเธอนั้นก็กำลังลำบากอยู่ เมโกะหันกลับไปมองที่แคว้นฮิดะก่อนจะหันกลับมาหาพ่อของตนที่กำลังประลองฝีมือกับชายในชุดเกราะหนัก เธอตัดสินใจไม่ถูก ถ้าหากเธอช่วยพ่อของเธอ มันอาจจะทำให้ชาวเมืองถูกสังหารราวกับผักปลา และด้วยความที่จินมีฝีมือ มันคงไม่ง่ายที่ทั้งสองจะเอาชนะได้ แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าหากเมโกะตัดสินใจย้อนกลับไปที่ตัวเมือง จะทำให้ทหารส่วนหนึ่งหายไป และอาจจะทำให้พ่อของเธอต้องพ่ายต่อศึกนี้

“เมโกะ...รู้ไหมว่าอะไรสำคัญที่สุดในการปกครองผู้คน” เสียงเรียวชินดังขึ้นมาในหัวของเมโกะ
“พละกำลังงั้นหรือค่ะท่านพ่อ” เมโกะตอบ
“เปล่าเลย...ประชาชนต่างหาก ถ้าหากเราไม่มีประชาชนที่คอยสนับสนุนเรา เราก็คงยืนในจุดนี้ไม่ได้” เรียวชินตอบ
“ดังนั้นจำไว้นะเมโกะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าจงเลือกประชาชนก่อนเสมอ” เจ้าครองแคว้นพูดพลางลูบหัวของเมโกะ

มันเป็นบทสนทนาของทั้งสองตั้งแต่เมโกะยังเยาว์วัย เมโกะนึกถึงคำพูดพวกนี้ก็ทำให้เธอตัดสินใจได้ไม่ยากเย็น เมโกะตะโกนออกคำสั่งให้ทหารส่วนหนึ่งของเธอ “ตามเธอมา” เมโกะรีบวิ่งกลับไปยังตัวแคว้นฮิดะ เมื่อเข้าไปในแคว้นฮิดะ เมโกะก็เจอทหารของตระกูลเท็ตซึยะอยู่เต็มไปหมด พวกเขากำลังใช้ดาบไล่ฟันประชาชน เมโกะมองหน้าของพวกเขา ก่อนจะนึกได้ว่าพวกเขาเป็นประชาชนที่อาศัยในเมืองนี้มาประมาณเดือนสองเดือน ถ้าให้เดา ซูตะคงส่งทหารส่วนหนึ่งเข้ามาในเมืองมาปลอมเป็นประชาชน เมโกะยกหอกขึ้นก่อนจะพุ่งไปใช้หอกเล่มนั้นแทงเข้าไปที่ร่างของทหารพวกนั้น ทหารของตระกูลเท็ตซึยะเริ่มวิ่งหนี ดูเหมือนเมโกะจะช่วยประชาชนของเมืองฮิดะได้แล้ว

“ท่านซูตะค่ะ...เมโกะกลับเข้าไปในแคว้นฮิดะตามที่ท่านต้องการแล้วค่ะ” มูชิรายงานให้กับซูตะฟัง
“งั้นก็ดี ดำเนินตามแผนของเราต่อไป” ซูตะหันมาตอบกับหญิงผมสีซากุระ

เรียวชินกำลังฟาดฟันกับจินอยู่ ทั้งคู่นั้นฝีมือไม่ได้ด้อยกว่ากันเลย และการต่อสู้ของทั้งคู่ไม่มีวี่แววที่จะจบสิ้นเลย หากทว่าในขณะที่เรียวชินกำลังสู้อยู่นั้นเขาก็ได้ยินเสียงของฝีเท้าของใครบางคนตรงมาทางเขา เรียวชินถอยออกมาก่อนจะมองไปทางต้นเสียง และสิ่งที่เขาเห็นนั้น มันทำให้ดวงตาของเขาเบิกโพลนด้วยความตกตะลึง มันเป็นภาพของทหารม้าจำนวนมากที่ตรงมาทางเขา กล่าวได้ว่ามากกว่าทัพของพวกเขาสองเท่าเลยก็ยังว่าได้ เรียวชินกวาดสายตาไปรอบๆหาลูกสาวของตน แต่ดูเหมือนจะหาไม่เจอ เรียวชินเรียกทหารคนหนึ่งทีอยู่แถวนั้นๆมาก่อนจะถามทหารคนนั้น

“เมโกะล่ะ?”
“ท่านเมโกะกลับเข้าไปที่ตัวเมืองขอรับ เพราะว่ามีหทารเข้ามาอยู่ในแคว้นเราขอรับ” ทหารคนนี้ตอบ

เรียวชินไม่ได้พูดอะไรแต่หันกลับไปมองทหารม้าที่ตรงมาทางเขา และจินที่ยังคงยืนถือดาบและไม่ขยับไปไหน ด้วยจำนวนทหารขนาดนี้ แม้แต่เรียวชินเองก็ไม่มั่นใจว่าต่อให้เมโกะยืนอยู่ข้างๆเขา จะสามารถต้านทานได้ไหม เรียวชินหันกลับไปหาทหารคนเดิมก่อนจะออกคำสั่งกับเขา

“เจ้ากลับไปปิดประตูเมืองและสั่งให้เมโกะพาคานาเดะและแม่ของพวกเขาหนีออกจากที่นี่”

ทหารคนนั้นพยักหน้ารับคำสั่งก่อนจะออกแรงวิ่งตรงไปยังแคว้นฮิดะ

=====

เมโกะนั้นยังคงใช้คมหอกของเธอทิ่มแทงทหารที่เหลืออยู่และพยายามจะต่อกรกับเธอ คมหอกของเธอนั้นเปื้อนไปด้วยเลือด เมโกะกวาดสายตามองรอบๆและเมื่อเธอมั่นใจว่าไม่มีทหารของตระกูลเท็ตซึยะหลงเหลือแล้ว เธอก็เตรียมจะกลับออกไปข้างนอกเพื่อช่วยพ่อของตน หากทว่าเมื่อเธอกำลังจะออกไป เธอก็เจอประตูเมืองกำลังปิดลง และไม่นานนักประตูก็ปิดก่อนที่เมโกะจะได้ก้าวเท้าออกไปนอกเมืองเสียอีก สีหน้าของเมโกะนั้นเต็มไปด้วยความฉงนและสงสัย มันเกิดอะไรขึ้น ปิดประตูเมืองทำไม? เมโกะเดินตรงไปที่ทหารคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกับประตูเมืองและเอ่ยปากถามขึ้น

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเจ้าถึงปิดประตูเมืองล่ะ”
“คือว่า....ท่านเรียวชินกำลังโดนล้อมน่ะขอรับ” ทหารคนนั้นตอบ
“ว่าไงนะ ถ้าเช่นนั้นทำไมเจ้าไม่เปิดประตูล่ะ ข้าจะได้ออกไปช่วยพ่อของข้า” เมโกะตั้งคำถามด้วยสีหน้าที่ค่อยพอใจกับคำตอบเท่าไหร่
“ท่านเรียวชินสั่งข้ามาเช่นนี้ขอรับ ดูเหมือนจำนวนทหารของพวกเราจะสู้ไม่ได้” ชายคนเดิมตอบต่อ

เมโกะได้ยินดังนั้นก็รีบวิ่งขึ้นไปบนกำแพงเมือง ก่อนที่เธอจะเห็นธงของตระกูลเท็ตซึยะที่โบกพลิ้วสะบัดไปทุกที่ และพวกเขากำลังล้อมกรอบทัพของตระกูลโอนิสึกะ เมโกะอยากตะโกนลงจากกำแพงเพื่อไปช่วยพ่อของเธอ แต่หากทว่าถ้าหากเธอกระโดดลงไป กระดูกในขาของเธอคงหักแน่นอน เมโกะได้แต่ยืนกัดฟันก่อนจะเดินลงไปข้างล่างและหาทหารคนเดิม เมโกะนั้นไม่ได้พูดอะไร ส่วนทหารคนที่รายงานเหตุการณ์ให้เธอฟังนั้นก็พูดต่อขึ้นมา

“ท่านเรียวชินยังสั่งให้ท่านพาคานาเดะและแม่ของพวกท่านหนีไป” เขาพูดต่อ

เมโกะได้แต่หันหลังทั้งน้ำตา ก่อนที่เธอจะรีบวิ่งไปยังปราสาทเมืองฮิดะเพื่อทำตามคำสั่งสุดท้ายของพ่อของเขา เธอวิ่งไปในตัวปราสาทและรีบบอกเรื่องราวทั้งหมดให้แม่และคานาเดะฟัง ทั้งสองนั้นก็อึ้งไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น้ำตาของพวกเธอไหลออกมาจากดวงตา หากทว่าพวกเธอไม่มีเวลาสำหรับการร่ำไห้ เมโกะรีบนำทหารของเธอและประชากรในเมืองฮิดะทั้งหมดไปไกลที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และในหัวของเธอก็มีเป้าหมายแล้วว่าเธอจะไปที่ใด

ในขณะเดียวกัน ณ สมรภูมิ ชายหนุ่มนามเรียวชินยังคงยืนหยัดสู้อยู่คนเดียว รอบเขาๆนั้นมีแต่ร่างของทหารทั้งฝั่งของตระกูลโอนิสึกะและฝั่งของตระกูลเท็ตซึยะ บนร่างของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย เขาหายใจด้วยความเหนื่อยล้า เบื้องหน้าของเขายังมีทหารอีกมากมายยืนรอเขาอยู่ พวกเขาวิ่งตรงเข้ามาพร้อมกับยกดาบเตรียมจะฟันเข้าไปบนร่างของเรียวชิน แต่เรียวชินแกว่งดาบของเขาก่อนจะกวาดร่างของพวกเขาออกไปจนหมด ในจังหวะที่เรียวชินนั้นไม่ได้ระวังมีทหารของตระกูลเท็ตซึยะคนหนึ่งฟันไปที่หลังของเขา เรียวชินร้องด้วยความเจ็บปวด แต่เขายังยืนหยัดและหันมาใช้ดาบของเขาตัดศีรษะผู้ที่ทำร้ายตนเอง ทหารของตระกูลเท็ตซึยะยังคงพุ่งมาหาเขาอย่างต่อเนื่อง แต่เขาก็ยังคงใช้ดาบของเขาปราบพวกเขาได้หมด แต่เขาไม่ได้สังเกตมีดเล่มหนึ่งที่ลอยมาหาเขา มีดนั้นปักเข้าที่หัวไหล่ของเขา เรียวชินกุมไหล่ของเขาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความทรมาน เขามองไปตามวิถีมีดก่อนจะเห็นมูชิยืนอยู่ ด้วยระยะนั้นการปามีดให้โดนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เรียวชินนั้นทรุดไปกับพื้นก่อนจะแหงนหน้ามองศัตรูของเขา หากทว่าทหารของตระกูลเท็ตซึยะทุกคนกลับหยุดนิ่ง และแหวกทางให้ชายคนหนึ่ง ชายคนนั้นคือผู้นำแคว้นเท็ตซึยะหรือว่าซูตะนั่นเอง ซูตะกระโดดลงมาจากหลังม้าก่อนจะมองหน้าของเท็ตซึยะที่ทรุดลงไปด้วยความล้า

“ข้าขอชื่นชมเจ้าจริงๆ ที่เจ้าสามารถยืนหยัดสู้ได้ถึงตรงนี้” ซูตะเอ่ยชื่นชม
“ถ้าหากข้ามีกุนซือๆดี เจ้าคงแพ้ข้าไปแล้ว” เรียวชินพูดแม้เขาจะเหลือกำลังไม่มากแล้ว
“ก็อาจจะจริง” ซูตะพูด

เรียวชินลงไปนอนกับพื้น เขามองท้องฟ้าสีครามที่ปกคลุมไปทั่วโลก ภาพของเขาเริ่มมัวไปหมด เสียงที่ได้ยินรอบๆเลยไม่ชัด เขาเห็นซูตะที่ยืนถือดาบมาอยู่ข้างๆเขา ดูเหมือนเขาเตรียมพร้อมที่จะลงดาบแล้ว หากทว่าเรียวชินบอกให้ซูตะหยุด ซึ่งซูตะก็หยุดตามที่เขาพูด

“มีดที่มูชิปาเป็นมีดอาบยาพิษใช่ไหม....ยังไงข้าก็ต้องตายอยู่แล้ว”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องลงดาบข้าให้เสียเวลาหรอก อีกอย่างถ้าหากเจ้าฟันข้า คราบเลือดมันก็จะบดบังท้องฟ้าสีครามที่ข้าเห็น”

ซูตะได้ยินเขาก็ไม่ได้พูดอะไร เขาบอกให้ทหารของเขาเดินเข้าไปในเมืองฮิดะและทิ้งให้ชายคนนี้นอนมองท้องฟ้า เรียวชินนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ไหลเข้ามาในชีวิตของเขา เขาไม่มีอะไรจะเสียใจแล้ว เขามีลูกสาวที่น่ารัก เขามีภรรยาที่ดี เขามีเกือบทุกอย่างที่คนทั่วไปไม่มี เขามีความสุขมากๆ เขาส่งยิ้มให้กับผืนนภาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ภาพทุกอย่างจะมืดลงไป
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Sengoku : 32
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Sengoku : 4
» Sengoku : 16
» Sengoku : 29
» Sengoku : 45
» Sengoku : 5

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: