Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Sengoku : 35

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Sengoku : 35 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Sengoku : 35   Sengoku : 35 EmptyTue Nov 11, 2014 5:05 pm

และแล้วรุ่งอรุณนี้ก็มาถึง รุ่งอรุณที่ทัพของตระกูลฮิมูระและตระกูลโยชิคุนิจะรวมพลังกันไปบุกยึดแคว้นฮิดะคืน เสียงของคนในครอบครัวของเหล่าทหารที่พูดคุยกับนายทหารดังก้องไปทั่ว จนไม่สามารถแยกออกว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร แน่นอนว่าคนในครอบครัวทุกคนต่างหวังว่าคนรักของเขา พ่อของเขา พี่น้องของเขาจะกลับมาอย่างปลอดภัย หากทว่าถ้าหากสิ่งที่เขาหวังไว้นั้นไม่เป็นจริง อย่างน้อยๆพวกเขาก็ขอได้บอก “รัก” คนในครอบครัวของเขา เพื่อที่อนาคตจะได้ไม่ต้องเสียใจกับความปากหนักของตนเอง เช่นเดียวกันกับไทโซที่กำลังพูดคุยกับมาซามิและลูกๆของเขา สีหน้าของมาซามิที่เต็มไปด้วยความกังวล แต่ไทโซนั้นก็ได้ยิ้มก่อนจะใช้มือของเขาจับไปที่แก้มของมาซามิและยิ้ม พร้อมกับพูดว่า “ไม่เป็นไร ข้าจะกลับมา” ทางยาโนะเองนั้นก็ยืนอยู่ในห้องของเขา เขายืนมองกระจกก่อนจะลวบผมของเขา เขาหันกลับไปมองดาบที่อยู่ในฝักดาบสีน้ำเงินของเขา ยาโนะคว้าดาบเล่มนี้ออกมาก่อนจะดึงออกมาช้าๆ เขาเห็นดวงตาของตัวเองสะท้อนจากดาบของตัวเอง ยาโนะใช้มือของเขาแกว่งดาบของเขาไปในอากาศ เมื่อยาโนะตัดผ่าอากาศเรียบร้อย เขาก็เก็บดาบของเขาเข้ากับฝักดาบเช่นเคย

“เป็นดาบที่เบาจริงๆแฮะ...สมแล้วทีเป็นคาเมอิ” ยาโนะพูดกับตนเอง

ใช่ ดาบเล่มนี้เป็นดาบที่คาเมอิปรับแต่งให้เป็นพิเศษ เนื่องด้วยว่ายาโนะนั้นไม่ใช่ชายที่พละกำลังมาก ดังนั้นคาเมอิจึงปรับแต่งให้ดาบนี้มีน้ำหนักน้อยลง เพื่อที่ยาโนะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว โดยเขาเปลี่ยนวัสดุให้มันเบาลง แต่แม้ดาบจะเบาลง แต่ความคงทนของดาบนี้ยังเท่าเดิม กล่าวได้ว่าดาบนี้เป็นดาบที่วิเศษและยากที่จะหาใครที่สร้างมันขึ้นมาได้ ในขณะที่ยาโนะกำลังจะเดินออกจากห้อง เขาก็เห็นองค์หญิงฮานะเดินเข้ามาในห้อง ยาโนะลงไปนั่งคุกเข่าให้กับเธอเพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อเธอ ฮานะเห็นกริยาของชายหน้าหวานแล้วก็ได้แต่ยิ้มก่อนจะบอกให้ยาโนะลุกขึ้น ชายหนุ่มหน้าหวานได้ยินก็ทำตามคำสั่งของนาง เธอยิ้มก่อนจะส่งถุงสีชมพูให้กับยาโนะ ยาโนะมองด้วยสายตางงๆก่อนจะรับไว้

“ดิชั้นปั้นข้าวปั้นไว้ให้เจ้าน่ะ...ไว้เผื่อท่านหิวระหว่างทาง” ฮานะพูดกับยาโนะ
“ขอบคุณขอรับ แต่ผมคงรับไว้ไม่ได้หรอก ตัวผมนั้นต่ำต้อยเกินกว่าจะรับของขวัญจากท่านได้” ยาโนะปฏิเสธของขวัญขององค์หญิงดอกไม้
“ท่านยาโนะ ดิชั้นอาศัยอยู่ในที่ๆของท่าน อย่างน้อยให้ ดิชั้นทำอะไรเพื่อท่านบ้างเถอะค่ะ” ฮานะปฏิเสธคำปฏิเสธของยาโนะ

ดวงตาของฮานะเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่อยากจะทำอะไรบางอย่างให้กับตน ยาโนะก็ไม่ได้พูดอะไรได้แต่รับข้าวปั้นของเธอไว้ เมื่อยาโนะรับสิ่งที่เธอทำไว้ สีหน้าของเธอก็เบิกบานด้วยความยินดี

“ถ้างั้น ผมต้องกล่าวขอขอบคุณองค์หญิงฮานะด้วยที่มอบของขวัญให้ผม” ยาโนะพูดพลางคุกเข่าลงอีกครั้ง
“ท่านยาโนะไม่ต้องเรียกดิชั้นว่าองค์หญิงหรอกค่ะ...ที่แคว้นโอวารินั้นดิชั้นอาจจะเป็นองค์หญิงก็จริง”
“แต่ที่นี่ดิชั้นเป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้น ดังนั้นเรียกดิชั้นว่า ฮานะ ก็พอแล้วค่ะ” สิ้นประโยคเธอก็ส่งยิ้มให้
“ถ้างั้นช่วยเรียกผมว่ายาโนะด้วยเถิดครับ ผมรู้สึกว่าผมเรียกท่านด้วยชื่อฝ่ายเดียว แล้วเหมือนเอาเปรียบท่าน” ยาโนะพูดกลับ
“อะ อื้อ...เข้าใจแล้วยาโนะ” องค์หญิงฮานะพยักหน้าพลางยิ้มให้อีกครั้ง
“ขอรับ ฮานะ” ยาโนะตอบสั้นๆ

เมื่อยาโนะพูดจบเขาก็โค้งให้ก่อนจะเดินออกจากห้องไป เมื่อยาโนะเดินออกจากห้อง ฮานะก็ได้แต่โบกมือและภาวนาให้ชายที่เธอหลงรักเดินทางกลับมาอย่างปลอดภัย และเธอก็หวังว่าสิ่งที่เธอทำนั้นจะทำให้ยาโนะเข้าใจถึงความรู้สึกในใจของเธอ

=====

เสียงอาชาจำนวนมากดังขึ้นเป็นระยะๆ ธงประจำตระกูลของตระกูลฮิมูระโบกพลิ้วไหวไปตามกระแสลม ท้องฟ้านั้นเปิดกว้าง เป็นสัญญาณที่ดีว่าฝนจะไม่ตกลงมาในเร็วๆนี้ ยาโนะนั่งอยู่บนหลังม้าของเขา ในขณะเดียวกันมืออีกข้างของเขานั้นถือข้าวปั้นที่องค์หญิงฮานะมอบให้กับเขา เขากัดไปเรื่อยๆโดยสีหน้าของเขาไม่ได้แสดงถึงความขมขื่นแต่อย่างใด แสดงว่ารสชาติข้าวปั้นอันนี้คงอยู่ในระดับที่เรียกว่ากินได้ดีกว่ารสชาติชาที่ถูกชงโดยฮานะที่รสชาตินั้นไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่ เมื่อยาโนะกินจนหมดเขาก็หยิบผ้าที่ฮานะใช้ห่อข้าวปั้นมาผูกไว้กับฝักดาบของเขา ยาโนะหันไปก่อนจะเห็นไทโซที่จ้องมองอยู่ สายตาของเขานั้นทำให้ลูกน้องอดสงสัยไม่ได้เลยว่าทำไมเจ้านายของตนถึงจ้องมองด้วยสายตาเช่นนั้น

“ใครทำข้าวปั้นให้เจ้ากินงั้นเรอะ ยาโนะ?” ไทโซเอ่ยปากถาม
“ฮานะน่ะครับ” ยาโนะตอบ
คำตอบของยาโนะทำให้ไทโซหัวเราะเบาๆพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“ท่านไทโซยิ้มเพราะอะไรหรือครับ?” ยาโนะเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าสงสัย
“เปล่า...ข้าก็คิดว่าถ้าข้ามีภรรยาที่ดีแบบเจ้าก็ดีนะ เพราะมาซามิแทบไม่เคยทำอะไรให้ข้ากินเลย” ไทโซบ่นให้ยาโนะฟัง
“เอ่อ....ฮานะไม่ใช่ภรรยาของข้านะครับ” ยาโนะเตือนสติ
“ถ้างั้นท่านยาโนะก็ทำให้เป็นซิค่ะ...ข้าว่าฮานะคงไม่รังเกียจท่านหรอก มิหนำซ้ำเธออาจจะดีใจด้วยนะ” ฮารุกะเสนอ
“ฮารุกะ!! มันไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าที่จะไปยุ่งกับการตัดสินใจของท่านยาโนะ” อากิโตะที่อยู่ใกล้ๆตะโกนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“แล้วเจ้ายุ่งอะไรด้วยล่ะ? ท่านยาโนะคงไม่ใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้อยู่แล้ว จริงไหมท่าน?” ฮารุกะยอกย้อนชายตาเดียว

ถ้าหากไม่มียาโนะอยู่ ทั้งคู่คงลงจากหลังม้าและสู้กันให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลยดีกว่า แต่เนื่องจากตอนนี้ชายหน้าสวยที่เป็นเจ้านายของพวกเขานั่งอยู่ด้วยจึงทำให้ทั้งคู่ได้แต่จ้องตากันและฟาดฟันกันในจิตนาการกันไปก่อน ถึงแม้จะอยู่ด้วยกันมาหลายเดือนแล้ว แต่ดูเหมือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำดูเหมือนจะแย่ลงทุกวัน ในขณะที่ไทโซนำทัพอยู่นั้น เขาก็เห็นเด็กสาวผมสีดำยาวสลวย เธอยังใส่ชุดกิโมโนข้างในเป็นสีขาวและห่มไหล่ของเธอด้วยกิโมโนสีแดง พร้อมด้วยหน้าผากที่เปิดกว้างที่เป็นเอกลักษณ์ เธอยืนกอดอกด้วยสีหน้าที่ค่อยซบอารมณ์เท่าไหร่ เบื้องหลังของเธอนั้นคือค่ายทหารของตระกูลโยชิคุนิ ดูได้จากตราสัญลักษณ์ที่เขียนไว้บนกำแพง ไทโซหยุดม้าของเขาต่อหน้าเธอและกระโดดลงมาจากม้า เช่นเดียวกันกับยาโนะที่ลงมาจากม้าเหมือนกัน เมื่อเท้าของยาโนะแตะลงสู่พื้นดิน เด็กสาวยูริโกะก็เปล่งเสียงออกมา

“พวกเจ้าจะคุยกันเสียงดังกันทำไม!! พวกเจ้าอยากให้ตระกูลเท็ตซึยะจับได้รึไง” เธอต่อว่า
“ข้าต้องขออภัยด้วยขอรับ เป็นความไม่ระมัดระวังของข้าเอง” ยาโนะรีบคุกเข่าขอโทษก่อนคนอื่น
“เพราะไม่ระมัดระวังแบบนี้ไง เจ้าเลยแพ้ข้าในสงครามเล็ก” ยูริโกะพูดพลางยักไหล่และยิ้มเยาะ

อากิโตะที่อยู่แถวนั้นได้ยินแบบนี้ก็ฉุนทันที ถ้าหากไม่ติดว่ายูริโกะเป็นหลานของเคนตะ เขาคงวิ่งไปตบเข้าที่แก้มขวาของนางแล้ว แต่เพราะว่าฐานะที่เป็นหลานของเคนตะที่เหมือนเป็นเครื่องรางป้องกันภัยของเธอ จึงทำให้ชายตาเดียวผู้รักในศักดิ์ศรีของเจ้านาย ทำในสิ่งที่ตนปรารถนาไม่ได้ ยูริโกะมองไปที่ยาโนะที่นั่งคุกเข่าอยู่ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหันกลับไป

“น้าของข้ารอพวกท่านอยู่...ตามข้ามาซิ” ยูริโกะพูด

ยาโนะลุกขึ้นมาจากพื้นก่อนจะจูงม้าเข้าในค่าย ในข้างนั้นพูดคนพลุกพล่าน พวกเขาต่างทำกิจกรรมของพวกเขาเอง ไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อมการรบ นั่งพูดคุยกันเพื่อน รวมถึงนอนหลับพักผ่อน ในขณะที่ยาโนะและไทโซ รวมถึงคนอื่นเข้ามาในค่ายก็มีคนวิ่งมาตรงมาพวกเขาก่อนจะอาสาจูงม้าของพวกเขาไป ซามูไรของตระกูลฮิมูระ (+ เมโกะ) ยังคงเดินตามยูริโกะไปก่อนจะถึงเต้นท์สีแดงสด พวกเขาเดินเข้าไปก่อนจะเห็นเคนตะที่กำลังนั่งอยู่ ไทโซโค้งให้ก่อนจะนั่งตรงข้ามกับเขา บนโต๊ะนั้นก็เหมือนทุกๆที คือมีแผนที่ของแคว้นฮิดะ เมื่อไดเมียวของทั้งสองตระกูลนั่งลงบนเก้าอี้แล้ว ยูริโกะก็บอกให้ทหารนำเก้าอี้มา ก่อนที่เธอจะถอดรองเท้าของเธอและขึ้นไปเหยียบบนเก้าอี้ที่ทหารจัดเตรียมไว้ให้

“ก่อนหน้านี้ ข้าให้มุนตะแอบเข้าไปในแคว้นฮิดะ และก็ได้ยินมาว่าคืนนี้ตระกูลเท็ตซึยะจะจัดงานฉลองขึ้น”
“ซึ่งแน่นอนว่างานฉลอง จะทำให้เหล่าทหารไม่ได้ตั้งตัว และนี่ก็เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะยกทัพเข้าไป”
“หรือกล่าวก็คือเราจะยกทัพเข้าไปในตอนกลางคืน!!” ยูริโกะพูดถึงแผนการของเธอให้ฟัง

แน่นอนยาโนะฟังแล้วก็แสดงสีหน้าไม่ค่อยเห็นด้วยกับแผนของยูริโกะเท่าไหร่ ยูริโกะเองก็เห็นถึงสีหน้าของยาโนะ สีหน้าของยาโนะนั้นทำให้เด็กสาววัย 10 ปีเห็นแล้วก็หงุดหงิดไม่น้อย เพราะมันเหมือนกับการตั้งข้อสงสัยในแผนการที่เธอคิดว่าไร้ที่ติ

“ยาโนะ เจ้ามีปัญหาอะไรกับแผนของข้างั้นหรือ?” ยูริโกะเอ่ยปากถามตรงๆ
“แผนของเจ้านั้นไร้ซึ่งที่ติ ยูริโกะ....หากทว่า ข้าไม่คิดว่าแผนของเจ้านั้นจะใช้ได้ผลจริงๆ” ยาโนะแสดงความเห็นออกมา
“เจ้าหมายความว่าอะไร?” หลานสาวของเคนตะถามขึ้นมาอีกครั้ง
“5 ปีที่แล้ว หลังชัยชนะสงครามที่เราต้องเผชิญหน้ากับชาวต่างชาติซึ่งเป็นสงครามอันยิ่งใหญ่ ซูตะยังไม่จัดงานเลี้ยงฉลองเลยด้วยซ้ำ”
“แล้วเหตุใด ชัยชนะเหนือแคว้นธรรมดาๆ เขาจึงต้องฉลองด้วย?” ยาโนะอธิบายให้ยูริโกะฟัง
“เจ้ากำลังบอกว่า งานเลี้ยง นี้น่าจะเป็นเพียงแค่กับดักงั้นหรอ?” ยูริโกะถามยาโนะอีกครั้ง

ยาโนะพยักหน้าตอบ คำพูดของยาโนะนั้นทำให้ยูริโกะฉุดคิดเล็กน้อย เธอเอามืออันเรียวเล็กจับไปที่ใต้คางของเธอ สีหน้าของเธอนั้นครุ่นคิด ส่วนทางอากิโตะที่ยืนอยู่ใกล้ๆกับยาโนะก็ยิ้มด้วยความพอใจ เพราะดูเหมือนในคราวนี้เจ้านายของเขาจะแสดงฝีมือเหนือเด็กขี้อวดดีคนนี้ ยูริโกะลดมือของเธอลงก่อนที่เธอจะมองตรงมาที่ยาโนะที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับเธอ

“แต่เจ้าแพ้ข้าในสงครามเล็กนี่ นั่นแปลว่าฝีมือของเจ้าด้อยกว่าข้า”
“และเผอิญว่าข้าก็ไม่มีนโยบายที่จะเชื่อคนที่ฝีมืออ่อนกว่าข้าเสียด้วย” ยูริโกะพูดด้วยน้ำเสียงจองหอง

ชายหนุ่มหน้าหวานได้ยินก็ไร้ซึ่งข้อโต้แย้ง เขาก้มหน้าลงก่อนจะส่ายหน้า มันเริ่มทำให้เขาคิดแล้วว่าการที่เขา “แพ้” ต่อยูริโกะในช่วงก่อนหน้านี้เป็นสิ่งที่ถูกรึเปล่า เขาไม่อยากจะทำลายกำลังใจของเธอ แต่การที่เด็กอัจฉริยะคนนี้ชนะตน มันเป็นการสร้างกำลังใจมหาศาลให้กับเธอ ยูริโกะเห็นท่าทียอมจำนนของยาโนะก็ยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดีใจ เธอก้มมองลงบนโต๊ะก่อนจะหันไปหาเมโกะที่ยืนฝั่งเดียวกันกับด้านของตระกูลฮิมูระ

“เมโกะ...เจ้าสามารถจำทางของแคว้นของเจ้าได้ แม้แต่ในยามวิกาลใช่ไหม?” ยูริโกะหันไปถามหญิงสาวลูกครึ่งอังกฤษ
“ค่ะ ถ้าหากมีแสงให้ มีแสงนิดเดียว ข้าก็สามารถนำทางให้พวกท่านได้” เมโกะตอบ
“งั้นก็ดี...เราจะให้มีทหารหนึ่งคนถือโคมไฟในทุกๆทัพ และเราจะให้เมโกะนำทัพเข้าไปยังแคว้นฮิดะ” ยูริโกะพูดถึงแผนของเธอ

ยาโนะรู้ว่านี่เป็นสิ่งที่เสี่ยงมากๆ เพราะถึงแม้ว่าจะมีงานเลี้ยงจริงๆตามที่แหล่งข่าวพูด อย่างน้อยๆก็ต้องมีทหารคอยยืนเฝ้าเวรจากบนสะพานบ้าง และถ้าหากแย่ไปกว่าคือถ้างานเลี้ยงเป็นเพียงเรื่องลวง การที่มีแสงไฟก็ไม่ต่างอะไรกับการบอกตำแหน่งของตนเองให้เหล่าทหารของตระกูลเท็ตซึยะที่เตรียมพร้อมจะรบรู้ถึงตำแหน่งของพวกตน แต่ถึงแม้ยาโนะอยากจะพูดออกไปแค่ไหน เขาก็รู้แล้วว่ามันไม่ได้ผล ในหัวของนั้นยุ่งเหยิงไปหมด เขาต้องหาทางพูดอะไรหรือทำอะไรบางอย่างเพื่อจะโน้มน้าวคนเหล่านี้ มิเช่นนั้นผลลัพธ์ของศึกนี้คงจะต้องจบลงด้วยความพินาศแน่นอน
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Sengoku : 35
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Sengoku : 3
» Sengoku : 28
» Sengoku : 46
» Sengoku : 4
» Sengoku : 16

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: