เนื่องด้วยว่าตอนแรกๆจะแบ่งเป็นสองตอน แต่เนื่องจากคิดไรไม่ออก ดังนั้นผมจะเขียนรวบเป็นตอนเดียวเลยละกัน เย้
=====
ณ ปราสาทแคว้นทังโกะ ยาโนะยืนอยู่บนราวระเบียงปราสาทของตัวเอง เขามองท้องฟ้า ดวงจันทร์นั้นมิได้เต็มดวงแต่เพียงครึ่งดวง สายลมเย็นๆพัดผ่านใบหน้าของเขา เขานึกถึงเรื่องในอดีตที่เขาทำมาตลอดห้าปี การต่อสู้ที่ยาวนาน การต่อสู้ที่เขาต้องเจ็บปวด ผู้คนต่างๆที่เข้ามาในชีวิตของเขาและผู้คนต่างๆที่จากเขาไป ทั้งหมดมันเป็นเพียงอดีตแล้วเท่านั้น เพราะตอนนี้สงครามเหล่านี้จบลงแล้ว ตอนนี้ไทโซกลายเป็นโชกุนแล้ว และยาโนะก็เชื่อว่าชายคนที่เขารับใช้มาตลอดห้าปีจะสร้างอนาคตที่เขาต้องการได้ อนาคตที่ไร้ซึ่งสงครามและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ หากทว่าในขณะที่ยาโนะกำลังนึกถึงอดีตอยู่นั้น เสียงฝีเท้าของใครบางคนก็ดังขึ้นมา ยาโนะหันกลับไปด้านหลังก่อนจะเห็นฮานะยืนอยู่ เธอยังสวมชุดกิโมโนสีชมพูเช่นเคย เธอเดินมาข้างๆกับยาโนะก่อนจะยืนข้างๆ
“ท่านเรียกดิชั้นมาทำไมหรือ?” ฮานะเอ่ยปากถามชายหน้าหวาน
“คือ...ข้า...อยากจะขอท่านแต่งงานน่ะ” ยาโนะบอกจุดประสงค์
ฮานะได้ยินก็ทำหน้างงๆกับสิ่งที่ยาโนะพูด สีหน้าของยาโนะนั้นแดงฉาด เขาเขินอายกับสิ่งที่เขาพูด ยาโนะใช้มือกุมหลังศีรษะของตนเอง ก่อนจะพูดต่อ
“ท่านซูตะบอกให้ผมดูแลท่าน...ผมก็เลยคิดว่าผมควรจะแต่งงานกับท่านเพื่อดูแลท่านง่ายๆ” ยาโนะพูดต่อโดยไม่ได้มองสายตาของฮานะเลยแม้แต่น้อย
เมื่อยาโนะพูดจบ ฮานะก็โผกอดยาโนะ ยาโนะที่ถูกกอดนั้นเขินอายกว่าเดิม
“ท่านไม่ต้องแต่งงานกับดิชั้นหรอก ดิชั้นอยู่กับท่านแบบนี้แล้ว ดิชั้นก็มีความสุขแล้ว” ฮานะพูดพร้อมกับยิ้ม
ยาโนะได้ยินก็ยิ้มเช่นกันก่อนจะพูดกับฮานะที่มองหน้าของตัวเองอยู่
“ถ้างั้นให้ผมพูดใหม่...ผมอยากแต่งงานกับท่าน เพราะผมรักท่าน” ยาโนะพูดพร้อมกับยิ้ม
ฮานะได้ยินก็ตกใจก่อนจะก้มหน้าด้วยความเขินอาย เธอเงยหน้ามาก่อนจะตอบ “ตกลง” หลังจากที่คำตกลงนี้ถูกเอ่ยขึ้นมา งานแต่งงานของทั้งสองก็ถูกจัดขึ้น งานแต่งงานของทั้งสองถูกจัดที่ปราสาทของไทโซ มีผู้คนมากมายที่มาร่วมฉลองงานแต่งงานของทั้งคู่ ไม่ว่าจะมาจากมุมใดของแผ่นดิน พวกเขาต่างร่วมมายินดีกับข้าวใหม่ปลามันคู่นี้ ขบวนแต่งงานของทั้งสองนั้นเดินไปรอบเมือง เหล่าชาวบ้านต่างตะโกนอวยพรทั้งสอง พิธีนี้เริ่มตั้งแต่เที่ยงก่อนที่จะจบลงในหัวค่ำ เมื่อพิธีของทั้งสองจบลงผู้คนก็ต่างแยกย้ายกัน เช่นเดียวกันกับคู่สามีภรรยาที่แยกย้ายกลับไปปราสาทของตน ปราสาทนั้นเงียบสงัดไร้ซึ่งผู้คน ทั้งคู่จับมือก่อนจะที่ยาโนะจะใช้มือของเขาเปิดประตูกระดาษ ในห้องนั้นมีฟูกวางอยู่บนเสื่ออยู่สองอัน ดูเหมือนแม่บ้านของปราสาทนี้จะจัดให้เรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ลงไปนั่งข้างๆกัน ทั้งสองไม่ได้มองหน้ากัน แต่ยังคงจับมือกัน ในห้องนั้นเงียบสงัดราวกับไม่มีคนอยู่
“ฮานะ...เอ่อ ผมหาที่ๆจะให้ฮานะเปิดโรงเรียนให้แล้วนะ” ยาโนะเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน
“ขอบคุณมากค่ะ ในที่สุดความฝันของดิชั้นจะได้เป็นจริงแล้วนะค่ะ” ฮานะพูดโดยไม่ได้มองหน้าของยาโนะเลยแม้แต่น้อย
สิ้นเสียงของทั้งสอง ทั้งสองก็เงียบ ลงอีกครั้ง
“ยาโนะ...ดิชั้นดีใจนะที่ดิชั้นแต่งงานกับท่าน” ฮานะเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาบ้าง
“ถ้าหากดิชั้นอยากจะสร้างอนาคตกับใครซักค ดิชั้นก็อยากจะสร้างมันไปพร้อมๆกับท่าน”
ว่าแล้วเธอก็กระเทิบเข้ามาใกล้ๆ เธอยื่นหน้าของเธอก่อนจะประกบริมฝีปากของเธอลงไปบนริมฝีปากของยาโนะ เธอปล่อยริมฝีปากของเธอออกก่อนจะส่งยิ้มให้กับยาโนะ เช่นเดียวกันกับชายหน้าหวานผู้เป็นสามีที่ยิ้มให้เธอเหมือนกัน
-8 ปีผ่านไป-
ณ อาคารหลังหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในปราสาท มันเป็นอาคารที่พึ่งถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ฮานะยังคงสวมชุดกิโมโนสีชมพูเช่นเคย แม้จะผ่านมา 8 ปีแล้วแต่ใบหน้าของยังคงงดงามเหมือนเดิม เธอยืนอยู่หน้าห้อง รอบๆของเธอนั้นเป็นเด็กนักเรียนที่นั่งอยู่เต็มไปหมด เหล่าเด็กๆนั้นต่างจ้องมองเธอตาไม่กระพริบ เสื้อผ้าของเหล่าเด็กๆนั้นต่างกันไป มีทั้งชุดที่ดูสะอาด หรือชุดโทรมๆ เด็กพวกนี้มาจากครอบครัวที่ต่างฐานะกัน บ้างก็มาจากครองครัวที่มีฐานะ บ้างก็มาจากครอบครัวที่ยากจน ในมือของฮานะนั้นถือคัมภีร์สีม่วง เธอนั่งอ่านเนื้อหาให้เด็กฟัง และเมื่อเธออ่านจบเธอก็ม้วนคัมภีร์ของเธอพร้อมกับส่งยิ้มให้กับเด็กๆ
“เด็กๆ สำหรับวันนี้ก็พอแค่นี้ก่อนนะ อย่าลืมทำการบ้านกันล่ะ” ฮานะพูดพร้อมยิ้ม
เมื่อเด็กได้ยินคำพูดของเธอก็ต่างก้มโค้งขอบคุณเธอก่อนจะวิ่งแยกย้ายออกไป ในขณะที่เด็กๆสวนมา ก็เห็นยาโนะที่จูงมือเด็กผู้หญิงที่มีใบหน้างดงามเข้ามาด้วย ผมของเธอนั้นยาวสลวย ผมของเธอนั้นสีดำสนิท เธอสวมกิโมโนสีน้ำเงิน ฮานะเห็นก็ยิ้มให้กับคนทั้งสอง ยาโนะเดินเข้ามาใกล้กับภรรยาของตนก่อนจะเอ่ยปากถาม
“วันนี้สอนเป็นยังไงบ้าง?” ยาโนะถามภรรยาของตนเองด้วยรอยยิ้ม
“ดีเหมือนเดิมค่ะ เด็กๆก็ตั้งใจเรียนเหมือนเดิม” ฮานะตอบพลางยิ้มให้กับยาโนะ
“แล้วเดินดูความเรียบร้อยเป็นยังไงบ้างล่ะ ยาโนะ?” ผู้เป็นภรรยาถามกลับ
“ก็ไม่มีอะไรหรอก ทุกอย่างสงบดี และดูเหมือนอุซางิก็ยังได้รับความนิยมจากทุกคนเหมือนเดิมด้วย” ยาโนะพูดพลางมองไปที่เด็กสาวที่ยาโนะจูงมืออยู่
อุซางิ คือลูกสาวของยาโนะและฮานะ ตอนนี้เธออายุได้ 7 ปีแล้ว และแม้เธอจะอายุแค่ 7 ปีแต่ใบหน้าของเธอนั้นเรียกว่างดงามมาก อาจจะเพราะได้ความงามมาจากทั้งพ่อและแม่ จึงทำให้เธอเป็นเด็กที่โชคดีและเกิดมาพร้อมกับความงาม แม้เธอจะยังไม่โตเป็นสาว แต่ก็มีผู้ยักษ์หลายคนต่างมาขออุซางิ ซึ่งแน่นอนยาโนะกับฮานะปฏิเสธไปทั้งหมด พวกเขาไม่อยากจะยกลูกสาวให้กับใคร พวกเขาจะไม่ห้ามว่าลูกสาวนั้นรักกับใคร ตราบใดที่เธอมีความสุขนั่นก็เพียงพอแล้ว
“อุซางิ” เสียงของเด็กชายหญิงคู่หนึ่งเรียกเธอ
เด็กสาวผมดำยาวสลวยหันไปตามเสียงก่อนที่เธอจะเห็นโคทาโร่และมากาเร็ตที่เป็นลูกของไทโซและมาซามิวิ่งมา อุซางิหันมามองหน้าของยาโนะ ราวกับขออนุญาตที่จะวิ่งไปหาเพื่อนของเธอ ยาโนะยิ้มก่อนจะปล่อยมือเธอออก อุซางิวิ่งไปหาเด็กทั้งสองก่อนจะเริ่มเล่นกันอย่างสนุกสนาน ยาโนะมองด้วยรอยยิ้ม ฮานะผู้เป็นภรรยาเดินมาข้างๆก่อนจะหันมามองหน้าของยาโนะและยิ้ม ก่อนที่เธอจะกลับไปดูลูกสาวของเธออีกครั้ง
“ผมสาบานว่าผมจะทำทุกอย่างเพื่อรักษารอยยิ้มเหล่านี้ไว้” หนุ่มหน้าหวานผู้เป็นพ่อพูด
“ดิชั้นก็เช่นกัน ดิชั้นก็จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องรอยยิ้มของเด็กๆพวกนี้” ฮานะพูดกับยาโนะเช่นกัน
Hana Ending ~End~
=====
เสียงฝีเท้าของอาชาดังขึ้น ยาโนะและฮารุกะสวมชุดเกราะของตัวเองก่อนจะมุ่งไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เบื้องหลังของยาโนะและฮารุกะนั้นคือทหารจำนวนหนึ่ง ไม่นานนักพวกเขาก็มาถึงหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง ยาโนะกระโดดลงมาจากหลังม้าก่อนจะมองไปรอบๆ หมู่บ้านนั้นเงียบสงัดไร้ซึ่งผู้คน ทุกอย่างนั้นเงียบไปหมด ยาโนะหันมามองฮารุกะก่อนที่ยาโนะจะออกคำสั่งให้เหล่าทหารที่ติดตามเขาเริ่มทำการค้นหาผู้คน ยาโนะเองก็เช่นกัน เขาเลื่อนเปิดประตูบ้านอย่างช้าๆ ก่อนที่เขาจะเปิดประตูเห็นคนจำนวนมากถูกมัดปากอยู่ ยาโนะเห็นคนเหล่านี้ก็โล่งอก แต่ชาวบ้านเห็นยาโนะแล้วพวกเขากลับไม่ได้รู้สึกปลอดภัยอะไร เขากลับส่งเสียงอะไรบางอย่างๆ ราวกับพยายามจะบอกอะไรเขา ยาโนะหันกลับไปก่อนจะเห็นโจรคนหนึ่งยกขวานเตรียมจะสับร่างของเขา
“ปัง!!” เสียงปืนระเบิดขึ้นมา
ชายคนนี้ถูกยิงก่อนจะล้มลงไปกับพื้น ยาโนะมองไปที่ฮารุกะที่กำลังถือปืนของเธออยู่ เมื่อเสียงปืนของฮารุกะระเบิดขึ้นมา เหล่าโจรจำนวนมากก็ปรากฏตัวออกมา ยาโนะรีบดึงดาบก่อนจะส่งสัญญาณให้ทหารของพวกเขารับรู้ถึงตำแหน่ง ทหารของตระกูลฮิมูระรีบมาหนุนทันที การต่อสู้นี้ดำเนินไม่นาน ทุกอย่างจบอย่างรวดเร็วโดยเป็นชัยชนะของยาโนะ เหล่าโจรนั้นต่างนอนบนพื้นเป็นร่างไร้วิญญาณ ยาโนะรีบสั่งให้ทหารของเขาแก้มัดเหล่าชาวบ้าน เหล่าชาวบ้านต่างวิ่งมาขอบคุณเขา ก่อนจะกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ยาโนะเองก็ขึ้นม้าก่อนจะมุ่งกลับไปยังแคว้นทังโกะอีกครั้ง
“นี่ครั้งที่สี่ในเดือนนี้แล้วนะค่ะ ท่านยาโนะ” ฮารุกะพูดกับยาโนะที่กำลังขี่อาชาอยู่
“อืม และข้าก็คิดว่าถ้าหากเราไม่รีบทำอะไรกับมัน คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ” ยาโนะพูดออกมา
เมื่อยาโนะกลับมาถึงที่แคว้นทังโกะ เขาก็ตรงไปยังห้องของไทโซ เขาเลื่อนประตูกระดาษช้าๆ ก่อนจะเห็นไทโซที่กำลังนั่งอ่านอะไรอยู่ ข้างๆตัวเขานั้นมีคัมภีร์อีกหลายฉบับกองกันอยู่ คัมภีร์พวกนี้ล้วนแต่เป็นเรื่องร้องเรียนทั้งนั้น และด้วยไทโซที่เป็น “โชกุน” คนใหม่ เขาต้องคอยรับเรื่องราวพวกนี้เสมอ เมื่อไทโซได้ยินเสียงเปิดประตูเขาก็วางคัมภีร์ลงกับพื้นก่อนจะแหงนหน้ามองยาโนะ พร้อมเอ่ยปากถามว่า “เรื่องโจรเป็นไงบ้าง” ยาโนะนั่งลงก่อนจะเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง เมื่อยาโนะเล่าจบ ชายหน้าหวานก็พูดต่อทันที
“ข้าว่าเราควรจะทำอะไรซักอย่างกับเรื่องนี้ เพราะถ้าหากปล่อยไปนานๆคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ” ยาโนะพูด
“แล้วเจ้ามีความเห็นว่าไงหรือ?” ไทโซถามยาโนะ
ยาโนะจับคางของเขาก่อนจะคิด ไม่นานนักยาโนะก็ตอบกลับ
“ข้าคิดว่าข้าจะเดินทางทั่วญี่ปุ่นซักพัก และข้าก็จะรายงานให้ท่านไทโซอยู่ทุกระยะ”
“ว่าสถานที่ไหนเป็นเช่นไรบ้าง ต้องการทหารมากเท่าใด” ยาโนะเสนอความคิดตัวเอง
“เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อยเลยนะ แล้วเจ้าต้องการทหารติดตามเจ้าไหม?” ไทโซถามต่อ
“ข้าคิดว่าข้าจะไปคนเดียว มันคงสะดวกสำหรับข้ามากกว่า” ยาโนะตอบ
“งั้นหรือ แล้วเจ้าจะไปเมื่อไหร่?” โชกุนถาม
“ข้าคิดว่า พรุ่งนี้” ชายหนุ่มหน้าหวานตอบ
ไทโซพยักหน้า เมื่อจบบทสนทนายาโนะก็กลับไปยังตำหนักของตัวเอง ตอนนี้ก็ถึงเวลาข้าวเย็นแล้ว ยาโนะนั่งอยู่ในห้องอาหารเดิม ข้างๆของยาโนะนั้นยังเป็นอากิโตะและเป็นฮารุกะ ส่วนตรงข้ามนั้นก็คือมิกิและฮานะ แม้ว่ามิกิจะพึ่งมาอยู่ได้ไม่นาน แต่ตอนนี้เธอก็เป็นเพื่อนสนิทของฮานะ เธอมักจะสร้างอะไรให้ฮานะได้ประหลาดใจอยู่เสมอๆ และเป็นคนที่มักจะสร้างเสียงหัวเราะให้กับตำหนักของยาโนะ ส่วนเมโกะและครอบครัวของเธอนั้นกลับไปอยู่ที่แคว้นฮิดะดั่งเคย ได้ข่าวว่าตอนนี้ดูเหมือนเธอจะยังคงยุ่งกับการจัดระเบียบแคว้นใหม่อยู่ และคงใช้เวลาซักพักกว่าทุกอย่างจะเข้ารูปเข้ารอย บรรยากาศการกินข้าวนั้นก็เช่นเคย เงียบสนิท
“พรุ่งนี้ข้าจะออกเดินทางไปทั่วญี่ปุ่นนะ” ยาโนะพูดขึ้นมา
คำพูดของยาโนะนั้นทำให้ทุกคนมองเขาเป็นสายตาเดียว และต่างรอให้ยาโนะพูดต่อ
“ข้าคิดว่าข้าจะออกสำรวจและคอยดูว่าที่ใดควรจะมีทหารบ้าง”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ไม่นานข้าก็กลับมา” ยาโนะพูดก่อนจะคีบข้าวในชามเขาต่อ
ฮารุกะลุกขึ้นมาจากที่นั่งของเธอก่อนที่เธอจะเดินออกไป ทุกคนต่างมองด้วยสายตาฉงนว่าเกิดอะไรขึ้น เธอไม่พอใจอะไรรึเปล่านะ? ยาโนะสงสัย และเช้าวันต่อมาก็เยือน ยาโนะกำลังขึ้นม้า เขาพกสัมภาระมากมายไปกับเขาด้วย เหล่าเพื่อนของๆเขาต่างมาส่งเขา และต่างอวยพรให้เขาเดินทางไปอย่างสวัสดิ์ภาพ แต่มีคนนึงนั้นไม่อยู่ด้วย เธอคือฮารุกะ ยาโนะกวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อหาเธอแต่ดูเหมือนจะมองไปทางไหนก็หาไม่เจอ ยาโนะเองก็ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรให้เธอโกรธแต่อย่างน้อยๆเขาก็อยากคุยกับเธอ เสียงฝีเท้าของใครซักคนดังขึ้นมา ทุกคนต่างหันไปก่อนจะเห็นฮารุกะวิ่งมาก่อนที่เธอจะหยุดลงหน้ายาโนะที่กำลังอยู่บนม้า เธอหยุดพักหายใจไปชั่วครู่ก่อนจะแหงนหน้ามองยาโนะที่นั่งอยู่บนม้า
“ท่านยาโนะ....ข้ามีเรื่องจะขอร้องท่านเรื่องหนึ่ง”
“พาข้าไปกับท่านด้วยเถิด” ฮารุกะพูดกับยาโนะ
ยาโนะได้ฟังแล้วก็งงๆ แต่เขาก็ยังไม่ได้ตอบอะไร
“ข้าอยากอยู่ข้างท่าน ข้าอยากจะปกป้องท่าน ข้าอยากจะ-“
“ไม่ต้องพูดแล้ว” ยาโนะขัดก่อนที่เธอพูดจบ
ฮารุกะเงียบตามที่ยาโนะพูด เธอมองหน้าของยาโนะและรอฟังสิ่งที่จะออกมาจากปากของยาโนะ
“เจ้าไปเอาม้าของเจ้ามา แล้วเราจะเดินทางไปด้วยกัน” ยาโนะพูดพร้อมกับรอยยิ้ม
ฮารุกะได้ยินก็ยิ้มด้วยความยินดี เธอขึ้นมาของตัวเองก่อนจะก้าวเดินไปพร้อมๆกับยาโนะ ดูเหมือนการผจญภัยของทั้งสองจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าจะมีอะไรอยู่ข้างหน้า แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขารู้ก็คือพวกเขามีซึ่งกันและกัน
Haruka Ending ~End~