Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Bell of Rebellion : Episode 7

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Bell of Rebellion : Episode 7 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Bell of Rebellion : Episode 7   Bell of Rebellion : Episode 7 EmptyTue Feb 03, 2015 6:39 pm

“งั้นหรือคะ นี่คือเรื่องทีเกิดขึ้นในระหว่างที่ดิชั้นยังไม่พื้นหรอคะ” ฟลอร่าพูดในขณะที่ใช้ซ้อมจิ้มผักของเธอและเอาเข้าปาก

เธอนั่งอยู่บนโต๊ะอาหารที่ข้างหลังนั้นมีไดแอนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ ตรงข้ามกับเธอนั้นพี่ชายของเธอ อัลเลน และแอร่อนนั่งเรียงกันอยู่ ข้างหน้าของพวกเขานั้นมีจานอาหารวางอยู่ด้วย บนจานของแต่ละคนนั้นมีเนื้อ บนเนื้อนั้นมีซอสสีน้ำตาลราดอยู่เพื่อปรุงแต่งรสชาติของเนื้อให้มีรสชาติที่เอร็ดอร่อย บนจานนั้นยังมีผักอยู่เป็นเครื่องเคียง ข้างๆกับจานนั้นมีแก้วไวน์อยู่ ภายในมีของเหลวสีม่วงอยู่ มันเป็นไวน์องุ่น เดนนิสยกแก้วไวน์ขึ้นก่อนจะจิบเข้าปากเพียงนิดเดียวก่อนจะวางลงบนโต๊ะไม้เช่นเดิม ในมุมห้องนั้นมีดรากูลยืนอยู่ รอบๆเขานั้นไม่มีจุดไหนที่ดวงอาทิตย์สามารถส่องเขาได้ ก็ไม่รู้ว่าทำไมแต่ดูเหมือนเขาจะไม่ยืนอยู่กับเหล่าสหายของเขา ในมือของเขาถือมะเขือเทศ เขากัดมะเขือเทศอย่างเอร็ดอร่อย

“ยังไงดิชั้นก็ต้องกราบขอบพระคุณทุกท่านมากนะคะ ที่ช่วยกันปกป้องอาณาจักรของพวกเรา” ฟลอร่าก้มโค้งให้
“ยังหรอก เรายังไม่ปลอดภัย...ข้าเชื่อว่าพวกมันต้องบุกเรามาอีกแน่ๆ” แอร่อนพูดด้วยสายตาตึงเครียดพลางกุมมือและวางไว้บนโต๊ะ
“แล้วเราจะทำเช่นไรดี?” ฟลอร่าถามด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“ข้าคิดว่าที่พวกดาร์คเอลฟ์เลือกโจมตีเรา เพราะพวกมันคิดว่ากำลังของพวกเรากำลังอ่อนล้าจากสงคราม”
“ดังนั้นข้าจึงคิดว่าทางออกที่ดีที่สุดก็คือพันธมิตร” ชายในชุดสีเลือดเอ่ยออกมา
“แล้วเจ้าคิดว่าใครหรือที่จะเหมาะเป็นพันธมิตรกับพวกเรา?” เดนนิสที่นั่งข้างๆหันมามอง

แอร่อนจับคางของตัวเองแปปนึงพลางแหงนหน้ามองเพดานของห้อง เขาลดใบหน้าที่เต็มไปด้วยความครุ่นคิดลง ก่อนจะกวาดสายตามองทุกคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะนี้ ทุกๆคนต่างจ้องมองมาที่เขา

“โจรสลัด” แอร่อนตอบสั้นๆ
“โจรสลัดเนี่ยนะ...ทำไมเราต้องลดตัวไปเป็นสหายกับพวกโจรสลัดด้วยล่ะ?” เดินนิสลุกขึ้นมาพร้อมกับพูดด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจเท่าไหร่
“ข้าคิดว่าถ้าเป็นอาณาจักรอื่นๆ คงไม่กล้าเป็นพันธมิตรกับเราเท่าไหร่ เพราะพวกนี้กลัวที่จะเสียดินแดนของตัวเอง”
“แต่ถ้าเป็นพวกโจรสลัดที่ไร้ซึ่งดินแดนของตัวเองและหิวกระหายแต่เงินรางวัล ข้าคิดว่าคนพวกนี้จะช่วยเรา” แอร่อนเสนอเหตุผลของเขา

เดนนิสก็ไม่ได้พูดอะไรก่อนจะได้แต่นั่งลงไปบนเก้าอี้ของเขา พร้อมกันถอนหายใจเฮือกใหญ่และพูดกับแอร่อนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้และมองมาที่ตนเอง

“โอเค ถ้างั้นเราจะไปคุยกับคนพวกนั้นยังไงและไปคุยกับใคร?” ชายผมสีทรายตั้งคำถามต่อ
“เรื่องนั้น ข้าคิดไว้แล้ว...เอาเป็นว่าถ้าข้าทานอาหารมื้อนี้เสร็จแล้ว ข้าจะรีบออกเดินทางทันที” พูดจบแอร่อนก็คว้ามีดและหั่นเนื้อที่อยู่บนจานก่อนจะจิ้มเข้าปากและเคี้ยวด้วยใบหน้าเอร็ดอร่อย

=====

ม้าสองตัวที่กำลังวิ่งไปบนถนนทรายที่รอบๆนั้นเต็มไปด้วยป่า ท้องฟ้านั้นเป็นสีคราม ก้อนเมฆนั้นบดบังแสงอาทิตย์ ทำให้ไม่มีแสงแดดสาดส่องลงมา แอร่อนควบม้านำหน้าเดนนิสทึ่ควบม้ามาติดๆ ชายผมสีทรายนั้นไม่รู้เลยว่าสถานที่เขาจะไปนั้นคือที่ไหน มีเพียงแต่ชายผมสีขาวนั้นรู้ว่าสถานที่เขามุ่งหน้าไปนั้นคือที่ไหน เมื่อพวกเขาออกจากป่า พวกเขาก็เห็นเมืองเล็กๆที่อยู่ติดทะเล ใกล้กับเมืองของพวกเขามีเรือหลายลำจอดอยู่ มันมีหลายขนาดตั้งแต่เรือลำเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นได้จากจุดที่ทหารจากเอลิซาเบ็ธยืนจนถึงเรือขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้ไม่ว่าจะอยู่ไกลก็ตาม แม้เรือพวกนี้จะมีขนาดต่างกัน แต่อย่างหนึ่งที่เรือพวกนั้นมีเหมือนกันคือธงที่มีรูปกะโหลกไขว้ แม้กะโหลกพวกนั้นจะมีเครื่องประดับต่างๆกัน แต่ทุกเรือก็ต่างมีสัญลักษณ์ของโจรสลัด ดูเหมือนพวกนี้จะเป็นเครื่องยืนยันได้เลยว่าพวกเขามาถูกที่แล้ว เดนนิสและแอร่อนควบม้าตรงไปหน้าเมืองก่อนจะกระโดดลงมาและผูกม้าไว้กับม้าตัวอื่นๆ

ทั้งสองกระโดดลงมาจากหลังม้า ก่อนที่จะกวาดสายตาไปรอบๆ พวกเขาบ้านเรือนมากมายเรียงติดกัน เสียงดนตรีจากโรงแรมดังออกมาให้ทั้งคู่ได้ยินอย่างชัดเจน เหล่าโจรสลัดที่เดินไปทั่วเมือง เหล่าโจรสลัดนั้นไม่ได้มีแต่เพียงมนุษย์เท่านั้น แต่ยังมีเอลฟ์ พวกครึ่งคนครึ่งสัตว์ คนแคระ อยู่ด้วย ดูเหมือนการเป็นโจรสลัดไม่จำเป็นต้องเป็นมนุษย์เสียอย่างเดียว ในขณะที่บุรุษสองคนนี้ในเมือง เหล่าโจรสลัดทุกคนต่างจ้องพวกเขาเป็นสายตาเดียวกัน ราวกับพวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด เดนนิสหันซ้ายหันขวาไปตลอดทาง ในขณะที่แอร่อนจ้องแต่เบื้องหน้า ก่อนจะไปหยุดลงที่หน้าบ้านหลังหนึ่งที่มีความสูงสองชั้น มันเป็นบ้านที่ถูกทำจากไม้ทั้งหมด บ้านหลังนี้ไม่ได้ถูกย้อมสีเหมือนบ้านหลังอื่นๆในเมืองแห่งนี้ บนหลังคานั้นมีธงโจรสลัดโบกพลิ้วไหวไปตามสายลมอยู่ ชายผมขาวเคาะประตู

“ท่านเฮนรี่อยู่รึเปล่า?” แอร่อนตะโกนเข้าไป
“เชิญเข้ามาก่อนเลย” เสียงจากภายในตะโกนออกมา แต่มันไม่ใช่เสียงของผู้ชายแต่กลับเป็นเสียงของสตรี

แอร่อนเปิดประตู เมื่อประตูเปิดออกมา พวกเขาก็เจอบ้านที่ไร้ซึ่งผู้คน และไร้ซึ่งแสงไฟ มีเพียงแต่แสงแดดที่ลอดผ่านหน้าต่างเท่านั้นที่ทำให้บริเวณนั้นสว่างขึ้นมา แอร่อนเดินนำหน้าในขณะที่เดนนิสใช้มือปิดประตูบ้าน เขาได้ยินเสียงเท้าของใครบางคนเดินลงมา เมื่อเจ้าของฝีเท้าลงมาเป็นร่างของสตรีคนหนึ่งที่สวมหมวกโจรสลัดสีดำ บนหมวกของเธอนั้นมีดอกกุหลาบสีแดงอยู่ด้วย ผมของเธอนั้นเป็นสีน้ำตาลยาวและหยิกศก เธอสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้น และกระโปรงสีดำสั้น สั้นเสียจนสามารถเห็นต้นขาของเธอ เธอสวมถุงเท้าสีขาวและสวมรองเท้าบูทสีดำ นอกจากนี้เธอยังสวมผ้าคลุมสีชมพูอีก หญิงคนนี้เดินลงมาจากบันไดก่อนจะมองหน้าของแขกผู้มาเยือน

“เอ่อ...ท่านคือเฮนรี่รึเปล่า?” แอร่อนเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าสงสัย
“เฮนรี่เป็นชื่อพ่อของข้า ท่านเสียไปตั้งแต่ห้าปีก่อนแล้ว” เธอตอบกลับมา
“งั้นหรือ...แล้วตอนนี้ใครเป็นผู้ปกครองเมืองนี้? ข้าต้องการคุยกับเขา” ชายผมสีขาวพูดต่อ
“ข้าเอง...ข้ามีนามว่าบอนนี่ เป็นลูกสาวของท่านเฮนรี่ พวกเจ้ามีธุระอะไรกับข้าหรือ?” หญิงสาวคนนี้แนะนำตัวพลางเอ่ยปากถาม
“ข้าแอร่อน มาจากอาณาจักรเอลิซาเบ็ธ ข้าต้องการเป็นพันธมิตรกับพวกเจ้า” ชายในชุดสีแดงบอกจุดประสงค์ของตัวเอง

บอนนี่ได้ยินก็ทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสนใจก่อนจะจับคางของตัวเองและพูดกับแอร่อน

“นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเลยนะที่ ข้าได้ยินว่ามีคนอยากเป็นพันธมิตรกับพวกเรา”
“แล้วถ้าหากข้าเป็นพันธมิตรกับข้า ข้าจะได้อะไร?” สาวโจรสลัดเอ่ยปากถามผู้มาเยือน
“เราจะยกสมบัติส่วนหนึ่งให้กับท่านทุกๆครั้งที่ท่านมาช่วยพวกเรารบ” แอร่อนตอบกลับไป

เธอเอามือของเธอจับไปที่คางของเธอก่อนจะยืนคิดพักหนึ่ง ไม่นานนักเธอก็ลดมือลงก่อนจะเดินตรงไปยังเดนนิสที่ยืนอยู่ข้างหลังแอร่อน

“จะว่าไปพ่อหนุ่มรูปงามคนนี้คือใคร? ทำไมเจ้าไม่พูดกับข้าเลยแม้แต่ประโยคเดียว?” บอนนี่พูดพลางใช้มือจับไปที่ใบหน้าของเดนนิส
“ข้าเดนนิส และข้าก็เกลียดพวกโจรสลัด ข้าเลยไม่อยากพูดกับเจ้า” เดนนิสตอบไปด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจพลางใช้ท่อนแขนของตัวเองปัดมือของบอนนี่ลง
“หรอ...บางทีข้าอาจจะเปลี่ยนทัศนคติกับเจ้าก็ได้นะ สนใจไหม? ถ้าสนใจเราก็ไปคุยกันบนเตียงดีกว่า” บอนนี่พูดด้วยน้ำเสียงยั่วยวน
“ข้าขอปฏิเสธ” เดนนิสพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

บอนนี่ยิ้มก่อนจะไม่ได้พูดอะไรก่อนจะหันกลับมาหาแอร่อนที่ยืนดูเหตุการณ์นี้อยู่

“ถ้างั้นข้าก็ขอปฏิเสธ ข้าไม่ได้ต้องการแค่ทรัพย์สินเท่านั้น แต่ข้าต้องการชายคนนี้ด้วย” บอนนี่พูดพลางชี้ไปที่เดนนิส
“เพราะเหตุใดเจ้าถึงต้องการผู้ชายคนนี้งั้นหรือ?” ชายผมขาวถามพลางเหลือบมองเดนนิสที่กอดอกด้วยสีหน้าถมึง
“ข้าชอบผู้ชายคนนี้ แค่นี้เหตุผลยังไม่พออีกเรอะ?” สาวโจรสลัดพูดตรงๆ
“ถ้าเจ้ายอมเป็นสมบัติของข้า เจ้าจะได้ออกเดินทางไปรอบโลกกับข้า อยู่ข้างราชินีแห่งโจรสลัด แบ่งสมบัติกับข้า เจ้าไม่เอารึ?” หญิงผมสีน้ำตาลหันมาคุยกับเดนนิส
“ไม่ ในฐานะพี่ชายขององค์ราชินีฟลอร่า ข้าจะไม่ไปลดตัวไปอยู่กับพวกโจรสลัดอย่างเจ้าหรอก” ชายผมสีทรายตอบกลับ
“เป็นถึงเชื้อราชวงศ์งั้นหรือ ยิ่งทำให้ข้าต้องการเจ้ามากขึ้นไปอีก” เธอพูดพร้อมกับเลียริมฝีปากของตัวเอง

แอร่อนหันไปมองเดนนิส หากทว่าไม่ทันที่บทสนทนานี้จะได้เดินต่อพวกเขาก็ได้ยินเสียงของปืนใหญ่ระเบิดขึ้น เสียงปืนใหญ่นื้ทำให้คนในบ้านทั้งสามคนวิ่งออกมาจากบ้านหลังนี้ เมื่อออกมาพวกเขาก็เห็นเรือลำหนึ่งกำลังแล่นตรงมาทางนครนี้ บนเรือนั้นมีกะโหลกอยู่ด้วย ดูเหมือนเรือลำนี้จะเป็นเรือโจรสลัดอีกลำ บนเรือนั้นมีชายคนหนึ่งยืนอยู่ มันเป็นชายผมยาวที่สวมหมวกโจรสลัดสีเลือดหมู บนใบหน้าของมันเต็มไปด้วยหนวดเครา เขายิ้มให้เห็นฟันที่หลอออกไปสองสามซี่ ข้างหลังของเขานั้นมีโจรสลัดมากมายที่ถืออาวุธอยู่ ใบหน้าของพวกมันยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความน่ากลัว

“บอนนี่!! เมืองของเจ้าจะต้องเป็นของข้า!! ข้าจะเป็นใหญ่แทนเจ้า นี่มันถึงยุคของข้าแล้ว!! ยุคของแจ็ค หนวดดำ!!” ชายคนนี้ตะโกนสุดเสียง
“เขาเป็นใคร?” แอร่อนหันมาถามบอนนี่มองด้วยสายตาเบิกโพลน
“เขาเป็นอริของข้า เขาอยากจะมายึดเมืองของข้า ถึงนี่จะเป็นความพยายามครั้งที่ 6 แล้วก็เถอะ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ยอมแพ้เสียที” บอนนี่เล่าให้ฟังคร่าวๆ
“ถ้าหากข้าจับมันมาให้เจ้าได้ เจ้าจะยอมเป็นพันธมิตรกับเราไหมล่ะ?” เสียงของเดนนิสดังขึ้นมา
“อาจจะยากหน่อยนะ เพราะหมอนั่นมันเก่งเรื่องหนีอยู่แล้ว แต่ถ้าเจ้าทำได้ ข้าก็จะยอมเป็นพันธมิตรกับเจ้า” บอนนี่ตอบกลับ

ชายผมทองได้ยินก็ดึงดาบของตัวเองออกจากฝัก ก้อนเมฆนั้นเคลื่อนตัวช้าๆ มันทำให้ดวงอาทิตย์ส่องมายังดาบของพี่ชายองค์ราชินี ดาบนั้นส่องสะท้อน เมื่อเรือนั้นเทียบท่า เดนนิสก็พุ่งตัวไป เขาวิ่งไปเร็วกว่าที่โจรสลัดคนอื่นๆหรือแอร่อนและบอนนี่เสียอีก เมื่อเดนนิสเข้าถึงเหล่าโจรสลัด เขาก็ใช้สันดาบกระแทกไปยังหน้าท้องของเหล่าโจรสลัด มันทำให้เหล่าโจรสลัดล้มลง ใครก็ตามที่เข้าใกล้เดนนิสนั้นคนนั้นก็จะล้มลงราวกับว่าถูกคำสาปอะไรบางอย่าง เดนนิสไปถึงตัวชายที่ชื่อว่าแจ็ค ก่อนที่เดนนิสจะยื่นดาบไปจ่อที่คอของเขา พร้อมกับมองด้วยสายตาที่เต็มแรงอาฆาต ดาบของชายผมสีทรายนั้นทำให้แจ็คตัวสั่นไปหมด ดาบที่อยู่ในมือของผู้บุกรุกนั้นตกพื้น

“เจ้าแพ้แล้ว...ยอมแพ้ซะ” เดนนิสพูด

แอร่อนและบอนนี่วิ่งตามมาก่อนจะมองไปรอบๆ พวกเขาเห็นเหล่าโจรสลัดที่นอนกุมท้องด้วยความเจ็บปวด ในขณะเดียวกันมองไปข้างหน้าก็เห็นชายผมสีทองผูกร่างของชายผมยาว พร้อมกับเดนนิสเหยียบร่างของเขาไว้ เพื่อไม่ให้ชายคนนี้พยายามจะหนีไปไหน เดนนิสมองหน้าของบอนนี่ ก่อนจะเก็บดาบของตัวเองและพูดกับราชินีแห่งโจรสลัด

“ข้าทำตามที่ข้าพูดแล้ว คราวนี้ก็ถึงตาของเจ้าทำตามสัญญาของเจ้าแล้ว” พี่ชายขององค์ราชินีพูด

บอนนี่หัวเราะก่อนจะยิ้มให้กับเดนนิส

“ดูเหมือนข้าจะต้องทำตามสัญญานะ..ได้ จากนี้ไปพวกเราจะเป็นพันธมิตรของอาณาจักรเอลิซาเบ็ธ” บอนนี่พูดกับแอร่อนและเดนนิสที่ยืนจ้องเธออยู่

=====

ยามวิกาลมาเยือน สองผู้มาเยือนแห่งเอลิซาเบ็ธยังคงอยู่ในเมืองของบอนนี่ ในดินแดนวอโรเนีย ยามวิกาลในพงไพรนั้นเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด พวกคุณไม่มีทางรู้เลยว่าคุณจะเจอกับสัตว์ประหลาดแบบไหน ดังนั้นอยู่ห่างจากป่าให้มากที่สุดในตอนกลางคืน เหล่าโจรสลัดก็ตามฉลองกันตามภาษา ส่วนแอร่อนนั้นก็นอนคนเดียวในโรงแรมเก่าๆ ในห้องนั้นมืดสนิท เขาพยายามจะเอาหมอนอุดหูและข่มตานอนให้หลับ แต่ด้วยเพราะเสียงดนตรีและเสียงหัวเราะของเหล่าโจรสลัดจึงทำให้เขานอนไม่หลับ เขาอยากจะเดินประตูออกไปพร้อมกับตะโกนว่า “เงียบๆหน่อยได้ไหม!!” แต่ยังไงเขาก็ทำไม่ได้ เพราะเขาอยู่ที่เขาก็เป็นแค่ฐานะผู้มาเยือนเท่านั้น

ส่วนเดนนิสนั้นตอนนี้นอนอยู่ที่บ้านของราชินีโจรสลัด เพราะเธอบังคับและบอกกับแอร่อนว่า “ข้าอยากจะทำความรู้จักกับเดนนิสแบบถึงเนื้อถึงตัวเสียหน่อย” ซึ่งถ้าหากแอร่อนปฏิเสธมันก็อาจจะส่งผลกระทบต่อพันธมิตรของทั้งสองได้ ดังนั้นเขาจึงต้องบังคับให้เดนนิสไปค้างบ้านของบอนนี่ ในขณะที่แอร่อนนอนอุดหูอยู่นั้นเขาก็สงสัยว่าตอนนี้เดนนิสจะเป็นไงบ้างนะ? ตอนนี้อาจจะปล่อยตัวปล่อยกายและยอมทิ้งศักดิ์ศรีของตน และไปสนุกกับบอนนี่ก็ได้

“ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“นี่ข้าเองเดนนิส”

แอร่อนลุกขึ้นมาด้วยใบหน้างุนงงเหตุไฉนเดนนิสถึงมาอยู่หน้าห้องของตน แอร่อนลุกขึ้นมาก่อนจะจุดไฟขึ้นมาบนเทียนของตัวเองก่อนจะเดินไปที่หน้าประตู เขาเปิดประตูมาช้าๆก่อนจะเห็นเดนนิสที่ยังอยู่ในชุดเกราะของเขา ไม่ทันที่แอร่อนจะพูดอะไรเดนนิสก็ก้าวมาในห้องก่อนที่จะตรงไปยังเก้าอี้ที่วางอยู่ใกล้ๆกับตู้เสื้อผ้า เขานั่งลง แอร่อนก็ปิดประตูก่อนจะวางเทียนไว้ใกล้ๆกับโต๊ะเล็กๆใกล้ๆกับเตียงตัวเองด้วยสีหน้ามึนงง

“ข้ามอมเหล้านางจนหลับน่ะ แล้วข้าก็อาศัยจังหวะนี้หนีออก” เดนนิสพูดก่อนที่แอร่อนจะถามเสียอีก
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวข้าจะกลับไปตอนใกล้รุ่ง ข้าจะแกล้งว่าข้าไม่ได้หนีไปไหน” ชายผมทองพูดต่อก่อนที่สหายของเขาจะได้พูด
“เดนนิส เจ้าพอบอกข้าได้ไหมว่า ทำไมเจ้าถึงเกลียดโจรสลัดเช่นนี้” แอร่อนฟังแล้วก็เอ่ยปากถาม

เดนนิสเงียบอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพูดขึ้นมา

“ถ้างั้นข้าจะเล่าให้ฟัง...”
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Bell of Rebellion : Episode 7
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: