Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Bell of Rebellion : Episode 18

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Bell of Rebellion : Episode 18 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Bell of Rebellion : Episode 18   Bell of Rebellion : Episode 18 EmptyMon Mar 09, 2015 4:59 pm

แอร่อนรีบมุ่งตรงมายังห้องที่เขาคุ้นเคย ห้องเล็กๆที่อยู่ในปราสาท เขารีบเปิดประตูเข้าไป เมื่อเขาเข้ามาถึงเขาก็เห็นเดนนิสและอัลเลนรออยู่แล้ว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความตกใจ นี่ก็หลายเดือนแล้วที่เขาไม่ได้เข้ามาในห้องนี้ แต่ถึงกระนั้นทุกอย่างก็ยังสะอาดดี ต้องขอบคุณไดแอนที่คอยมาทำความสะอาดทุกวัน สมาชิกในราชวังเริ่มเข้ามาทีละคน ก่อนที่คนสุดท้ายที่เข้าจะเป็นองค์ราชินีฟลอร่าที่มีดรากูลเดินตามมาด้วย ดรากูลลดผ้าคลุมของเขาลง ให้ทุกคนสามารถเห็นใบหน้าของเขาได้ ดวงตาของเขายังคงเป็นสีแดงก่ำและเต็มไปด้วยความน่ากลัวเช่นเดิม แอร่อนหยิบเอาแผนที่ก่อนจะวางไว้บนโต๊ะ เมื่อเขาวางไว้บนโต๊ะ เขาก็มองไปยังเดนนิสและอัลเลนก่อนจะเอ่ยปากถาม

“เดนนิส เจ้าพอจะบอกข้าได้ไหมว่าอีกฝ่ายยกทัพมาเช่นไร?”
“เท่าที่ข้าได้รับรายงานมามีทหารจำนวนมากบุกมาใต้ของเราและมีเรือรบประมาณสองลำกำลังเคลื่อนมาทางเรา” แอร่อนรายงาน
“รู้สึกว่าจะเป็นพวกดาร์คเอลฟ์”

แอร่อนจับคางของตัวเองก่อนจะยืนคิด เสียงที่เขาได้ยินเมื่อก่อนหน้านี้ดังก้องเข้ามาในหูของเขาทันที ชายผมสีขาวเงยหน้าขึ้นมาและพูดกับหญิงโจรสลัดที่ยืนพิงกับกำแพงอยู่

“’งั้นหรือ...ถ้างั้นบอนนี่เจ้านำโจรสลัดของเจ้าสกัดกั้นการบุกของเรือรบ”
“เจ้าคนเดียวสามารถหยุดกองทัพของอีกฝ่ายได้ไหม?” ชายในชุดสีแดงเอ่ยปากถาม
“ถ้าข้าหยุดไม่ได้ข้าคงไม่ได้ถูกเรียกว่าราชินีโจรสลัดหรอก” บอนนี่พูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

ชายผมขาวได้ยินแล้วก็พยักหน้า ก่อนจะหันไปมองเดนนิสและอัลเลนที่ยืนอยู่

“เดนนิสเจ้าอยู่แนวหน้าเหมือนเดิม ส่วนอัลเลนเจ้าประจำอยู่ที่กำแพงเมืองและคอยยิงศัตรูอย่างที่เจ้าทำตลอดมา”
“ซินเธีย เจ้าอยู่องค์รักษ์องค์ราชินีเช่นเคย ส่วนดรากูล เจ้าอยากจะทำอะไรก็ทำ” แอร่อนหันไปมองทั้งหญิงผมดำและชายผมขาว
“งั้นหรือ...ถ้างั้น ข้าก็ขอไปสนุกที่แนวหน้าหน่อยก็แล้วกัน” ดรากูลพร้อมกับหายตัวไปอย่างช้าๆ

แอร่อนพยักหน้าก่อนจะม้วนเก็บกระดาษเก็บ เมื่อแอร่อนเก็บกระดาษแต่ละคนก็เดินออกไปเตรียมจะทำหน้าที่ของตัวเอง เช่นเดียวกันกับฟลอร่า ในขณะที่ฟลอร่าเดินผ่านแอร่อนนั้นเธอก็ยิ้มให้ก่อนจะก้มโค้งให้กับแอร่อน ราวกับเป็นการอวยพรให้แอร่อนโชคดี ชายผมขาวเมื่อได้รับคำอวยพรจากองค์ราชินีเขาเองก็ก้มโค้งและยิ้มให้เช่นเดียวกัน แอร่อนก้าวเท้าออกจากห้องไป เขารู้ดีว่าวงเวียนของสงครามกำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้งแล้ว

=====

ในขณะเดียวกันกองทัพของเหล่าดาร์คเอลฟ์กำลังคืบคลานเข้ามาเรื่อยๆ เสียงฝีเท้าของเหล่าทหารจำนวนมากนั้นดังกึกก้องไปทั่ว ถ้าหากจากที่สูงก็คงเห็นกองทัพของเหล่าดาร์คเอลฟ์นั้นยาวจนสุดลูกหูลูกตา ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ในมือของพวกเขากำอาวุธแน่น หากทว่าทัพของเขาก็ต้องหยุดลง เมื่อเขาเห็นชายคนหนึ่งยืนขวางทางพวกเขาอยู่ ชายคนนั้นเป็นชายที่มีเส้นผมสีขาว ในมือของเขาถือตะเกียงที่สามารถทำให้เห็นใบหน้าของเขาได้ แสงไฟจากตะเกียงนั้นทำให้เห็นผิวที่ซีดเซียวและดวงตาสีแดงก่ำของเขา นัยน์ตาสีแดงทั้งสองข้างนั้นมองไปยังเหล่าศัตรูที่ต่างยืนจ้องเขาเหมือนกัน

“เจ้าเป็นใคร?” ดาร์คเอลฟ์ที่เป็นแม่ทัพเอ่ยปากถาม
“ข้าน่ะหรือ? ข้าก็เป็นคนขององค์ราชินีฟลอร่าน่ะซิ” ดรากูลตอบด้วยน้ำเสียงกวนประสาท
“ถ้างั้นเจ้าก็เป็นศัตรูของพวกข้างั้นซินะ...แล้วเหตุไฉนเจ้ายืนอยู่คนเดียวล่ะ? เจ้าคิดว่าเจ้าคนเดียวจะสู้พวกข้าได้งั้นหรือ” แม่ทัพคนเดิมเอ่ยปากถาม
“ข้าต้องถามกลับกันมากกว่า พวกเจ้ายกทัพมาแค่นี้คิดว่าจะล้มข้างั้นได้หรือ? หึ น่าขัน”
“ระดับอย่างพวกเจ้าแล้วต่อให้มีมากกว่าข้าซักล้านเท่า พวกเจ้าก็ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก” ดรากูลเย้ย

แม่ทัพคนนี้ได้ยินก็รีบดึงดาบออกมาก่อนจะตรงไปด้วยความโมโห ก่อนจะตรงไปยังดรากูล เขาดึงดาบออกมาก่อนจะแทงไปยังชายที่เยาะเย้ยเขาเพื่อสั่งสอนที่มาดูถูกตน หากทว่าดาบนั้นเสียบโดนความว่างเปล่า ในขณะที่นายพลคนนี้กำลังสงสัยว่าศัตรูผู้มีความมั่นใจของตนนั้นหายไปไหน เขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านหลังของกองทัพเขา เขารีบหันกลับไปก่อนจะเห็นเลือดที่ลอยขึ้นบนท้องฟ้ามากมาย ดวงตาของเขาเบิกโพลนด้วยความตื่นกลัว เพราะเขาเห็นชายผมสีขาวคนนี้ใช้มือเปล่าของเขากระฉวกไส้ของเหล่าทหารของเขาอย่างง่ายดายและไม่มีใครสามารถหยุดชายคนนี้ได้ ในขณะที่แม่ทัพของเหล่าดาร์คเอลฟ์กำลังตื่นกลัว เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงของอาชามุ่งตรงมาทางเขา แม่ทัพของดาร์คเอลฟ์นั้นหันไปก่อนจะแอร่อนและเดนนิสที่นำทัพมา

“ทำลายพวกมันให้สิ้นซาก” แอร่อนคำราม

แอร่อนพุ่งตรงไปพร้อมกับทหารของเขา ทัพของพวกดาร์คเอลฟ์นั้นถูกกวาดต้อนอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักสงครามก็จบลง บนพื้นนั้นเต็มไปด้วยเหล่าซากศพของพวกทหารดาร์คเอลฟ์ แอร่อนก้มมองทหารพวกนั้นก่อนจะเงยไปยังดรากูลที่มือทั้งสองข้างเขานั้นเปื้อนไปด้วยเลือด แอร่อนเดินตรงไปช้าๆไปหาดรากูลก่อนจะพยักหน้าเพื่อเป็นการบ่งบอกว่าเขาชื่นชมในผลงานขององค์รักษ์ขององค์ราชินีฟลอร่า เดนนิสเองก็เดินตรงมายังแอร่อนและดรากูลเช่นเดียวกัน หากทว่าสีหน้าของเขานั้นดูเต็มไปด้วยความกังวล

“เจ้ารู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆรึเปล่าแอร่อน?” เดนนิสเอ่ยปากถาม
“เจ้าหมายความว่าเยี่ยงไร?” แอร่อนถามต่อ
“ทั้งๆที่ทหารอีกฝ่ายมีตั้งมากมาย แต่ทำไมพวกเราได้ชนะกันอย่างง่ายดายเหลือเกิน” ชายผมสีทรายพูด
“ข้าไม่ได้ว่าเจ้านะดรากูล” เดนนิสเงยหน้ามาบอกดรากูลที่ยืนอยู่ใกล้ๆ

แอร่อนไม่ได้ตอบอะไร บางทีเดนนิสอาจจะคิดมากไปเอง มันจะมีอะไรลึกซึ้งกว่านี้ล่ะ? มันคงเป็นแค่ความผิดพลาดที่ไม่คิดว่าจะมีชายที่ชื่อว่าดรากูลอยู่ด้วย หากทว่าอยู่ดีๆเดนนิสก็รีบหันหลังกลับไปก่อนจะวิ่งตรงไปยังม้าของเขา และควบม้าและตรงออกไปซักแห่ง ชายผมขาวทั้งสองก็ได้แต่ทำหน้าฉงนก่อนจะมองหน้ากันเอง แต่ไม่นานนักพวกเขาก็เข้าใจว่าเดนนิสเห็นอะไร เมื่อเขาก้มลงไป เขาก็เห็นร่างของทหารหายไปอย่างช้าๆ ร่างของทหารพวกนี้เป็นสถานะจากของแข็งกลายเป็นอากาศและสลายหายไปราวกับไม่มีตัวตน

=====

ณ ท้องทะเลแห่งเอลิซาเบ็ธ บอนนี่ยืนอยู่บนเรือที่กำลังล่องไปอย่างช้าๆ อีกไม่นานนักเธอจะเข้าสู่สมรภูมิบนท้องทะเล บอนนี่ยิ้มด้วยความมั่นใจ เพราะศัตรูของเธอนั้นมีเพียงเรือแค่สองลำและสำหรับบอนนี่แล้ว แค่สองลำนั้นก็คงไม่สามารถทำอะไรราชินีแห่งโจรสลัดได้หรอก ต้นหนเรือตะโกนลงมาว่าเขาเห็นเรือของศัตรูแล้ว บอนนี่ก็พยักหน้า ไม่นานนักเรือก็หยุดลงเมื่อเจอกับเรืออีกสองลำที่ขวางอยู่ บอนนี่เริ่มตะโกนสั่งให้ลูกเรือบรรจุกระสุนปืนใหญ่ หญิงผมน้ำตาลตะโกนสั่งให้ยิงปืนใหญ่ เหล่าลูกเรือก็ทำตามที่เธอสั่ง กระสุนปืนใหญ่นั้นลอยก่อนจะไปกระแทกเข้ากับเรือลำหนึ่ง แรงกระแทกนั้นทำให้เกิดเปลวเพลิงลุกขึ้นมาก่อนจะจมลงไปใต้ทะเล บอนนี่ยิ้มด้วยความพอใจหลังจากที่เห็นเรือของศัตรูลำหนึ่งจมลงไป เหลือเพียงอีกแค่ลำเดียวเท่านั้นและชัยชนะจะตกเป็นของเธอ

“ตู้ม!!”

เสียงระเบิดดังขึ้นมา แต่มันไม่ได้ดังออกมาจากปากกระบอกปืนใหญ่เรือใหญ่ของเธอ เสียงมันดังขึ้นจากข้างหลังเธอ แรงกระแทกเมื่อครู่นี้ทำให้เรือของเธอลุกไหม้ขึ้นมา เธอหันไปก่อนจะเห็นเรือรบอีกประมาณ 4-5 ลำล้อมเธออยู่ ดูเหมือนตอนนี้เธอจะตกหลุมพรางอันใหญ่หลวงของพวกดาร์คเอลฟ์เสียแล้ว จากรอยยิ้มของบอนนี่เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด เธอเริ่มออกคำสั่งอีกครั้ง เหล่าลูกเรือของเธอเริ่มทำตามคำสั่งของเธอ หากทว่าในขณะทีเธอกำลังออกคำสั่งอยู่นั้น เธอก็ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีลูกเรือคนหนึ่งเดินมาข้างหลังเธอ

“ฉึก”

มีดนั้นแทงเข้าไปที่หน้าท้องของบอนนี่ เหล่าลูกเรือเห็นก็ต่างตกตะลึง หญิงผมสีน้ำตาลหันกลับไปมองช้าๆก่อนจะเห็นผู้ถือมีดไปลูกเรือคนหนึ่งของเธอ...ไม่ซิ พูดเช่นนั้นก็ไม่ถูก เพราะใบหน้าของฆาตกรเริ่มลอกมาช้าๆก่อนที่จะปรากฏเป็นใบหน้าของชายผู้สวมหน้ากากหัวกะโหลก มันดึงมีดของมันออก บอนนี่ที่ถูกมีดแทงออกไปเดินเซ แต่เธอก็หยิบปืนที่เธอแนบไว้กับเอวของเธอ บอนนี่เล็งไปยังเด๊ดก่อนจะลั่นไก กระสุนนั้นลอยออกไปก่อนจะตรงไปยังเงาทมิฬ หากทว่ากระสุนนั้นไม่โดนอะไรเลยนอกจากเรือของเธอเอง บอนนี่หลังพิงกับเสาเรือก่อนจะลงไปนั่งกับพื้น เธอมองไปรอบๆก่อนจะยังคงเห็นลูกเรือของเธอยังคงทำตามคำสั่งสุดท้ายของเธออยู่ เสียงปืนใหญ่ระเบิดอีกครั้ง มันกระแทกเข้าไปยังเรือของเธอ มันทำให้เรือของเธอนั้นสั่นสะเทือน บอนนี่หายใจช้าๆ พลางกุมหน้าท้องของเธอ เธอแหงนหน้ามองท้องฟ้าก่อนจะเห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดารา

“ดูเหมือนข้าจะตายทั้งๆที่เดนนิสยังไม่ได้ตกเป็นของข้าเลยนะ...”
“เขาจะเสียใจไหมนะที่ข้าตาย....” เธอพูดช้าๆในขณะที่ดวงตาของเธอมองไปยังผืนนภาที่กว้างใหญ่
“เอาเถอะ อย่างน้อยๆข้าก็ได้ตายโดยที่ข้ารักใครเป็น”

พูดจบดวงตาของเธอก็ปิดลง ปืนใหญ่ของเรือลำอื่นๆก็กระหน่ำยิงมาเรื่อยๆ ไฟนั้นลุกท่วมไปทั่วทั้งเรือ ก่อนที่เรือลำนี้จะดำดิ่งสู่ก้นบึ้งของมหาสมุทรช้าๆ

=====

เดนนิสรีบควบม้ามายังท่าเรือก่อนที่เขาจะเห็นทะเลเพลิงพร้อมกับควันที่ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า เขารีบกระโดดลงจากม้า ก่อนจะมองหาเรือแถวๆนั้น แต่ไม่ว่ายังไง เขาก็ไม่เห็นเรือซักลำ เดนนิสวิ่งตรงไปยังสุดท่าเรือก่อนจะเตรียมกระโดดลงไปว่าย หากทว่าไม่ทันที่เขาจะกระโดดลงไป ดรากูลก็ปรากฏตัวมาก่อนจะรั้งตัวของเดนนิสไว้ เช่นเดียวกันกับแอร่อนที่มาช่วยกันออกแรงเพื่อรั้งตัวของพี่ชายขององค์ราชินี เดนนิสพยายามจะดิ้น หากทว่าไม่ว่าจะทำอย่างไรเดนนิสก็ไม่สามารถดิ้นหลุดออกไปได้

“ปล่อยข้าไป...ปล่อยข้า!!” เดนนิสตะโกน
“ถ้าเจ้าออกไปตอนนี้เจ้าตายแน่ๆ อย่าคิดบ้าๆน่า” แอร่อนต่อว่า
“แต่ถ้าหากข้าไม่ไปตอนนี้บอนนี่ก็คงไม่รอดเหมือนกัน!!” ชายผมสีทรายตะโกนสวนกลับ

แอร่อนไม่ได้ตอบอะไร หากทว่าเขายังคงรั้งตัวของชายหนุ่มคนนี้ไว้ ไม่นานนักเปลวเพลิงนั้นก็ดับลง และเรือเหล่านั้นก็แล่นหายไป เมื่อมีการยืนยันว่าเรือของพวกดาร์คเอลฟ์หายไป การค้นหาบอนนี่ก็เริ่มขึ้น เหล่าทหารต่างช่วงกันค้นหาบอนนี่ หากทว่าไม่ว่าจะหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ หลายๆคนต่างก็บอกว่าบอนนี่คงไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้จากเหตุการณ์เช่นนี้ ถึงกระนั้นเดนนิสก็ยังออกคำสั่งให้หาต่อไป การค้นหาร่างของบอนนี่นั้นยังคงดำเนินต่อไป จนกระทั้งรุ่งสาง ภารกิจก็ยังไม่เสร็จสิ้น เดนนิสยืนกอดอกคอยดูการเคลื่อนไหวคนเดียว ในใจของเขานั้นได้แต่ภาวนาให้เขาได้เจอกับบอนนี่อีกครั้ง ถ้าหากราชินีโจรสลัดคนนี้กลับมาได้ เขาก็พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเธอ แม้แต่หลับนอนกับเธอ ในขณะที่เขายืนอยู่นั้นเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนดังขึ้นมา แอร่อนหันกลับไปก่อนจะเห็นหญิงผมดำยาวในชุดสีเขียว ดูเหมือนเธอจะเป็นต้นเสียงของฝีเท้าคู่นั้น เดนนิสไม่ได้พูดอะไรก่อนจะหันกลับไปมองทะเลอันกว้างใหญ่

“เจ้าเลิกบ้าได้แล้ว...ยังไงเสีย ยัยโจรสลัดนั่นก็คงไม่กลับมาหรอก” ซินเธียต่อว่าเดนนิส
“อีกอย่างทำไมเจ้าจะต้องลงทุนเพื่อโจรสลัดสกปรกๆแบบนั้นด้วย เธอตายไปก็ไม่เห็นเกี่ยวกับเราเลย” หญิงผมดำพูดต่อ

เดนนิสหันไปก่อนจะหยิบดาบมาจ่อที่คอของซินเธีย ดวงตาของเดนนิสนั้นเต็มไปด้วยความโกรธหลังจากที่ได้ยินประโยคนี้ของเธอ หญิงผมดำเองก็พูดไม่ถูกได้แต่ยืนนิ่งเมื่อถูกปลายดาบจ่อมาที่คอของตัวเอง

“ถ้าหากเจ้าพูดแบบนั้นอีกล่ะก็...ต่อให้เจ้าเป็นหนึ่งในทหารเอกของอาณาจักร ข้าก็จะไม่ไว้ชีวิตเจ้า”

พูดจบเดนนิสก็เก็บดาบของเขาก่อนจะหันกลับไปดูการค้นหาร่างของบอนนี่ต่อไป ซินเธียไม่ได้พูดอะไรก่อนจะเดินออกไป ในขณะที่ซินเธียเดินออกไปนั้น เดนนิสก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งดังขึ้นมา เดนนิสเหลือบไปมองผ่านหัวไหล่ข้างซ้ายของเขา เขาเห็นชายที่อยู่ในรูปร่างสตรีเดินมา เขาเดินมายืนข้างๆเดนนิส ชายผมสีทรายเห็นสหายผมสีเงินของตัวเองแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร เวลายังคงดำเนินต่อไป เหล่าทหารก็ยังคงรายงานเช่นเดิมว่าเขาพวกเขาไม่เจออะไรเลยทั้งสิ้น และเช่นเดิมเดนนิสก็ยังคงออกคำสั่งให้พวกเขายังดำเนินการค้นหาต่อไป

“แอร่อนบอกข้าว่าที่มันบุกมาครั้งนี้ก็เพื่อจะสังหารบอนนี่อย่างเดียว”
“พวกมันใช้คาถาสร้างเงาเพื่อจะหลอกให้เราคิดว่ามีทหารเยอะและดึงความสนใจไปหาทัพปลอมจนหมด” อัลเลนเล่าให้ฟัง
“งั้นหรือ..” เดนนิสตอบเบาๆ

อัลเลนไม่ได้พูดอะไรต่อ หากทว่าเดนนิสทรุดลงไปก่อนจะก้มลงไปต่อยพื้น เขาออกหมัดด้วยความโกรธแค้น เมื่อเขาหยุด เขาก็ใช้หน้าผากของเขาแตะไปบนพื้นหินที่เย็นเฉียบ น้ำตาของเขาไหลอาบแก้มของเขา ก่อนที่น้ำตาของเขาจะหยดลงไปบนพื้นหิน อัลเลนนั่งยองๆ ก่อนจะได้แต่มองเพื่อนของเขาที่กำลังร่ำไห้ ปากของเดนนิสนั้นได้แต่กล่าวขอโทษ อัลเลนก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำเช่นไรต่อเหมือนกัน

“ข้าขอโทษบอนนี่”

ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Bell of Rebellion : Episode 18
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Bell of Rebellion : Episode 13
» Bell of Rebellion : Episode 14
» Bell of Rebellion : Episode 6
» Bell of Rebellion : Episode 15
» Bell of Rebellion : Episode 16

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: