Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 School of Hope : Episode 14

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

School of Hope : Episode 14 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: School of Hope : Episode 14   School of Hope : Episode 14 EmptyThu Apr 30, 2015 9:01 am

“ติ๊ดๆ” เสียงของนาฬิกาปลุกดังขึ้นมา

ชายหนุ่มผมน้ำลืมตาตื่นด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยสะลึมสะลือ เขาเหลือบมองนาฬิกาของเขาก็เห็นตัวเลข 10 อยู่ข้างหน้าเลข 14 เขาลุกขึ้นมาจากเตียงช้าๆ ผมของเขานั้นยุ่งและกระจัดกระจายไปคนละทาง เขาเดินอย่างไม่รีบร้อน จริงๆแล้วตามปกติวันนี้เขาต้องไปเรียนหนังสือ แต่วันนี้เขามีอะไรนิดหน่อยจึงทำให้เขาได้รับยกเว้นในการต้องไปเรียน ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเดินลงชั้นล่างด้วยสภาพแบบนี้ เขาเดินตรงไปยังโต๊ะอาหารของเขาซึ่งอยู่ชั้นล่าง เมื่อเคนอยู่ที่ชั้นล่างแล้วเขาก็กวาดสายตาไปรอบๆ ทุกอย่างนั้นเงียบสงัด ถ้าให้เดาตอนนี้แม่ของเขาคงไปจ่ายตลาดอยู่ ลูกชายแห่งบ้านทานากะมองไปที่โต๊ะไม้ซึ่งมีจานวางอยู่แล้ว มันเป็นจานที่มีขนมปังและแยม (+เนย) วางอยู่ เคนนั่งลงก่อนจะเริ่มกินขนมปังปิ้ง เมื่อเขาทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินไปแต่งตัว ชุดที่เขาสวมนั้นไม่ใช่ชุดลำลองแต่กลับเป็นชุดนักเรียน เคนเดินตรงไปยังมือถือก่อนจะเปิดมือถือขึ้นมาดูข้อความอีกครั้ง มันเป็นข้อความที่ถูกส่งโดยอาจารย์โซเรียว

”เคนคุง นี่อาจารย์โซเรียวเองนะ คือครูพึ่งได้ข่าวมาว่าเราจะมีนักเรียนแลกเปลี่ยนจากต่างประเทศ ซึ่งครูเองก็ไม่ว่างไปรับ ดังนั้นครูเลยอยากฝากให้เคนคุงกับซาโยมิจัง ไปรับเธอที่สนามบินหน่อย เท่าได้ยินประมาณบ่ายมั้ง ที่เครื่องจะมาถึงที่สนามบิน ยังไงก็ฝากพาไปส่งที่บ้านของโฮสหน่อยละกันนะ”

ซึ่งข้างล่างจดหมายนั้นก็คือที่อยู่ของบ้านโฮส เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเคนก็เดินออกมาก่อนจะล็อคประตูบ้านและมุ่งหน้าออกไปยังสถานี ในขณะที่เขาเดินอยู่นั้น เขาก็นึกถึงเรื่องของเมื่อวาน ใช่...การแข่งขันทำขนม ภาพนั้นไหลย้อนโดยไม่หยุด เขาปล่อยให้จินตนาการของเขาแล่นไหลอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงอันอ่อนโยนตะโกนเรียกชื่อของเขา เคนกวาดสายตาไปก่อนจะเห็นซาโยมิที่ยืนอยู่ เธอสวมชุดเครื่องแบบนักเรียนไม่ต่างกับเขา ทั้งคู่ยิ้มให้แก่กัน ก่อนจะเดินขึ้นรถไฟไปพร้อมๆกัน จากจุดที่เขานั่งนั้นจนไปถึงสถานีสนามบินนั้นใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆได้ เรียกได้ว่านั่งนานก็ว่าได้ ซาโยมิและเคนนั่งข้างๆกัน เสียงประตูของรถไฟปิดลงก่อนที่รถไฟจะเริ่มเคลื่อน ชายหญิงผู้ที่เดินทางไปที่เดียวกันหันมาพูดคุยกัน

“คุณทานากะ คิดว่านักเรียนแลกเปลี่ยนแบบคนแบบไหนหรอคะ?”
“นั่นซินะ...เท่าที่ผมอ่านมาดูเหมือนจะเป็นคนยุโรปนี่นะ...ให้ผมเดาคงเป็นผู้หญิงผมยาวที่มีตาสีฟ้า”
“แบบเป็นกุลสตรี เป็นคนเรียบร้อยอะไรแบบนี้ล่ะมั้งครับ”
“แล้วคุณโอคาเบะล่ะ? คิดว่านักเรียนต่างชาติเป็นคนยังไงหรอครับ?” เคนเอ่ยปากถาม
“นั่นซินะ...ชั้นว่าอาจจะเหมือนรุ่นพี่ซาโตนากะล่ะมั้ง ร่าเริงๆ แต่ชั้นว่ามีแค่รุ่นพี่ซาโตนากะคนเดียวก็พอแล้วล่ะ”

ทั้งคู่พูดแล้วก็หัวเราะไปพร้อมๆกัน รถไฟนั้นยังคงวิ่งไปตามราง ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน คุยกันเรื่องต่างๆนาๆ รถไฟยังคงเลื่อนไปเรื่อยๆ ด้วยระยะเวลาที่ยาวนาน ทำให้บทสนทนาของทั้งคู่เริ่มหมดลงและในที่สุดความเงียบงันก็เข้ามาแทนที่ ทั้งคู่ได้แต่นั่งเงียบ เสียงรถไฟที่วิ่งบนรางนั้นดังกึกก้อง แม้ว่าบนรถไฟจะมีคนอยู่บ้าง แต่ทุกคนไม่เข้าหากันหรือคุยกันเลย ทำให้ความเงียบนั้นเข้าปกครองรถไฟขบวนนี้ เคนหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาก่อนจะอ่านข้อความที่อาจารย์โซเรียวอีกครั้งหนึ่ง ส่วนทางซาโยมิก็หยิบหนังสือของตัวเองขึ้นมาอ่าน เคนเก็บมือถือของตัวเองลงไปในกระเป๋ากางเกง ชายผมน้ำตาลหันกลับไปมองทิวทัศน์ซึ่งอยู่หลังกระจก ภาพของตึกที่เคลื่อนไปตามทิศทางของรถไฟฉายขึ้นมาบนดวงตาของเขา

“นี่...คุณทานากะ เมื่อวานน่ะ” ซาโยมิเริ่มพูดขึ้นมาอีกครั้ง

เคนหันไปตามเสียง เขาเห็นเธอกำมือแน่น มือของเธอนั้นวางไว้บนกระโปรงสีฟ้าของเธอ เคนตั้งใจฟังว่าเธอจะพูดอะไร หากทว่าไม่ทันที่เคนจะพูดเขาก็สัมผัสได้ว่ามือถือของเขาสั่น เคนหยิบออกมาดู หน้าจอนั้นมีข้อความว่า “หนึ่งข้อความใหม่” เคนกดเข้าไปดูก่อนจะเห็นข้อความจากอาจารย์โซเรียว ดูเหมือนช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาพักจึงทำให้อาจารย์หัวทองของเขาส่งข้อความมาได้ เคนเปิดเข้าไปดู มันเป็นข้อความสั้นๆ ใช้เวลากวาดตารอบเดียวก็สามารถอ่านข้อความได้จนหมด มันเขียนไว้ว่า

”ถึงแล้วรึยัง?”

เคนใช้นิ้วของกดไปที่แป้นพิมพ์บนมือถือเพื่อเป็นการตอบ เคนเขียนถึงสถานการณ์ของเขาในตอนนี้หรือก็คือยังไม่ถึงนั่นแหละ เมื่อเคนส่งไปแล้วเขาก็หันกลับมาทางซาโยมิที่นั่งข้างๆ เคนทำหน้าราวกับว่า “พูดอะไรนะ?” ซาโยมิยิ้มให้ก่อนจะส่ายหน้าราวกับว่าไม่มีอะไรแล้ว เคนก็ไม่ได้พูดอะไร รถไฟขบวนนี้ยังคงเคลื่อนไปเรื่อยๆ เหล่าผู้โดยสารนั้นก็ขึ้นลงรถไฟตามสถานี บางสถานีคนก็ขึ้นเยอะ บางสถานีก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ขึ้นมาบนรถไฟขบวนนี้ บางสถานีคนก็ขึ้นมามากมาย ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงที่สถานีสนามบิน มันเป็นสถานีปลายทาง เคนกับซาโยมิลุกขึ้นมาก่อนจะเดินออกจากรถไฟ ทั้งคู่เห็นผู้คนเดินไปมาเต็มสถานีไปหมด ส่วนใหญ่จะลากกระเป๋ามากันด้วย ไม่ว่าจะเป็นชาวญี่ปุ่นหรือชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาแผ่นดินนี้ เคนก้มมองนาฬิกา ดูเหมือนก็ใกล้เวลาที่เครื่องบินจะถึงแล้ว

“จะว่าไปคุณทานากะ รู้ชื่อของนักเรียนแลกเปลี่ยนแล้วรึยัง?”
“ถ้าจำไม่ผิดคุ้นๆว่าชื่อเวนดี้ เคลย์นะ....เราควรจะเขียนป้ายไหมนะ?” เคนเอ่ยปากถาม
“อื้อ...แบบนั้นก็น่าจะดีนะ” ซาโยมิพูดพร้อมกับรอยยิ้ม

ทั้งคู่หากระดาษก่อนจะหยิบปากกาหมึกดำขึ้นมาเขียนว่า “Welcome to Japan , Wendy” ถึงแม้ภาษาอังกฤษทั้งคู่จะไม่ค่อยดีนัก แต่ประโยคง่ายๆทั้งคู่คงไม่พลาดหรอก เมื่อป้ายต้อนรับเพื่อนใหม่เสร็จสิ้นทั้งคู่ก็เดินไปรอที่คนทั่วไปเขายืนรอรับผู้โดยสารกัน ทั้งคู่กวาดสายตาไปรอบๆก็เห็นคนมากมายที่รอรับผู้โดยสารเหมือนกัน มีทั้งคนวัยทำงาน วัยชรา ผู้คนเริ่มเดินออกทีละน้อยๆ เหล่าผู้มารอรับต่างยกกระดาษของตัวเองขึ้นเพื่อให้เหล่าผู้โดยสารเห็น ทางนักเรียนแห่งคิโบว กาคุเอ็นก็เช่นกัน

“คนไหนกันนะ” เคนพูดเบาๆ
“คนนั้นรึเปล่า?” ซาโยมิชี้ไปยังผู้หญิงผมสีทองร่างสูงที่เดินอย่างสง่า
“ไม่น่าใช่...ดูอายุมากกว่าเรามากเกินไป” เคนตอบ

เคนกวาดสายตาในขณะที่ยังถือป้ายอยู่ ซักพักนึงก็มีผู้หญิงผมสีขาวคนนึงตรงเข้ามา ผมของเธอนั้นตั้งขึ้นมาราวกับว่าส่วนนั้นของเธอเป็นหู ดวงตาของเธอนั้นเป็นสีแดง เธอสวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน และกระโปรงที่ยาวปิดเข่าของเธอ และถุงเท้าสีแดงขาวตัดสลับที่สูงใกล้กับกระโปรงของเธอ เบื้องหลังของเธอมีกระเป๋าลากสีขาววางอยู่ หญิงคนนี้จ้องมองเคนกับซาโยมิตาไม่กระพริบก่อนจะจ้องมองไปที่กระดาษในมือของเคนอีกครั้งพร้อมกับพูด

“เอ่อ...ไม่ทราบว่ามาจากคิโบว กาคุเอ็นรึเปล่า เมี๊ยว?” เธอพูด
“อ่าใช่ครับ...ว่าแต่คุณคือเวนดี้ เคลย์รึเปล่าครับ?” เคนเอ่ยปากถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเป็นมิตร
“อ๊ะ ใช่เอง ชั้นเวนดี้เอง เมี๊ยว” หญิงสาวจากต่างประเทศพูดพร้อมกับรอยยิ้มเช่นเดียว
“ชั้นโอคาเบะ ซาโยมิ ส่วนข้างๆชั้นก็ทานากะ เคน ยินดีที่รู้จักนะ” ซาโยมิแนะนำตัวด้วยรอยยิ้ม
“อื้อ ส่วนชั้นก็เวนดี้ เคลย์ มาจากแถวสแกดิเนเวีย ยินดีรู้จักเช่นกัน” เธอตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

ทั้งสามเดินไปก่อนจะกลับขึ้นไปบนรถไฟ ทั้งสามคุยเรื่องต่างๆมากมาย ท่ามกลางรถไฟที่กำลังเคลื่อนที่กลับเข้าไปในตัวเมือง เท่าที่รู้คือเธอเป็นคนที่รักสัตว์มาก โดยเฉพาะแมว และในตอนนี้ก็ทำให้เคนรู้ว่าซาโยมิก็รักแมวเช่นเดียวกัน จึงทำให้ทั้งคู่สามารถคุยกันได้อย่างถูกปาก เคนได้แต่นั่งมองเงียบๆพร้อมกับรอยยิ้ม มันก็คงเป็นเรื่องดีไม่น้อยสำหรับเพื่อนใหม่ที่สามารถคุยกับคนอื่นได้อย่างถูกคอ เคนหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาอีกครั้งเพื่ออ่านที่อยู่ของโฮสอีกครั้ง มันเป็นสถานีที่ไม่ไกลจากบ้านของเขาเท่าไหร่ รถไฟคันนี้ยังคงเคลื่อนไปเรื่อยๆก่อนที่จะมาถึงยังสถานีที่นักเรียนกับว่าที่นักเรียนคิโบว กาคุเอ็นต้องการจะมา ทั้งสามก้าวออกมาจากสถานีก่อนจะเดินไปตามทางที่แผนที่ในข้อความอาจารย์โซเรียวได้แนบไว้ให้ มันก็ไม่ไกลเท่าไหร่หรอก ใช้เวลาประมาณห้าถึงสิบนาทีก็ว่าได้ ท้องฟ้านั้นยังไม่แปรเปลี่ยนเป็นสีส้ม เคนก้มมองนาฬิกาของตัวเอง ดูเหมือนตอนนี้ก็สี่โมงเย็นแล้ว เคนกับซาโยมิรีบเร่งฝีเท้าไปยังบ้านของโฮสเพื่อจะส่งเวนดี้ไปยังบ้านใหม่ของเธอ

“เลี้ยวซ้ายตรงนี้...ก็น่าจะถึงแล้ว” เคนพูดโดยที่สายตาของเขาจ้องอยู่ที่มือถือของเขา

เคนหยุดก่อนจะเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาเบิกโพลนด้วยความตกตะลึง สิ่งที่เขาเห็นนั้นเป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่ มันเป็นบ้านที่ถูกสร้างขึ้นสไตล์ยุโรปและข้างหน้าคฤหาสถ์นั้นก็มีสวนที่กว้างเกือบสุดลูกหูลูกตา หากเหลือบมองไปอีกก็จะเห็นรถอีกหลายคันจอดอยู่ และแต่ละคันนั้นก็ดูมีราคาไม่น้อย เคนมองแล้วก็คิดว่าแม้แต่บ้านเขายังไม่มีรถซักคัน แต่บ้านของ “โฮส” คนนี้มีรถถึงสามคัน เคนเดินไปกดกริ่ง เมื่อชายหนุ่มผมน้ำตาลกดกริ่งแล้ว ก็มีเสียงดังออกมาจากลำโพงซึ่งอยู่เหนือกริ่งที่ชายร่างบางกด

“ไม่ทราบว่านั่นใครคะ?” เสียงจากคนในบ้านพูดขึ้น
“สวัสดีครับ ผมทานากะ เคนจากคิโบว กาคุเอ็นครับ พอดีผมพานักเรียนแลกเปลี่ยนมาส่งน่ะครับ”

ทางนั้นเงียบไปก่อนจะตอบด้วยการเปิดประตูรั้ว เคนหันมามองเวนดี้กับซาโยมิก่อนจะพยักหน้าและเดินเข้าไปในคฤหาสน์แห่งนี้ จะว่าไปเสียงที่คุยกับเคนนั้น เขาก็รู้สึกว่าคุ้นหูเหลือเกิน ราวกับว่าเขาเคยได้ยินเสียงนี้บ่อยมาก ชายหนุ่มผมน้ำตาลเดินไปเรื่อยๆก่อนจะไปถึงหน้าประตูไม้ เคนใช้มือของเขาเคาะประตู สิ้นเสียงเคาะประตูของเคนแล้วเขาก็ได้ยินเสียงของใครบางคนที่อยู่หลังประตูวิ่งตรงมายังพวกเขา ก่อนที่ประตูจะเปิดขึ้น

“Welcome to Japan~” เสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยความสดใสดังขึ้นมา

เคนและซาโยมิเห็นเจ้าของเสียงแล้วก็ได้แต่ตกตะลึง พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอ้ำอึ้งๆ

“ระ ระ รุ่นพี่ซาโตนากะ!!”
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
School of Hope : Episode 14
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: