Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Blitzkrieg : 7

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
ForbiddenOne
Co - Owner
Co - Owner
ForbiddenOne


จำนวนข้อความ : 1010
Join date : 29/08/2010
Age : 25

Blitzkrieg : 7 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Blitzkrieg : 7   Blitzkrieg : 7 EmptyWed Aug 19, 2015 6:24 pm

“อะ....อืมมม” ชายผมสีแดงตื่นขึ้นมา

สิ่งแรกที่เขาเห็นตอนที่เขาตื่นขึ้นมาคือเบาะสีน้ำเงินที่มีจอโทรทัศน์อยู่ข้างหน้าของเขา ชายคนนี้ขยี้ตาของตัวเอง ก่อนที่เขาจะหันไปทางซ้ายของตัวเอง เขาเห็นท้องฟ้าสีฟ้าและกลุ่มเมฆ ตอนนี้เขาอยู่บนเครื่องบิน ในขณะที่เขากำลังนั่งอยู่นั้น เขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่กำลังพิงกับไหล่ของเขา ชายผมสีแดงหันไปก่อนจะเห็นคาเรนนอนพิงไหล่ของตัวเองอยู่ ชายผมแดงถอนหายใจก่อนจะนึกย้อนกลับไปว่าเขามาอยู่บนเครื่องบินนี้ได้ยังไง

=====

อูเอดะนั่งอยู่บนเตียง ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาเป็นระยะๆ ใกล้ๆกับเขานั้นมีกระเป๋าสีดำวางอยู่ด้วย แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็จัดกระเป๋าทุกอย่างเรียบร้อย เขาได้ยินเสียงรถเคลื่อนที่มายังคอนโดโทรมๆของเขา อูเอดะลุกก่อนจะเปิดประตูออกไปดู รถสีดำนั้นมาจอดหน้าที่อยู่ของเขา ไม่ผิดแน่ๆว่ารถคันนี้เป็นของบ้านนางาโตะ เพราะสามวันที่ผ่านมา อูเอดะได้นั่งรถคันนี้ตลอด อดีตแชมป์บลิตซ์ครีกกลับเข้าไปในห้องก่อนจะหยิบเอากระเป๋าสีดำมา เขาปิดไฟก่อนจะเดินล็อคห้อง เขาสะพายกระเป๋าก่อนจะเดินลงมาจากบันไดที่เต็มไปด้วยสนิมช้าๆ ก่อนจะไปหาคาเรนในชุดสีฟ้าที่รออยู่หน้ารถสีดำ

“ขึ้นรถซิ”

อูเอดะไม่ได้พูดอะไรแต่ก็ขึ้นรถไปตามคำสั่งของหญิงผมสีม่วง เมื่ออูเอดะเข้าไปในรถแล้วเธอก็ปิดประตูรถ ชายชราที่เป็นพ่อบ้านก็เอาเท้าไปวางที่คันเร่งก่อนจะรถ รถเคลื่อนออกไปช้าๆ อูเอดะหันไปหาเพื่อนตัวเอง หน้าตัวของคาเรนนั้นก็มีกระเป๋าลากสีเขียวเหมือนกัน ดูเหมือนทั้งคู่จะเดินทางไปไหนอะไรอย่างงั้น

“แล้วคาเรน...นี่เราจะไปไหน?” ชายผมสีแดงเอ่ยปากถาม
“สิงค์โปร” เธอตอบสั้นๆกลับมา
“ห๊ะ...สิงค์โปร ไปทำไม?” อูเอดะทำหน้างงๆ
“เพื่อฝึกน่ะ” เพื่อนสนิทของอูเอดะยิ้มตอบ

=====

และนี่ก็คือสาเหตุที่ทำไมอูเอดะนั่งในนกเหล็กตัวนี้ ดูเหมือนคาเรนจะยังไม่ตื่น อูเอดะก็ไม่อยากปลุกเธอเท่าไหร่ เขาเลยจำใจต้องปล่อยไว้เป็นแบบนี้ต่อไป ชายผมแดงยกมือซ้ายขึ้นมาก่อนจะมองนาฬิกาของเขา ดูเหมือนตอนนี้จะ 8 โมงแล้วถ้าหากนับตามเวลาของญี่ปุ่น สำหรับญี่ปุ่นกับสิงค์โปรนั้นเวลาห่างกันอยู่ชั่วโมงนึงได้ โดยเป็นทางของญี่ปุ่นที่เร็วกว่า ส่วนเวลาเดินทางนั้นใช้เวลาประมาณ 7-8 ชั่วโมงได้ ตอนนี้ก็บินมาได้ประมาณ 7 ชั่วโมงแล้ว อีกเพียงไม่นานเครื่องก็คงลงจอด ณ ที่หมาย ว่ากันตามตรงนี่เป็นครั้งแรกที่อูเอดะนั่งบนเครื่องบิน กล่าวก็คือนี่เป็นครั้งแรกที่อูเอดะเดินทางออกนอกญี่ปุ่น ในขณะที่อูเอดะกำลังมองหน้าจอที่อยู่หลังเบาะว่าเหลือเวลาอีกกี่ชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมาย เขาก็รู้สึกได้ว่าผู้หญิงที่เอาหัวพิงไหล่ของตนนั้นไม่ได้ ใช้หัวพิงไหล่ตัวเองอีกแล้ว

“อูเอดะ...อรุณสวัสดิ์” หญิงผมสีม่วงพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“อืม อรุณสวัสดิ์” อูเอดะตอบกลับ
“นี่กี่โมงแล้วเนี่ย” คาเรนพูดต่อ
“เอ่อ...8 โมงกว่าๆแล้วอะนะ”
“งั้นหรอ งั้นแปลว่าเครื่องจะลงแล้วซินะ” หญิงผมพูดพลางหาว แต่เธอก็ใช้มือของเธอปิดปากของเธอไว้เพื่อรักษากริยามารยาท

“อีกไม่นานเครื่องจะลงจอดที่ท่าอากาศยานชางงีแล้ว ขอให้ทุกท่านกลับเข้าที่นั่งและรัดเข็มขัดให้เรียบร้อย”
“รวมถึงเก็บโต๊ะกินอาหารด้วย” เสียงประกาศของแอร์โฮสเตสดังขึ้น

ทั้งคู่ทำตามที่บอกนั่นก็คือเก็บโต๊ะและรัดเข็มขัด เครื่องบินเริ่มลงต่ำลง ก่อนที่จะลงจอดบนรันเวย์อย่างปลอดภัย ทั้งคู่ลุกขึ้นมาจากที่นั่งก่อนจะก้าวเท้าออกจากเครื่องบิน หญิงผมสีม่วงเดินด้วยความเร็ว อูเอดะเองก็ต้องเร่งฝีเท้าเพื่อให้เดินให้ทัน ดูเหมือนคาเรนจะตื่นเต้นมากกลับการได้มาถึงที่นี่ เมื่อเธอเดินผ่านงวงช้างเธอก็หยุดลงก่อนจะมองไปรอบๆสนามบิน เธอกางแขนขึ้นทั้งสองข้าง ดูเหมือนเธอคงอยากจะตะโกนคำว่า “สิงค์โปรรรรรร” แต่ก็จิตใต้สำนึกบางอย่างคงเตือนเธอว่าถ้าแบบนั้นคงเป็นเรื่องหน้าอายไม่น้อย เธอลดแขนลงก่อนจะหันมาหาชายผมแดง

“ไปกันเถอะ”

ทั้งคู่ยืนต่อแถวเพื่อรอผ่าน ตม. ในขณะที่ทั้งคู่ต่อแถวกันนั้น คาเรนก็พยายามติวว่าควรตอบอะไรบ้าง เอาจริงๆ ทักษะภาษาอังกฤษของอูเอดะนั้นเรียกว่าแย่เลยก็ว่าได้ ดังนั้นถ้าหากอยากจะเข้าเมืองได้อย่างปลอดภัยและไร้ปัญหา ก็คงต้องให้คาเรนสองภาษาอังกฤษให้ แม้ว่าจะตะกุกตะกัก แต่อูเอดะก็ผ่าน “ตรวจคนเข้าเมือง” มาได้อย่างไม่มีปัญหา ทั้งคู่ขึ้นรถบัสก่อนที่รถบัสจะนำทั้งสองไปยังโรงแรมที่ทั้งคู่พัก ตลอดทางนั้นคาเรนหยิบมือถือสีชมพูของเธอก่อนจะถ่ายรูปตลอดทาง เมื่อเธอถ่ายรูปนั้นเธอก็อัพลงโซเชี่ยลมีเดียของเธอ ถ้าตอนนี้ใครเปิดโซเชี่ยลมีเดีย แล้วเป็นเพื่อนหรือเป็นผู้ติดตามของคาเรนล่ะก็เตรียมตัวเจอรูปที่เธอถ่ายเกือบทุกห้านาทีได้เลย

“จะว่าไป นี่เป็นครั้งแรกรึเปล่าที่นาย มาต่างประเทศน่ะ?” คาเรนเอ่ยปากถาม
“อืม ครั้งแรกแหละ” อูเอดะตอบ
“หรอ งั้นก็เหมือนกันเลยนะ ชั้นดีใจนะที่เรามีครั้งแรกร่วมกัน” เธอพูดพลางจับแก้มทั้งสองข้างของเธอด้วยความเขินอาย
“อย่าพูดอะไรสองแง่สองง่ามแบบนี้ซิ...” ชายผมแดงตอบกลับ

“จะว่าไป ชั้นนึกว่าเธอจะเคยไปต่างประเทศมากกว่านี้ซะอีก” อูเอดะหันไปถามต่อ
“พอดีชั้นเป็นคนไม่ชอบไปต่างประเทศน่ะ ปกติแล้ว ชั้นชอบอยู่บ้านมากกว่า” เธอให้เหตุผลของเธอ

คาเรนฟังแล้วก็หัวเราะเบาๆ แต่ถึงกระนั้นเชื่อว่าคงไม่มีใครฟังทั้งสองออกหรอก เพราะบนรถนั้นมีคนหลายสัญชาติ ไม่ว่าจะเป็นพวก “คอเคเซียน” (พวกผิวขาว) , มองโกลอยด์ (ผิวแทน) หรือแม้แต่นิกอยด์ (ผิวดำ) ก็อยู่รวมกันบนรถคันนี้ สิ่งเดียวที่ขาดไปก็คือพวกเอเชียนั่นแหละ รถยังคงขับต่อไปเรื่อยๆก่อนจะหยุดจอดตามโรงแรมต่างๆ ผู้คนบนรถนั้นทยอยลงจอดไปทีละคน จนเหลือเพียงแต่ชายหญิงจากประเทศญี่ปุ่น บนรถนั้นถูกปกคลุมด้วยความเงียบ ชายผมแดงนั้นมองตรงไปข้างหน้า ในขณะที่หญิงผมม่วงกำลังสนุกสนานกับการถ่ายรูปตลอดทาง รถจอดลง ชายหัวล้านผู้เป็นคนขับรถหันกลับมาก่อนจะพูดชื่อโรงแรม คาเรนพยักหน้าก่อนจะลุก เมื่อคาเรนลุกอูเอดะก็ลุก เธอลงจากรถก่อนจะเดินกลับไปท้ายรถบัสเพื่อหยิบเอากระเป๋าลากสีเขียวของเธอออกมา แต่ทางอูเอดะนั้นไม่ต้อง เพราะทั้งตัวเขามีเพียงแค่กระเป๋าใบเดียว ทั้งคู่ยืนอยู่หน้าโรงแรงสูงระฟ้า มันเป็นโรงแรมที่มีสามตึกเรียงกัน ข้างบนนั้นมีเรือขนาดใหญ่ มันยาวเท่ากับสาวตึกที่วางเรียงกัน ราวกับว่าทั้งสามตึกนั้นเป็นฐานให้กับเรือลำนี้ เธอเดินเข้าไปข้างในก่อนจะตรงไปยังเค้าเตอร์เพื่อคุยเรื่องห้อง ในขณะที่อูเอดะกำลังมองไปยังล็อบบี้อันสุดแสนหรูหราแห่งนี้ก็เหลือบเห็นกลุ่มเด็กกลุ่มนึงที่กำลังมุงอะไรกันอยู่ ด้วยความสงสัย ชายชาวญี่ปุ่นคนนี้ เดินไปดู ด้วยความสูงของเขาทำให้เขาเห็นได้ว่าเหล่าเด็กพวกนี้กำลังมุงอะไรกันอยู่

“I command my general to attack your general” เด็กผมทองพูด
“check my top deck , It’s minion , that mean my general’s ATK’ll increase by 4”

แม้ว่าจะไม่เข้าใจทั้งหมดว่าเด็กสองคนนี้พูดว่าอะไร แต่หากฟังๆดูแล้วเหมือนจะเล่นบลิตซ์ครีกกันอยู่ อูเอดะยืนมองเด๊คสองคนนี้เล่น ในขณะที่อูเอดะกำลังถูกดูดเข้าไปในการเล่นการ์ดของเด็กสองคนนี้ เขาก็ได้ยินเสียงของหญิงผมม่วงเรียก อูเอดะหันกลับไปก่อนจะเดินกลับไปหาเธอ ทั้งคู่เดินตรงไปยังลิฟต์ที่จะนำทั้งคู่ขึ้นไปชั้นที่ทั้งสองต้องการ

“มะกี้ชั้นเห็นเด็กเล่นบลิตซ์ครีกกันด้วยแหละ” อูเอดะเล่าสิ่งที่เห็นให้ฟัง
“ก็เพราะงี้แหละ ชั้นเลยพานายมาที่นี่ยังไงล่ะ” คาเรนพูดในขณะที่ลิฟต์กำลังเลื่อนขึ้นไป
“ถ้าไม่นับญี่ปุ่นแล้ว สิงค์โปรก็เป็นอีกที่ที่คนเล่นมากที่สุดอันดับสองเลยนะ” หญิงผมม่วงพูดขึ้น
“แล้วอันดับหนึ่งล่ะ?” ชายผมแดงหันไปถาม
“อเมริกาน่ะ” คาเรนตอบ

ลิฟต์หยุดลงก่อนจะเปิดเมื่อถึงที่หมาย ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปก่อนจะเดินโถงยาว ก่อนจะเดินไปถึงห้องที่ทั้งคู่พัก เธอยื่นกุญแจมาให้ก่อนจะชี้ห้องทางขวาของเธอ

“ชั้นพักห้องนี้ ส่วนนายพักห้องตรงข้ามชั้นนะ ถ้ามีอะไร ก็มาเคาะประตูเรียกละกัน”
“อะ อ่า..”

ชายผมแดงรับกุญแจก่อนจะไขประตูและเปิดเข้าไป เมื่อเขาเปิดเข้าไปนั้นเขาก็พบห้องหรู สมแล้วทีเป็นโรงแรมระดับห้าดาว เขาเดินตรงไปก่อนจะวางกระเป๋าไว้บนเก้าอี้เล้าจ์สีขาว ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงไปบนเตียงนิ่มๆ มันเป็นเตียงที่นิ่มกว่าเตียงที่บ้านเขามาก พูดให้ถูก ทุกอย่างในห้องนี้ดีกว่าห้องนอนของเขามาก อูเอดะลุกขึ้นมานั่งบนเตียง ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบรีโมทสีดำ ว่าแล้วเขาก็กดปุ่มสีเขียว มันทำให้ภาพบนจอโทรทัศน์ฉายขึ้นมา ภาพฉายมานั้นเป็นชายผิวสีแทนกำลังจั่วไพ่ ดูจากหลังการ์ดแล้ว การ์ดที่เขาจั่วนั้นคือบลิตซ์ครีก เขาวางการ์ดลงไปในสนามก่อนที่จะปรากฏเป็น สิ่งมีชีวิตที่มีหัวสุนัขปรากฏตัวขึ้นมา ในมือของสิ่งมีชิวิตสุดแปลกนี้ถือกระบองอยู่ด้วย ชายผิวแทนคนนี้พูดอะไรซักอย่างที่อูเอดะไม่เข้าใจก่อนจะสั่งให้การ์ดใบนี้โจมตี ในขณะที่เขากำลังดูการแข่งขันในแบบที่ไม่เข้าใจอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น อูเอดะละสายจากจอก่อนจะเดินตรงไปยังประตูห้องตัวเอง เขาเปิดประตูช้าๆก่อนจะเห็นคาเรนยืนอยู่ เธอเปลี่ยนชุดของเธอ เป็นชุดสีฟ้าและกระโปรงยาวสีขาว

“ไปเที่ยวกัน” เธอพูดด้วยรอยยิ้ม
“ห๊ะ...แต่ว่าเรามาฝึกนี่?” อูเอดะทำหน้างง
“ไม่เห็นเป็นไร ไหนๆเรามีสิงค์โปรทั้งที จะไม่เที่ยวก็กระไรๆอยู่นะ”

อูเอดะกรอกตาของตัวเอง ไม่ทันที่อูเอดะจะได้พูดอะไร เธอก็คว้ามือของอูเอดะก่อนจะลากชายผมแดงคนนี้ออกจากห้อง เมื่อประตูปิดนั้นเสียงทีวีภายในก็ดับลง

=====

ทั้งคู่อยู่ในห้างขนาดใหญ่ คาเรนกำลังคุยกับคนขายรองเท้าอยู่ ในขณะที่อูเอดะกำลังนั่งเบื่อ คำว่าเที่ยวของคาเรนนั้นเหมือนจะสำหรับเธอมากกว่า ใกล้ๆกับตัวของอูเอดะนั้นก็เต็มไปด้วยถุงกระดาษมากมายและหลากสีที่วางอยู่ ข้างในนั้นเป็นของที่ต่างกัน ตั้งแต่กระเป๋า รองเท้า เสื้อ กระโปรง บลาๆ ชายผมแดงถอนให้เฮือกใหญ่ เขาเคยได้ยินว่าถ้าหากไปช็อปปิ้งกับฝ่ายหญิงล่ะก็ ไม่ต่างอะไรกับการตกนรกทั้งเป็น ไม่ในขณะที่อูเอดะกำลังนั่งคิดอะไรอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของคาเรนเดินตรงเข้ามา

“ไปร้านอื่นต่อ ร้านนี้ขายแพงไปหน่อย”
“ห๊ะ...” อูเอดะอ้าปากด้วยความตกใจ
“ก็อย่างที่ชั้นบอกร้านนี้ขายแพง ชั้นว่าชั้นซื้อจากรองเท้าอื่นน่าจะดีกว่า” หญิงในชุดสีฟ้าพูดซ้ำ
“ไม่ล่ะ ทำไมชั้นต้องมารอเธอซื้อของด้วยล่ะ เราไม่ใช่แฟนกันซะหน่อย ดังนั้นแล้ว ถ้าเธอจะไปอีกร้าน ชั้นกลับล่ะ” ชายผมแดงพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“จริงด้วย...โทษที ชั้นเพลินไปหน่อย ถ้างั้นชั้นหยุดซื้อแค่นี้ก่อนก็ได้”

ประโยคนี้ทำให้อูเอดะถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“แล้วอยากจะไปไหนเป็นพิเศษรึเปล่า?” คาเรนถามอูเอดะ
“ตอนที่ชั้นเดินกับเธอ ชั้นเหลือบเห็นร้านการ์ดด้วย ไปดูกันหน่อยไหม?” อูเอดะถาม
“อื้ม ก็ดีนะ ถ้างั้นไปกันเถอะ”

คาเรนเดินนำหน้า แน่นอนการถือของยังคงเป็นหน้าที่ของอูเอดะอยู่ดี เขาลุกขึ้นก่อนจะรวบรวมถุงกระดาษทั้งหมดก่อนจะเดินตามเธอไป ร้านนี้นั้นอยู่ชั้นสี่ มันเป็นร้านขนาดไม่ใหญ่นัก ภายในนั้นมีคนท้องถิ่นมากมาย กำลังนั่งเล่นกันอยู่ อูเอดะมองไปรอบๆก่อนจะเดินตรงไปยังซองการ์ดมากมายที่ถูกแขวนอยู่ หลายๆซองนั้นล้วนแต่เป็นซองที่เขาเคยเห็นแล้วทั้งนั้น หากทว่ามันมีอยู่ซองนึง มันเป็นซองที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน อูเอดะหยิบออกมาก่อนจะมอง คาเรนชะโงกหน้ามาข้างๆก่อนจะมองเช่นเดียวกัน

“ซองนี้ซองอะไรน่ะ...ชั้นไม่เคยเห็นมาก่อนเลย” คาเรนพูดขึ้น
“ไม่รู้เหมือนกัน ชั้นว่าชั้นลองเปิดดูหน่อยดีกว่า” อูเอดะพูดพร้อมกับดึงซองนี้ออกมาจำนวนนึง
“ถ้างั้นชั้นลองด้วยดีกว่า” คาเรนพูดพลางหยิบส่วนที่เหลือมาก

ทั้งคู่เดินตรงไปยังเค้าเตอร์ก่อนจะจ่ายเงิน ทั้งคู่ฉีกทีละซองก่อนจะดูการ์ดทีละใบ โชคดีที่การ์ดเป็นภาษาญี่ปุ่น ดังนั้นชายหนุ่มผู้ไร้ซึ่งความรู้เกี่ยวกับภาษาต่างประเทศ จึงสามารถอ่านข้อความบนการ์ดได้อย่างไม่มีปัญหา

“เห...ใบนี้ ชั้นว่าใช้ได้แฮะ” อูเอดะพูดพลางหยิบขึ้นมาดู
“ชั้นว่าใบนี้ ก็ใช้ได้เหมือนกัน เอ๊ะ ในชื่อมีคำว่า Barber ด้วยนี่นา ดูเหมือนจะใช้กับเด๊คชั้นได้แฮะ” คาเรนเองก็ให้ความเห็นกับการ์ดที่เธอพึ่งได้เหมือนกัน

ทั้งคู่เก็บการ์ดที่พึ่งซื้อมาก่อนจะเตรียมเดินออก หากทว่าก่อนจะเดินออก อูเอดะก็เหลือบเห็นป้ายนึงติดอยู่ที่ร้าน มันเป็นรูปของชายผิวแทนในชุดสีขาว ผมของเขานั้นยาวสลวย และเป็นสีบลอนด์ ใต้ภาพของเขานั้นมีภาษาอังกฤษเขียนว่า Yasir Esah in action tomorrow” ถ้าจำไม่ผิดชายคนนี้คือชายที่อูเอดะเห็นบนจอโทรทัศน์ในโรงแรม อูเอดะเรียกคาเรนก่อนจะหันไปถามโปสเตอร์นี้และเอ่ยปากถาม

“คาเรน นี่แปลว่าอะไร?”
“ก็ ยัสเซอ อิซาร์ จะเล่นพรุ่งนี้น่ะ” คาเรนแปลให้ฟัง
“เห...เหมือนเมื่อกี้ชั้นเห็นหมอนี่บนทีวี เหมือนจะเป็นผู้เล่นบลิตซ์ครีกเหมือนกัน”
“พรุ่งนี้เรามาดูดีไหม” อูเอดะเอ่ยปากเสนอ
“ไม่จำเป็นหรอก” เธอพูดจบก็เดินนำหน้าไป อูเอดะไม่ได้พูดอะไรก่อนจะได้แต่เดินตามเธอไป
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Blitzkrieg : 7
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Blitzkrieg : 8
» Blitzkrieg : 9
» Blitzkrieg : 10
» Blitzkrieg : เปิดรับสมัครตัวละคร
» Blitzkrieg : 3

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: