"ที่ผ่านมา... ความสัมพันธ์ของเราสองคนมันคืออะไร ?" เสียงสั่นเครือจากชายหนุ่มผมสีดำสนิท ผิวขาว หน้าตาธรรมดาๆ เบื้องหน้าของเขาคือหญิงสาวอายุไล่เลี่ยกัน สูงพอๆกับชายที่กำลังยืนน้ำตาคลอเบ้า เธอหน้าตาสะสวยเอามากๆ แววตาสีเทาของเธอบ่งบอกได้ดีว่าเธอกำลังลังเลอะไรบางอย่าง เธอเข้าโผกอดชายหนุ่มที่กำลังจะเป็นไอ้ขี้แยอยู่รอมร่อ
"ฉันดีใจที่เธอรู้สึกดีกับฉันนอร์แมน ฉันรู้ว่าเธอรักฉัน ฉันก็รักเธอ แต่เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน"
"เพื่อน... งั้นหรอ ?" ชายถูกกอดค่อยๆดันตัวหญิงสาวตรงหน้าออกไป ชายหนุ่มก้มหน้าอย่างผิดหวัง น้ำตาลูกผู้ชายค่อยๆไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง
"ความสัมพันธ์ของเราที่ใครๆก็ดูออกว่าเรามากกว่าเพื่อนกัน... แต่เธอบอกว่าฉันคือเพื่อนของเธอ มันถูกต้องแล้วหรอ..." น้ำตาของเขาไม่อาจเปลี่ยนใจผู้หญิงตรงหน้าเขาได้เลย
"ถ้าเธออึดอัด ฉันว่าเราอย่าเพิ่งเจอกันเลยดีกว่า... ฉันยังรอเพื่อนรักอย่างเธอเสมอนะ ดีขึ้นแล้วเรากลับมาเป็นเพื่อนที่ดีกันเหมือนเดิมนะ" เธอพยายามส่งรอยยิ้มมิตรภาพให้กับชายหนุ่มและค่อยๆเดินจากไป ปล่อยไว้เพียงชายหนุ่มที่นั่งทรุดร่ำไห้อยู่ในห้องนอน
==========
"ตรงนี้มีคนรอดอยู่อีกคน ช่วยผมยกซากเครื่องออกหน่อย" เสียงชายคนหนึ่งตะโกนเรียกใครสักคนเพื่อขอความช่วยเหลือ นอร์แมนลืมตาตื่นขึ้นจากฝัน(ที่เป็นจริงมาก่อนหน้านี้) ตื่นขึ้นสู่โลกความจริงว่าเขาคือ 1 ในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินตก
ชาย 3 คนยกซากเครื่องบินที่ทับร่างนอร์แมนออกไป นอร์แมนถูกพยุงให้ลุกขึ้นโดยชายผมสีน้ำตาล ผิวขาว ท่าทางดูเป็นมิตรเอามากๆ
"คุณโชคดีจริงๆที่รอด ผมชื่อ เคซาราย เกรย์ ถ้าคุณกลัวเหตุการณ์นี้จะเกิดซ้ำกับคุณ ผมขอแนะนำประกันตัวนี้เลย" ชายที่ดูท่าทางเป็นมิตรยื่นเอกสารให้กับนอร์แมน
"แกนี่มันปัญญาอ่อนจริงๆ เซลล์ขายประกันชั้นต่ำอย่างแกน่าจะแหลกไปกับซากเครื่องบินนี้ซะตั้งแต่แรก" ชายผมสั้นสีทอง หน้าตาหล่อเอาการ แต่ฝีปากน่าจะจัดอยู่หมวดเดียวกับสุนัข กระชากใบเอกสารจากมือเกรย์และขยำทิ้งพลางมองเกรย์หัวจรดเท้า
"แค่เสื้อเชิ้ตราคาถูกๆ กางเกงสแลคต่ำๆ จะต้องทำงานอีกกี่ชาติถึงจะซื้อชุดสูทราคาแพงอย่างฉันได้" ชายผมทองขยับแว่นแล้วแสยะยิ้ม เกรย์ทำได้แค่มองและไม่ตอบโต้ใดๆ
"ทอม ผมว่าคุณไปนั่งพักตรงริมน้ำกับคาโอรุและเจมส์ก่อนดีมั้ย ตรงนี้อากาศค่อนข้างร้อน กลิ่นโลหะไหม้ก็เหม็นเอาการ ริมน้ำอากาศน่าจะบริสุทธิ์ดี" ชายทรงผมปอมปาดัวสีน้ำตาล มีหนวดเครา เข้ามาเบรคสถานการณ์ตรงหน้า หวั่นชายในชุดสูทกับคนขายประกันจะตีกันตายก่อนจะหาทางรอดกลับบ้าน
"อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะแมตตี้ !! สูทของฉันถ้ายับขึ้นมา ต้องส่งรีดแบบพิเศษ เนื้อผ้าอย่างดีแบบนี้มีแค่คนรวยๆอย่างฉันที่ซื้อใส่ได้ !!" ทอมปัดมือแมตตี้ออกด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
นอร์แมนไม่ได้สนใจเหตุการณ์ตรงหน้ามากนัก เขาพยายามปะติปะต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนี้เขาจำเรื่องทั้งหมดได้แล้ว และกลุ่มชายตรงหน้าก็ยุติปากเสียงกันหมด
"นายชื่ออะไร ?" ชายทรงผมปอมปาดัวร์เอ่ยถามเจ้าหนุ่มผมดำ
"นอร์แมน สตีล" หนุ่มผมดำตอบ
"ฉัน แมตตี้ วิลเลส ส่วนผู้ชายในชุดสูทคือ ทอม เคฮิลล์ 1 ในทายาตตระกูลที่รวยติดอันดับท็อป 20" แมตตี้พูดแนะนำทอมจบทอมก็กอดอกวางมาดทันที
"ผมคงไม่ต้องแนะนำตัวหรอกนะ คุณคงจะจำผมได้ เพราะคุณเริ่มสนใจประกันชีวิตของผม คุณจะจดจำชื่อผมไปเล่าให้ลูกหลานฟัง" ไอ้หนุ่มเกรย์ขายประกันยิ้มอย่างจริงใจ
"เอาชีวิตตรงนี้ให้รอดก่อนเถอะไอ้เวร" คำพูดของชายคนผิวสี ทรงผมอัฟโฟรคาบซิกก้าร์เดินมายังพวกเขา
"โจนาธาน คิงส์ลีย์ ?" นอร์แมนเอ่ยชื่อชายหัวฟู
"นี่แหละตัวจริงเสียงจริง คิดอยู่แล้วว่าใครๆก็ต้องรู้จักฉัน เพลงใหม่กำลังจะปล่อยใน Youtube แล้ว กลับไปอย่าลืมโหลดใส่ ITune ไว้ด้วยล่ะ" แร็ปเปอร์หัวฟูตบไหล่นอร์แมนเบาๆ
"ปลอดภัยนะไอ้หนู ?" นอร์แมนหันไปหาต้นเสียง ชายสองคนที่ช่วยกันยกซากเครื่องบินแล้วช่วยเหลือเขา คนแรกไว้หนวดไว้เคราไว้ทรงผมอันเดอคัทตามแฟชั่นที่กำลังนิยมในตอนนี้รวมถึงแว่นที่เขาใส่ ดูเป็นคนตามแฟชั่นพอสมควร อีกคนผมสีบรอนสั้น หน้านิ่ง ไม่แสดงอารมณ์ใดๆผ่านสีหน้า
"นิโคลาส แซดเลอร์" ชายผมอันเดอคัทแนะนำตัวและเชคแฮนด์กับนอร์แมน
"เซบาสเตียน เดอ ซีน่อน" ชายผมสีบรอนสั้นพูดจบก็เดินไปนั่งที่ขอนไม้ใหญ่ทันที
"เขาพูดไม่ค่อยเก่ง แต่ก็ไม่เป็นพิษเป็นภัย ตอนนี้เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว เกาะกลุ่มกันไว้ ข่าวเครื่องบินของเราน่าจะถึงหูนายกรัฐมนตรีอีกไม่นาน เขาต้องส่งเฮลิคอปเตอร์มารับเราแน่นอน" นิคพูด
"เชิญพวกแกกลับเฮิลคอปเตอร์กะหลั่วๆไปเถอะ พ่อฉันต้องส่งเครื่องบินส่วนตัวมารับฉันแน่นอน" ทอมกอดอกพลางมองทุกคนอย่างเหยียดๆ
"ถ้าฉันต่อยไอ้ลูกแหง่ติดพ่อ พ่อมันจะโกรธมากมั้ยวะ ?" โจนาธานเริ่มเดือด เกือบจะปรี่เข้าไปซัดหน้าไอ้คนรวยนิสัยห่วยตรงหน้า แต่แมตตี้ห้ามไว้ได้ทัน ไม่งั้นคงมีข่าวฉาวของแร็ปเปอร์ชื่อดังอีกซักข่าว
"ทุกคนนนนนนนนนนนนนนนน !!! มีคนบาดเจ็บหนักตรงนี้ !!!"
"เสียงโรมันนิ่ !?" นิครีบวิ่งไปหาต้นเสียงของายที่ชื่อโรมัน
เมื่อทุกคนที่อยู่ระแวกนั้นวิ่งไปหาต้นเสียง โรมันยืนรอทุกคน ภาพที่ทุกคน ณ ที่นั้นเห็นคือ หญิงสาวโดนเศษโลหะเครื่องบินทับจนขาเกือบจะขาดแล้ว เลือดของเธอนองพื้นไปทั่ว แต่เธอยังนอนหมดสติและหายใจแผ่วเบา
"อิซซาเบลล่า !!" แร็ปเปอร์หัวฟูเข้าไปประคองเธอ แน่นอนว่าหญิงสาวคนนี้ต้องเป็นหนึ่งในสาวๆในสต๊อคของเขาแน่นอน
"ใจเย็นก่อนโจนาธาน !! เธอเสียเลือดมาก เราต้องห้ามเลือดและทำแผลให้กับเธอ" นิคก้มลงดูแผลฉกรรจ์ที่ขาขวาของหญิงสาวโชคร้าย
"เอาล่ะฟังนะ... โจนาธานและทุกคน เธอเสียเลือดมากและโอกาสที่เธอจะรอดมีไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นด้วยซ้ำ ฉันไม่รับประกันว่าเธอจะรอด... ฉันจะขอฟังความเห็นของพวกเราว่าจะเอายังไง" นิคขยับแว่นพูดอย่างใจเย็น บรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบและกดดัน พวกเขายังรู้จักกันได้ม่นานต้องตัดสินใจร่วมกันแล้วงั้นหรือ ?
"เดี๋ยวผมไปตามเจมส์กับคาโอรุนะ" เกรย์ทำลายความเงียบด้วยคำพูดเสียงแหลมของเขา
"ไม่ต้อง... อย่าให้เด็กผู้หญิงมาเห็นภาพแบบนี้เลย ปล่อยให้เจมส์อยู่กับคาโอรุไปก่อน ตอนนี้เขาสองคนยังไม่ต้องรู้เรื่องนี้ เราต้องตัดสินใจเรื่องนี้ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้..." นิคทำหน้าตาจริงจัง
"เอาล่ะ นายว่ายังไง ?"
==========
To Be Continue...
Route 1 : ช่วยเหลืออิซซาเบลล่า
เมื่ออ่านจบโปรดตัดสินใจพิมพ์ทางเลือกที่คุณต้องลงในคอมเม้นเฟสบุ๊คที่กระทู้นี้ลงไว้
#SaveIssabella เพื่อช่วยเธอ หรือ #LeaveHer เพื่อไม่ให้เธอไปเป็นภาระของพวกคุณ