Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Shining in the Darkness : EP 9

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Shining in the Darkness : EP 9 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Shining in the Darkness : EP 9   Shining in the Darkness : EP 9 EmptyWed Oct 21, 2015 8:18 pm

ทุกครั้งที่เราเดินทางเข้าสู่ห้วงนิทรา ร่างกายของเราจะปิดการทำงานทุกอย่าง ความเจ็บปวด ความคิด ความกังวล ทุกอย่างจะหายไปหมด ราวกับว่าสิ่งของพวกนี้ ไม่เคยมีจริงมาก่อนเลยและเป็นเพียงนิทานก่อนนอนเท่านั้น จะบอกว่าการนอนหลับก็คล้ายๆกับการตายก็ว่าได้ ต่างกันแค่ว่าการนอนหลับนั้น เราสามารถตื่นขึ้นมาอีกครั้งได้ แต่มันก็น่าประหลาดใจนะ ต่อให้ร่างกายของเราไม่ตอบสนองอะไร แต่ร่างกายเราก็จะตื่นขึ้นเอง ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะตื่นเองตามธรรมชาติหรือตื่นเองเพราะมีอะไรบางอย่างมารบกวน

“เฮ้ย ตื่น!!” เสียงของใครบางคนตะโกนขึ้นมา

เสียงนี้ทำให้โดเมนิกตื่นขึ้นมา เมื่อเขาตื่นมานั้นเขาก็เห็นหน้าของใครบางคน แสงไฟจากตะเกียงของเขาส่องให้เห็นหน้าของเขา มันเป็นใบหน้าที่โดเมนิกไม่รู้จัก เขาเป็นชายสวมชุดเกราะสีเงิน ใบหน้าของเขามีหนวดเคราเต็มไปหมด ชายคนนี้กระชากคอเสื้อของโดเมนิกขึ้นมาก่อนที่ทหารอีกคน ใช้เชือกรัดแขนชายผมขาวไว้แน่น ทหารในชุดเกราะสีเงินพยุงตัวของโดเมนิกขึ้นมาก่อนจะพาเดินออกหน้าโรงแรม เมื่อเขาออกมายังหน้าโรงแรม ชายผมขาวก็เห็นทหารในเครื่องแบบเดียวกันมากมาย รวมกันแล้วน่าจะประมาณครึ่งร้อยได้ พวกเขาต่างมองมายังโดเมนิกด้วยสายตาโกรธแค้นๆ ทั้งที่โดเมนิกไม่เคยรู้จักคนพวกนี้มาก่อนเลย แต่ในกลุ่มนั้นมีชายสองคนที่ไม่ได้แต่งตัวเหมือนกับทหารคนอื่นๆ คนนึงเป็นชายผมสีแดง ผิวสีแทนที่สวมแจ๊คเก็ตสีดำ กับอีกคนนั้นเป็นชายผมหยิกที่อยู่ในชุดหนังสีดำเช่นเดียวกันกับสหายของเขา

“คุกเข่าลงไป!!”

ชายที่พยุงเขามาถีบเข้าไปที่ข้อพับเขา มันทำให้โดเมนิกร้องด้วยความเจ็บปวด โดเมนิกคุกเข่าลงไปกับพื้น เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องปะทะเข้ากับความเจ็บปวดอีก โดเมนิกหันไปทางซ้ายของตัวเองก่อนจะเห็นโดโรธีและมาร์คที่ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันกับเขา ชายผมขาวไม่เห็นโรซารี่อยู่ด้วย ไม่รู้เธอหายไปไหน เธอหนีไปแล้วหรือเปล่า? หรือเธอจริงๆแล้วเธอยังอยู่ในโรงแรม?

“ทั้งหมดมีเท่านี้แหละขอรับ” ชายในชุดเกราะคนนึงเดินไปรายงานให้กับชายผมหยิกที่ยืนอยู่หน้าเหล่าทหารพวกนี้
“งั้นหรือ...แสดงว่าขาดเพียงแค่โรซารี่ซินะ”

ชายผมดำคนนี้เดินตรงมายังมาร์คที่คุกเข่าอยู่ข้างๆกับโดเมนิก

“ตอบข้ามาว่าโรซารี่อยู่ไหน?” ชายผมดำถาม
“ถึงข้ารู้ข้าก็ไม่บอกหรอก....ว่าแต่ชาลตั้น เพราะเจ้าไม่สามารถเอาชนะข้าตรงๆได้ เจ้าเลยต้องลอบกัดแทนใช่ไหม?”
“ข้ายังจำได้อยู่เลยนะ ตอนที่ข้าอัดเจ้าลงไปนอนกับกองโคลนน่ะ” มาร์คยั่วยุ

ชายผมดำง้างมือก่อนจะฟาดใส่หน้าของมาร์คอย่างรุนแรง แรงฟาดนั้นทำให้เกิดรอยช้ำบนหน้าของมาร์ค แต่ถึงกระนั้นรอยช้ำก็หายไปอย่างรวด

“ถ้างั้นข้าว่าถ้างั้นคงต้องทรมานมันจนกว่าจะพูดกระมั้ง” ชายผิวแทนก้าวเท้ามาข้างๆชายผมดำที่ชื่อว่าชาลตั้น
“เจ้าก็รู้นี่ว่าวัลดัสว่ายังไง เจ้าก็ฆ่าข้าไม่ได้” มาร์คพูดกับชายผิวสีแทน
“ใช่...เจ้าพูดถูก แต่ข้าก็ยังสามารถทรมานเจ้าได้”

ว่าแล้ววัลดัสจับหน้าของมาร์ค ควันนั้นลอยขึ้นมาช้าๆ ชายผมสีเขียวร้องด้วยความเจ็บปวด เสียงแผ่ดร้องนั้นดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า โดเมนิกพยายามหันไปทางอื่น เขาไม่อยากเห็นภาพที่สยดสยองนี้ ซักพักนึงนั้นเสียงร้องของมาร์คก็หายไป โดเมนิกหันมามอง ก่อนจะเห็นภาพของใบหน้าของมาร์คที่ไหม้เกรียม ถ้าไม่ติดว่าชายคนนี้นั่งข้างๆเขาเมื่อครู่นี้ล่ะก็เขาไม่มีทางจำได้แน่นอนว่าชายคนนี้คือใคร ซักพักร่างของมาร์คนั้นก็กระทบกับพื้นดินที่เย็นเฉียบ มาร์คแน่นิ่งไปซักพักก่อนที่ผิวหนังที่ไหม้เกรียมทั้งหมดจะหายไปและคืนสภาพกลายเป็นผิวสีขาวเช่นเคย วัลดัสบีบแก้มของเขาก่อนจะเอ่ยปากถามอีกครั้งหนึ่ง

“ตกลงจะบอกไหมว่าโรซารี่อยู่ไหน?”

มาร์คไม่ได้ตอบอะไรนอกจากส่งสายตาที่เต็มไปด้วยแรงต่อต้าน ชายผมสีแดงเห็นสายตาเช่นนี้แล้ว ก็ไม่ได้พูดอะไรก่อนจะปล่อยมือของตนเองออก ชายผิวสีแทนเดินตรงมายังโดเมนิกก่อนที่เขาจะมองยังโดเมนิก

“ถ้ามาร์คไม่ยอมพูด...เราก็น่าจะลองรีดข้อมูล จากคนอื่นดูนะ” วัลดัสเอ่ยขึ้น

ร่างกายของเขาสั่นไปด้วยความกลัว เสียงแผดร้องของมาร์คนั้นยังคงกึกก้องอยู่ในหูของเขา มันเป็นเสียงร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความสยดสยอง ภาพของใบหน้าของมาร์คที่ไหม้เกรียมนั้นยังคงตราตึงอยู่ในใจของเขา เขาอยากจะเอ่ยปากขอร้องให้ชายผิวแทนคนนี้อย่าทำเช่นนี้กับเขา แต่เขาเกินกว่าที่จะพูด ชายคนนี้ก้าวใกล้มายังเขาเรื่อยๆ เสียงฝีเท้าของชายคนนี้ที่ย่ำลงบนพื้นดินดังขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกันกับเสียงของโดโรธีที่ตะโกนขอให้อย่าให้ชายคนนี้หยุด แต่เสียงตะโกนของเธอนั้นไม่ได้มีผลอะไร วัลดัสเอ่ยปากถามคำถามกับโดเมนิก แต่แน่นอนว่าโดเมนิกตอบไม่ได้ เพราะทั้งเขาไม่รู้และกลัว สิ่งเดียวที่เขาตอบไปก็คือ “ส่ายหน้า”

“งั้นหรือ...ถ้างั้น ข้าคงต้องสร้างแผลเป็นให้เจ้าหน่อยละกัน” วัลดัสพูด
“อย่านะเจ้าคะ!! อย่าทำร้ายท่านโดเมนิก” โดโรธีตะโกนสุดเสียง

โดเมนิกหลับตาลงด้วยความกลัว แต่เขาก็ลืมตาขึ้น เพราะเขาไม่ได้ลิ้มรสถึงความเจ็บปวดและความทรมาน เขาเห็นชายผมดำที่ใช้ดาบกั้นชายผิวแทนไว้ วัลดัสถอยออกไป เมื่อวัลดัสถอยออกไป ชาลตั้นก่อนจะเก็บดาบของเขาเข้าฝัก

“หมอนี่ยังเป็นเด็ก และด้วยเกียรติของพวกเรา เราไม่ควรจะทำร้ายเด็ก” ชายผมดำพูดกับวัลดัส
“เฮ้อ...เพราะเจ้าเป็นซะแบบนี้ล่ะนะ เอาเถอะ ถ้าเจ้าว่าเช่นนั้น ข้าจะยอมก็ได้...แล้วเราจะทำยังกับพวกนี้ต่อดี” ชายผมสีแดงเอ่ยปากถาม
“ข้าว่าเราจับพวกนี้ไปยังป้อมปราการของข้าก่อนดีกว่า แล้วหลังจา-“
“โรซารี่อยู่ตรงนู้น!!” เสียงของทหารคนนึงตะโกนขัดชาลตั้น

ทุกสายตาหันไปยังจุดที่ชายคนนั้นชี้ เหล่าทหารที่มีตะเกียงอยู่ในมือต่างหันไปทางนั้นก่อนจะยกตะเกียงขึ้น มันทำให้ทุกคนเห็นหญิงผมขาวยืนอยู่บนหลังคาของบ้าน ในมือของเธอนั้นมีดาบอยู่ด้วย เธอมองมายังเหล่าทหารด้วยสายตาเย็นยะเยือก ชายผมดำก้าวเท้าขึ้นมาก่อนจะมองหน้าของโรซารี่พร้อมกับเปล่งเสียงออกมา

“โรซารี่ ถ้าเจ้ายอมแพ้ตอนนี้ พวกเราจะไม่ทำร้ายเจ้า แต่ถ้าหากเจ้าคิดจะขัดขืนล่ะก็ เราคงต้องใช้กำลัง”

โรซารี่ให้คำตอบด้วยการกระโดดลงมา เธอแกว่งดาบของเธอทั้งหมดสามครั้ง เท้าของเธอแตะพื้น พร้อมกับเชือกของที่มัดมือทั้งสามหลุดออก มาร์ครีบลุกไปก่อนจะวิ่งตรงไปชกหน้าของวัลดัส แรงกระแทกนั้นทำให้วัลดัส ล้มลงไปกับพื้น โรซารี่เห็นเช่นนี้แล้วก็ชักดาบออก ก่อนเตรียมจะเสียบร่างของชายผมสีแดง แต่ชาลตั้นนั้นตรงมาพร้อมกับปัดดาบของโรซารี่ แม้ดาบของโรซารี่จะไม่หลุดออกจากมือ แต่ก็เสียสมดุลออกไป วัลดัสลุกมาก่อนที่จะปล่อยเพลิงออกจากมือของเขา เพลิงนั้นลอยตรงมายังชายผมสีเขียว แต่เขานั้นหลบได้ เปลวเพลิงนั้นลอยไปโดนอาคาร บ้านเรือนที่ปะทะกับอัคคีนั้น ถูกครอบด้วยเปลวเพลิงและมันเริ่มลามไปหลังต่อๆไป

“โดโรธี พาโดเมนิกไปที่หน้าประตูเมือง เดี๋ยวพวกเราตามไป” โรซารี่หันไปตะโกนบอกโดโรธี
“ได้เลยเจ้าคะ” หญิงหูจิ้งจอกคว้ามือของโดเมนิกก่อนจะวิ่งออกไป

แม้ว่าเหล่าทหารพยายามจะใช้ดาบของตนเพื่อหยุดทั้งสอง แต่ด้วยเวทย์มนต์ของโดโรธีจึงให้ดาบที่พยายามจะเฉือนเนื้อของทั้งสองกระเด็นออกไป เมื่อทั้งมาร์คและโรซารี่เห็นโดเมนิกและโดโรธีหายออกไปจากฝูงชนแล้ว ทั้งคู่ก็หันไปเผชิญหน้ากับสองผู้กล้าที่ยืนอยู่ โรซารี่พุ่งตรงไปยังชาลตั้น เธอยกดาบขึ้นก่อนจะเตรียมสับร่างของชายผมสีดำ แต่ชาลตั้นรับดาบไว้ได้ ทางชายผมสีเขียวนั้นก็มุ่งตรงไปยังวัลดัสเหมือนกัน วัลดัสจุดเปลวเพลิงขึ้น ก่อนที่จะโยนมันมาทางมาร์ค แต่หากทว่ามาร์คนั้นก้มหลบได้ เขามุ่งตรงไปยังเหล่าทหารที่อยู่ไม่ไกลนัก เหล่าทหารด้วยความตกใจจึงใช้ดาบเสียบแทงเข้าไปร่างของมาร์ค ร่างของลูกสมุนจอมมารถูกเสียบเข้ากับดาบเหล็กจำนวนมาก เลือดนั้นไหลจากปากแผลที่อยู่ถูกดาบเสียบ ก่อนที่เลือดเหล่านั้นจะหยดลงพื้นดิน เขาเงยหน้าขึ้นท่ามกลางเจ็บปวดก่อนจะแสยะยิ้ม

“จงดูข้า” มาร์คตะโกนสุดเสียงของเขา

สิ้นเสียงของเขาก็เกิดระเบิดขึ้น มันฉีกร่างของทุกคนที่อยู่ใกล้ๆกับเขา เช่นเดียวกันกับร่างของเขาที่ช่วงท่อนบนหายไปหมด แต่ไม่นานนัก ร่างของเขาก็งอกกลับขึ้นมาใหม่ มาร์คลุกขึ้นมาก่อนจะมองมายัง วัลดัสที่หลบหลีกการโจมตีนี้ได้

“เจ้ายังคงโจมตีแบบนี้อีกหรือ?” วัลดัสถาม
“แต่มันก็ยังได้ผลล่ะน่า” มาร์คตอบกลับ

ในขณะเดียวกัน เสียงดาบของโรซารี่ที่ปะทะกับชาลตั้น ยังคงดังกึกก้อยอยู่เรื่อยๆ แม้ว่าตลอดการต่อสู้นั้นจะมีทหารพยายามจะช่วยสนับสนุนชาลตั้นอยู่บ้าง แต่การกระทำเช่นนี้ มันก็คือการนำพาตัวเองเข้าสู่ความตาย รอบๆนั้นเต็มไปด้วยซากศพของเหล่าทหารในชุดเกราะสีเงินนอนกองอยู่บนเลือดของตนเอง ของเหลวสีแดงนั้นไหลไปทั่วก่อนจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน จนท้ายที่สุดไม่มีใครแยกออกได้ว่าเลือดนั้นเป็นของใครและของใคร เปลวเพลิงนั้นเริ่มปกคลุมตัวเมือง เสียงกรีดร้องเริ่มดังขึ้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ชายในชุดหนังสีดำและหญิงในชุดสีขาวเสียสมาธิเลยแม้แต่น้อย ดาบของทั้งสองยังปะทะกัน โรซารี่เห็นช่องก่อนจะฟันใส่ชาลตั้น ชายผมหยิกกระโดดหลบ ถึงแม้จะหลบได้ แต่ดาบนั้นก็เฉือนผ้าของเขาออกนิดนึง ทำให้เกิดเป็นรอยขาดบนเสื้อหนังสีดำนี้

“ฝีมือเจ้าใช้ได้นะ...ข้าว่าเจ้าน่าจะใช้ความสามารถของเจ้าช่วยผู้คน มากกว่ามารับใช้จอมมารนะ” ชาลตั้นเอ่ย

โรซารี่เงียบ เธอไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ชาลตั้นเห็นท่าทีของเธอ ก็รู้ว่าความเงียบของเธอนั้นคืออะไร

“ดูเหมือนยังไงเจ้าก็จะรับใช้อเล็กซิมัสซินะ?”
“น่าเสียดาย...”

ชายผมดำดึงดาบของเขาขึ้นมาก่อนตรงพุ่งตรงไปยังโรซารี่ เช่นเดียวกันกับหญิงผมขาวที่ตรงเข้าหาเหมือนกัน

-----

โดโรธีวิ่งจูงมือของโดโมนิกก่อนจะวิ่งท่ามกลางความกลลาหลที่เกิดขึ้น ไฟนั้นลามไปทั่วเมือง เสียงกรีดร้องนั้นดังกึกก้องไปทั่ว ผู้คนที่ถูกไฟคอกต่างวิ่งด้วยความบ้าคลั่ง ท้องฟ้านั้นเต็มไปด้วยควันที่ลอยขึ้นท้องฟ้า ข้างหน้าของเขานั้นใกล้ถึงปากประตูเมืองแล้ว แต่หากทว่าเมื่อใกล้ถึงนั้นเขาก็เห็นหญิงวัยกลางคนนึงยืนอยู่ เธอมองขึ้นไปยังบ้านของเธอ โดเมนิกเหลือบมองไปเช่นเดียวกัน เขาเห็นเด็กคนหนึ่งติดอยู่บนชั้นสอง เขาตะโกนเรียกหาแม่ของเขาที่อยู่ข้างล่าง เช่นเดียวกันกับผู้เป็นแม่ที่ตะโกนลงข้างล่าง โดเมนิกหยุดเดินก่อนจะหันไปยังบ้านหลังนั้น

“นายท่านเจ้าคะ เราไม่มีเวลาหยุดแล้วนะเจ้าคะ!!” โดโรธีต่อว่า
“ตะ ตะ แต่ว่า” โดเมนิกหันไปมองแม่ลูกคู่นั้นอีกครั้ง

ไม่ทันที่โดเมนิกจะได้พูดอะไรต่อ หญิงสาวผมสีชมพูที่มีหูจิ้งจอกก็วิ่งต่อไป ไม่นานทั้งสองก็ผ่านประตูเมืองออกไป ทั้งสองหันไปทางซ้ายก่อนจะเห็นเกวียนและม้ายังอยู่ โดโรธีเดินไปปลดเชือกออกก่อนจะขึ้นไปยังตำแหน่งคนขับ ส่วนโดเมนิกนั่งข้างหลังเหมือนเดิม เท่านี้เหลือเพียงให้แค่โรซารี่และมาร์คมาเท่านั้น และไม่นานนักทั้งสองก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครดังขึ้นมา แต่เสียงฝีเท้านี้มันไม่ได้เป็นเพียงแค่สองคน หากทว่ามันเป็นเสียงของคนจำนวนมาก โดเมนิกและโดโรธีหันไปก่อนที่เขาจะเห็นทหารในชุดสีเงินจำนวนมากตรงมา

“อยู่ตรงนั้น!!” ทหารที่อยู่หน้าสุดตะโกน
“เราต้องไปแล้วเจ้าคะ” โดโรธีหันกลับไปก่อนจะใช้เชือกฟาดกับหลังของม้า
“ตะ แต่ พวกท่านโรซารี่ล่ะ?” ชายผมสีขาวถาม
“ไม่มีเวลาแล้วเจ้าคะ!!”

ม้าร้องด้วยความเจ็บปวด มันวิ่งออกไปด้วยความรวดเร็ว โดเมนิกหันกลับไป มองเหล่าทหารที่ไล่ตามอยู่ แต่แน่นอนว่าพวกเขาไล่ไม่ทัน รถเกวียนคันนี้ทิ้งห่างเมืองนี้เรื่อยๆ ก่อนที่โดเมนิกและโดโรธีจะทิ้งคนพวกนี้ไปในที่สุด
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Shining in the Darkness : EP 9
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: