Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Shining in the Darkness : EP 22

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Shining in the Darkness : EP 22 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Shining in the Darkness : EP 22   Shining in the Darkness : EP 22 EmptySat Jan 30, 2016 9:43 pm

เสียงเพลงนั้นดังฉลองไปทั่วบ้าน ผู้คนมากมายมารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลอง เสียงหัวเราะผสมกันเสียงพูดคุยนั้นดังปนกันจนไม่สามารถแยกได้ออกว่าใครกำลังหัวเราะหรือใครกำลังพูดคุย มันเป็นงานเลี้ยงแด่ลูกสาวของคุณนายเวลลิงตั้นที่พึ่งลืมตาดูโลกในวันนี้ เหล่าเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรต่างยืนมองเด็กทารกที่นอนอยู่ในเปลด้วยความเอ็นดู มันเป็นค่ำคืนแห่งความชื่นมื่น พ่อแม่ของเด็กแรกเกิดมองหน้าของลูกตัวเองด้วยรอยยิ้ม ไม่ใช่แค่เพียงผู้ให้กำเนิดแต่เหล่าผู้คนต่างยินดีกับเด็กสาวนัยน์ตาสีเงินคนนี้

“ว่าแต่พวกท่านคิดหรือยังว่าพวกท่านจะตั้งชื่อลูกสาวว่าอะไร?” เพื่อนบ้านผู้เป็นมิตรเอ่ยปากถาม
“คิดไว้แล้วล่ะ ข้าคิดว่าลูกสาวของเราจะชื่อโรซารี่” ชายผู้เป็นพ่อเอ่ย
“เป็นชื่อที่งดงามจริงๆนะ” ผู้ถามเอ่ยชื่นชม

ประตูถูกเปิดขึ้นมา ทุกสายตาหันไปยังประตูที่ถูกเปิดออก คนที่เข้ามานั้นไม่ใช่เพื่อนบ้านที่หน้าตาเป็นมิตร แต่เป็นหญิงชรา ผมของเธอนั้นขาวโพลน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น ใบหน้าของเธอนั้นไม่เป็นที่คุ้นเคย ทุกฝีก้าวที่เธอเดินนั้นจะมีคำถามว่า “นั่นใครน่ะ” ดังประกอบขึ้นทุกครั้ง เธอเดินตรงมายังเปลของทารกน้อย เธอมองมายังทารกน้อยนี่หลับใหลอยู่ในเปลสีขาว เธอมองเด็กน้อยคนนี้ด้วยรอยยิ้ม แต่หากทว่าเมื่อเธอมองหน้าของผู้เป็นพ่อและผู้เป็นแม่ รอยยิ้มของเธอนั้นก็หายไป แต่สิ่งที่ปรากฏมาแทนนั้นเป็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ความแค้น

“ข้ายังจำสิ่งที่ครอบครัวเจ้าทำกับข้าได้” หญิงชราคนนี้พูดกับตระกูลเวลลิงตั้น

มือของเธอนั้นเริ่มปล่อยออร่าสีเขียวออกมา เธอยกก่อนจะยื่นไปมือของตนไปใกล้ร่างน้อย ผู้เป็นพ่อเห็นดังนี้พยายามจะวิ่งไปหยุดยั้ง แต่หญิงชราคนนี้ก็ยกมืออีกข้าง มันผลักร่างของชายคนนี้ ร่างของผู้เป็นพ่อกระแทกเข้ากับกำแพงไม้ ภรรยาของชายคนนี้รีบตรงเข้าไปดูอาการของสามีตัวเอง เหล่าผู้มาเยือนก็ต่างอยากจะหยุดยั้งหญิงชราคนนี้ แต่เมื่อพวกเขาเห็นพลังอำนาจของหญิงชราคนนี้แล้ว มันก็ทำให้พวกเขาเปลี่ยนใจและทำเพียงแค่หยุดมองเท่านั้น

“ข้าขอให้เด็กน้อยคนนี้จะต้องใช้ชีวิตอย่างทนทุกข์ทรมาน ไม่สามารถรักใครได้ ไม่สามารถมีมิตรสหายได้”
“ต้องพบแต่การลาจากและการเข่นฆ่าชั่วชีวิต”
“เจ้าต้องดื่มเลือดเพื่อความอยู่รอด ต้องอยู่กับคำสาป”
“จนกว่าจะได้ดื่มเลือดของจอมมาร”

แสงสีเขียวที่อยู่ที่มือของเธอนั้นหายไป ผู้เป็นพ่อพยายามลุกขึ้นมาก่อนจะพยายามตรงไปหาหญิงชราคนนี้อีกครั้ง แต่ไม่ทันที่เขาจะได้เข้าใกล้ตัวนาง หญิงคนนี้ก็หายตัวไปราวกับเธอไม่ได้ยืนตรงนี้มาก่อน ผู้เป็นแม่รีบตรงมาดูลูกน้อยของตัวเอง ร่างกายของเธอนั้นยังปกติ เธอยังคงมีแขนสองแขนและขาสองขาเหมือนมนุษย์ทั่วๆไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่ต่างออกไปนั่นคือบนดวงตาของเธอนั้นมีดอกไม้ผุดขึ้นมา เด็กน้อยคนนี้ยังหลับสนิท เธอยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอ และเธอก็ไม่รู้ด้วยว่าชีวิตต่อจากนี้ของเธอจะเดินไปทิศทางที่เต็มไปด้วยความโหดร้าย

ไม่มีใครรู้ว่าหญิงชราคนนี้เป็นใคร แต่ที่แน่ๆคือเธอเกลียดตระกูลเวลลิงตั้น ซึ่งก็ยากอีกเพราะตระกูลเวลลิงตั้นเป็นตระกูลที่คนเกลียดมากพอควรอยู่แล้ว พวกเขาเป็นตระกูลอัศวินและเหล่าบรรพบุรุษก็พยายามตั้งมากมายเพื่อจะเป็นมือขวาของเจ้าเมือง นั่นก็แปลว่าตระกูลเวลลิงตั้นต้องเขี่ยคู่ต่อสู้จากตระกูลอื่นๆ และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ตระกูลอื่นๆเกลียดตระกูลซึ่งเป็นมือขวาของเจ้าเมือง ดังนั้นหญิงชราคนนี้มาจากใคร? และมาจากตระกูลไหน? ไม่มีใครทราบได้เว้นเสียแต่ตัวของเธอและเทพฟอร์จูนเท่านั้น

เวลาล่วงเลยไป เด็กน้อยโรซารี่ตอนนี้อายุ 8 ปีแล้วก็ว่าได้ ตลอดช่วงเวลาสองพันกว่าวันที่เธอมีชีวิตอยู่ เธอต้องดื่มของเหลวสีแดงชนิดนึงตลอด เธอก็ไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร แม้แต่ผู้ปกครองของเธอเองก็ยังไม่บอกว่ามันคืออะไร แต่พ่อแม่ของเธอบอกเพียงแค่ว่ามันคือสิ่งที่จะทำให้เธอมีชีวิตอยู่ได้ ถึงแม้เธอจะไม่รู้แต่พ่อแม่ของเธอพูดดังนี้ เธอก็ต้องทำเช่นนี้ นอกจากนี้นั้นเธอก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากเด็กทั่วๆไป เธอมีความสุข เธอมีเพื่อน และเสียงหัวเราะของเธอนั้นก็เป็นเหมือนดั่งเครื่องบรรเลงจากสรวงสวรรค์

“ศาลเรียกตัวจากท่านไอเดนงั้นหรือ?” ผู้เป็นพ่อพูดขึ้นพลางอ่านจดหมาย
“แล้วท่านไอเดนเรียกตัวพวกเราเข้าไปในเมืองหลวงทำไม?” ผู้เป็นแม่ที่ยืนอยู่ข้างๆเอ่ยปากถาม
“ดูเหมือนท่านไอเดนต้องการให้ข้าไปร่วมทัพในการสู้กับอเล็กซิมัส และระหว่างที่ข้าไปออกรบ เขาจะให้เจ้ากับโรซารี่อาศัยในวังไปก่อน” หัวหน้าตระกูลเวลลิงตั้นคนปัจจุบันอ่านจดหมายส่วนอื่นให้ฟัง

จอมมารอเล็กซิมัส ชื่อนี้เป็นชื่อทุกคนในแผ่นดินนี้รู้จัก อเล็กซิมัสเป็นจอมมาร และการเป็นจอมมาก็ถือว่าเป็นเรื่องเลวร้าย อเล็กซิมัสนั้นเป็นคนโหดเหี้ยม เขาเป็นคนที่ฆ่าคนเพื่อความสนุก ชอบเผาบ้านชอบเผาเมือง จับผู้หญิงมาเป็นที่สนองตัณหาของเขา ไม่ว่ามองยังไงอเล็กซิมัสก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ควรจะต้องถูกกำจัด และนี่ก็เป็นหน้าที่ของเหล่าผู้กล้าที่จะรวมกันเพื่อปราบจอมมารผู้ชั่วร้าย และนำความสุขกลับมาสู่แผ่นดินนี้ ตระกูลเวลลิงตั้นเดินทางเข้าไปยังเมืองหลวง ทั้งสามนั่งอยู่บนเกวียน เสียงเกวียนนั้นดังขึ้นตลอดทางที่รถเกวียนวิ่งอยู่บนถนน มันต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์กว่าที่พวกเขาจะถึงจุดหมาย แต่หากทว่าทุกอย่างมันดูไม่เป็นดั่งที่พวกเขาหวั่งไว้ รถเกวียนคันนี้ถูกรายล้อมโดยเหล่าชายฉกรรจ์ที่ถืออาวุธอยู่ครบมือ

“พวกเจ้าต้องการอะไร?” ผู้นำของตระกูลบ้านจับดาบของตัวเองไว้

สายตาของเขามองไปยังคนรอบๆที่ไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นัก แม้ว่าเขาจะเอ่ยปากถามเหล่าชายที่เต็มไปด้วยอาวุธเหล่านั้น แต่จริงๆเขาก็รู้คำตอบของคำถามนี้อยู่แล้ว คนเหล่านี้คืออาชญกรและสิ่งที่พวกเขาต้องการนั้นก็คือสิ่งที่อยู่ในเกวียนคันนี้ จำนวนของกลุ่มคนที่ยืนขวางเกวียนคันนี้นั้นมีอยู่ประมาณหกคนได้ ชายหกคนนั้นมองหน้ากันก่อนจะตรงดิ่งมายังรถเกวียนคนนั้น ผู้เป็นพ่อคว้าดาบก่อนจะพยายามปกป้องรถเกวียนคันนี้ การต่อสู้นั้นดำเนินไป ชายวัยกลางคนนี้ปัดป้องดาบได้หลายครั้ง แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่สามารถทำอะไรเหล่าชายทั้งหกนี่ได้

“อ๊าก” ดาบของโจรคนนึงเสียบเข้าไปยังสีข้างของผู้เป็นพ่อ

ชายที่ถูกดาบเปิดปากแผลใช้รวบรวมแรงใช้ดาบของตัวเองฟันเข้าไปยังที่คอของบุรุษที่ทำร้ายเขา ปากแผลบนคอของเขาเปิดออก เลือดนั้นไหลออกมาจากปากแผลนั่นก่อนที่เขาจะล้มลงไปกับพื้น ชายอีกคนที่เห็นเหยื่อของตัวเองออกแรงก็ใช้ดาบเสียบเข้าไปอีกครั้ง เขาร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ภรรยาและลูกของชายคนนี้กรีดร้องด้วยความหวาดกลัว ชายวัยกลางคนจับแผลที่ถูกเปิดขึ้น เขาหันไปมองลูกสาวและภรรยาของตัวเองก่อนจะพยักหน้าให้ มันเป็นการส่งสัญญาณให้กับทั้งสองที่นั่งอยู่ไหนเกวียนว่า “หนีไปซะ”

“ไม่ เราจะไม่ทำแบบนั้น!!” ผู้เป็นแม่ตะโกนบอกสามีตัวเอง
“หนีไปซะ!!” ชายที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนย้ำอีกครั้ง

น้ำตานั้นไหลออกมาจากผู้เป็นภรรยา

“หวังว่าชาติหน้า ท่านฟอร์จูนจะให้พวกเราได้อยู่ด้วยกันอีก” ภรรยาเอ่ยบอกลาสามีของตัวเอง

เธอคว้ามือลูกสาวของตัวเองก่อนจะกระโดดลงจากเกวียน เธอวิ่งตรงเข้าไปในป่า เธอไม่ได้หันมามองเลยแม้แต่น้อย โรซารี่หันกลับไปมองพ่อของตัวเองที่รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายของเขาเพื่อพยายามจะหยุดยั้งเหล่าโจรพวกนั้น เสียงโอดครวญด้วยความเจ็บปวดของพ่อของเขามันดังเข้ามายังหูของเด็กน้อย เธอเห็นภาพของพ่อของตัวเองโดนคมดาบเฉือนร่างหลายครั้ง ยิ่งแม่ของเธอวิ่งไปไกลเท่าไหร่ เธอก็เห็นภาพของพ่อเธอน้อยลงเท่านั้น ก่อนที่ท้ายที่สุด เธอจะไม่เห็นอะไรเลย และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่เธอเห็นพ่อของเธอ

=====

เช้าวันที่สามในการติดอยู่พงไพรมาเยือน ผู้เป็นแม่ยังคงจับมือของลูกตัวเองไว้แน่น มันเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายสำหรับทั้งสอง ทุกอย่างที่พวกเธอเคยมีหายไปหมด ตอนนี้เหลือเพียงแค่พวกเธอสองคน พวกเธอไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน นอกจากท้องฟ้าอันกว้างใหญ่กับต้นไม้ที่เรียงรายกันเป็นจำนวนมากแล้ว พวกเธอก็ไม่เห็นอะไรอีกแล้ว เสียงฝีเท้าของทั้งสองที่ย่ำลงบนกิ่งไม้และใบไม้ดังขึ้นเป็นระยะๆ เมื่อไหร่ที่จะได้ออกจากที่นี่ทั้งทีนะ? ทั้งสองสงสัยเหมือนกันว่าเมื่อไหร่กันนะที่จะออกจากสถานที่ไร้ความศิวิไลซ์แห่งนี้และกลับสู่โลกที่พวกเธอรู้จัก

“ฝุ่บ”

เสียงของเด็กน้อยผมสีขาวทรุดล้มลงไปกับพื้น ผู้เป็นแม่รีบพยุงตัวขึ้นมา ผู้เป็นแม่มองใบหน้าของลูกน้อยตัวเอง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า

“ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวเราก็ถึงแล้ว” ผู้เป็นแม่พูดปลอบ
“หนูขอพักหน่อยได้ไหมคะ?” โรซารี่ถาม
“ได้ซิ”

มารดาอุ้มลูกน้องของตัวเองก่อนที่จะนำร่างของเธอพิงกับต้นไม้ใหญ่ แดดส่องลงมาจากฟากฟ้า ลมอ่อนพัดผิวหนังของทั้งสอง ผู้เป็นแม่มองใบหน้าของลูกตัวเองด้วยความเป็นห่วง เธอสังเกตเห็นอย่างนึงและมันทำให้เธอนึกอะไรออกบางอย่าง เธอมองไปยังบุปผาสีขาวเริ่มเหี่ยวเฉาลงตามระยะเวลา เสียงของหญิงชราคนนั้นยังคงดังก้องในหูของเธอ เธอไม่มีทางลืมคำสาปที่หญิงชราคนนั้นร่ายไว้ให้กับโรซารี่ ผู้เป็นแม่ลุกขึ้นก่อนจะมองไปรอบ มองหาเลือดที่จะสามารถนำมาล่อเลี้ยงชีวิตของเด็กน้อยคนนี้ได้ แต่ไม่ว่าเธอจะมองไปทางไหน เธอก็ไม่เห็นอะไรนอกจากต้นไม้ที่ตั้งตรงอยู่มากมาย เธอหันไปมองลูกสาวของตัวเองที่หายใจหนัก เธอหลับตาลงก่อนจะลืมตาขึ้น เธอหันไปยังลูกสาวของตัวเองพร้อมกับย่อตัวลง

“โรซารี่...แม่มีอะไรจะบอกลูก ลูกติดคำสาป”
“คำสาปของลูกนั้นคือลูกจำเป็นต้องดื่มเลือดทุกครั้ง ถ้าหากลูกไม่ได้ดื่มเลือด ดอกไม้ที่อยู่บนดวงตาของเจ้าจะเหี่ยวเฉา”
“และถ้าหากดอกไม้นั้นตาย ชีวิตของลูกก็จับดับสูญเช่นเดียวกัน”
“แม่ล้อเล่นรึเปล่า?” โรซารี่ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

ผู้ถูกถามไม่ได้ตอบด้วยคำพูด แต่สีหน้าของเธอบ่งบอกนั้นว่าเธอไม่ได้พูดเล่น ลูกสาวไม่ได้พูดอะไรนอกจากมองผู้เป็นแม่ มารดาหยิบมีดเล่มนึงออกมา มีดเล่มนี้เป็นมีดที่ทั้งพ่อทั้งแม่เก็บไว้กับตัว มันเป็นมีดไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินหรืออย่างกรณีนี้เป็นต้น เธอมองไปที่มีดก่อนจะให้ลูกสาวของตัวเองจับมือของเธอไว้ เธอเอามือจ่อคอของตัวเอง ผู้เป็นแม่มองดูลูกสาวขอตัวเอง น้ำใสๆนั้นไหลออกมาจากดวงตาของเธอ ลูกสาวพยายามส่ายหน้าเพื่อบ่งบอกว่าเธอไม่อยากจะทำในสิ่งที่แม่ของเธอตนต้องการจะทำ

“แม่รักลูกนะ”
“ฉั๊วะ”

เลือดนั้นพุ่งออกมาจากลำคอของแม่ตัวเอง เลือดนั้นเปื้อนไปทั่วร่างของเด็กน้อย แม่ของเธอล้มลงไปพิงร่างของลูกน้อง โรซารี่พยายามเรียกแม่ของตัวเอง แต่เธอก็ยังไม่ตื่นขึ้น ไม่ซิ เธอไม่มีทางตื่นขึ้นแล้วต่างหาก

=====

โรซารี่ยังคงเดินต่อไป ดวงตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความว่างเปล่า เสื้อผ้าของเธอนั้นเปื้อนไปด้วยเลือด มือของเธอนั้นถือมีดที่เปื้อนเลือดเหมือนกัน หยดน้ำตานั้นไหลออกจากดวงตาของเธอตลอดทาง เธอไม่ได้ยินอะไรเลยนอกจากเสียงของแม่ของตัวเองและเสียงของพ่อตัวเอง แม้แต่เสียงของลมหายใจหรือเสียงฝีเท้าตัวเองที่เหยียบกิ่งไม้ให้หักยังไม่ได้ยิน ภาพของแม่ตัวเองที่ปาดคอตัวเองยังคงติดอยู่ในหัวของเธอ สลับกับภาพของพ่อตัวเองที่ถูกโจรป่าสังหารอย่างโหดเหี้ยม แม้ว่าตอนนี้เท้าทั้งสองก้าวของเธอยังก้าวไปข้างหน้า แต่เธอเองก็ไม่รู้ว่าเธอจะไปไหน คำถามมากมายเกิดขึ้นในหัวของเธอ

“เธอเกิดมาทำไม?”
“ทำไมเรื่องเลวร้ายแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับเธอ?”

พ่อแม่ของโรซารี่เคยบอกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะประสงค์ของเทพฟอร์จูน เรื่องร้ายๆเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะมันต้องการที่จะทำให้ผู้คนแข็งแกร่งขึ้น แต่มันก็ทำให้เกิดโรซารี่เกิดข้อสงสัยขึ้น ทำไมถึงฟอร์จูนต้องทำให้เธอเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ ทำไมถึงต้องฆ่าพ่อแม่ของเธอ ทำไมถึงสาปเธอให้ติดอยู่กับคำสาปที่สุดแสนจะเลวร้ายแบบนี้ มันเหมือนกับว่าฟอร์จูนเกลียดตระกูลเวลลิงตั้นและเพียงต้องการจะกลั่นแกล้งเท่านั้น หรือจริงๆเทพอะไรนั่นมันไม่มีจริง แต่เป็นเพียงนิทานหลอกเด็กเหมือนเทพคนอื่นๆ

เธอสะดุดรากไม้ก่อนที่จะทำให้เธอล้มลงไป แม้มันจะไม่ทำให้เธอเจ็บอะไรมาก แต่เธอก็ไม่อยากลุกขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย เธออยากนอนบนพื้นอันเย็นยะเยือกแห่งนี้ โรซารี่ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอจะลุกขึ้นมาเพื่ออะไร ถ้าเธอลุกขึ้นมา เธอคงต้องเจออะไรที่เลวร้ายกว่านี้แน่ๆ เธออยากจะหลับตาลงนอนอยู่บนพื้นหญ้า หรือไม่ก็ตายๆไปเลยจะได้ไม่ต้องเจอเรื่องพวกนี้อีก ในขณะที่เธอนอนอยู่บนพื้นนั้นเธอก็ได้ยินเสียงของฝีเท้าใครบางคนตรงมาทางเธอ เธอหันมามอง ก่อนจะเห็นชายคนนึงยืนมองเธอ เขาเป็นชายผมสีทรายร่างสูงในชุดสีดำอันสง่างาม
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Shining in the Darkness : EP 22
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Shining in the Darkness : EP 7
» Shining in the Darkness : EP 24
» Shining in the Darkness : EP 8
» Shining in the Darkness : EP 25
» Shining in the Darkness : EP 3

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: