Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Shining in the Darkness : EP 24

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Shining in the Darkness : EP 24 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Shining in the Darkness : EP 24   Shining in the Darkness : EP 24 EmptySun Mar 06, 2016 3:52 pm

ชายผมสีทรายกับเด็กน้อยผมสีขาวนั่งอยู่บนเก้าอี้ ทั้งสองหันหน้าเข้าหากัน บนโต๊ะนั้นมีซุบกับขนมปังวางอยู่ ชายผมยาวฉีกขนมปังก่อนจะเอาขนมปังจุ่มลงไปซุบก่อนจะนำขนมปังส่วนที่ฉีกออกเข้าปาก เช่นเดียวกันกับหญิงผมสีขาวที่ทำเช่นเดียวกันกับเจ้าของบ้านหลังนี้ แสงแดดยามเช้านั้นส่องผ่านกระจกเข้ามา ทุกอย่างนั้นดูปกติดี เว้นเสียแต่อย่างเดียวคือมันเป็นมื้อเช้าที่เต็มไปด้วยความเงียบงัน โดยปกติแล้วในโต๊ะอาหารของทั้งสองนั้นจะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงพูดคุยของทั้งสอง เรื่องราวๆต่างที่ถูกแลกเปลี่ยนกันจากปากของทั้งสอง แต่หากทว่าวันนี้ไม่มีสิ่งเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย โรซารี่เคี้ยวขนมปังของเธอ ส่วนชายผมสีทรายได้แต่นั่งมองเธอ

“เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า? วันนี้ดูไม่ร่าเริงเลยนะ” โบมัสเอ่ยปากถามโรซารี่ที่นั่งอยู่

เธอไม่ได้พูดอะไร โบมัสฉีกเนื้อขนมปังก่อนจะจุ่มเข้ากับซุปและเอาเข้าปาก เขายังไม่คงละสายตาออกจากเธอ หญิงผมสีขาวมองเข้าไปยังดวงตาของโบมัสเช่นเดียวกัน ดูเหมือนโบมัสจะไม่ยอมไปไหนจนกว่าเขาจะได้รู้คำตอบของในสิ่งที่เขาถาม

“ท่านโบมัส...ท่านจะรู้สึกยังไง ถ้าหากคนที่ท่านคิดว่าเป็นอย่างนึงมาตลอดกลับเป็นอีกอย่างนึง” โรซารี่เอ่ยปากถาม
“ทำไมเจ้าถามแบบนั้นล่ะ?” โบมัสตอบด้วยคำถาม
“ข้าอ่านนิยายเรื่องนึงของท่านน่ะ และข้าก็อยากรู้ว่าตัวละครหลักควรจะรู้สึกอย่างไร”

โบมัสฟังแล้วก็เอามือจับคางของตัวเอง สีหน้าของเขานั้นครุ่นคิดกับคำถามของสาวน้อยคนนี้

“นั่นซินะ ต้องถามก่อนว่า สิ่งที่เขาทำนั้นมันเป็นเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดี”
“ถ้าหากข้าเป็นโจรและข้าหลอกเจ้าว่าข้าเป็นพ่อค้า และหลอกเอาเงินเจ้าไป เช่นนั้น ข้าคงโกรธ”
“แต่ถ้าหากข้าเป็นอัศวิน แต่ปลอมเป็นโจร เพื่อจะจับโจรล่ะ เช่นนั้นข้าคงยอมๆได้” โบมัสตอบคำถามของเด็กน้อย
“แล้ว มันมาจากหนังสือเล่มไหนล่ะ? ทำไมข้าไม่เคยอ่านเลย”

โรซารี่ไม่ได้พูดอะไร แต่เธอลวบช้อนของตัวเองก่อนจะเดินลงจากโต๊ะอาหารตัวเองพร้อมกับกลับเข้าไปในห้องของตัวเอง เสียงประตูที่ถูกปิดดังขึ้น มันทำให้โบมัสได้แต่ฉงนว่าเกิดอะไรขึ้น

=====

“โดเมนิก!” โรซารี่ตะโกนขึ้นก่อนจะมองเข้าไปยังใบหน้าของโดเมนิก

เลือดนั้นไหลออกมาจากปากแผลของชายผมสีขาว โดเมนิกดึงร่างของตัวเองออกจากคมดาบนั่น ร่างของกระทบเข้ากับพื้นหิน โรซารี่ที่ยังคงตื่นกลัวอยู่นั้นรีบเอาผ้าคลุมของตัวเองก่อนจะปิดปากแผลของชายหนุ่มผมสีขาวคนนี้ เธอรวบแรงอันน้อยนิดของเธอผูกผ้าเพื่อไม่ให้ชายหนุ่มคนนี้เสียเลือดมากกว่านี้ เธอหันไปมองกองเลือดที่นองอยู่บนพื้น ก่อนจะหันไปมองโดเมนิกที่เริ่มหายใจหนักขึ้น เธอรีบก้มตัวลงก่อนจะดื่มเลือด เมื่อเธอเริ่มดื่มเลือด เธอก็รู้สึกว่าพละกำลังที่หายไปเริ่มกลับมาทีละน้อย ก่อนที่ในที่สุด เธอก็รู้สึกแข็งแรงอีกครั้ง เธอรีบตรงไปยังโดเมนิกที่ยังคงนอนอยู่บนพื้น

“ทำไมเจ้าต้องทำแบบนี้?” โรซารี่ถามขึ้น
“เจ้าเป็นคนสำคัญของข้า...และข้าก็ไม่อยากเสียเจ้าไป” โดเมนิกตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

รอยยิ้มนี้มันทำให้โรซารีประทุความโกรธออกมาก่อนจะตะโกนเข้าใส่โดเมนิกที่นอนอยู่บนพื้นหิน

“เจ้าทึ่ม!! แล้วเจ้าแคร์ความรู้สึกของข้ารึเปล่า!!”
“เพราะเจ้า...เจ้าก็เป็นคนสำคัญของข้าเหมือนกัน”

หยดน้ำตานั้นหยดลงไปบนร่างของโดเมนิก ดวงตาของโดเมนิกเบิกโพลนขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่โดเมนิกเห็นน้ำตาของเธอ โรซารี่เอามือปาดไปยังใต้ดวงตาของตัวเอง ก่อนที่เธอจะสัมผัสได้ถึงน้ำตาของตน ดูเหมือนเธอพึ่งรู้ตัวว่าเธอปล่อยหยดน้ำแห่งความเศร้าโศกออกมาจากดวงตาที่มีนัยน์ตาสีเงินของเธอ

“เจ้าต้องไม่ตาย...เข้าใจนะ” โรซารี่ออกคำสั่งกับชายที่นอนอ่อนแรงอยู่ที่พื้น

โดเมนิกพยักหน้า โรซารี่หันกลับไปก่อนจะมองไปรอบๆ เธอต้องหาทางออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เวลานั้นเหลือไม่มากแล้ว ยิ่งนานเท่าไหร่ ชีวิตของเด็กหนุ่มผมขาวนี้ก็ใกล้ดับสูญมากเท่านั้น เธอพยายามคิด เธอเค้นความคิดของเธอออกมา นี่คงเป็นครั้งแรกที่เธอใช้ความคิดมากขนาดนี้ แต่ด้วยเสียงของน้ำตกที่ตกลงมาจากที่สูงนั้นทำให้สมาธิที่เธอรวบรวมอยู่นั้นแตกกระเจิง หญิงผมสีขาวคนนี้หันกลับไปมองทางน้ำตกก่อนจะคิดว่าถ้าหากไม่มีเสียงอันน่ารำคาญนี้ เธอคงคิดอะไรออกแน่ๆ เธอแหงนหน้าขึ้นไป เมื่อเธอมองขึ้นไปยังเพดานอันมืดมิดนั้น มันก็ทำให้อะไรบางอย่างนั้นจุดประกายในหัวของเธอขึ้นมา เธอก้มตัวลงไปก่อนจะมองหน้าของโดเมนิกที่นอนอยู่บนพื้น

“ข้าจะพาพวกเราออกจากที่นี่เดี๋ยวนี้แหละ”

=====

มันเป็นค่ำคืนที่มืดมิด เธอลุกขึ้นมาจากเตียงของเธอ เธอเดินอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียง เธอใช้มืออันเรียวบางของเธอแง้มประตูไม้ มันเป็นเพียงเปิดประตูที่เบาบางและยากแก่การได้ยิน เมื่อประตูถูกเปิดออก เธอก็เห็นจานสเต๊กของเธอและโบมัสที่กินเมื่อเย็นที่ผ่านมา ปกติแล้วโบมัสมักจะไม่ค่อยเก็บจานจนถึงเช้า ทั้งมีดทั้งส้อมมันยังอยู่ที่เดิมของมัน บนจานนั้นยังคงเต็มไปด้วยคราบอาหารเหมือนเดิม เธอรู้ดีว่าโบมัสนั้นมีนิสัยยังไง ในช่วงเวลาหลายเดือนนี้ทำให้รู้จักกับโบมัส เธอได้เรียนรู้อะไรๆหลาย เธอได้ว่าโลกนี้มันกว้างเช่นใด เธอได้รู้จักกับความอบอุ่นอีกครั้ง และเธอก็ได้รู้ว่าชายคนนี้ไม่ใช่โบมัสแต่เป็นอเล็กซิมัส

โรซารี่เห็นชายผมสีทรายนอนฟุบอยู่บนโต๊ะ เธอเห็นแบบนี้ก็ย่องไปก่อนจะหยิบเอามีดที่วางไว้อยู่บนโต๊ะขึ้นมา เธอย่องไปช้าๆ ไม่นานนักเธอก็ยืนอยู่ใกล้กับจอมมารผู้หลับใหลอยู่บนโต๊ะของเขา โรซารี่ง้างมีดขึ้นมา แค่ปักมีดนี้ลงบนคอของจอมมารผู้นี้และดื่มเลือดที่ไหลออกมา แค่นี้เธอก็จะหลุดพ้นจากคำสาปนี้เสียที งานง่ายแค่ปักมีดลงไป งานง่ายๆแค่ดื่มเลือดของชายผมสีบลอนด์ผู้นี้ แต่มันจะง่ายเพียงใด เธอก็ได้แต่ยืนง้างไว้เฉยๆ ภาพแห่งความสุข เสียงหัวเราะที่ออกมาจากปากของเธอดังขึ้นให้เธอได้ยินอยู่ตลอด แม้เธอจะได้เสียงกระซิบที่พยายามให้เธอฆ่าชายคนนี้ แต่เสียงนั้นมันเบาบางหากเทียบกับวินาทีแห่งความสุขของเธอ

“ข้าทำไม่ได้” เธอบอกกับตัวเอง

ก่อนที่เธอจะลดมือลงไป ความละอายใจนั้นเข้ามาแทนที่ แม้ชายคนนี้จะดีกับเธอขนาดไหน แต่สิ่งที่เธอต้องการนั้นคือการปลิดชีพชายคนนี้ มันเป็นเรื่องที่เธอรับไม่ได้ เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นต่ำมาก เธอนั้นไม่คู่ควรอยู่กับชายที่แสนดีคนนี้ มันทำให้เธอนึกสงสัยขึ้นมาว่าท้ายจริงแล้ว ไอ้คำว่าจอมมารนั้นเป็นเพียงสิ่งที่ผู้คนทั่วไปสร้างขึ้นมา เพื่อจะขนานนามคนที่แตกแยกออกไปจากเราหรือเปล่า? บางทีคนที่เป็นจอมมารนั้นอาจจะไม่ใช่ชายที่ชื่อว่า “อเล็กซิมัส” แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่า “มนุษย์” มากกว่าที่สมควรถูกเรียกว่า “มาร”

เมื่ออรุณนั้นมาถึง อเล็กซิมัสตื่นขึ้นมา เขาก็ไม่เห็นโรซารี่อีกแล้ว เธอหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเด็กสาวคนนี้จึงหายไป? เธอออกไปจากปราสาทแห่งนี้ได้อย่างไร? ไม่มีใครรู้ อเล็กซิมัสพยายามจะตามหาเธอ เขาเดินดูในป่าที่เขาเจอเธอบ้าง หรือตามหาเธอที่เมืองใกล้ๆ แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามเท่าใด เขาก็ไม่สามารถหาตัวเธอได้พบ ทุกวันนี้ชื่อที่ชื่อว่าโรซารี่นั้นยังคงติดอยู่ในหัวของอเล็กซิมัสและหากเป็นไปได้ เขาก็อยากจะพบกับเธออีกซักครั้ง

=====

โรซารี่ที่มีโดเมนิกผูกอยู่ด้วยปีนผาอย่างระมัดระวัง ร่างของทั้งสองถูกผูกด้วยผ้าคลุมของโรซารี่ เสียงของน้ำตกที่ตกจะที่สูงดังขึ้นอยู่ต่อเนื่อง เธอหันมองลงไปข้างล่าง มันเป็นพื้นที่ค่อนข้างสูงพอสมควร ดูเหมือนดวงของทั้งสองคงมากไม่น้อยที่ตกลงไปในน้ำ ถ้าหากตกลงไปบนพื้นล่ะก็ ร่างของทั้งสองคงแหลกไปแล้วแน่นอน เธอยังคงปีนอยู่เรื่อยๆ ความเหนื่อยล้านั้นเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เธอเริ่มรู้สึกถึงแผ่นหลังที่หนักอึ้ง เธอไม่เคยรู้สึกว่าโดเมนิกมีน้ำหนักมากขนาดนี้มาก่อน เธอมองขึ้นไป มันยังเหลืออีกเยอะพอสมควรกว่าที่เธอจะกลับไปสู่จุดที่เธอตกลงมา

“ถ้าหากท่านโรซารี่คิดว่าหนัก...ปล่อยข้าลงไปเลยก็ได้นะ” โดเมนิกพูด
“ข้าไม่มีทางทำแบบนั้นเป็นอันขาด” โรซารี่พูดพร้อมกับก้าวเท้าขึ้นไปต่อ

เธอยังคงปีนขึ้นไป สูงขึ้น สูงขึ้น เธอจับผา แต่หากทว่าบริเวณที่เธอจับนั้นมันหักออก แต่โชคยังดี เธอยังใช้มือตัวเองจับอีกผาได้ทัน โรซารี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอต้องระมัดระวังมากกว่านี้เสียแล้ว เธอขึ้นไปอีก ในช่วงที่เธอขึ้นๆไปนั้น ความทรงจำของเธอก็ไหลเข้าเธอไม่หยุด ช่วงชีวิตที่ผ่านมา มันทำให้เธอนึกถึงแต่ความสูญเสีย เธอสูญเสียพ่อแม่ของเธอ เธอสูญเสียชีวิตอันสุดแสนจะสุขสบายของเธอ เธอสูญเสียชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข เธอสูญเสียชายที่ดูแลเธอเหมือนลูกสาวแท้ๆ โรซารี่สูญเสียมามาก เธอเริ่มชินชากับความสูญเสียแล้ว แต่ครั้งนี้เธอจะไม่สูญเสียโดเมนิก

ในที่สุดเธอก็มาถึงจุดที่เธอตกลงไป เธอเห็นทั้งบันไดไม้และเชือกต่างกองอยู่ตรงนี้ ดูเหมือนสหายของเธอพยายามจะทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยทั้งสอง โรซารี่ยังได้ยินเสียงลมหายใจของโดเมนิกที่หายใจหนักอึ้ง เธอพยายามก้าวเท้าและเดินต่อไป แต่ดูเหมือนร่างกายของเธอนั้นเริ่มไม่เชื่อฟังในสิ่งที่เธอต้องการแล้ว “อีกนิดนึง อีกนิดนึง” เธอบอกกับตัวเองก่อนจะก้าวไปยังแสงสว่างที่อยู่ตรงหน้า หากทว่าเธอทรุดลงไป ก่อนที่เธอจะลงไปนอนกับพื้น โดเมนิกเองก็หันมามองเธอ เขาอยากจะเรียกชื่อเธอ แต่ชายหนุ่มเองก็ทำไม่ได้ ร่างกายของเขาเองก็อ่อนแรงเช่นกับหญิงสาวคนนี้

“โรซารี่!! โดเมนิก!!” เสียงของมาร์คดังขึ้น

โรซารี่แหงนหน้าขึ้นมาก่อนจะเห็นมาร์คกับไคแรนต้ายืนอยู่พร้อมกับอุปกรณ์อีกชิ้น เธอไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่ตอนนี้ภาพทุกอย่างนั้นมัวจนกลายเป็นความมืดไปในที่สุด

=====

โดเมนิกสะดุ้งตื่นขึ้นมา เขาเห็นใบหน้าของคนคุ้นเคยมากมาย มันคือสหายของเขา โดโรธีโผกอดเขาแน่น ก่อนจะร้องไห้ด้วยความยินดี โดเมนิกได้แต่ยิ้มให้ เขามองไปที่คนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นฟาร์เรลล์ , มาร์ค หรือแม้กระทั้งไคแรนต้าก็ตาม แต่หากทว่ามีคนนึงนั้นหายไป นั่นคือโรซารี่ เขาเริ่มกวาดสายไปรอบๆ เขาหาหญิงผมขาวคนนี้ หญิงที่แบกร่างอันบอบบางและอ่อนแรงออกจากหลุมที่ลึกและมืดมน

“ท่านโรซารี่ล่ะ?” โดเมนิกถามด้วยสายตาหวาดกลัว
“เจ้าเรียกข้าหรือ?”

หญิงผมขาวเดินออกมาจากหลังพงไพร โดเมนิกพุ่งไปก่อนจะกอดร่างของโรซารี่แน่น ใบหน้าของโรซารี่ตกใจเล็กน้อย แต่เธอก็ยิ้มให้ก่อนจะลูบหัวของโดเมนิกด้วยความอ่อนโยน ราวกับพี่สาวที่สวมกอดร่างของน้องชายไว้ด้วยความรัก โดโรธีลุกขึ้นมาก่อนจะดึงโดเมนิกออกมาก่อนจะมองหน้าของโรซารี่ด้วยสีหน้าหึงหวง

“จะว่าไป...โดโรธี เจ้าบอกว่าโดเมนิกกับโรซารี่ตกลงไปเพราะแผ่นดินไหวงั้นหรือ?”
“ใช่ แล้วเจ้าค่ะ” โดโรธีตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

ฟาร์เรลล์มองหน้าของมาร์คกับไคแรนต้าที่จ้องหน้าของชายผมน้ำตาลคนนี้เหมือนกัน ทั้งสามพยักหน้ากันก่อนจะกดร่างของโดโรธีลงไปบนพื้น สีหน้าของโดเมนิกนั้นเต็มไปด้วยความสับสน แต่โรซารี่นั้นสีหน้ายังนิ่งเฉย โดเมนิกหันไปทางไคแรนต้าที่ยืนมองหน้าของโดโรธีที่พยายามดิ้นจากไคแรนต้าและมาร์ค ปากของเธอตะโกน “พวกเจ้าทำอะไร?” อยู่เรื่อยๆ แต่ทั้งสามก็ไม่ตอบอะไร

“ข้าฟังเรื่องการเดินทางจากมาร์คมาหมดแล้ว...ดูเหมือนฝั่งของผู้กล้าจะนำพวกเจ้าก้าวนึงตลอดเลยว่าไหม?”
“แถมชาลตั้นก็โดนฆ่าตายในฐานะคนทรยศอีก อย่างที่ข้าพูดข้าไม่เชื่อว่าลูกน้องของชาลตั้นจะขายหัวหน้าตัวเองทิ้ง”
“ข้าว่ามันคงต้องมีใครซักคนคาบข่าวไปบอกแน่นอน” ฟาร์เรลล์พูด

“ท่านฟาร์เรลล์กำลังบอกว่าดิชั้นเป็นคนทรยศงั้นหรือคะ?!” โดโรธีตะโกนขึ้น
“อาจจะมีใครซักคนติดตามพวกเราอยู่ก็ได้นี่เจ้าคะ?” หญิงหูจิ้งจอกพูดขึ้นกับชายผมน้ำตาลในชุดสีทมิฬ
“ถ้าเป็นเช่นนั้นเจ้าก็คงจะได้กลิ่นแล้วไม่ใช่หรือ? แล้วถ้ามีจริงๆ ทำไมเจ้าไม่บอกพวกข้าล่ะ?” ฟาร์เรลล์ตั้งคำถามกลับ

ประโยคนี้ทำให้โดโรธีเงียบลงไป

“จริงๆข้าก็คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญนั่นแหละ...แต่ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มันยิ่งทำให้ข้าคิดว่า ทุกอย่างมันถูกจัดฉากไว้หมดแล้ว”
“เพราะอะไรรู้ไหม? ที่นี่ไม่มีทางมีแผ่นดินไหว ด้วยภูมิภาคต่างๆแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีแผ่นดินไหว”
“ดังนั้นแผ่นดินไหวนี้คงเป็นเวทย์มนต์แน่นอน แล้วถามว่าในนี้มีใครใช้เวทย์มนต์ได้...นอกจากเจ้าอีกล่ะ?” ไคแรนต้าตั้งคำถาม

“ไม่จริงใช่ไหม...ไม่จริงใช่ไหม โดโรธี”
“บอกข้าได้ไหมว่าสิ่งที่ท่านฟาร์เรลล์พูดมันไม่จริง” โดเมนิกหันไปมองหญิงหูจิ้งจอกที่ไม่ได้พูดอะไร
“ฮ่าๆ” เสียงหัวเราะประทุขึ้นมาจากหญิงหูสุนัขจิ้งจอก
“ใช่...ทั้งหมดนี่เป็นฝีมือข้าเอง” โดโรธีพูดด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป

มันไม่ใช่แววตาของหญิงที่ใสซื่อแต่เป็นแววตาของนางมารต่างหาก
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Shining in the Darkness : EP 24
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Shining in the Darkness : EP 2
» Shining in the Darkness : EP 19
» Shining in the Darkness : EP 4
» Shining in the Darkness : EP 20
» Shining in the Darkness : EP 5

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: