ชายผมสีทรายเดินท่ามกลางซากปรักหักพัง รอบๆนั้นเขาเต็มไปด้วยฝุ่นที่กระจายทั่วพื้น ท้องฟ้านั้นถูกปกคลุมไปด้วยควัน บลูจัสติสแหงนหน้ามองขึ้นฟ้า เขาไม่เห็นอะไรเลยนอกจากกลุ่มควันที่รวมตัวกันอย่างหนาแน่น เสียงกระสุนปืดและเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะๆ เสียงนั้นเบาบาง ดูเหมือนมันจะไกลออกไปจากจุดที่เขายืนอยู่พอสมควร แต่ถึงมันจะไกลแค่ไหนเขาก็ได้ยินเสียงมันอยู่ดี บลูจัสติสกวาดสายตาไปรอบๆ เขาหาคู่ต่อสู้ของเขา คู่ต่อสู้ของเขานั้นมีสามคนด้วยกันดังนั้นแล้วการหาคู่ต่อสู้ซักคน คงไม่ใช่เรื่องยากอะไรนัก แต่ถึงจะหาคู่ต่อสู้ไม่ยากแต่การที่ต้องรับมือทั้งสามคนพร้อมๆกันนั้นเป็นเรื่องยากแน่นอน
บลูจัสติสยังคงก้าวเท้าอย่างช้าๆ เพื่อไม่ให้เกิดเสียง ถ้าหากมีเสียงขึ้นล่ะก็ โอกาสที่เขาจะถูกพบตัวและทำให้เขาเสียเปรียบก็เยอะขึ้น เขาหลบหลังซากชั่วคราวก่อนจะชะโงกหน้าขึ้นไป เขามองไปรอบๆ เมื่อเขาไม่เห็นอะไรแล้วเขาก็เคลื่อนตัวออกจากที่กำบัง แต่เมื่อเขาเคลื่อนนั้นเขาก็รู้สึกว่าข้อเท้าของเขาสัมผัสกับอะไร ขอเท้าของเขานั้นสัมผัสกับเชือก เชือกนั้นขาดออกสองท่อน ก่อนที่มันจะทำให้มีเสียงดังขึ้นมา เขาหันไปก่อนจะเห็นกล่องจากเครนตกลงมา ชายผมสีทรายรีบกลิ้งหลบทันที แรงกระแทกนั้นทำให้กล่องไม้นั้นแหลกสลาย ถ้าหากกล่องนี้ล่วงหล่นใส่หัวของเขา ไม่อยากจะนึกภาพเลยว่าร่างของเขาจะเป็นยังไง
“ดูเหมือนทริคสเตอร์มาถึงตรงนี้แล้ว...ถ้างั้นหมอนั่นคงจะอยู่แถวๆนี้รึเปล่า?” ชายผมสีทรายในชุดสีน้ำเงินจับคางของตัวเองก่อนจะคิด
“กึก” เสียงของก้อนหินกลิ้งดังขึ้น
บลูจัสติสหันไปตามเสียง เสียงเคลื่อนไหวของหินนั้นทำให้บลูจัสติสสามารถตีความได้ว่าอาจจะยังมีใครบางอยู่แถวนี้ ถ้าหากดูจากกับดักที่วางไว้ ต้นเสียงนั้นน่าจะมาจากทริคสเตอร์ เขามองหาคู่ต่อสู้ของเขารอบๆ ถ้าหากจะจัดการกับใคร ก็คงต้องเลือกทริคสเตอร์ก่อน เพราะในกลุ่มเขาเป็นคนที่อ่อนแอที่สุด เขามองไปรอบๆ หาคู่ต่อสู้นักมายากลของตัวเขา แต่ไม่ว่าหายังไง เขาก็หาไม่เจอ ชายผมสีทรายยังคงกวาดตามองไปรอบๆก่อนจะเห็นตึกสูงตั้งตระหง่านอยู่ สภาพของมันนั้นทรุดโทรม แต่แม้มันจะทรุดโทรมยังไง มันก็ยังคงตั้งอยู่ในที่ๆของมัน
“ลองดูก็ได้” บลูจัสติสพูดกับตัวเอง
เขาเดินเข้าไปในตึกนั้น สภาพภายในนั้นว่างเปล่า ไม่เหลืออะไรเลย สีที่อยู่บนผนังนั้นหายไปกลายเป็นสีขาวดำ พื้นที่เขาเหยียบอยู่ก็เป็นเพียงแต่ฝืนดินที่เย็นยะเยือก บลูจัสติสเดินขึ้นบันไดอย่างช้าๆและระมัดระวัง เขาขึ้นไปเรื่อยๆ มันสูงขึ้นเรื่อยๆ ลมนั้นเริ่มเย็นขึ้นตามกฎทางวิทยาศาสตร์ โชคดีที่ชุดของเขานั้นค่อนข้างหนา จึงทำให้ทนอากาศได้ค่อนข้างดี เขาขึ้นมาถึงดาดฟ้าก่อนที่ว่างเปล่า เขาขึ้นมาแล้วเขาก็ไม่เห็นอะไรเลยนอกจากกลุ่มควันและสภาพเมืองที่ถูกทำลายจนย่อยยับ เขามองไปข้างบนก่อนจะเห็นเวลาที่ยังนับลงไปเรื่อยๆ เวลานั้นยั้งเหลืออีกมาก
“ซ่า” ผมนั้นเริ่มโปรยลงมาช้าๆ
เพราะควันสีดำที่ปกคลุมท้องฟ้าจึงทำให้บลูจัสติสแยกไม่ออกว่าฝนจะตกหรืออะไร แต่ในโลกนี้มันก็ไม่มีปัญหาหรอกว่าสภาพอากาศจะเป็นยังไง ต่อให้เขายืนตากฝนเกือบสิบชั่วโมงเขาก็ไม่มีทางเป็นหวัด ฝนตกลงมาห่าใหญ่มันทำให้ดาดฟ้านั้นชุ่มไปด้วยน้ำ บลูจัสติสเดินช้าๆ เพื่อกลับลงไปข้างล่าง เขาไม่กล้าเดินเร็วเพราะเขากลัวลื่น แต่ไม่ทันที่เขาจะได้ลงไป ก็มีสายฟ้าฟาดลงไปในตรงที่เขายืนอยู่ เขารีบกลิ้งหลบ สายฟ้านั้นฟาดลงใส่เพดานเต็มๆ เขามองหน้าขึ้นไปก่อนจะเห็น อีเล็กซ์ทริก้าที่ลอยอยู่ในอากาศ มือของเธอนั้นมีสายฟ้าอยู่ด้วย เธอออกแรงก่อนจะเขวี้ยงตรงมายังบลูจัสติสอีกครั้ง ชายผมสีทรายรีบกระโดดลงไปยังชั้นล่าง เขาลุกขึ้นมาก่อนจะเห็นอีเล็กซ์ทริก้าที่ชักดาบออกมาก่อนจะเริ่มบินตรงมายังเขา เธอแกว่งดาบของเธอ บลูจัสติสก้มหลบได้ก่อนจะกระโดดใช้เท้าจะเตะใส่หน้าของหญิงผมสีขาว
แต่ไม่ทันที่ขาของเขาจะกระแทกหน้าของเธอ ข้อเท้าของเขาก็ถูกพันด้วยเชือกก่อนที่มันจะดึงเขาออกห่างจากตัวของอีเล็กซ์ทริก้า หน้าของเขาฟาดกับพื้นคอนกรีต เขาหันไปก่อนจะทริคสเตอร์เป็นคนถือเชือกอยู่ เขาหันกลับไปก่อนจะเห็นหญิงผมสีขาวง้างดาบเตรียมเสียบร่างของเขา บลูจัสติสเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะเขวี้ยงวัตถุทรงกลมไปยังอีเล็กซ์ทริก้า เธอรู้ว่ามันคืออะไรก่อนจะกระโดดถอยออกไปสองสามก้าว
“ใช้ไม่ได้ผลกับชั้นหรอกน่า ชั้นรู้ว่ามันคืออะไร” อีเล็กซ์ทริก้าพูดกับบลูจัสติสที่นอนอยู่บนพื้นคอนกรีต
“หรอ” บลูจัสติสพูดสั้นๆ
มันระเบิดออก มันไม่ได้ปล่อยควันสีฟ้าเหมือนทุกเคย มันกลายเป็นระเบิดเสียงที่ทำให้อีเล็กซ์ทริก้าต้องอุดหูของตัวเอง เช่นเดียวกันกับชายที่สวมหมวกปานามา บลูจัสติสรีบอาศัยจังหวะนี้ก่อนจะออกหมัดชกใส่หน้าของทริคสเตอร์ก่อนจะจัดการกระโดดถีบอีกครั้ง เพื่อผลักร่างของทริคสเตอร์ให้ตกจากตึก ด้วยความสูงระดับนี้คงจะจัดการคู่ต่อสู้ของเขาได้คนนึง แต่หากทว่าไม่ทันที่ร่างของเขาหล่นถึงพื้น มันก็มีอะไรคว้าร่างของเขาก่อนจะทำให้เขากลับมายืนที่เดิมได้ บลูจัสติสมองด้วยสีหน้าตกใจ เขาหันไปก่อนจะเห็นหญิงทรงโตในชุดหนังสีดำยืนอยู่ เธอลอยอยู่ก่อนจะส่งยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ยั่วยวน
“ลืมไปเลยแฮะ ว่ายังมีเธออยู่ด้วย” บลูจัสติสพูดกับอีวาที่อยู่ตรงข้ามกับเขา
“งั้นหรอ แย่จังนะ...ถ้างั้นชั้นจะทำให้เธอไม่ลืมชั้นอีกต่อไป” เธอเริ่มร่ายเวทย์
บลูจัสติสตรงไปหาเธอเพื่อจะขัดขวางเธอ แต่ไม่ทันที่เขาจะเข้าถึง เขาก็เห็นกระสุนปืนเชี่ยวหน้าตัวเขา บลูจัสติสหันกลับไปก่อนจะเห็นอีเล็กซ์ทริก้าถือปืนสีขาวของเธอ เมื่อบลูจัสติสรู้ตัวอีกทีเขาก็ถูกกำปั้นหินชกเข้าใส่กลางหน้าท้องเต็ม แรงกระแทกนั้นมันสร้างความเจ็บปวดมหาศาลให้กับร่างกายของบลูจัสติส เขาลงไปนอนกองกับพื้นคอนกรีตที่เย็นยะเยือก เลือดนั้นไหลออกจากปากของบลูจัสติส เขากุมท้องลุกขึ้นมาก่อนจะถูกสายฟ้าช็อตใส่หลังอีกครั้งนึง ด้วยสภาพที่เปียกชุ่มของเขานั้น ทำให้ตัวเขาเป็นตัวล่อกระแสไฟฟ้าชั้นดี ชายผมสีทรายร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของเขานั้นอ่อนแรง เขาพยายามลุกขึ้นมาอีกครั้ง แต่เมื่อเขาลุกขึ้นมาเขาก็ถูกหญิงผมสีดำเหยียบด้วยบู้ทส้นสูงสีดำของเธอ เธอมองก่อนจะยิ้มให้กับบลูจัสติส
“ยอมแล้วรึยังจ๊ะ?” เธอเอ่ยปากถาม
“ไม่มีทางหรอกน่า ไม่มีทาง” บลูจัสติสพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
เธอถอนหายใจก่อนจะร่ายมนต์อีกครั้ง เธอใช้กำปั้นหินนั้นยกบลูจัสติสก่อนจะกำบลูจัสติสไว้แน่น ชายในชุดสีน้ำเงินพยายามดิ้น
“อีวา เลิกเล่นได้แล้วจัดการให้จบๆซักทีเถอะ” อีเล็กซ์ทริก้าออกปากสั่ง
“ก็ได้ ก็ได้ ถ้างั้นก็...” อีวาเตรียมจะโยนบลูจัสติสลงไปจากตึก
แต่แล้วคลื่นความถี่สูงก็ระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง อีวาอุดหู เช่นเดียวกันกับอีเล็กซ์ทริก้าและทริคสเตอร์ ทั้งสามมองหาต้นตอของคลื่นความสูงนี้ ก่อนทั้งสามเห็นวัตถุทรงกลมตกอยู่บนพื้น เมื่อมันหยุดทำงานทั้งสามก็มองหารอบๆ แต่เมื่อรู้ตัวอีกทีเหยื่อของพวกเขาก็หนีหายไปแล้ว
=====
ณ ห้องของชมรม การต่อสู้ยังดำเนินต่อไป สีหน้าของคัทสึนั้นเคร่งเครียด เขากัดริมฝีปากของตัวเอง ใกล้ๆกับคัทสึนั้นมีหญิงผมสีดำยาวนั่งใกล้ๆอยู่ด้วย สีหน้าของเธอนั้นตึงเครียดพอๆกับคัทสึ เธอสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะลุกขึ้นมาจากเก้าอี้พร้อมกับเปล่งเสียงออกมาจากปอดของเธอ
“ขอเวลานอกได้ไหมคะ?”
ทุกสายตาหยุดมายังเธอ เช่นเดียวกันกับคัทสึที่มองมายังเธอ
“ได้ซิ” นิชิมูระพูดกับเธอ
“ขอบคุณค่ะ” ซากิโค้งให้
เธอจับแขนเสื้อของคัทสึก่อนจะลากออกไปจากห้อง เมื่อทั้งคู่รู้ตัวอีกที ทั้งสองก็ยืนอยู่หน้าห้องของชมรมแล้ว ใบหน้าของคัทสึนั้นเต็มไปด้วยความสับสน
“ฟังให้ดีนะคัทสึ...ชั้นมีวิธีที่จะชนะเกมนี้”
คัทสึทำหน้างุนงงกับสิ่งที่เธอพูด
“ไม่ต้องสงสัยชั้น...เชื่อชั้นและทำตามที่ชั้นพูดก็พอ” ซากิพูดด้วยใบหน้าจริงจัง
“โอเค ว่ามา”
=====
บลูจัสติสนั่งหลบอยู่หลังที่กำบัง เขาหายใจแรงด้วยความเหนื่อยล้า ร่างของเขานั้นบอบช้ำจากการรับการโจมตีต่างๆนาๆหลายครั้ง เขาชะเง้อหน้าออกไปนอกที่กำบัง เขายังไม่เห็นใครมา ดูเหมือนศัตรูของเขายังหาตัวเขานั้นไม่เจอ เขารวบรวมแรงก่อนจะลุกขึ้นมา เขาเดินกลับเข้ามายังสถานต่อสู้อีกครั้ง เขาเดินอย่างช้าๆและระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดเสียงขึ้น เพื่อไม่ให้คู่ต่อสู้ของเขารู้ตำแหน่งของเขา เขาเดินอย่างช้าพลางแหงนหน้ามอง เขารีบหลบเพราะเขาเห็นอีเล็กซ์ทริก้าที่บืนอยู่ บลูจัสติสหยิบอุปกรณ์ออกมาจากเข็มขัดของเขา มันคือกระบองสีเงิน เขาสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะวิ่งตรงออกไปยังอีเล็กซ์ทริก้า
เธอหันมาด้วยความตกใจก่อนจะเห็นบลูจัสติสกระโดดมาใช้กระบองฟาดใส่หน้าของเธอเต็มๆ แรงกระแทกนั้นทำให้เธอเสียสมดุลก่อนที่เธอจะล่วงลงมาจากฟ้า หลังของเธอนั้นฟาดกับพื้นดินอย่างแรง ดาบของเธอนั้นหลุดออกก่อนจะกระเด็นออกไปจากมือของเธอ มันไหลก่อนจะห่างเกินเอื้อมมือของเธอ สายตาของเธอพร่ามัวจากแรงกระแทก เมื่อเธอได้สติเธอก็เห็นบลูจัสติสยืนอยู่เหนือร่างของเธอพร้อมกับกระบองในมือ อีเล็กซ์ทริก้าได้สติเตรียมจะร่ายสายฟ้า แต่ด้วยความเร็วกว่าของบลูจัสติสนั้นทำให้หญิงผมสีขาวไม่สามารถทำในสิ่งที่เธอต้องการได้
“อีเล็กซ์ทริก้า ถูกกำจัดออกไปแล้ว”
เสียงนี้ประกาศไปทั่วสนาม อีวากับทริคสเตอร์ที่กำลังตามหาบลูจัสติสอยู่นั้นต่างตกใจไปพร้อมๆกัน ในขณะที่ชายในหมวกปานามากำลังสับอยู่นั้น เขาก็ถูกชายคนนึงรัดคอของเขา เขาหันไปก่อนจะเห็นใบหน้าของบลูจัสติส เขาใช้ศอกกระทุ้งบลูจัสติสออกไป ชายผมสีทรายเซออกไปเล็กน้อย ชายในชุดสูทหยิบหมวกลงก่อนจะปล่อยนกพิราบจากหมวกของเขา มันตรงไปยังบลูจัสติส มันบดบังทัศน์วิสัยของเขาอย่างสมบูรณ์ ทริคสเตอร์สวมหมวกอีกครั้งก่อนจะเริ่มวิ่งออกห่างบลูจัสติส
“อีวา ชั้นเจอตัวบลูจัสติสแล้ว” ทริคสเตอร์กดไปที่หูของเขาเพื่อสื่อสารสมาชิกของทีมอีกคน
“แล้วอยู่ที่ไหนชั้นจะได้ไปช่วย”
“อยู่ที่..เหวอ” ไม่ทันที่ทริคสเตอร์จะพูดจบเสียงของเขาก็ขาดหายไป
ทริคสเตอร์สะดุดกับก้อนหินก่อนจะล้มลงไปกับพื้น เขาพยายามจะลุกขึ้นมาเพื่อหนี และเรียกกำลังเสริมมาช่วย แต่ไม่ทันที่เขาจะลุกขึ้นมา เขาก็ถูกบลูจัสติสจับหันกลับมาก่อนที่จะรับหมัดเข้าไปยังใบหน้าของเขาเต็มๆ ทริคสเตอร์ลงไปนอนกับพื้น ด้วยสภาพร่างกายของทริคสเตอร์ที่ไม่ค่อยแข็งแรงนัก จึงทำให้ไม่กี่หมัดนั้นก็สามารถจัดการเขาได้ ทีนี้เขาเหลืออีกเป้าหมายเดียวเท่านั้นหรือก็คืออีวา
“ทริคสเตอร์ ถูกกำจัดออกไปแล้ว” เสียงประกาศนั้นประกาศไปทั่วสนาม
สีหน้าของอีวานั้นเริ่มหงุดหงิด แต่ในความหงุดหงิดนั้นมีความกังวลอยู่ด้วย เธอไม่รู้ด้วยซ้ำเลยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงสหายของเธอทั้งสองคนถูกกำจัดโดยคนอ่อนแรงง่ายดายขนาดนี้ อีวาตั้งสติก่อนจะเริ่มร่ายคาถาของเธออีกครั้ง เมื่อเธอท่องคาถาเสร็จ กลุ่มชายจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นมา เธอยืนอยู่บนดาดฟ้าของอาคาร ร่างกายของเธอไม่ได้เปียกอะไร เพราะตอนนี้ฝนหยุดตกไปตั้งนานแล้ว
“สมุนของข้า ตามหาบลูจัสติสและจัดการมันซะ” เธอตะโกนสั่ง
เหล่ากองทัพของเธอพยักหน้าก่อนจะตอบร้องตอบรับเป็นเสียงเดียวกันและเริ่มทำตามคำสั่งของเธอ เธอกวาดสายตาไปรอบๆหาศัตรูของเธอ
“กึกๆ” เสียงของอะไรบางอย่างกระแทกพื้นดังขึ้น
เธอรีบบินขึ้นฟ้าก่อนจะมองลงไปบนพื้นเพื่อหาต้นเสียง มันเป็นเพียงก้อนหินที่เคลื่อนไหวไปตามสายลมเท่านั้น เธอหายใจด้วยความโล่งอก มันไม่ใช่วัตถุอะไรจากบลูจัสติส แต่เธอโล่งอกได้ไม่ทันไร เธอก็เห็นวัตถุทรงกลมตกอยู่บนพื้น มันปล่อยควันสีฟ้าออกมา เธอรีบร่ายคาถาวายุเพื่อปัดควันพวกนี้ออกไป ควันนั้นหายไป แต่สิ่งที่ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าคือบลูจัสติสที่กระโจนเข้ามาพร้อมกับกระบองในมือ เธอพยายามจะสร้างโล่ขึ้นมากัน แต่มันไม่ทันกระบองนั้นกระแทกใส่ใบหน้าของเธอ บลูจัสติสหมุนก่อนจะฟาดเข้าใส่หน้าท้องของเธออีกที อีวางอลงไป บลูจัสติสคำรามก่อนจะกระโดดใช้กระบองฟาดลงไปเต็มๆอีกที
“ชัยชนะ” ตัวอักษรสีทองปรากฏขึ้นมาบนฟ้า
มันจบแล้ว...
=====
“ทีนี้ชั้นยังได้อยู่ต่อในชมรมใช่ไหม?” คัทสึพูดกับคู่ต่อสู้ของเขาทั้งสาม
ทั้งสามมองหน้ากันก่อนที่ นิชิมูระจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของเธอนั้นทำให้คัทสึยืนฉงน เธอหัวเราะอะไร? เขาทำอะไรตลกหรอ? หัวของคัทสึนั้นงงไปหมด
“ชั้นไม่ได้คิดจะไล่นายออกตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทำไมชั้นต้องไล่นายออกจากทีมด้วยล่ะ? นายขาดซ้อมแค่ครั้งเดียวด้วยนะ”
“แล้วคุณนิชิมูระขู่ชั้นทำไมล่ะ?” คัทสึตั้งคำถามด้วยความสงสัย
“ทดสอบน่ะ” เธอพูดลอยๆ
“ทดสอบ?” คัทสึตั้งคำถามกลับ
นิชิมูระพยักหน้าก่อนจะมองไปยังซากิ คัทสึเองก็มองไปยังเธอเหมือนกัน
“นี่เป็นการทดสอบ ซากิ ยังไงล่ะ”