Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Day 1 : EP 5

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Day 1 : EP 5 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Day 1 : EP 5   Day 1 : EP 5 EmptyThu Jun 16, 2016 7:39 pm

Day 41

ผมถูกปลุกขึ้นมาเช้าเป็นพิเศษ เช่นเดียวกันกับมาร์และวลาดที่อยู่ในห้องเดียวกันกับผม ผมตื่นขึ้นมาตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกปลุก อาจจะเพราะคนปลุกนั้นเป็นโรซารี่ก็ได้ น้ำเสียงของเธอนั้นค่อนข้างแหลมและเสียงของเธอที่ดังจึงทำให้ ผมหลุดจากห้วงนิทราได้ไม่ยาก พวกผมเดินลงไปข้างล่างก่อนจะลงไปยังโถง เมื่อลงไปนั้นผมเห็นทุกคนในบ้านหลังนี้รออยู่ โอลิเวอร์ยังคงนั่งอยู่ตรงโซฟาสีเขียวตัวเดิมของเขาเช่นเคย ใบหน้าของเขานั้นดูไม่มีความสุขเท่าไหร่นัก ไม่ซิ คำว่าไม่มีความสุขยังใช้อธิบายได้ไม่ดีเท่าไหร่ ใบหน้าของเขานั้นโกรธเกรี้ยว เขาดูไม่สบอารมณ์อย่างมากถึงมากที่สุด เมื่อพวกเราทุกคนอยู่กันครบหน้า ชายบนโซฟาสีเขียวก็เริ่มพูดขึ้น

“เมื่อเช้านี้ ไอริสเช็คเสบียงตอนเช้าและพบว่ามันไม่เท่ากับตอนเย็นเมื่อวาน...
“อาหารกระป๋องหายไปเจ็ดกระป๋อง...รู้ไหมว่านั่นหมายความว่าอะไร?” โอลิเวอร์เอ่ยปากถาม

ทุกคนเงียบ ไม่มีใครอ้าปากตอบคำถามของโอลิเวอร์ซักคำ

“มันตีความได้หลายอย่างนะ แต่สิ่งที่ชั้นคิดคือ มีคนขโมยไป”
“และชั้นก็เช็คประตูดูแล้ว ไม่ได้โดนแงะอะไร...ซึ่งก็แปลว่าในบ้านหลังนี้มีใครขโมยเสบียงไป”

ซึ่งแน่นอนว่าคนๆนั้นคือผม แต่ผมยืนเงียบและพยายามแสดงสีหน้าให้ดูพิรุธน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

“ลูเชียโน่นายไม่ได้เผอิญหยิบอาหารกระป๋องพวกนี้ไปปรุงก่อนเวลานะ?” โอลิเวอร์ถามชายผมดำที่ยืนอยู่ไม่ไกลกับเขามากเท่าไหร่
“ไม่มีทางแน่นอนครับ เช็คที่ครัวผมได้เลยครับ ตอนนี้ผมยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย” พ่อบ้านตอบกลับมา
“จะว่าไป...เมื่อคืนชั้นเห็นแมทเดินอยู่ข้างล่างด้วย” แจ็คพูดขึ้นมา

ประโยคนี้ทำให้ทุกสายตาในบ้านจับจ้องมายังผม โอลิเวอร์หลี่ตาลงก่อนจะเอ่ยปากถาม

“แมท นายไปทำอะไรข้างล่างนั่นล่ะ?”
“ผมออกไปตากอากาศครับ” ผมตอบในสิ่งที่ผมทำเมื่อคืน

แต่คำพูดแค่นั้นมันยังทำให้เชื่อผม เขายังคงมองผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ สายตาที่เขามองผมนั้นเหมือนกับสายตาของตำรวจที่กำลังสอบสวนคนร้าย เขาไม่ได้ปริปากพูดอะไร แต่ด้วยเพียงสายตาของเขานั้นก็สร้างแรงกดดันมหาศาลแล้ว ในหัวของผมตอนนั้นยุ่งเหยิงไปหมด ผมไม่รู้ผมจะตอบอะไรดี และผมก็ไม่สามารถหยิบความจริงอะไรออกมาพูดมากกว่านี้ด้วย เพราะผมเป็นคนร้ายจริงๆ

“ผมทำเองครับ” เสียงของใครบางคนดังขึ้นมา

ผมหันไปตามเสียงก่อนจะเห็นวลาดที่ก้าวเท้าเดินขึ้นข้างหน้า ผมได้แต่ยืนมองด้วยความฉงน

“ผมหิวผมก็เลยขึ้นมาหาอะไรกิน ขอโทษด้วยครับ” วลาดพูดพลางก้มหัวให้กับโอลิเวอร์
“นายกินเองหมดเลยทั้ง 7 กระป๋อง?” โอลิเวอร์ตั้งคำถามด้วยความสงสัย
“ผมแบ่งกับหมาที่นอนอยู่นอกบ้าน อีกสองตัว” ชายผมแดงตอบ
“งั้นหรอ...”

โอลิเวอร์ลุกขึ้นมา ก่อนจะเดินตรงมายังวลาด ก่อนที่เขาจะปล่อยหมัดเข้าใส่ใบหน้าของวลาดเต็มๆ แรงกระแทกนั้นทำให้วลาดลงไปนอนกองกับพื้น เขากุมหน้าของเขาด้วยความเจ็บปวด โอลิเวอร์มองวลาดด้วยสายตาที่เย็นยะเยือก เขาไม่ได้ทำอะไรต่อนอกจากยืนมองเฉยๆ

“อย่าทำแบบนี้อีก ถ้ามีครั้งหน้า มันจะไม่ได้จบลงด้วยหมัดของชั้น”

วลาดพยักหน้าตอบก่อนที่โอลิเวอร์จะเดินจากไป ทุกคนมองด้วยความเงียบก่อนที่แต่ละคนจะแยกย้ายกันไป เว้นแต่ผม มาร์ และไอริส ผมพยุงวลาดขึ้นมา ก่อนจะพาวลาดไปยังห้องพยาบาล เช่นเดียวกันกับไอริสที่มุ่งไปที่เดียวกันกับพวกผม วลาดนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนที่หญิงผมสีทรายจะเริ่มทำแผลให้กับวลาดที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ แม้เขาจะแสดงสีหน้าออกมาว่าเขาเจ็บ แต่เขาไม่ได้ส่งเสียงร้องอะไรออกมาเลย

“ขอโทษนะ วลาด” ผมพูดกับชายผมสีแดงที่นั่งอยู่บนเตียง
“ชั้นกะแล้วล่ะว่าเป็นนาย...แล้วนายไปทำอะไรล่ะ?” วลาดหันมาถามผม
“เมื่อคืนผมเดินออกไปข้างนอก ไปสูดอากาศน่ะ และในขณะที่ผมเดินออกไป ผมก็เจอคนมาขออาหารกับผม”
“เขาบอกว่าเมียของเขากับลูกของเขากำลังรอเขาอยู่ พวกเขาต้องการอาหาร ผมก็เลยแบ่งให้พวกเขา” ผมเล่าให้ฟัง

“แล้วทำไมไม่ลองถามคุณโอลิเวอร์ดูล่ะคะ?” ไอริสที่ทำแผลวลาดอยู่เอ่ยปากถาม
“ผมกลัวน่ะ ผมกลัวว่าถ้าคุณโอลิเวอร์ปฏิเสธ ผมจะช่วยอะไรเขาไม่ได้”
“ถ้าผมรู้ว่าคุณโอลิเวอร์จะชกนาย...ผมคงสารภาพไปแล้ว ผมขอโทษจริงๆ” ผมกล่าวกับชายผมแดง

“ใช่ นายควรจะสารภาพตามตรง แต่ชั้นกับเห็นด้วยในสิ่งที่นายทำนะ” วลาดตอบผมกลับมา
“นายกำลังแสดงให้คนอื่นเห็นว่าโลกของเรานั้นยังมีคนที่พร้อมช่วยเหลือคนอื่นอยู่ด้วย”
“ถ้าเป็นชั้นนะ ชั้นก็คงทำแบบนาย” วลาดพูดพร้อมกับมองหน้าของผม
“ใช่ค่ะ ถ้าชั้นเป็นคุณชั้นก็คงทำแบบนั้น” ไอริสเสริม

มาร์พยักหน้าเช่นกัน ผมเองก็ยิ้มให้กับพวกเขา อย่างน้อยๆสิ่งที่ผมทำนั้นพวกเขาก็คิดว่าผมทำถูก และแค่นี้ก็ทำให้ผมดีใจแล้ว

=====

วันที่ 55

เสียงฝนที่โปรยลงมาจากท้องฟ้านั้นดังกึกก้องไปทั่ว นี่น่าจะเป็นครั้งแรกล่ะมั้งที่ผมเห็นฝนในโลกนี้ ถ้าหากฝนตกนั้นนั่นก็หมายความว่าฤดูใบไม้ร่วงนั้นใกล้มาเข้ามาแล้วและฤดูร้อนก็จะจากไปเสียที ผมไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องดีไหม เพราะถ้าหากผมได้งานลาดตะเวนหรือออกหาเสบียงแล้วฝนนั้นตกลงมาจากฟากฟ้า ผมก็ต้องทำงานอยู่ดี แต่คิดแง่บวกคือผมไม่ต้องยืนในอากาศร้อนๆล่ะนะ ผมนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นของบ้าน มันเป็นห้องที่มีโทรทัศน์ เครื่องเล่นดีวีดี ในห้องนี้มีหนังมากมายหลายเรื่องให้เลือกดู แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่เคยหยิบหนังพวกนั้นมาดูซักครั้ง ผมไม่รู้ว่าคนอื่นๆในบ้านหลังนี้เคยดูไหม แต่ผมล่ะคนนึงที่ไม่เคยหยิบหนังพวกนั้นมาดู

ผมนั่งอยู่ในห้องกับมาร์และวลาด รวมถึงในห้องนั้นยังมีโรซารี่และไอริสอยู่ด้วย ไอริสนั้นนั่งอ่านหนังสือในขณะเดียวกันโรซารี่นั้นก็พูดไปเรื่อย เพื่อนของเธอหรือไอริสนั้นตอบเป็นบางครั้ง แต่ดูเหมือนสมาธิของเธอในตอนนี้อยู่กับหนังสือในมือของเธอมากกว่า ในขณะเดียวกันนั้นพวกเราสามคนก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยๆ ส่วนผมนั้นก็เขียนไดอารี่ในขณะที่พวกเราคุยกันอยู่ ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง ห้องนั่นเล่นนั้นอยู่ชั้นสองของบ้าน ดังนั้นเมื่อผมออกไปผมจะเห็นหอคอยไม้อยู่ด้วย ผมเห็นแจ็คสันนั่งอยู่บนเก้าอี้ของเขาพร้อมกับปืนในมือ เขานั่งนิ่งราวกับเป็นหุ่น

“จะว่าไปชั้นสงสัยมานานแล้ว คุณแมทเขียนอะไรอยู่หรอคะ?” ไอริสลุกขึ้นมาถามผม
“อ่อ ผมเขียนไดอารี่อยู่น่ะ ผมอยากจะบันทึกว่าเกิดอะไรขึ้นกับผมบ้างในโลกนี้” ผมตอบหญิงผมสีทราย
“เอ๋...ชั้นรู้ว่าเสียมารยาทนะ แต่ชั้นอยากจะลองอ่านดูจัง ชั้นชอบผลงานของคุณน่ะ” หญิงผมสีทรายพูดกับผม

ผมแทบลืมไปเลยว่าไอริสเป็นแฟนผลงานของผม และแน่นอนว่าผมให้เธออ่านไม่ได้ ด้วยหลายๆเหตุผล อย่างแรกคือนี่คือไดอารี่ส่วนตัวผม ผมไม่ค่อยอยากให้ใครได้อ่านนอกจากตัวผม และสองคือถ้าผมจะให้เธออ่านผมคงต้องลบท่อนที่ผมเขียนถึงหน้าอกของเธอทิ้ง เธอคงไม่อยากเห็นนักเขียนคนโปรดของเธอคอมเม้นท์หน้าอกของเธอหรอก ไม่ซิ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักเขียนคนโปรดหรอก ใครก็ตามที่คอมเม้นท์หน้าอกของเธอต่อหน้าเธอมันก็แย่ทั้งนั้น

“เอาเป็นว่ารอทุกอย่างจบลงก่อน แล้วผมจะให้อ่านก็แล้วกันครับ” ผมปฏิเสธแบบอ้อมๆ
“ถ้างั้นชั้นจะรอค่ะ” เธอยิ้มให้ผม

สารภาพตามตรง ทุกครั้งที่เธอยิ้มให้ผมนั้น ผมรู้สึกว่าหัวใจของผมนั้นเต้นเร็วขึ้นตลอด ทุกครั้งที่ผมเห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์นั้น มันทำให้หัวใจของผมรู้สึกพองโตขึ้น และผมอยากจะทำทุกอย่างเพื่อที่จะทำให้ผมได้เห็นรอยยิ้มนี้ เธอกลับไปนั่งที่เดิม ข้างๆโรซารี่ ผมนั่งเหม่อไปพักนึงก่อนที่มาร์จะใช้ศอกของเขากระทบเข้ากับแขนของผม มันทำให้ผมได้สติกลับมา ทั้งมาร์และวลาดมองผมด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเลห์ ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ และทั้งสองก็คุยเรื่องที่พวกเราสามคนคุยค้างไว้ต่อ

=====
วันที่ 61

นี่ก็สองเดือนแล้ว วันนี้ทุกคนมานั่งรวมตัวกันในห้อง เพราะโรซารี่บอกว่ามีอะไรจะโชว์พวกเรา เธอเดินออกมาพร้อมกับยกของสิ่งนี้ขึ้นพร้อมกับทำเสียง “แต่น แต๊น” ประกอบ มันคือวอร์คกี้ทอร์คกี้ ผมจำได้ว่าพวกเราเจอมัน จากซักที่ในตอนที่เราออกไปหาเสบียงนั่นแหละ

“ชั้นซ่อมมันเสร็จแล้ว” โรซารี่พูดด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ

แต่แน่นอนว่าเรามีอยู่แค่อันเดียว เราไม่สามารถใช้สื่อสารกันเองได้

“แล้วเราจะเอาไปทำอะไร เรามีอยู่แค่อันเดียวเองนะ” ซีนตั้งคำถามขึ้นมา
“แน่นอนว่าตอนนี้เราใช้สื่อสารไม่ได้ แต่เราอาจจะใช้เพื่อดักฟังข่าวของช่องอื่นๆได้”
“อย่างพวกทหารหรือพวกผู้รอดชีวิตคนอื่นๆไรแบบเนี้ย” หญิงผมน้ำตาลพูดด้วยน้ำเสียงกระตืนรือร้นของเธอ
“เดี๋ยวชั้นทำให้ดู”

เธอเริ่มหมุนเพื่อหาสัญญาณ ทุกคนในห้องได้แต่นั่งเงียบ เหมือนกับคนดูที่รอว่านักมายากลที่ยืนอยู่บนเวทีนั้นจะทำอะไร ไม่มีใครพูดอะไรทั้งสิ้น โรซารี่ยังคงหมุนหาคลื่นสัญญาณต่อไป เวลาเริ่มผ่านไป ผมเริ่มสงสัยแล้วว่า สิ่งที่โรซารี่ซ่อมมานั้นใช้ได้รึเปล่าหรือแค่จริงๆตอนนี้ไม่มีสัญญาณก็แค่นั้น เธอหมุนไปก่อนที่เธอจะเริ่มได้ยินเสียงของใครบางคนพูด เสียงนั้นยังไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ เธอยังคงหมุนไปทางนั้น เสียงนั้นเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ

“นี่คือเสียงจากที่พักพิงหมายเลข 38...ตอนนี้มีกลุ่มอันธพาลออกอาละวาด พวกมันจะปล้น ฆ่า บุกรุกเพื่อเสบียง”
“ขอให้ระวังด้วย”
“ย้ำตอนนี้มีกลุ่มอันธพาลออกมาละวาด พวกมันจะปล้น ฆ่า บุกรุกเพื่อเสบียง”
“ขอให้ระวังด้วย”

คำพูดนี้ซ้ำไปซ้ำมา ผมไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนพูดและผมไม่รู้ว่าที่พักพิง 38 อยู่ไหน แต่ถ้าหากเราสามารถจับคลื่นวิทยุได้ สถานที่แห่งนี้คงอยู่ใกล้พอสมควร และถ้าคิดดูดีๆแล้ว การที่มีอันธพาลพวกนี้ออกอาละวาดนั้นก็เป็นไปได้ นี่ก็สองเดือนแล้ว เสบียงนั้นก็เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ และคงมีไม่กี่ที่จะมีแปลงผักและฟาร์มสัตว์เหมือนบ้านหลังนี้ ผมเกิดความรู้สึกว่าความสงบสุขกำลังจะหายไปแล้ว และผมไม่อยากจะนึกเลยว่าโลกเรากำลังจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหน
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Day 1 : EP 5
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: