Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Iron Rebel : Episode 1

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Iron Rebel : Episode 1 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Iron Rebel : Episode 1   Iron Rebel : Episode 1 EmptySun Jul 03, 2016 1:07 pm

เครื่องบินนั้นจอดลงลานบินอย่างนุ่มนวล ผู้โดยสารแต่ละคนนั้นเริ่มลุกขึ้นมาจากที่นั่งช้าๆ เช่นเดียวกันกับพ่อลูกคู่นึง ที่ลุกจากที่นั่งของตัวเอง พวกเขาหยิบกระเป๋าของตัวเองออกมาก่อนจะสะพายไว้บนบ่าของตัวเอง เหล่าผู้โดยสารต่อแถวก่อนจะเดินเข้างวงช้างที่เชื่อมระหว่างเครื่องบินและสนามบิน พวกเขาต้องผ่านอะไรหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจคนเข้าเมืองที่พวกเขาต้องยืนต่อแถวกันเป็นชั่วโมง รอรับกระเป๋า และเมื่อผ่านไปได้แล้ว ก็ถือว่าพวกเขามาสู่ “จักรวรรดิอักเลล่า” อย่างเป็นทางการ

อักเลล่านั้นเป็นประเทศในยุโรปที่ค่อนข้างก้าวล้ำทางเทคโนโลยีพอสมควร ถ้าหากจัดอันดับประเทศที่มีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีแล้ว อักเลล่าจะเป็นประเทศอันดับหนึ่งอย่างแน่นอน ไม่ใช่แค่นั้นแต่อักเลล่านั้นยังเป็นประเทศที่รวยมากๆ ก็เพราะเทคโนโลยีอีกนั่นแหละ พวกเขาขายอาวุธให้กับประเทศอื่นๆที่ต้องการ รวมถึงเครื่องมือทางการแพทย์หรือทางอุตสาหกรรมด้วยเช่นเดียวกัน อาจจะพูดได้ว่าโลกนั้นสะดวกขึ้นกับเพราะเหล่านักประดิษฐ์จากประเทศอักเลล่าก็ได้ ไม่มีใครรู้ว่าจักรวรรดิวางการศึกษาไว้แบบไหน แต่ที่รู้ๆคือมันได้ผล

พ่อลูกจากญี่ปุ่นเดินไปตามทางก่อนจะเห็นผู้คนมากมายยืนรออยู่ แต่ละคนนั้นต่างถือป้ายของตัวเอง และบนป้ายนั้นก็มีชื่อของผู้โดยสารของตัวเองอยู่ด้วย เหล่าผู้คนที่พึ่งมาถึงบางคนนั้นก็มองหานามสกุลตัวเองเป็นแผ่นป้าย ไม่ต่างอะไรกับพ่อลูกคู่นี้ ผู้เป็นพ่อนั้นกวาดสายตาก่อนจะมองหานามสกุลตัวเอง ไม่นานนักเขาก็เจอคนชูป้าย “อาดาจิ”” พ่อลูกคู่นี้เดินตรงไปยังชายในชุดสูทที่ถือป้ายที่มีนามสกุลของตัวเองเขียนอยู่

“คุณอาดาจิใช่ไหมครับ?” ชายที่ถือป้ายเอ่ยปากถาม
“ใช่ ผมอาดาจิ ยูได ส่วนนี่ลูกชายของผมอาดาจิ โช” ผู้เป็นพ่อแนะนำตัวเขาเองกับลูกชายของเขาให้กับคนที่ถือป้าย

ชายที่ถือป้ายหยิบมือถือขึ้นมาเช็คชื่อลูกค้าของเขาก่อนที่จะพยักหน้าและลดป้ายลง

“โอเคครับ ถ้างั้นตามผมมาเลยครับ”

โชและยูไดพยักหน้าก่อนจะลากกระเป๋าของตัวเองตามชายในชุดสูทคนนี้ ทั้งสามโผล่มายังลานจอดรถ โชและยูไดเก็บกระเป๋าเข้าหลังรถก่อนจะขึ้นรถ เมื่อทุกอย่างเข้าที่แล้ว คนขับก็ขับออกไป รถนั้นออกมาจากลานจอดรถของสนามบิน เมื่อยานพาหนะออกมาจากลานจอดรถแล้ว พวกเขาก็เห็นถึงตัวเมืองในจักรวรรดิอักเกล่า มันเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยต้นไม้มากมาย แม้ที่นี่จะถูกเรียกว่าเป็นเมืองแห่งเทคโนโลยีแต่ตึกสูงเสียดฟ้านั้นเรียกได้ว่าน้อยมาก ส่วนใหญ่นั้นเป็นอาคารที่ถูกสร้างขึ้นแบบสถาปัตยกรรมแบบยุโรป อาคารนั้นดูโบราณแต่แม้มันจะดูโบราณสภาพของมันนั้นก็ยังคงดูใหม่อยู่ และมันก็คงไม่พังง่ายๆ ตลอดทางนั้นเต็มไปด้วยป้ายที่เขียนว่า “งานเปิดตัว Sky” พร้อมกับรูปหุ่นยนต์ที่มีสีน้ำเงินอยู่ด้วย ข้างล่างมีตัวเลขวันที่เขียนอยู่ด้วย ซึ่งก็คือสามสี่วันต่อจากนี้

“ตื่นเต้นรึเปล่า โช?” เสียงของผู้เป็นพ่อหันมาถามเด็กหนุ่มผมน้ำตาลที่มองออกไปนอกหน้าต่าง
“ตื่นเต้นนิดหน่อยน่ะ ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าหุ่นยนต์ตัวใหม่ของอักเกล่าจะทำอะไรได้บ้าง” โชผู้เป็นลูกหันไปตอบ

พ่อลูกตระกูลอาดาจินั้นต่างอยู่ในชมรมหุ่นยนต์ที่โรงเรียน ม.ปลาย ในประเทศญี่ปุ่น โชนั้นเป็นหัวหน้าชมรมที่มากไปด้วยพรสวรรค์ ส่วนยูไดนั้นเป็นที่ปรึกษาชมรม ทั้งคู่ถูกเชิญให้มาจักรวรรดิแห่งนี้เพื่อมาชมงานเปิดตัวหุ่นยนต์ที่ชื่อว่า “Sky” แน่นอนว่าจักรวรรดิแห่งนี้ผลิตหุ่นยนต์รบมาเยอะแล้วเหมือนกัน แต่จุดที่ Sky นั้นต่างกับตัวอื่นนั้น คือมันเป็นหุ่นยนต์ตัวแรกที่สามารถบินขึ้นฟ้า โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นเครื่องบินเหมือนกับตัวอื่นๆ เชื่อกันว่า Sky นี่แหละจะทำให้มีหุ่นยนต์ตัวอื่นๆที่บินได้อีกเยอะ

รถนั้นจอดอยู่หน้าโรงแรมแล้ว มันเป็นโรงแรมที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับตึกอื่นๆที่อยู่ใกล้กัน มันเป็นโรงแรมที่ทางรัฐบาลจัดไว้ให้ ห้องนอนนั้นไม่ได้หรูหราอะไร แต่ก็ไม่ได้แย่นัก อย่างน้อยก็มีทั้งเครื่องปรับอากาศกับฮีทเตอร์ให้ ซึ่งก็เรียกว่าดีพอล่ะมั้ง หลังจากจัดของทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว โชก็ขอตัวออกมาเดินเที่ยวเล่นในเมืองแห่งนี้ โชยืนอยู่หน้าโรงแรมก่อนจะมองไปรอบๆ อากาศเย็นๆนั้นพัดผ่านร่างกายของเขา โชคดีที่โชใส่เสื้อกันหนาวไว้ระดับนึงและเขาก็ค่อนข้างคุ้นเคยกับสภาพอากาศแบบนี้อยู่แล้ว ไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้าหากเขาอยู่ในประเทศที่มีแต่ฤดูร้อน มันจะเป็นยังไง

เขาเดินไปอย่างไร้จุดหมาย ดวงตาของเขามองไปรอบๆ ก่อนที่เขาจะมาถึงยังดินแดนแห่งเทคโนโลยีแห่งนี้ เขาไม่ได้ศึกษาอะไรมาก่อนเลย เขาไม่รู้ว่าที่นี่มีที่ไหนที่ต้องเที่ยวบ้าง ประวัติศาสตร์ที่นี่เป็นยังไง เท้าทั้งสองข้างของโชนั้นยังเดินต่อไปอย่างไร้จุดหมาย โดยเขาหวังว่าในขณะที่เขาเดินเขาจะเจออะไรบ้าง เขาแหงนมองท้องฟ้า ท้องฟ้านั้นสีฟ้าคราม มันก็ทำให้โชอดนึกไม่ได้ว่าตอนนี้ที่อีกซีกโลกที่เขาอยู่นั้นเป็นยังไง ถ้าดูเวลาตอนนี้ก็คงค่ำแล้ว ในขณะที่เขากำลังปล่อยให้ความคิดของเขาล่องลอยไปกับสายลม เขาก็รู้สึกว่าเขาถูกอะไรบางอย่างชนเข้าที่อก แรงกระแทกมันผลักชายผมน้ำตาลออกไปเล็กน้อย

“ขอโทษค่ะ” หญิงที่ชนเขาพูดขึ้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ

เธอเป็นหญิงผมสีม่วงแดง เธอผูกหางม้าไว้บนผมของเธอ ดวงตาสีฟ้าของเธอนั้นแหลมคม มันเป็นดวงตาที่ดูทรงพลัง เธอเป็นสาวงามและในขณะเดียวกันเธอก็ดูเข้มแข็ง ดวงตาของทั้งคู่ผสานเข้าด้วยกัน มันทำให้ความทรงจำของทั้งคู่ไหลเวียนขึ้นมา

“โช?” หญิงผมที่มีดวงตาคมขานชื่อของชายผมน้ำตาล
“ทรินิตี้?” โชเอ่ยชื่อของเธอกลับเหมือนกัน

“ทรินิตี้ เทริน์เนอร์” เธอเป็นเพื่อนสนิทของโชตั้งแต่สมัย ม.ต้น ทั้งคู่สนิทกันเพราะมีความสนใจในเรื่องหุ่นยนต์เหมือนๆกัน และทั้งคู่เป็นสมาชิกชมรมหุ่นยนต์ทั้งคู่ ถ้าจะพูดว่าโชเป็นสาเหตุทั้งหมดที่ชมรมหุ่นยนต์ที่โรงเรียนประสบความสำเร็จ ก็คงไม่ถูกนัก เพราะทรินิตี้ก็มีส่วนช่วยให้กับชมรมอย่างมาก ทั้งคู่อยู่ด้วยกันประมาณสามปีได้ ก่อนที่ทรินิตี้จะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ โชยังจำได้วันที่เขาไปส่งเพื่อนสนิทของเขาที่สนามบิน มันเป็นวันที่เศร้า แต่เขาก็พยายามสุดชีวิตที่จะไม่ร้องไห้ต่อหน้าเพื่อนซี้ของเขา

“ไม่ได้เจอกันตั้งนานเป็นยังไงบ้าง?” โชเอ่ยปากถาม
“สบายดีแหละ” หญิงผมสีม่วงที่ชื่อทรินิตี้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“แล้วทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะ ไม่ใช่ว่าไปเรียนต่อแถบอเมริกาหรอ?” ชายผมน้ำตาลถามต่อ
“ชั้นไปเรียนต่ออยู่แปปเดียวน่ะ แต่เกรดของชั้นดีมาก เขาก็เลยส่งชั้นมาที่นี่แทน” หญิงผมสีม่วงแดงอธิบายให้ฟัง
“สมแล้วที่เป็นทรินิตี้” โชพูดติดตลก

“แล้วนายล่ะ?” หญิงผมเปียถามกลับ
“มาดูงานเปิดตัวหุ่นยนต์น่ะ” ชายผมน้ำตาลตอบสหายของเขาเป็นตรงๆ
“Sky อ่ะนะ?” หญิงผมสีม่วงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเอ่ยปากถาม
“อ่าฮะ” โชตอบสั้นๆ

“จะว่าไปนายกินอะไรยัง?” ทรินิตี้เอ่ยปากถามต่อ
“ยังเลย ชั้นพึ่งมาถึงไม่นานเหมือนกัน”
“ถ้างั้นไปหาอะไรกินกันไหม?” หญิงผมสีม่วงแดง
“อื้ม”

ทั้งสองไปยังร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆจุดที่ตัวเองยืนอยู่ ทั้งคู่เล่าเรื่องต่างๆมากมาย หลังจากนั้นทรินิตี้ก็พาโชไปเที่ยวรอบเมือง มันมีสถานที่น่าสนใจมากมายในเมืองแห่งนี้ แต่ส่วนใหญ่แล้วมันก็เป็นพิพิธภัณท์มากกว่านั่นแหละ มีตั้งแต่สถานที่เล่าเรื่องราวในอดีต จนไปถึงสถานที่ที่บอกเรื่องราวในปัจจุบัน ไม่นานนักเวลานั้นก็เย็นแล้ว ท้องฟ้านั้นถูกย้อมสีส้ม ชายหญิงคู่นี้ยืนอยู่ตรงสะพาน แขนของทั้งสองนั้นพาดกับระเบียงที่ถูกฉาบด้วยปูน ด้านล่างของทั้งสองนั้นเป็นแม่น้ำยาวที่ทอดไปสุดลูกหูลูกตา ถนนนั้นเริ่มมีผู้คนมากขึ้นจากช่วงกลางวัน เหล่าผู้คนเริ่มมากขึ้นจากตอนกลางวัน ผู้คนที่หลากหลาย ทั้งอาชีพ สัญชาติ เพศ อายุ บนถนนที่เต็มไปด้วยความแตกต่าง ดวงตาทั้งสองข้างต่างมองดวงตะวันที่กำลังจะหายจากท้องฟ้า

“จะว่าไปชั้นขอถามได้ไหม...ทำไมชั้นส่งเมลล์ไปเธอไม่เคยตอบเลย” โชเอ่ยปากถามเพื่อนของตัวเองที่สายตาจับจ้องอยู่กับดวงตะวันที่กำลังลับขอบฟ้า
“มือถือเก่าชั้นเสียน่ะ แล้วพอชั้นเปลี่ยนมือถือ ชั้นก็ทำเมลล์กับเบอร์นายหายน่ะ” ทรินิตี้ตอบพร้อมกับหยิบมือถือเครื่องใหม่ของตัวเองขึ้นมา
“ถ้างั้น เรามาแลกเมลล์กันใหม่ละกัน” โชพูดพูดพลางหยิบมือถือของตัวเองก่อนจะยื่นไปด้านของทรินิตี้
“อื้อ” เธอพยักหน้าก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้ม

=====

วันนี้เป็นวันที่หุ่นยนต์สกายจะถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายที่ถูกเชิญให้มายังงานแห่งนี้ แน่นอนว่ามีพวกสื่อถูกเชิญมาด้วยเหมือนกัน แต่ว่ามีเพียงไม่กี่เจ้าเท่านั้นที่ได้รับคำเชื้อเชิญให้มายังงานเปิดตัวที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ เช่นเดียวกันกับพ่อลูกแห่งครอบครัวอาดาจิ ทั้งสองเดินเข้ามาในตัวฮอล พวกเขาผ่านระบบรักษาความปลอดภัย ก่อนจะเดินเข้ามาในตัวงาน ในงานนั้นมีแขกที่มีชื่อเสียงจากวงการต่างๆมากมาฟหยจากทั่วทุกมุมโลก ภายในนั้นมีพนักงานของเสริพ์เครื่องดื่มและของว่างให้เป็นระยะๆ ดูแล้วมันเหมือนงานเลี้ยงของพวกชนชั้นสูง งานเลี้ยงที่เขาไม่มีทางถูกเชื้อเชิญ เหล่าแขกต่างพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เว้นเสียแต่โชและยูไดที่ยืนเหมือนถูกทิ้งไว้คนละโลกกับคนพวกนี้ ทุกคนยืนมองหุ่นสีฟ้าที่นอนอยู่บนพื้น มันเป็นหุ่นที่ดูบางกว่าหุ่นรุ่นอื่นๆ อาจจะเพราะเรื่องของน้ำหนักล่ะมั้ง ถ้าหากหุ่นนั้นมีความหนามากกว่านี้ อาจจะทำให้มันบินไม่ขึ้นก็ได้ ข้างๆนั้นมีปืนและด้ามบีมเซเบอร์ของมันวางไว้อยู่ด้วย

“ถ้างั้นผมขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะ” โชพูดกับพ่อของตัวเอง
“อ่า พ่อรออยู่นี่นะ” ยูไดตอบกลับ

โชพยักหน้าก่อนจะเดินไปห้องน้ำ โชเจอห้องน้ำ เขาหยิบมือถือของเขาออกมาก่อนจะดูข้อความที่เขาคุยกับทรินิตี้ แม้พวกเขาจะได้เจอหน้ากันไม่กี่วันก่อน และได้พูดคุยกันหลายเรื่องไปแล้ว แต่ดูเหมือนเรื่องราวที่จะให้พูดคุยกันนั้นมันไม่หมดไม่สิ้นเสียที โชได้ยินเสียงไมโครโฟนจากข้างนอกดังขึ้น ดูเหมือนงานจะเริ่มแล้ว แต่โชก็ยังอยู่ในห้องน้ำ จุดที่เขาอยู่นั้น เขาสามารถได้ยินเสียงของพิธีกรที่พูดได้อย่างชัดเจน เขาไม่ชอบบรรยากาศภายนอกเท่าไหร่นัก มันทำให้เขารู้สึกอึดอัดแปลกๆ โชจึงตัดสินใจอยู่ที่นี่ต่อ

ซักพักเขาก็ได้ยินเสียงหวอขึ้น เสียงมันดังมาก เขาเริ่มได้ยินเสียงผู้คนแตกตื่นจากข้างนอก เขาไม่รู้ว่านี่เป็นเสียงเตือนอะไร แต่โชรู้แน่ๆว่ามันไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ เขาพยายามจะวิ่งออกไปนอกห้องน้ำ แต่ผู้คนที่วิ่งไปมานั้นบล็อกไม่ให้ประตูนั้นเปิดได้ โชพยายามกระแทกประตูเพื่อให้ประตูเปิดออก เขาเริ่มส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แต่เสียงจากภายนอกนั้นกลบเสียงของเขาไปจนหมด เขาเริ่มตะโกนเรียกพ่อของเขา แต่ผลก็ไม่ต่างกัน โชเริ่มมองหาทางออกทางอื่น แต่มันไม่มีทางไหนที่เขาจะออกไปได้เลย

“ตู้ม” เขาได้ยินเสียงระเบิดขึ้น

แรงระเบิดนั้นผลักร่างของเขาไปกับพื้น ทุกอย่างนั้นเงียบลง เขาไม่ได้ยินอะไรเลยหลังจากแรงระเบิดนั่น โชรีบลุกขึ้นก่อนจะวิ่งออกไปจากห้อง เขาเห็นร่างไร้วิญญาณของผู้คนมากมายนอนอยู่บนพื้น ดวงตาของชายผมน้ำตาลนั้นเต็มไปด้วยความสยดสยอง โชนั้นมองหาพ่อของเขา ก่อนที่เขาจะเห็นพ่อของเขานอนอยู่บนพื้น เขารีบวิ่งไปหาร่างที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น ร่างของพ่อเขานิ่งสนิท เขาใช้มือของเขาจับชีพจรของพ่อตัวเอง เขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงอะไรเลย ไม่มีชีพจร หรือก็คือไม่มีชีวิต เขาเริ่มเขย่าร่างที่แน่นิ่งของพ่อตัวเอง โชเริ่มส่งเสียงเรียกพ่อตัวเอง แต่ไม่มีเสียงตอบรับอะไรทั้งนั้น น้ำตานั้นไหลลงมาก่อนจะหยดลงไปบนร่างไร้วิญญาณ

“นายไม่ควรอยู่ที่นี่นะ...รีบหนีไปจากที่นี่เถอะ” เสียงของผู้หญิงบางคนดังขึ้นมาในขณะที่เธอกำลังจับไหล่ของชายผู้ที่พึ่งเสียพ่อตัวเองไป

โชหันกลับไปก่อนจะเห็นหญิงผมสีม่วงแดนอยู่

“...ทรินิตี้?” โชเอ่ยปากถาม
“โช...” ทรินิตี้ขานชื่ออีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงตกใจ

เสียงของอะไรบางอย่างนั้นดึงสายตาของทั้งคู่ขึ้นไปบนฟ้า ทั้งสองเห็นหุ่นยนต์สีเงินบินอยู่ มันมีประมาณสามตัวได้ และมันกำลังเข้ามาใกล้ๆ แม้มันจะอยู่ไกล แต่ทั้งสองก็ยังเห็นสัญลักษณ์ของประเทศยูกอสที่อยู่บนลำตัวของมัน...ถ้าเท่าที่โชรู้จากเมื่อวาน ยูกอสนั้นเป็นประเทศเพื่อนบ้านของอักเกล่า ทั้งคู่เคยทำสงครามกันอยู่บ่อยครั้ง และหลายครั้งก็เป็นประเทศอักเกล่าที่คว้าชัยเหนือประเทศยูกอสได้ ดูเหมือนต้นเหตุของระเบิดนั่นจะมาจากหุ่นยนต์สามตัวของยูกอส มันยังคงเข้าใกล้เรื่อยๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าเป้าหมายของพวกมันคืออะไร แต่ถ้าให้เดาก็คงมาทำลายไม่ก็มาขโมย “สกาย” นั่นแหละ

“ตามชั้นมา” ทรินิตี้พูดพลางคว้าแขนของโช

ไม่ทันที่โชจะได้ตอบอะไร เธอก็วิ่งไปยังสกายที่นอนอยู่บนพื้น เธอกดปุ่มทำให้ค๊อกพิทเปิดขึ้นมา เธอให้โชเข้าไปก่อน เมื่อโชเข้าไปเธอก็เข้าไปเช่นเดียวกัน เธอเริ่มกดปุ่มอะไรหลายๆอย่าง ประตูของค๊อกพิทนั้นปิดลง แสงหลายๆอย่างในห้องแคบๆนั้นเริ่มสว่างขึ้น ทรินิตี้สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะจับเข้าไปที่คันโยกของหุ่นยนต์ตัวนี้ เธอเริ่มโยกก่อนจะทำให้หุ่นนั้นขยับ มันเริ่มลุกขึ้นมาช้าๆ ก่อนที่ไม่นานมันจะยืนขึ้นมา ด้วยขนาดของมันนั้น จึงทำให้เพดานของฮอลล์นั่นถล่มลงมา ปีกที่อยู่ข้างหลังนั้นสยายขึ้น มือทั้งสองข้างของหุ่นตัวนี้คว้าอาวุธขึ้นมา ข้างนึงถือดาบ ข้างนึงถือปืน

ในหัวของโชตอนนี้นั้นสับสนไปหมด อารมณ์ที่เขารู้สึกตอนนี้นั้นปนเปไปหมด เขาทั้งรู้สึกสับสน รู้ตัวสึกกลัว เขารู้สึกโกรธ ทรินิตี้ที่นั่งอยู่ในที่บังคับหุ่นนั้นหันมามองโช เธอไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะหันกลับไปมองบนหน้าจอที่แสดงให้เห็นว่าข้างหน้าเธอนั้นมีอะไร หุ่นสีเงินทั้งสามตัวยืนตรงข้ามกับเธอ รอบๆนั้นคือบ้านเรือนของผู้คน โชมองไปยังจอก่อนจะเห็นผู้คนมากมายวิ่งหนีด้วยความกลัว

“เกาะไว้แน่ๆนะ” ทรินิตี้พูดขึ้นก่อนจะขยับคันโยกของเธอ
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Iron Rebel : Episode 1
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Iron Rebel : Episode 2
» Iron Rebel : Episode 3
» Iron Rebel : Episode 4
» Iron Rebel : Episode 5
» Iron Rebel : Episode 6

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: