Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Blood Princess : 6

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
ฟ้ามืด
Superstar Grade B
Superstar Grade B
ฟ้ามืด


จำนวนข้อความ : 504
Join date : 30/04/2013
Age : 31
ที่อยู่ : μ's

Blood Princess : 6 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Blood Princess : 6   Blood Princess : 6 EmptyTue Jul 05, 2016 12:42 am

ไมและมาโคโตะช่วยกันพาอากิที่ยังไม่ได้สติวิ่งหนีไปตามทาง โดยมีคุเรฮะตามหลังมาติดๆ

คุเรฮะเหลียวมองข้างหลังอยู่ตลอดแม้ว่ามองไปทีไรจะไม่เจอสิ่งผิดปกติ หลังจากวิ่งมาเป็นระยะเวลานานเธอก็เริ่มจะเหนื่อยล้าไปทั้งร่างกาย ความเร็วในการวิ่งของเธอลดลงเรื่อยๆจนตามกลุ่มไม่ทัน

“โอ๊ย!”

คุเรฮะร้องแล้วนั่งลงไปกับพื้น ไมที่ได้ยินเสียงเธอร้องจึงปล่อยอากิแล้วรีบวิ่งไปดูอาการคุเรฮะทันที เหมือนว่าทางคุเรฮะจะไม่ได้บาดเจ็บอะไร แต่แค่เมื่อยล้าจนวิ่งต่อไม่ไหวแล้วเท่านั้น

“ถ้างั้นพักกันก่อนเถอะ”

ไมพูดขึ้น มาโคโตะจึงค่อยๆวางอากิให้นอนลงบนพื้นพร้อมถอดเสื้อนอกของตัวเองคลุมตัวเธอไว้ ทางคุเรฮะที่ขาทั้งสองข้างเมื่อยล้าจากการใช้งานอย่างหนักก็ได้ไมช่วยนวดบรรเทาอาการให้

“พวกเราคงจะปลอดภัยแล้ว เดี๋ยวพักสักนิดแล้วเราค่อยไปที่โรงเรียนกันดีไหม?”
“อะ อื้ม”

คุเรฮะตอบไม

“ไม่คิดเลยนะ เมื่อไม่นานมานี้ยังคุยกับคุณเชชินสนุกๆอยู่เลยแท้ๆ กลับมากลายเป็นแบบนี้”

ไมไม่ตอบอะไรแล้วจับที่ต้นแขนคุเรฮะเบาๆ แต่แล้วจู่ๆมาโคโตะก็ตะโกนขึ้นมาเสียงดังลั่น

“ระวัง!”

แม้จะไม่รู้ว่ามาโคโตะให้ระวังอะไร แต่คุเรฮะกับไมก็รีบลุกจากบริเวณนั้นทันที แล้วมีดสั้นเล่มหนึ่งก็พุ่งเข้ามาปักเข้าที่พื้นบริเวณนั้น ทำให้รู้เลยว่าเชชินนั้นได้ตามมาแล้ว

“เร็วเข้า! เดี๋ยวฉันช่วยอากิเอง”

มาโคโตะรีบพยุงอากิขึ้นมาอีกครั้ง ส่วนไมนั้นพยุงคุเรฮะที่เริ่มเดินไม่ไหว แต่ยังไม่ทันไรทั้งหมดก็ต้องกระจายไปคนละทิศคนละทางเพราะมีดสั้นนั้นพุ่งเข้ามาอีกเล่ม

ต่างคนต่างลงไปกองกับพื้น มาโคโตะที่รู้แล้วว่าจะให้หนีคงไม่ไหวแล้วแน่ๆจึงพยายามตะเกียกตะกายเข้าไปเขย่าร่างของอากิเพื่อปลุกให้เธอฟื้นขึ้นมาเพราะเธอเป็นคนเดียวที่สามารถต่อกรกับวิญญาณพวกนี้ได้แต่ก็ไม่เป็นผล

เชชินนั้นขยับร่างตัวเองเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ไมค่อยๆลุกขึ้นแล้วพยายามจะเข้าไปช่วยคุเรฮะที่นอนนิ่งอยู่ แต่เชชินก็ได้ใช้การเคลื่อนไหวในพริบตาพุ่งเข้าไปกระชากตัวไมจนกระเด็นออกไป

แม้ไมจะถูกเหวี่ยงไปแบบนั้นแต่เธอก็ยังมีสติอยู่ จึงพยายามคลานเข้าไปหาคุเรฮะที่เริ่มจะขยับตัว และเห็นว่าเชชินกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ตน

คุเรฮะทำได้แค่คลานถอยหนีโดยที่เชชินก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรเพราะคงรู้ว่าเธอไม่น่าจะหนีไปไหนได้ไกล

“คุณเชชิน คุณไม่ได้เป็นคนแบบนี้... ถึงคุณจะเป็นตัวร้ายแต่นั่นมันก็แค่การแสดงไม่ใช่หรอ!?”

แน่นอนว่าเชชินที่อยู่ในสภาพวิญญาณร้ายคงไม่ฟังคำอ้อนวอนใดๆทั้งนั้น มีดสั้นเล่มหนึ่งค่อยๆเลื่อนลงมาจากแขนเสื้อมาอยู่ในมือของเขา

จากนั้นเชชินก็ชี้ปลายมีดไปที่คุเรฮะ

“ได้โปรด...”

นั่นคือคำอ้อนวอนสุดท้ายของคุเรฮะ ก่อนที่เชชินยกมือข้างที่ถือมีดขึ้น

แล้วมีดเล่มนั้นก็ฟันลงมาใส่เธอ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องด้วยความปวดใจของไม

“ไม่!!!!!!”

ฟึ่บ!!!

ไมมองเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดตรงหน้าเต็มสองตา แต่สายตาของเธอที่มองไปนั้นกลับเต็มไปด้วยความประหลาดใจเมื่อสิ่งที่เห็นไม่เป็นไปตามที่คิด

เมื่อมีดในมือของเชชินนั้นค้างอยู่ที่กลางอากาศ คุเรฮะที่หลับตาเตรียมรับสภาพเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้โดนอะไรก็ลืมตาขึ้น

สิ่งที่เห็นคือศีรษะของเชชินนั้นขาดออกแล้วร่วงหล่นลงสู่พื้นพร้อมๆกับร่างของเขา คุเรฮะกรีดร้องเมื่อเห็นภาพที่สยดสยองตรงหน้า ในระหว่างที่สับสนว่าใครกันที่เป็นคนทำอยู่นั้น

“มะ เมย์จัง”

คิซากุระ เมย์ ยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมดาบไม้ในมือ

แต่น้ำตาของคุเรฮะกลับไหลลงมาอาบสองแก้มแทนที่จะรู้สึกดีใจเมื่อได้เห็นเมย์อีกครั้ง

เพราะเมย์ในตอนนี้นั้น... กลายเป็นวิญญาณไปเสียแล้ว

เพียงแต่ใบหน้าของเมย์นั้นยังดูปกติเหมือนตอนยังมีชีวิตอยู่ ริมฝีปากของเธอขยับเหมือนพยายามจะบอกอะไรบางอย่างแต่ไม่มีเสียงออกมา

ก่อนที่ร่างวิญญาณของเมย์จะค่อยๆสลายหายไป

ไมรีบลุกขึ้นแล้วไปดูอาการของคุเรฮะทันที ร่างกายของเธออาจจะไม่มีบาดแผลใดๆก็จริง แต่สภาพจิตใจน่าจะแย่ลงไม่มากก็น้อยจากภาพที่เธอเห็นมาทั้งหมด

“คุเรฮะจัง ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“มะ เมย์จัง กลับมาช่วยฉัน ทั้งๆที่ตายไปแล้ว...”

คุเรฮะพูดพึมพำขึ้นมา ไมเองก็รู้สึกเสียใจไม่แพ้กันที่เมย์จากไปแล้ว หลังจากที่พยายามจะพยุงตัวคุเรฮะให้ลุกขึ้น เชชินที่น่าจะหมดสภาพไปแล้วกลับเอื้อมมือมาจับขาของคุเรฮะทั้งๆที่ร่างของตนนั้นไม่มีศีรษะ เธอกรีดร้องอีกครั้งแล้วพยายามจะสะบัดออก

แชะ

เสียงชัตเตอร์ของกล้องและแสงแฟลชอันคุ้นเคยทำให้เชชินหมดพิษสงอย่างสมบูรณ์ ร่างของเขาสลายหายไป อากิฟื้นตัวขึ้นมาแล้วพร้อมกล้องโพลารอยล์คู่ใจ เมื่อกำจัดเชชินได้แล้ว เธอก็ลดกล้องลง

หลังจากที่เผชิญกับเหตุการณ์อะไรหลายๆอย่างก็ทำให้คุเรฮะทรุดตัวลงนั่งด้วยความอ่อนแรงทั้งร่างกายและจิตใจ

“ก่อนเธอจะหายไป เธอพยายามจะบอกอะไรบางอย่างกับฉัน”
“บอกอะไรงั้นหรอ?”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เธอขยับปากแต่ไม่มีเสียงอะไรออกมา ดูจากสีหน้าของเธอแล้ว เหมือนจะเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ”

คุเรฮะพยายามจะนึกถึงริมฝีปากของเมย์ก่อนที่ร่างของเธอจะสลายไป ว่าเธอพยายามจะพูดอะไรออกมา แต่ก็นึกไม่ออก

“ถ้าอย่างนั้น... เราไปที่จุดนัดพบกันเถอะ”

หลังจากที่มาโคโตะพูด ไมก็ดึงแขนคุเรฮะให้ลุกขึ้น ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางไปที่โรงเรียน ซึ่งเป็นจุดนัดพบที่ริกุบอกไว้ก่อนที่จะแยกกลุ่มกัน

----------------------------------------------------

“อ๊ะ ตายจริง”

จู่ๆอารุนะก็หยุดเดิน ทำให้ทุกคนที่ตามหลังมาต่างหยุดตามไปด้วย

“เป็นอะไรหรอครับ?”

ริกุถาม อารุนะหันกลับมาพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงกระวนกระวาย

“สร้อยคอของฉัน เมื่อกี้ฉันยังใส่อยู่เลย สงสัยหายไปตอนที่เดินหาคิซากุระจังแน่ๆ”

เธอพูดพลางมองไปรอบๆตัวเองและบนพื้นเผื่อมันอาจจะตกอยู่บริเวณนั้น แต่ก็ไม่เจออะไร ท่าทางของอารุนะดูร้อนรนอย่างชัดเจน

“แค่สร้อยคอช่างมันเถอะครับ ถ้าจะกลับไปหาล่ะก็ผมว่าอาจจะเจอพวกผีตรงนั้นก็ได้”
“ไม่ได้นะ สร้อยคอเส้นนี้สำคัญกับฉันมาก ยังไงฉันก็จะกลับไปหา”

อารุนะกล่าว ก่อนที่เธอจะส่งสายตาไปที่ซานาดะ

“จริงสิ มาซาโอะคุง ขอยืมมือถือหน่อยสิ”
“อะ เอ๊ะ?”
“ในกลุ่มเรามาซาโอะคุงพกมือถือมาคนเดียวใช่ไหม? ขอยืมใช้โหมดไฟฉายหน่อยจะได้หรือเปล่า? ถ้าไปหามืดๆแบบนั้นไม่เจอแน่ๆ”
“เอ๋? เอ่อ...”
“เป็นอะไรไปหรอ?”

อารุนะถามพร้อมขยับหน้าเข้าไปใกล้ๆซานาดะ สายตาของเขาดูลอกแลกแปลกๆ อารุนะขมวดคิ้ว ก่อนที่จะถามขึ้นด้วยเสียงโทนต่ำ

“หรือว่า... มีความลับอะไรในมือถือ?”

ซานาดะสะดุ้งโหยง อารุนะสังเกตเห็นจึงยิ้มเหมือนจับผิดใครสักคนได้สำเร็จ

“ปะ เปล่าครับ แค่ผมคิดว่า ให้ผมไปด้วยน่าจะดีกว่า”
“หืม?”
“ไปกันสองคนน่าจะหาเจอเร็วกว่าไงครับ”

อารุนะมีท่าทีครุ่นคิดอยู่สักพัก ก่อนที่เธอจะพยักหน้า

“อื้ม! งั้นตกลง ไปกันเถอะ สองหนุ่มรอตรงนี้แปปนึงนะจ๊ะ”

อารุนะโบกมือให้กับริกุและชินสุเกะ ก่อนที่จะเดินไปโดยมีซานาดะตามหลัง

“อย่าทำอะไรแปลกๆกับรุ่นพี่เขาล่ะ!”
“ไม่ทำหรอกครับ!”

ซานาดะตะโกนกลับไปให้กับริกุที่แซวขึ้นมา

----------------------------------------------------

“น่าจะแถวๆนี้ล่ะมั้ง มาช่วยกันหาเถอะ”

เมื่ออารุนะพูดแบบนั้น ซานาดะก็กดสมาร์ทโฟนของเขาให้เป็นโหมดไฟฉาย แสงไฟนั้นสว่างจ้าพอสมควรจนมองเห็นสิ่งรอบๆได้อย่างชัดเจน

“มาซาโอะคุงช่วยฉายไฟฉายไปรอบๆทีนะ เดี๋ยวฉันเป็นคนมองหาเอง สร้อยคอมันจะสะท้อนแสงไฟเดี๋ยวก็เจอแล้วล่ะ”

จากนั้นซานาดะจึงกวาดแสงไฟไปทั่วบริเวณเพื่อตามหาสร้อยคอของอารุนะ เขาดูเหมือนอยากรีบหาให้เจอโดยเร็วที่สุดคงเพราะถ้าอยู่ที่นี่นานไปอาจจะเจอกับอะไรไม่คาดฝัน ตอนนี้ก็มีเพียงเขากับอารุนะเท่านั้น ถ้าเจออะไรเข้าอาจจะรับมือลำบาก

“มาซาโอะคุงคงหวงมือถือมากล่ะสิ ถึงไม่ยอมให้ฉันยืมใช้น่ะ?”
“อะ เอ๋? เปล่านะครับ ผมคิดว่าหากันสองคนน่าจะเจอเร็วกว่าจริงๆ”
“น่า... ไม่ต้องอายไปหรอก ก็มาซาโอะคุงออกจะติดมือถือซะขนาดนั้น”
“อะ ฮ่ะๆ ก็... หวงนิดหน่อยแหละครับ”
“ว่าแล้วเชียว”

อารุนะหัวเราะ

“บอกฉันตรงๆก็ได้นี่”
“แต่ผมก็ไม่อยากให้รุ่นพี่มาคนเดียวจริงๆนะครับ มันอันตราย”
“พูดแบบนี้ฉันก็เขินแย่เลยสิ ทำตัวเหมือนฮีโร่จังนะ”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ฮ่ะๆๆ แค่ก!!”

เหมือนซานาดะจะหัวเราะมากไปหน่อย เขาจึงรู้สึกเจ็บคอขึ้นมา

ซานาดะลูบไปที่บริเวณคอเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด แต่แล้วเขาก็ชะงัก

เมื่อมือของเขาติดของเหลวอะไรบางอย่างมาด้วย

เขามองไปที่ฝ่ามือของตนเอง จากนั้นดวงตาของเขาก็เบิกโพลง

ของเหลวนั้นคือเลือด...

ซานาดะจับไปที่คอของตัวเองอีกครั้งอย่างตื่นตระหนก คราวนี้ความรู้สึกเจ็บปวดนั้นเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณพร้อมทั้งเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุด สิ่งที่สัมผัสได้ก่อนที่ตัวเองจะล้มกองลงไป คือบาดแผลบริเวณคอที่ทำให้เลือดของเขาออกมามากมายได้ขนาดนั้น

เขาพยายามจะร้องขอความช่วยเหลือจากอารุนะ แต่ดูเหมือนบาดแผลนั้นจะลึกไปจนถึงหลอดลมทำให้ไม่สามารถพูดออกมาได้

อย่างไรก็ตาม อารุนะน่าจะเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแล้ว เธอเดินเข้ามาใกล้ซานาดะที่นอนอยู่ แต่แทนที่จะช่วย เธอกลับกระชากเอาสมาร์ทโฟนที่อยู่ในมือของซานาดะขึ้นมา

“เจ้าโง่เอ้ย ฉันใส่สร้อยคอซะที่ไหนกันล่ะ”

น้ำเสียงที่เย็นชานั้นทำให้ซานาดะเหลือบสายตาไปมองอารุนะ ก็พบว่ามือข้างหนึ่งของเธอนั้นถือมีดคมกริบที่เปื้อนเลือดอยู่ด้วย

คนที่ทำแบบนี้กับเขาคือตัวอารุนะเอง...

“ก็เพราะชอบทำตัวเป็นฮีโร่นี่นะ ถึงได้ไปแอบถ่ายเหตุการณ์ที่บ่อน้ำตรงนั้นน่ะ”

อารุนะเขวี้ยงสมาร์ทโฟนของซานาดะลงพื้นอย่างไม่ไยดี สมาร์ทโฟนเครื่องนั้นกระแทกพื้นอย่างแรงจนชิ้นส่วนแตกกระจายไปคนละทิศคนละทาง เธอใช้เท้าบดขยี้ชิ้นส่วนที่เหลือบนพื้นซ้ำอีกเหมือนให้แน่ใจว่ามันถูกทำลายอย่างไม่เหลือซากแล้วจริงๆ

“แต่แอบถ่ายคนอื่นโดยไม่ขออนุญาตมันไม่ดีนะรู้ไหม?”

อารุนะยิ้มให้ซานาดะที่ดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้น แล้วลูบหัวเขาอย่างเอ็นดู

“ต้องเข้าใจหน่อยนะ ว่าทำผิดก็ต้องโดนลงโทษ แต่ตอนนี้ฉันให้อภัยแล้วล่ะ มาซาโอะคุง♡”

ก่อนที่ร่างของซานาดะจะแน่นิ่งไป

----------------------------------------------------

“นายปล่อยให้ยัยนั่นไปกับมาซาโอะง่ายๆแบบนั้นเนี่ยนะ?”
“อะไรอีกล่ะครับรุ่นพี่คาบาเนะ? นี่รุ่นพี่ยังคิดมากกับเรื่องนั้นอยู่อีกหรอ?”

ริกุตอบกลับแบบเหนื่อยใจ

“ตอนนี้เราอย่ามาทะเลาะกันดีกว่าครับ ยิ่งสถานการณ์แบบนี้ทุกคนจะต้องช่วยกัน ถ้ามัวไปสงสัยกับเรื่องเล็กๆน้อยๆมีแต่เสียกับเสียนะครับ”

ชินสุเกะก็ดูจะเหนื่อยใจไม่แพ้กันที่ริกุไม่ยอมรับฟัง แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้แล้วจึงปล่อยให้บทสนทนานี้ผ่านไปอีกครั้ง ในระหว่างนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาแต่ไกล

“รีบหนีเร็วเข้า!!”
“รุ่นพี่อายุคาวะ?”

ริกุหันไปก็พบอารุนะที่วิ่งหน้าตาตื่นเหมือนหนีอะไรมา

“หนีเร็ว! ผีมันตามฉันมา!”

พออารุนะเริ่มวิ่งเข้ามาใกล้ ริกุก็เห็นสิ่งที่ตามเธอมาทันที อย่างที่อารุนะพูดไว้จริงๆ มีวิญญาณร้ายตามเธอมา

และไม่ใช่แค่หนึ่ง...

ริกุกับชินสุเกะจึงรีบวิ่งหนีโดยไม่ทันได้ถามถึงซานาดะที่ไม่ได้มาด้วย ยังไงตอนนี้ก็ต้องเอาชีวิตรอดไว้ก่อน

เป็นทางริกุที่พยายามจะนำทางไปตามตรอกซอยเล็กๆเพราะจะทำให้หนีพ้นง่ายกว่า แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเท่าไหร่

“ทางตัน!? โชคดีอะไรขนาดนี้วะเนี่ย?”

ริกุสบถอย่างหัวเสียเมื่อพบว่าตรอกที่เข้ามากลับเป็นทางตัน เมื่อพยายามจะออกไปจากตรงนี้ก็พบว่าเหล่าวิญญาณร้ายได้ตามมาทันเสียแล้ว

ทั้งสามถอยหลังจนไปติดกำแพง ไม่มีทางหนี มีแต่จะต้องสู้เท่านั้น แต่พวกเขาจะสู้กับวิญญาณร้ายพวกนี้ได้อย่างไรกัน

ทว่าริกุก็เห็นทางออก

เขาวิ่งตรงไปยังทางตันที่เป็นกำแพงแล้วกระโดดไต่อย่างชำนาญพร้อมทั้งปีนกำแพงขึ้นไป หลังกำแพงนั้นมีหลังคาของบ้านหลังหนึ่งอยู่ตรงนั้นพอดีทำให้เขาปีนขึ้นไปยืนได้

“เร็วครับรุ่นพี่อายุคาวะ! จับมือผมไว้”

ริกุเรียกอารุนะที่หันมาเห็นเขาอยู่ข้างบนแล้วยื่นมือลงมา เธอพยักหน้าแล้วกระโดดจับมือริกุไว้ จากนั้นอีกฝ่ายจึงดึงอารุนะขึ้นไป เพราะเธอเป็นผู้หญิงจึงไม่มีปัญหาเท่าไหร่

“รุ่นพี่คาบาเนะกระโดดขึ้นมาเร็วครับ!”

ชินสุเกะน่าจะต้องใช้แรงมากกว่าหนึ่งคน อารุนะจึงมาช่วยริกุด้วยอีกแรง ชินสุเกะเหลือบมองไปยังกลุ่มวิญญาณร้ายที่ตามมา

แล้วกระโดดด้วยแรงที่มีทั้งหมดก่อนที่คว้ามือของอารุนะและริกุไว้

พลั่ก!!

แต่อารุนะกลับใช้เท้าถีบชินสุเกะเข้าที่หน้าจนเขาตกลงไปกระแทกพื้นข้างล่างอย่างแรง

ท่ามกลางสายตาอันสับสนของริกุ

เมื่อชินสุเกะตกลงไป เหล่าวิญญาณร้ายกลุ่มนั้นก็เริ่มกรูเข้าไปหาแล้วจับเข้าที่ร่างกายแต่ละส่วนของเขาก่อนที่จะดึงออกจากกัน แขนขาทั้งสองข้างและศีรษะถูกดึงออกจากลำตัวอย่างน่าสยดสยองพร้อมเลือดสีแดงฉานที่สาดกระเซ็นไปทั่ว

“ทำบ้าอะไรน่ะรุ่น-”

สวบ!!

ในระหว่างที่ริกุพยายามจะเข้าหาตัวอารุนะเพราะต้องการคำอธิบาย ที่หน้าท้องของเขาก็เจ็บแปล๊บเมื่อถูกแทงด้วยของมีคมอะไรบางอย่าง

เมื่อเขามองลงไป ก็พบว่าเป็นมีดคมกริบที่แทงเข้ามาด้วยฝีมือของอารุนะ

มีดพกเล่มนั้น... ที่ริกุให้เธอเพื่อนำไปใช้ป้องกันตัว

อารุนะกระชากมีดออกจากท้องของริกุ แล้วถีบร่างของเขาลงไปกระแทกกับพื้นข้างล่างด้วยอีกคน

ในวินาทีนั้น ริกุเพิ่งตระหนักได้ว่าสิ่งที่ชินสุเกะพูดนั้นถูกทุกประการ

อารุนะยืนมองร่างของทั้งสองที่นอนอยู่ท่ามกลางวิญญาณร้ายด้วยสายตาสมเพชเวทนา

“เท่านี้ ก็ไม่มีใครมาขวางแผนการของฉันแล้ว♪”
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Blood Princess : 6
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Blood Princess : 4
» The Extreme Blood 20/02/11
» The Extreme Blood (11/2/12) : Another
» The Extreme Blood (21/4/12) : Misunderstanding
» Blood Princess : 5

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: