Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Checkmate : Turn 2

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
ฟ้ามืด
Superstar Grade B
Superstar Grade B
ฟ้ามืด


จำนวนข้อความ : 504
Join date : 30/04/2013
Age : 31
ที่อยู่ : μ's

Checkmate : Turn 2 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Checkmate : Turn 2   Checkmate : Turn 2 EmptyThu Jul 21, 2016 1:59 am

‘ก้าวสู่สมรภูมิใน สาม สอง หนึ่ง พร้อม... เริ่มได้!’

เมื่อเสียงพูดของระบบจบลง ก็เกิดเสียงการกระทบกันอย่างรุนแรงของวัตถุสองสิ่งจนดังก้องไปทั่ว

‘โอ้วว! เริ่มมาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง! ราชินีแห่งมิไรเคียวเริ่มเข้าจู่โจมตั้งแต่วินาทีแรกของเกมเลยค่า~!’

ใช่แล้ว... วัตถุสองสิ่งนั้นก็คือคุโรเท็ตสึของอาสึนะ และเฮียวโรงะของยูกิ

ซึ่งแน่นอนว่าฝ่ายที่เข้าไปจู่โจมก่อนก็คือยูกินั่นเอง

แต่อาสึนะที่ตั้งดาบด้วยท่าทางอ่อนหัด ก็ยังคงสามารถรับดาบที่ตวัดลงมาด้วยมือเดียวได้อย่างหวุดหวิด

จากนั้นเสียงการปะทะกันของดาบก็ดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ โดยเป็นทางอาสึนะที่เป็นฝ่ายตั้งรับอยู่ตลอด แต่ถึงกระนั้น ในระหว่างที่เขายกดาบขึ้นมาป้องกัน เขาก็พยายามที่จะถอยหนีเพื่อเพิ่มระยะห่างไปด้วย

ทว่ามันก็ไม่มีประโยชน์มากนัก เพราะยูกิก็ได้ไล่ตามไปตลอดทุกฝีก้าว และจู่โจมอาสึนะด้วยเฮียวโรงะ จนตัวเขาแทบไม่มีโอกาสได้พักหายใจเลย

ไหนจะสภาพภูมิประเทศของสมรภูมิที่เป็นน้ำแข็งก็ไม่เป็นมิตรกับเขาเท่าไหร่ การเคลื่อนไหวก็ลำบากเพราะพื้นนั้นลื่นราวกับลานสเก็ตน้ำแข็ง

แต่ยูกิกลับสามารถเคลื่อนที่บนลานสเก็ตน้ำแข็งนี้ได้อย่างสบายๆเหมือนสวมรองเท้าไอซ์สเก็ต สมกับที่เธอพูดไว้ในตอนแรกว่านี่เป็นสมรภูมิที่ตนถนัด

อาสึนะหลบดาบของยูกิที่ตวัดลงมาได้อย่างหวุดหวิดเป็นครั้งแรกโดยไม่ต้องป้องกัน ทำให้คมดาบกระทบเข้ากับพื้นน้ำแข็งจนแตกกระจุย

เกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วพื้นที่จนคนดูบนอัฒจันทร์แทบจะรู้สึกได้แม้จะไม่ได้อยู่ในสมรภูมิรบ

ถ้าคมดาบพวกนั้นโดนอาสึนะล่ะก็คงไม่ต้องพูดถึง... ตัวขาดสองท่อนแน่นอน

และนั่นเป็นครั้งเดียวที่อาสึนะสามารถหลบการโจมตีของยูกิได้ หลังจากนั้นสถานการณ์ก็กลับไปเป็นเหมือนฉายหนังม้วนเก่าอีกครั้ง  

‘สมแล้วที่เป็นราชินีแห่งมิไรเคียว! ประธานโยชิดะได้เข้ากดดันคุณคันซากิอยู่ฝ่ายเดียว! แม้คุณคันซากิจะป้องกันได้ แต่ก็คงป้องกันไม่ได้ไปตลอด ถ้าคุณคันซากิไม่ทำอะไรสักอย่างละก็ ก็ไม่ต่างอะไรกับรอคอยความพ่ายแพ้เลยค่ะ!’

ผู้บรรยายมายุซึมิพูดถูกทุกประการ

แม้จะสามารถป้องกันได้ แต่พลังงานของคนเราก็มีขีดจำกัด จะให้ป้องกันตลอดไปคงเป็นไปไม่ได้

อาสึนะเองก็เริ่มรู้สึกชาไปทั่วทั้งแขน จากการที่รับแรงสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานเพราะต้องป้องกันอยู่ตลอดจนมือเป็นระวิง

แล้วเขาควรจะทำยังไงดี เพราะแค่ป้องกันการโจมตีอย่างเดียวก็เต็มกลืนแล้ว

แต่ถ้าเขาไม่ทำอะไรสักอย่างเลยล่ะก็...

“ฉันเหมือนรังแกเด็กไปหรือเปล่านะ”

ยูกิพูดขึ้นลอยๆ ในขณะที่พยายามกดดาบของตนที่ถูกอาสึนะรับเอาไว้

อีกฝ่ายไม่ตอบอะไร น่าจะเพราะกำลังตั้งสมาธิอยู่

แรงของยูกิเหนือกว่ามาก แม้จะเป็นการใช้ดาบเพียงแค่มือข้างเดียวเท่านั้น ทำให้อาสึนะถึงกับต้องย่อตัวลงไป

ใบหน้าของทั้งคู่แทบจะแนบชิดกันโดยมีดาบทั้งสองเล่มคั่นกลาง ถึงแม้สมาธิจะอยู่ที่การรับดาบ แต่อาสึนะก็อดชื่นชมเด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้

(แข็งแกร่งจริงๆ... จะทำยังไงดี!?)

อาสึนะเริ่มรู้สึกว่าแรงที่กดมาเริ่มผ่อนคลายลง เขาจึงปัดดาบของยูกิออกไปได้

ก็ไม่รู้ว่าเมื่อสักครู่เธอออมมือให้หรือเปล่า

(อ๊ะ จริงสิ ถ้างั้นลองแบบนี้ดูแล้วกัน)

ในระหว่างนั้น เหมือนอาสึนะจะคิดอะไรออก

ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปเป็นฝ่ายตอบโต้บ้าง

‘คุณคันซากิเริ่มเข้าไปเป็นฝ่ายจู่โจมกลับไปบ้างแล้ว!? หรือเขาจะคิดออกแล้วว่าจะควรโต้กลับไปยังไงดี? น่าติดตามมากค่ะ!! ว่าคุณคันซากิจะทำยังไงในเมื่อความสามารถของตัวเองต่างชั้นกับคู่ต่อสู้ถึงขนาดนี้!!’

ผู้บรรยายมายุซึมิกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

ยูกิเลิกคิ้ว เมื่อเห็นอาสึนะพุ่งตรงเข้ามา

(จะฆ่าตัวตายหรือไงกัน!?)

ถ้าอาสึนะจู่โจมพลาด แล้วถูกป้องกันการโจมตีไว้ ก่อนที่จะสวนกลับไปล่ะก็ แค่ครั้งเดียวก็ไม่น่ารอดแล้ว

แต่ทำไมถึงยังกล้าทำเรื่องบ้าบิ่นแบบนี้กันนะ

วินาทีที่ยูกิคิดเช่นนั้น และยกดาบขึ้นมาป้องกันไว้

(เอ๊ะ?)

เธอกลับรู้สึกแปลกๆ จนทำให้การป้องกันดาบครั้งถัดมา ยูกิต้องรับคุโรเท็ตสึไว้ด้วยการจับดาบสองมือ

ปกติยูกิจะใช้งานเฮียวโรงะด้วยมือเพียงข้างเดียว แต่เมื่อสักครู่ที่อาสึนะตวัดดาบเข้ามานั้น มือเพียงข้างเดียวที่เธอจับดาบรับมันไว้กลับรู้สึกปวดร้าวไปจนถึงกระดูก

ครั้งถัดมายูกิจึงต้องรับการโจมตีด้วยมือทั้งสองข้าง มิเช่นนั้นเธอคงรับความเจ็บปวดนั้นไม่ไหวจนต้องปล่อยให้ดาบหลุดจากมือแน่

มันเป็นไปได้ยังไงกัน?

‘อะอะอะ อะไรกันคะนั่น! คุณคันซากิกลายเป็นฝ่ายกดดันประธานโยชิดะแทนซะอย่างนั้น!? แถมดูทางฝั่งประธานยังดูเสียเปรียบอีกต่างหาก... สถานการณ์แทบจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยค่ะ!’
‘เป็นไปได้ไง!’
‘ปกติแล้วท่านยูกิจะต้องป้องกันแล้วสวนกลับไปง่ายๆไม่ใช่หรอ?’
‘เกิดอะไรขึ้นกันนะ!?’

ทั้งผู้บรรยายและคนดูบนอัฒจันทร์ก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน

แต่มีเพียงยูกิเท่านั้นที่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

(ทำไมจู่ๆแรงของเจ้านี่ถึงได้เยอะขึ้นผิดปกติล่ะ?)

ในตอนที่คิดแบบนั้น ยูกิก็หลบคมดาบของอาสึนะ จนพลาดไปโดนพื้นน้ำแข็งจนแตกกระจุย

ไม่ต่างอะไรกับที่เธอเคยทำไว้เมื่อตอนแรกเลยแม้แต่น้อย

เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า... พละกำลังของอาสึนะในตอนนี้นั้นมีมากขึ้นผิดปกติจริงๆ

ตอนที่ยูกิเป็นฝ่ายรุกนั้น เธอรู้สึกได้เลยว่าพละกำลังของตัวเองเหนือกว่าแน่นอน ในแต่ละครั้งที่ตวัดดาบลงไปต่างก็สร้างความลำบากใจให้แก่อาสึนะ

คนที่ป้องกันการโจมตีของยูกิแทบจะไม่ไหว ไม่มีทางที่จะกดดันเธอด้วยพลังโจมตีขนาดนี้ได้

ในระหว่างที่ยูกินึกถึงความเป็นไปได้ต่างๆนาๆของเรื่องที่เกิดขึ้นจนปวดหัว สายตาก็พลันมองไปที่ดาบสีดำของอาสึนะซึ่งตวัดเข้ามาจู่โจมอย่างต่อเนื่อง

และดวงตาของเธอก็เบิกโพลง

“นะ นั่นมันเทคนิคการใช้ดาบของฉัน!!”
“อ๊ะ!!”

จู่ๆอาสึนะก็หยุดจู่โจมกะทันหัน แล้วกระโดดถอยห่างออกมาไกล

ยูกิไม่ได้กระโดดตามเขาไป เพราะกำลังรู้สึกสับสนอย่างหนัก

ไม่ผิดแน่... การตวัดดาบแบบนั้นของอาสึนะ ที่ทำให้เธอต้องลำบากใจเมื่อสักครู่ เป็นการตวัดดาบอย่างหนักหน่วงด้วยมือเพียงข้างเดียว

ดูยังไงมันก็คือเทคนิคดาบของเธอชัดๆ...

“ว่าแล้วเชียว ประธานต้องโกรธจริงๆด้วย”

อาสึนะพูดเหมือนกับว่าเรื่องที่ทำไปนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่

“ขอโทษนะครับประธาน คือผมน่ะไม่ได้มีความสามารถเหมือนคนอื่นๆ เดิมทีผมเองก็ไม่ใช่นักเล่นเกม Checkmate อยู่แล้ว ที่ผมเข้ามาเรียนที่นี่เพราะมีเหตุผลบางอย่างน่ะนะ ดังนั้นจะใช้ดาบใช้อะไรผมก็ทำไม่เป็นทั้งนั้นแหละ... สิ่งที่ผมทำได้อย่างเดียวก็เลยมีแค่สิ่งนี้เท่านั้น คือการเลียนแบบท่าดาบของคู่ต่อสู้ยังไงล่ะ จะเรียกว่าเป็นท่าประจำตัวของผมไปเลยก็ได้... เอ่อ มันต้องตั้งชื่อด้วยใช่ไหม? งั้นผมขอเรียกมันว่า ‘ก็อปปี้แคท (ลอกเลียนแบบ)’ ก็แล้วกัน”
“นะ นายทำแบบนั้นได้ยังไง!?”
“เอ๋? เอ่อ ก็แค่มองดูแล้วทำตามเท่านั้นเองนี่ครับ?”
“โกหก!!”

ยูกิตะโกนขึ้นมาเสียงดังลั่น

“ไม่มีทาง! แค่ดูอย่างเดียวจะเลียนแบบเทคนิคดาบของฉันได้ยังไง... แถมมันยัง... สะ สมบูรณ์แบบเหนือกว่าฉันอีกต่างหาก!!”
“หะ หา?”

คนที่ทำตาโตแล้วอุทานด้วยความตกใจกลับเป็นอาสึนะที่เป็นคนทำเรื่องแบบนั้น

เหมือนตัวเขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรเหลือเชื่อถึงขนาดนั้นลงไป

ซึ่งสิ่งที่ยูกิรู้สึกได้นั้น มันไม่ได้เป็นแค่การลอกเลียนแบบ ‘เทคนิคดาบ’ ธรรมดาๆอย่างที่เจ้าตัวพูดไว้

แต่มันกลับรู้สึกเหมือนเป็นการลอกเลียนแบบ ‘ตัวตนของฝ่ายตรงข้าม’ มากกว่า

เพราะความจริง ต่อให้จะสามารถเลียนแบบเทคนิคดาบของคนอื่นมาได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติแค่ไหน มันก็ยังมีข้อจำกัดหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเพศ โครงสร้างของกระดูก หรือกล้ามเนื้อ

สมมติว่าลองให้คนทั่วๆไปลอกเลียนแบบวิชาดาบของนักดาบที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดี ต่อให้จะมีเทคนิคการใช้ดาบเหมือนกันมากแค่ไหน ความรุนแรงในการลงดาบของคนทั่วๆไปที่ไม่ได้ถูกฝึกฝนอะไรมาก็ย่อมด้อยกว่านักดาบที่ถูกฝึกฝนมาอยู่ดี

แต่ในกรณีของอาสึนะมันไม่ใช่แบบนั้น

เพราะนอกจากเขาจะเลียนแบบเทคนิคดาบของยูกิมาได้แล้ว ความรุนแรงนั้นยังเทียบเท่าอีกด้วย เหมือนว่าเขาได้ ‘กลายเป็น’ ยูกิอย่างสมบูรณ์

ซึ่งถ้าดูจากทฤษฎีที่ว่ามาข้างต้นแล้ว... มันไม่มีทางเป็นไปได้เป็นอันขาด

และที่สำคัญที่สุด... การลอกเลียนแบบของอาสึนะยังสามารถต่อยอดเทคนิคดาบให้สมบูรณ์ยิ่งกว่าคู่ต่อสู้อีกด้วย

โดยปกติต่อให้เทคนิคดาบของแต่ละคนจะยอดเยี่ยมเพียงใด มันก็ต้องมีจุดบกพร่องอยู่บ้างอย่างน้อยๆจุดหรือสองจุด ซึ่งสิ่งที่อาสึนะทำไปคือการลบล้างจุดบกพร่องเหล่านั้นจนหมดจด จนสามารถแข็งแกร่งกว่าคู่ต่อสู้ได้

น่ากลัว... แบบนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!

“คะ คือ เปล่านะครับ ผม เอ่อ... ผมว่าถ้าไม่ใช่ดาบผมก็คงเลียนแบบไม่ได้หรอกครับ ผมเองก็ไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้นหรอก ฮ่าๆ”

คำพูดที่ลนลานและดูเหมือนถ่อมตัวนั้น กลับทำให้ยูกิรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ

มาดสุขุมเยือกเย็นของเธอเหมือนจะละลายหายไปหมดหลังจากถูกขโมยวิชาดาบไปแบบหน้าตาเฉย แถมยังทำให้เพลงดาบนั้นเหนือกว่าได้อย่างสบายๆอีกต่างหาก

(คันซากิ อาสึนะ นายเป็นใครกันแน่!?)

“ยะ ยังไงผมก็ต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ แต่ผมเองก็ไม่อยากถูกพักการเรียนเหมือนกัน ถึงหนทางชนะมันจะเลือนรางก็เถอะ... แต่ผมจะพยายามครับ!”

อาสึนะไม่รู้เลยว่ากำลังประเมินความสามารถของตัวเองต่ำไป

หากดวลกันแค่ดาบแบบเพียวๆล่ะก็... ตอนนี้เขาเหนือกว่าหลายขุม

เพราะฉะนั้น ถ้ายูกิต้องการกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบ เธอจึงต้อง...

ฟรีซซิ่ง (แช่แข็ง)!”

ทันใดนั้น ขาของอาสึนะที่กำลังจะก้าวเพื่อพุ่งตรงไปข้างหน้า ก็ถูกแช่แข็งหยุดไว้จนขยับไม่ได้

ก่อนที่ฝ่ายที่พุ่งเข้ามาจะกลายเป็นยูกิ แล้วตวัดดาบใส่อาสึนะจนเขาต้องกลับไปเป็นฝ่ายตั้งรับ

และเพราะขาทั้งสองข้างถูกแช่แข็งเอาไว้ อาสึนะจึงหนีไปไหนไม่ได้ ทำได้แค่ป้องกันดาบของยูกิอยู่กับที่เท่านั้น

ใช่แล้ว... เพราะในตอนนี้ ถ้าดวลกันด้วยดาบอย่างเดียวยูกิจะเสียเปรียบ เธอจึงจำเป็นต้องใช้เวทมนตร์

เพราะยังไงๆ อาสึนะก็เป็นแค่พอน ที่ปกติจะไม่มีความสามารถใดๆเลยในโหมดการต่อสู้แบบตัวต่อตัว ต่างจากตัวยูกิที่เป็นถึงควีน ซึ่งมีความสามารถหลากหลายมากกว่า

ยูกิในตอนแรกได้ประเมินพลังของอาสึนะต่ำไป เธอจึงไม่ใช้เวทมนตร์มาจนถึงตอนนี้ เพราะคิดว่าแค่เทคนิคดาบอย่างเดียว เธอก็น่าจะชนะได้สบายๆอยู่แล้ว

แต่ในเมื่อมันไม่เป็นแบบนั้น... เธอก็จำเป็นต้องใช้ความสามารถที่ตัวเองมีอยู่ทุกอย่าง

ซึ่งความจริง หากยูกิต่อสู้ด้วยพลังที่มีอย่างเต็มที่ทั้งหมดตั้งแต่แรก ผลแพ้ชนะก็คงตัดสินกันตั้งแต่ตอนนั้น

กล่าวคือ ต่อให้อาสึนะจะมีวิชาการลอกเลียนแบบตัวตนของคู่ต่อสู้ได้อย่างสมบูรณ์แบบจนน่ากลัวแค่ไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องเวทมนตร์ เขาไม่มีทางเลียนแบบได้แน่นอน

เพราะเขาเป็นเพียงแค่พอน...

อาจจะฟังดูเหมือนขี้โกง แต่ก็ไม่ได้มีกฎห้ามใช้เวทมนตร์ในการต่อสู้แบบตัวต่อตัวอยู่แล้ว

จะโดนหาว่าโกงก็ช่าง ถ้าอยากจะชนะ มันมีแต่วิธีนี้เท่านั้น

‘คุณคันซากิแย่แล้วค่า! ทั้งๆที่เมื่อสักครู่สามารถสร้างความเหลือเชื่อด้วยการกดดันประธานโยชิดะจนแทบจะคุมเกมได้ทั้งหมด! แต่ตอนนี้มันกลับไม่ใช่... เพราะประธานโยชิดะเริ่มใช้เวทมนตร์ที่ไม่ได้ใช้มาตั้งแต่ตอนแรกกับคุณคันซากิแล้ว!’

ในระหว่างที่ป้องกันการโจมตี อาสึนะก็พยายามหาทางหลุดจากพันธนาการน้ำแข็งที่ตรึงขาของเขาไว้เหมือนเป็นโซ่ตรวน

เมื่อรู้สึกได้ว่าแค่การขยับขาไปมาอย่างเดียวมันช่วยไม่ได้ เขาจึงใช้การลงดาบบางจังหวะฟันไปที่โซ่ตรวนน้ำแข็งแทนที่จะเป็นคู่ต่อสู้

ซึ่งมันก็เป็นผล น้ำแข็งที่เกาะขาของเขาอยู่เริ่มแตกร้าว และเขาก็สามารถหลุดออกมาได้สำเร็จ

อาสึนะรีบถอยห่างเพื่อรักษาระยะ แล้วปัดดาบของยูกิที่พุ่งตามมา

ในจังหวะที่เขาเห็นช่องโหว่และกำลังจะเข้าจู่โจม เขาก็โดนโซ่ตรวนน้ำแข็งเข้าพันธนาการอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นที่มือข้างที่ถือดาบ

เมื่อเจอความเย็นระดับจุดเยือกแข็งโดยฉับพลัน ส่งผลให้มือข้างนั้นเกิดอาการชาจนใช้การไม่ได้ทันที หรือต่อให้ใช้การได้ ตรวนน้ำแข็งเหล่านั้นก็เป็นอุปสรรคอย่างใหญ่หลวง

และนั่นก็เป็นการเป็นช่องโหว่แบบเต็มๆให้กับยูกิ

แม้สีหน้าของเธอจะไม่แสดงความรู้สึกมากนัก แต่อาสึนะก็พอจะเดาคำพูดจากสีหน้านั้นออก

(ลาขาด!!)

นั่นคือความคิดของยูกิที่อาสึนะคาดเดาไว้

ซึ่งมันก็น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะตอนนี้เขาไม่น่าจะมีอะไรที่จะป้องกันการโจมตีนั้นได้เลย

แต่ทว่า...

“ย้ากกกกกก!!!”

จู่ๆอาสึนะก็คำรามออกมาเหมือนพยายามออกแรงที่จะทำอะไรสักอย่าง

หลังจากนั้นคมดาบของเฮียวโรงะ ก็เคลื่อนที่มาจ่ออยู่ตรงหน้าของอาสึนะ โดยไม่ได้สัมผัสมาถึงตัวเขาแต่อย่างใด

“!!!”

สีหน้าของยูกิเกิดความตกตะลึงชั่วขณะ เพราะภาพที่เห็นคือ... มือที่ใช้การไม่ได้ของอาสึนะนั้น ได้ยกขึ้นมาป้องกันการโจมตีเอาไว้ได้

มือที่ถูกแช่แข็งถูกยูกิลงดาบเข้าใส่เต็มๆ ทำให้แทนที่จะเป็นสร้างความเสียหายให้แก่เขา มันกลับเป็นการปลดพันธนาการที่ตัวเธอเป็นคนทำไว้อย่างไม่ได้ตั้งใจ

น้ำแข็งได้แตกกระจายทันทีจากแรงปะทะเมื่อสักครู่โดยที่อาสึนะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่ว่ามือข้างนั้นก็น่าจะยังไม่ฟื้นฟูเต็มที่

ทั้งๆที่อาสึนะไม่น่าจะโจมตีสวนกลับใส่ยูกิที่ไม่ได้เตรียมตั้งรับได้ในทันทีด้วยมือข้างนั้น... แต่เขากลับทำมันได้

เหตุผลก็เพราะ อาสึนะได้ใช้มืออีกข้างถือคุโรเท็ตสึ แล้วฟันลงเข้าไหล่ขวาที่เปิดโล่งของยูกิ

แล้วทำไมอาสึนะถึงสามารถใช้มือข้างที่ไม่ถนัดลงดาบโดยที่พลังโจมตีไม่ได้ลดไปมากนัก!?

อย่าลืมว่า... เขาได้เลียนแบบตัวตนของคู่ต่อสู้อย่างสมบูรณ์แบบและลบจุดบกพร่องต่างๆไปจนหมด ดังนั้น... แค่ใช้งานดาบด้วยมือข้างที่ไม่ถนัดจึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย

และทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา ทำให้โยชิดะ ยูกิ ถูกคันซากิ อาสึนะ เผด็จศึกด้วยการลงดาบในครั้งนี้

----------------------------------------------------

‘ฟะฟะฟะ ฟันเข้าใส่เต็มๆ! ตัดสินกันแล้วใช่ไหมเนี่ย? ประธานโยชิดะเนี่ยนะจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้!? ไม่น่าเชื่อจริงๆค่ะ... อ๊ะ! ดะ เดี๋ยว! ดูนั่นก่อนค่ะ!!’

มีเรื่องที่ผิดคาดยิ่งกว่าการที่อาสึนะสามารถลงดาบใส่ยูกิได้

นั่นคือคมดาบสีดำนั้น... ไม่ได้สร้างบาดแผลใดๆให้กับโยชิดะ ยูกิ และหยุดนิ่งค้างอยู่ตรงไหล่แบบนั้น

ด้วยความตกใจ อาสึนะจึงรีบถอยห่างออกมาไกลเพื่อตั้งหลัก เพราะรู้สึกถึงจิตสังหารอันแรงกล้า

เมื่อถอยออกมาได้ไกลพอสมควร เขาก็มองเห็นว่า ที่ร่างกายของยูกิ ได้มีอะไรแปลกไป

เกล็ดน้ำแข็งเล็กๆ ที่ต้องสังเกตดูดีๆถึงจะเห็นได้ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกายของเธอ

ท่าทางเกล็ดน้ำแข็งเล็กๆเหล่านี้แหละ คือสิ่งที่ป้องกันไม่ให้การโจมตีของอาสึนะทำอันตรายใดๆได้ราวกับเป็นชุดเกราะ

นี่คือ ‘โฟรเซ่นเดรส’ (อาภรณ์เยือกแข็ง)

เป็นการควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายให้กลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง และใช้มันปกคลุมร่างกายของตัวเองเพื่อป้องกันการโจมตีของคู่ต่อสู้ ซึ่งเพราะสมรภูมิที่ยืนอยู่นั้นเป็นน้ำแข็งอยู่แล้ว ดังนั้นจึงใช้เวลาแค่เพียงเสี้ยววินาที ก็สามารถสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแรงมากพอได้สบายๆอยู่แล้ว

อาสึนะที่เกือบจะชนะแต่ก็ต้องมาเจอกับความขี้โกงที่ไม่ผิดกฎก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ

“คันซากิ อาสึนะ ฉันมองนายผิดไปเยอะมาก... ฉันคิดว่าแค่ดาบอย่างเดียว ก็สามารถเอาชนะคนอย่างนายได้สบายๆอยู่แล้ว แต่มันก็ไม่เป็นแบบนั้น... ฉันจึงจำเป็นต้องใช้ความเสียเปรียบของนายให้เป็นประโยชน์ นั่นคือการใช้เวทมนตร์ แต่ฉันก็ยังเอาชนะนายไม่ได้”

ยูกิพูดทั้งๆที่ยังก้มหน้า

“และนี่คือวิธีสุดท้าย การปลดปล่อยพลังเวทที่ฉันมีทั้งหมดในการกำจัดนาย... ฉันขอโทษจริงๆ ที่ฉันต้องใช้วิธีขี้โกงแบบนี้ แต่มันคงเป็นวิธีเดียวที่จะโค่นนายได้”

ยูกิยอมรับแต่โดยดีว่ามันเป็นวิธีที่ขี้โกง

ถ้าจะว่ากันตามจริง... มันโกงตั้งแต่ที่ควีนอย่างเธอท้าต่อสู้กับพอนอย่างเขาแล้ว

เธอจึงไม่คิดที่จะโค่นเขาด้วยพลังแบบนี้ตั้งแต่แรก เพื่อที่จะได้ภาคภูมิใจว่าเธอไม่ได้ใช้ความได้เปรียบของตัวเองในการเอาชนะ

แต่ในเมื่อเขาแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ มันจึงไม่มีทางเลือกอื่น...

ยูกิชูเฮียวโรงะขึ้นฟ้า ก่อนที่ทั่วทั้งสมรภูมิจะเกิดการสั่นสะเทือน

เกล็ดน้ำแข็งที่ทั้งมองเห็นและมองไม่เห็น ต่างพุ่งเข้าไปรวบรวมอยู่ที่คมดาบของยูกิ รวมทั้งเกล็ดน้ำแข็งที่เป็นชุดเกราะป้องกันตัวเธออยู่ด้วย

จนจากดาบตรงธรรมดากลายเป็นหอคอยน้ำแข็งที่มีความสูงเสียดฟ้า

แน่นอนว่าอาสึนะก็คงไม่โง่ถึงขนาดไม่รู้ว่ายูกิกำลังทำอะไร จึงพยายามจะเคลื่อนตัวหนี แต่ก็ถูกพันธนาการไว้ด้วยน้ำแข็งอีกครั้งที่ขาทั้งสองข้าง

คราวนี้เขาไม่สามารถทำลายมันได้ด้วยดาบของตัวเองอีกต่อไป เพราะยูกิคงจะใช้พันธนาการนี้ด้วยพลังเวทที่เข้มข้นมากกว่าครั้งก่อน

เมื่อมั่นใจแล้วว่าอีกฝ่ายไม่มีทางให้หนีพ้น เธอจึงกู่ร้องออกมาราวกับเป็นการประกาศชัยชนะของตนเอง

ฟรีซ เอ็กซ์คิวชั่น (คมดาบเยือกแข็งลงทัณฑ์)!!!”

และแล้วหอคอยสูงเสียดฟ้าซึ่งจริงๆแล้วมันคือคมดาบ ก็ได้ฟาดฟันลงมาใส่อาสึนะที่ไม่สามารถขยับหนีไปไหนได้

อย่างที่กล่าวไว้ว่าสมรภูมินั้นเป็นน้ำแข็งอยู่แล้ว เกล็ดน้ำแข็งมหาศาลที่ถูกรวบรวมไว้ที่คมดาบจึงมีพลังโจมตีมากมายพอที่จะทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้าได้สบายๆ

คมดาบนั้น... ใช้เพื่อโค่นพอนเพียงคนเดียวอย่างคันซากิ อาสึนะ

มันจบลงแล้ว!

แรงสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหวในระดับสูงสุดได้เกิดขึ้น

พร้อมทั้งรอยยิ้มมุมปากจางๆของผู้ชนะอย่างโยชิดะ ยูกิ

ทั้งๆที่มันควรเป็นแบบนั้น...

รอยยิ้มของยูกิหายไปและถูกแทนที่ด้วยใบหน้าที่บูดเบี้ยวจนหมดสวยของเธอ

เพราะหอคอยสูงเสียดฟ้านั้นถูกหยุดไว้ด้วยใบดาบของคุโรเท็ตสึ!!

เธอกรีดร้องอยู่ในใจโดยที่ไม่มีเสียงใดๆเล็ดรอดออกมา เพราะสิ่งที่เห็นมันกินว่าคำว่าตกตะลึงไปหลายขุม

ไม่มีทาง! ไม่มีทางที่พลังทำลายอันมหาศาลของฟรีซ เอ็กซ์คิวชั่น จะถูกหยุดไว้ด้วยใบดาบบางๆของคุโรเท็ตสึ

แต่แล้วภาพของอาสึนะที่กำลังรับหอคอยดาบนั้นไว้ กลับเกิดภาพซ้อนทับของคนบางคนที่ยูกิรู้จักเป็นอย่างดี

ทำให้เธอคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“ไม่จริง!! นั่นมันเนเกท (ปฏิเสธการโจมตี)!!”

เธอพูดพึมพำออกมา ในขณะที่ภาพในอดีตที่เธอยังเรียนอยู่ชั้นปีที่หนึ่ง โรงเรียนมิไรเคียว ได้ย้อนคืนกลับมา

ตอนนั้นเธอสอบเข้ามาด้วยตำแหน่งพอน และไม่ได้มีเป้าหมายใดๆชัดเจนว่าเธออยากจะทำอะไร

จนกระทั่งเธอได้เห็นการต่อสู้ของประธานนักเรียนในขณะนั้น ที่ได้เปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล

การต่อสู้ของคันซากิ อากาเนะ

บุคคลที่เป็นแบบอย่าง และเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เธอพยายามจนมีวันนี้

และเธอก็ได้เห็นเนเกทจากการต่อสู้ในครั้งนั้น

มันคือการปฏิเสธการโจมตีทุกชนิดที่สามารถใช้ดาบป้องกันหรือสัมผัสได้ ทำให้การโจมตีนั้นไร้ผลทันทีโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีที่รุนแรงมากแค่ไหน

นั่นแหละคือสิ่งที่อาสึนะกำลังทำกับฟรีซ เอ็กซ์คิวชั่น

(แล้วอาสึนะสามารถทำแบบนั้นได้ยังไงกัน!? เขาเป็นแค่พอนไม่ใช่หรอ? ไม่ใช่สิ...!!)

ยูกิมานึกออกอีกอย่างนึง

อากาเนะนั้นก็เป็นแค่ไนท์... ที่ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้เหมือนกัน

แล้วทำไมถึงสามารถทำเรื่องแบบนั้นได้ เหตุผลนั้นก็ง่ายๆ ก็เพราะว่า...

มันไม่ใช่เวทมนตร์ แต่เป็นความสามารถของคุโรเท็ตสึต่างหาก

นั่นจึงหมายความว่า ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่ครอบครองคุโรเท็ตสึ ก็สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้ทั้งนั้น

พันธนาการน้ำแข็งของอาสึนะที่ป้องกันคมดาบลงทัณฑ์นั้นได้ เริ่มแตกร้าวออก อาจะเป็นเพราะแรงสั่นสะเทือนอันมหาศาลเมื่อสักครู่

เขาจึงหลุดออกจากตรวนน้ำแข็ง แล้วพุ่งตัวเข้าไปหายูกิพร้อมดาบในมือ

เพราะหอคอยสูงเสียดฟ้าที่ฟาดลงมานั้น คงไม่สามารถถูกยกกลับไปในท่าเตรียมโจมตีได้ในเวลาอันสั้น

ณ ตอนนี้ ตัวของยูกิจึงเกิดได้เกิดช่องโหว่ขนาดใหญ่

วินาทีที่ยูกิเห็นอาสึนะพุ่งเข้ามา เธอก็หน้าถอดสีพร้อมรู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว

เพราะเธอรู้ดีว่า ความน่ากลัวของเนเกท ไม่ได้จบที่แค่การปฏิเสธการโจมตีของศัตรู

นอกจากจะเป็นการปฏิเสธการโจมตีแล้ว พลังทำลายของการโจมตีที่ถูกปฏิเสธก็จะถูกดูดซับไปอยู่ในตัวดาบ และสามารถจู่โจมคู่ต่อสู้กลับไปได้ด้วยพลังทำลายนั้น

มันถูกเรียกว่า ‘แบ็คไฟร์’ (สะท้อนกลับ)

ซึ่งคุโรเท็ตสึของอาสึนะที่กำลังจะตัดผ่านร่างของเธอนั้น มีพลังทำลายมหาศาลเทียบเท่ากับคมดาบลงทัณฑ์ที่ทำให้ฟ้าถล่มแผ่นดินทลายของเธอ

ร่างกายที่ไม่ได้ถูกห่อหุ้มด้วยโฟรเซ่นเดรส จึงถูกคมดาบบางๆนั้นเคลื่อนที่ผ่านไป

...แต่ต่อให้มีเกราะเยือกแข็งห่อหุ้มร่างกายอยู่ ยูกิก็ไม่มั่นใจนักว่ามันจะป้องกันพลังโจมตีอันมหาศาลขนาดนั้นได้

จากนั้นโยชิดะ ยูกิ ก็ถูกดึงลงไปสู่โลกอันมืดมิด

พร้อมเสียงๆหนึ่งที่ดังก้องขึ้นมา

‘รุกฆาต! ผู้ชนะคือ คันซากิ อาสึนะ!’

----------------------------------------------------

เสียงของระบบเกมที่จบลง พร้อมๆกับที่ภาพการต่อสู้ภายในเกมได้หายวับไปกลางอากาศ

ทำให้สนามแข่งขันที่หนึ่งถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ

ทั้งคนดูบนอัฒจันทร์ หรือแม้กระทั่งผู้บรรยาย ก็ต่างสูญเสียคำพูดไปจากจุดจบของเกมอันน่าเหลือเชื่อ

แม้กระทั่งผู้ชนะอย่างคันซากิ อาสึนะ ก็ไม่ได้ตะโกนโห่ร้องด้วยความดีใจแต่อย่างใด

เขาเองก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน

ชนะ... จริงๆน่ะหรอ!?

ชนะราชินีแห่งมิไรเคียวได้จริงๆน่ะหรอ!?

เขาตั้งคำถามกับตัวเองแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมา และไม่รู้เลยว่าตัวเองกลับมาถึงบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่

แต่ที่รู้ๆ คืนนั้นที่กระดานสนทนาบนเว็บไซต์ของโรงเรียนมิไรเคียว

ได้มีการพูดคุยถึงชัยชนะของอาสึนะที่มีต่อราชินีแห่งมิไรเคียวจนกลบหัวข้ออื่นๆแทบมิด

แม้กระทั่งหัวข้อที่เป็นที่มาของฉายาอย่าง ‘อันเดอร์ด็อก’ ที่อาสึนะเคยได้รับ

เพราะตั้งแต่คืนนั้น ‘อันเดอร์ด็อก’ อย่างเขา ได้เริ่มเป็นที่รู้จักในชื่อ ‘ควีนสเลเยอร์’ (ผู้พิชิตราชินี)

เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า... ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ชีวิตของคันซากิ อาสึนะ ในรั้วโรงเรียนมิไรเคียวนั้น จะไม่ธรรมดาอีกต่อไป
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Checkmate : Turn 2
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: