Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Exchange EP 1

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Exchange EP 1 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Exchange EP 1   Exchange EP 1 EmptyMon Aug 08, 2016 1:14 am

ผมไม่เคยอยากมาที่นี่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผมไม่เคยอยากจากญี่ปุ่นมาเลยแม้แต่น้อย แต่พ่อแม่ผมอยากให้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ และพัฒนาภาษาของผมด้วย ถึงผมจะมั่นใจในภาษาอังกฤษของผมอยู่แล้วก็ตาม ตอนแรกๆผมกะจะทำไงก็ได้ให้ตัวเองไม่ได้ทุน แต่พอผมคิดๆดูแล้วว่าพ่อแม่ของผมจ่ายเงินมากขนาดไหนในการที่ทำให้ผมได้ชิงทุนนี่ ผมเลยตัดสินใจก้มหน้าและยอมรับมัน

และใช่ ผมก็อยู่ตรงนี้แล้ว อยู่ที่เกาะในยุโรป ในห้องเล็กๆย่าน “ท็อตแน่มคอร์ท” มันเป็นห้องที่มีแค่เตียง ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะไม้ ผมหยิบของออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง ผมวางโน๊ตบุ๊คของผมไว้บนโต๊ะ อย่างน้อยๆต่อให้ผมอยู่คนละซีกโลก ผมก็ยังคงสามารถติดต่อกับเพื่อนผ่านทางพลังที่เรียกว่าอินเตอร์เน็ตและวิดีโอเกม ถึงมันอาจจะยุ่งยากนิดหน่อย เพราะช่วงเวลาระหว่างที่นี่กับญี่ปุ่นนั้นห่างกันถึงแปดช่วงโมง อย่างตอนนี้ที่นี่สิบเอ็ดโมง ที่ญี่ปุ่นก็คงทุ่มนึงแล้ว ผมเริ่มเปิดกระเป๋าเดินทางของผมก่อนจะเริ่มหยิบเสื้อผ้าไปแขวนในตู้เสื้อผ้า ผมมีเสื้อในตู้ได้ประมาณแปดตัวด้วยกัน เสื้อนอนสองตัว เสื้อลำลองอีกหกตัว ถ้าพูดให้ถูกเจ็ด ตัวนึงผมใส่อยู่

ทำไมผมเอามาเยอะขนาดนี้? ตอนแรกๆผมก็ไม่คิดว่าผมจะขนมาเยอะขนาดนี้หรอก แต่หลังจากที่ผมโดนแม่ผมกรอกหูว่าถ้าหากเสื้อไม่พอและต้องซื้อเสื้อที่นั่น มันคงจะแพงไม่น้อย เมื่อผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ผมก็เปิดมือถือของผมขึ้นมา ผมใช้นิ้วของผมกดเข้าไปในเกมเพื่อรับของประจำรายวัน เมื่อผมรับของเสร็จแล้ว ผมก็รายงานที่บ้านผมว่าผมหมายถึงยังบ้านของโฮสแล้ว

แล้ว...วันแรกผมจะทำอะไรดี? ผมตั้งคำถามกับตัวเอง ผมไม่ใช่พวกที่ชอบออกไปโลกภายนอกเท่าไหร่ ผมมองไปยังโน๊ตบุ๊คของผมที่พับอยู่ ผมเดินไปหามันก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ บางที “เกม” อาจจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด แต่ไม่ทันที่เขาจะได้เปิดเครื่องของเขา เสียงตะโกนจากชั้นล่างก็ดังขึ้นมา

“ซาโตรุ ลงมาข้างล่างได้ไหม?” เสียงของลูคัสตะโกนขึ้นมา
“ครับ” ผมตะโกนกลับไป

ผมลุกจากเก้าอี้ตัวเอง ห้องของผมนั้นอยู่ชั้นสอง ผมเดินลงไปข้างล่าง ผมลงมาอยู่ตรงห้องนั่งเล่นของบ้านหลังนี้ มันมีโซฟาสีเทาวางอยู่ ตรงข้ามกับโซฟาก็มีทีวีจอแบนตั้งอยู่ มองไปแล้วก็เห็นลูคัสยืนอยู่ ข้างๆเขานั้นเป็นหญิงรุ่นราววัยคราวเดียวกันกับเขา ผมของเธอนั้นเป็นสีทราย ดวงตาของเธอนั้นเป็นสีฟ้า เธอผูกหางม้า ร่างกายของเธอดูบอบบาง ใบหน้าของเธอนั้นน่ารัก หัวใจของผมนั้นเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักมาก เธอสวมเสื้อยืดสีชมพู มันมีลายอยู่เล็กน้อยและกางเกงขายาวสีขาว

“นี่ลูกของชั้น โรบิ้น” ลูคัสผู้เป็นพ่อแนะนำตัวลูกสาวของเขา
“สวัสดี ชั้นโรบิ้น ยินดีที่รู้จัก” หญิงผมสีทรายคนนี้ยื่นมือมาทางผม
“ผมซะ ซะ ซาโตรุ ยินดีที่รู้จักครับ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงสั่นด้วยความเขินอาย

ผมไม่รู้ว่าหน้าของผมตอนนี้เป็นยังไง แต่ผมคิดว่าตอนนี้หน้าของผมคงแดงก่ำ ผมรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิบนใบหน้าของผมที่ร้อนฉ่า ผมสัมผัสกับฝ่ามือที่นุ่มนวลของเธอ มันยิ่งทำให้ผมได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองดังขึ้นไปอีก

“เอ่อใช่ ซาทารุ...โรบิ้นน่ะ เป็นผู้ชายนะ” ลูคัสพูดออกมา
“เอ๊ะ?” ประโยคเมื่อกี้ทำให้ผมอุทานออกมา

ร่างบางที่จับมือกับผมอยู่นั้นปล่อยมือออกก่อนจะยิ้มด้วยรอยยิ้ม

“อื้ม เห็นแบบนี้ชั้นเป็นผู้ชายนะ”

มันเป็นอะไรที่ผมไม่ค่อยอยากจะเชื่อสายตาตัวเองเท่าไหร่นัก เกิดมาผมไม่เคยได้อยู่ใกล้กับใครที่สวยขนาดนี้มาก่อน และเมื่อเขาได้อยู่ใกล้และอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน คนๆนั้นก็กลับเป็นผู้ชาย จะบอกว่าโรบิ้นนั้นน่าจะมีความเป็นผู้หญิงกว่าผู้หญิงๆหลายๆคนที่ผมรู้จักที่ญี่ปุ่นเสียอีก

“ชั้นอยากจะพานายเที่ยวหน่อยน่ะ แถวๆนี้มีที่เที่ยวพอสมควร”
“อ่าครับ ถ้างั้นผมขอไปหยิบเสื้อโค้ทก่อนละกัน”
“อื้อ ชั้นจะรอตรงนี้นะ” โรบิ้นพูดด้วยรอยยิ้ม

ผมกลับขึ้นไปชั้นบน กลับเข้าไปในห้องผมก่อนจะสวมเสื้อโค้ทของตัวเอง ส่วนตัวแล้วผมไม่อยากออกไปข้างนอกเท่าไหร่นัก แต่ผมเองก็ไม่อยากปฏิเสธ เพราะจะดูเสียมารยาทไม่น้อย ผมเดินลงไปข้างล่างก่อนจะเห็นโรบิ้นที่อยู่ในเสื้อโค้ทของตัวเองแล้วเหมือนกัน

“ถ้างั้นเราไปกันเถอะ” โรบิ้นพูดกับผมด้วยรอยยิ้ม

ผมพยักหน้าก่อนที่เธอจะเดินออกไปข้างนอก ผมกับเธอเดินไปพร้อมๆกัน มันเป็นถนนที่ดูเงียบสงบ ตลอดทางนั้นมีรถจอดอยู่จำนวนมาก แต่ถึงจะมีรถจอดอยู่ มันก็ยังเหลือที่ให้รถวิ่งอยู่ ท้องฟ้านั้นเป็นสีเทา มันไม่ได้เป็นสีฟ้าเหมือนกับที่เขาคุ้นเคย ท้องฟ้าที่นี้นั้นถูกปกคลุมด้วยก้อนเมฆ มันเป็นความรู้สึกที่ฝนจะตกเมื่อไหร่ก็ได้ ทั้งคู่เดินไปได้ไม่นานก็ถึงยังจุดหมาย มันเป็นอาคารที่ภายนอกตกแต่งเหมือนกับอาคารในยุคสมัยกรีก ถ้าหากให้ผมเดาว่ามันคืออะไร ผมคงตอบว่า “พิพิธภัณฑ์” อย่างไม่ลังเล

“ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติอังกฤษน่ะ” โรบิ้นแนะนำให้ผม

เป๊ะ...

“จะว่าไปซาโตรุเคยมาอังกฤษรึเปล่านะ?” โรบิ้นหันมาถามผม
“ไม่เคยน่ะ” ผมตอบคำถามนี้เป็นรอบที่สองในวันนี้ ก่อนหน้านี้พ่อของเขาถามผม

เขาพยักหน้าก่อนที่เขาจะเดินนำหน้าผมเข้าไปในอาคารแห่งนี้ เมื่อเข้าไปนั้นสิ่งแรกที่เห็นนั้นการตกแต่งสไตล์อียิปต์และโบราณวัตถุจากดินแดนทะเลทราย โรบิ้นเดินนำผมก่อนจะพลางอธิบายให้ฟังว่าแต่ละอย่างคืออะไร แม้ผมจะอ่านออกก็เถอะ หลังจากห้องอียิปต์ ก็เป็นห้องโรม ต่อด้วยแอฟริกัน ห้องสมัยใหม่ และจบด้วยห้องเอเชีย เมื่อเราทัวร์ครบทุกห้องแล้ว เราก็เดินออกจากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

“สนุกไหม?” โรบิ้นเอ่ยปากถามผม
“อื้อ น่าสนใจดี” ผมตอบกลับไป

จริงๆไม่สนุกเลยแม้แต่น้อย ผมไม่ใช่คนอะไรที่สนใจเรื่องพวกนี้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ผมก็ไม่กล้าตอบว่า “ไม่สนุก” มันคงทำร้ายจิตใจไกด์คนนี้ไม่น้อยเลย โรบิ้นได้ยินคำตอบของผมแล้ว ก็ยิ้มออกมา ผมมองนาฬิกาของตัวเอง ตอนนี้เป็นเวลาตีหนึ่งของญี่ปุ่น หรือถ้าให้พูดถึงที่นี่ก็เป็นเวลาห้าโมงเย็น ผมจินตนาการเพื่อนของผมที่ ณ เวลานี้คงอยู่หน้าคอมพิวเตอร์และเล่นวิดิโอเกมส์ไปพร้อมๆกัน ส่วนผมก็ยังยืนที่นี่ อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยและอยู่กับคนที่ผมไม่รู้จัก

“นี่ก็เริ่มเย็นแล้ว กลับกันเถอะ” โรบิ้นพูดกับผม
“อืม กลับกันเถอะ” ผมตอบกลับ

ผมเดินเคียงข้างกับโรบิ้นก่อนจะกลับไปยัง “บ้าน” ใหม่ของผม แม้มันจะตกเย็นแล้ว แต่สภาพบนท้องถนนนั้นก็ไม่ค่อยต่างอะไรกับเมื่อตอนกลางวัน เช่นเดียวกันกับสีของท้องฟ้าที่ยังดูทึมๆ สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปนั้นคืออากาศที่เย็นขึ้นกว่าเดิม อีกไม่กี่ชั่วโมงดวงตะวันจะลับจากขอบฟ้า และค่ำคืนจะมาเยือน โรบิ้นเดินเปิดประตู เมื่อประตูถูกเปิดออกนั้น เสียงตะโกนจากหลังบ้านก็ดังขึ้นมา

“กลับมาแล้วหรอลูก ข้าวเย็นพร้อมแล้วนะ” เสียงของหญิงคนนึงดังขึ้นมา
“ครับ กำลังไปครับ” โรบิ้นตะโกนขึ้น
“นั่นแม่ชั้นเอง” ชายผมหน้าหวานพูดกับผม

ผมพยักหน้า โรบิ้นถอดเสื้อโค้ทออก ก่อนจะนำไปแขวนไว้ ผมถอดเสื้อโค้ทของผมออกก่อนจะแขวนไว้ในจุดเดียวกันกับโรบิ้น เราสองคนเดินผ่านห้องนั่งเล่นก่อนจะมาถึงยังห้องทานอาหาร มันเป็นห้องอาหารที่ไม่ใหญ่มาก บนผนังนั้นมีรูปครอบครัวแขวนอยู่ พื้นนั้นถูกปูด้วยไม้ ตรงกลางนั้นมีโต๊ะไม้วางอยู่ เหนือโต๊ะนั้นก็มีโคมไฟห้อยลงมาเล็กน้อย ซึ่งบนโต๊ะนั้นก็เต็มไปด้วยอาหารมากมาย ผมเห็นลูคัสนั่งอยู่แล้ว ผมกับโรบิ้นนั่งข้างๆเขา ไม่นานนักหญิงผมสีทรายอีกคนก็เดินออกมา ผมของเธอนั้นยาว ดวงตาของเธอนั้นเป็นสีฟ้าเหมือนลูกชายของเธอ อายุของเธอก็น่าจะสี่สิบไม่ก็เกือบสี่สิบ แต่หากพูดถึงอายุของเธอกับรูปร่างหน้าตาของเธอแล้ว มันคงดูขัดกันไม่น้อย เธอเดินตรงมาหาผมด้วยรอยยิ้ม เธอพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่ใจดี

“ชั้น โรเซน เป็นแม่ของโรบิ้น ยินดีที่รู้จักจ่ะ” มือของเธอยื่นมาทางผม
“ครับ ยินดีที่รู้จักเช่นเดียวกันครับ” ผมลุกขึ้นก่อนจะจับมือกับเธอ
“แม่ครับ ทำไมวันนี้ทำอาหารเยอะขนาดนี้ครับ?” โรบิ้นที่นั่งข้างๆผมเอ่ยปากถาม
“ฉลองกับการมาของสมาชิกใหม่ของเราน่ะ” ผู้เป็นแม่ตอบลูกชายของตัวเองก่อนจะนั่งลงเก้าอี้

เราทั้งสี่คน ผมมองหน้าทุกคนบนโต๊ะ

“ในฐานะที่ชั้นเป็นหัวหน้าครอบครัวเฮนดรี่ ชั้นก็ขอต้อนรับซาโตรุสู่บ้านของเรา”
“พวกเราจะทำให้ดีที่สุดในการดูแลนาย มีอะไรบอกเราได้นะ” ลูคัสหันมาพูดกับผม
“ครับ ขอบคุณมากครับ” ผมกล่าวขอบคุณชายผมสีเทาที่นั่งอยู่

ลูคัสหยิบแก้วไวน์ของเขาขึ้นมา เช่นเดียวกันกับภรรยาของเขา เธอเองก็หยิบแก้วไวน์ของตัวเองขึ้นมา ผมกับโรบิ้นหยิบแก้วน้ำขึ้นมาเหมือนกัน ต่างกับพ่อแม่ของโรบิ้น น้ำที่อยู่ในแก้วของผมและโรบิ้นนั้นเป็นน้ำดำ น่าจะเป็นโคล่าล่ะมั้ง พวกเราทั้งสี่ชนแก้วกันก่อนจะมื้อเย็นจะเริ่มขึ้น พวกเราสี่คนคุยกัน เสียงหัวเราะดังจากพวกเราทั้งสี่คนดังขึ้นเป็นระยะๆ ด้วยอาหารที่มากขนาดนั้นผมเลยกินไม่หมด แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นปัญหาสำหรับทั้งตระกูลเฮนดรี่เลยแม้แต่น้อย เห็นแล้วก็อดนึกสงสัยไม่ได้ว่าพวกเขายังคงรักษาหุ่นแบบนี้ได้ยังไง

เมื่อผมกินเสร็จ ผมก็ช่วยพวกเขาล้างจานก่อนที่ผมจะขอตัวกลับไปที่ห้องตัวเอง ผมหยิบอุปกรณ์ที่ผมจะใช้อาบน้ำก่อนจะอาบน้ำ แปรงฟังให้เสร็จ ผมไม่ได้แช่น้ำเหมือนอยู่ญี่ปุ่น ผมอยู่ที่นี่ผมต้องใช้ฝักบัวแทน ซึ่งก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น ผมเปิดห้องตัวเองอีกครั้งก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ของตัวเอง ผมเปิดโน๊ตบุ๊คขึ้น ผมใช้นิ้วของผมเปิดคอมพิวเตอร์พกพาของผม ผมมองนาฬิกาที่ถูกแขวนในห้องนี้ ตอนนี้ก็สองทุ่มแล้ว เมื่อคอมพิวเตอร์ผมบูทเสร็จสิ้น ผมก็เริ่มทำอะไรตามที่ผมต้องการ ในขณะที่ผมกำลังนั่งมองอะไรบนหน้าจอของผมนั้น ผมก็ได้ยินเสียงเคาะประตูขึ้น ผมลุกขึ้นมาก่อนจะเดินไปเปิดประตู ผมเห็นโรบิ้นที่ยังอยู่ในชุดสีชมพูของเขา

“พรุ่งนี้ถ้าชั้นพานายไปเที่ยวอีก? จะเป็นอะไรไหม?” โรบิ้นเอ่ยปากถามผม
“อื้อ ได้ซิ”
“แล้วกี่โมงดี?” ชายผมสีทรายเอ่ยปากถามผม
“ถ้างั้นสิบโมงละกัน” ผมตอบโรบิ้น
“อื้อ ถ้างั้นสิบโมงชั้นจะรอที่ข้างล่างนะ”

พูดจบโรบิ้นก็โบกมือลาผมไป ผมโบกมือให้เขาเหมือนกัน ก่อนที่ผมจะปิดประตู ผมนั่งเล่นคอมพิวเตอร์อีกซักพัก ก่อนที่ผมจะเลิกเล่นตอนสามทุ่ม ผมปิดเครื่องของผม ผมปิดไฟ ก่อนจะเดินอย่างระมัดระวังไปที่เตียง ผมทิ้งตัวลงบนเตียงก่อนจะห่มร่างของตัวเองด้วยผ้าห่ม ผมรู้สึกเหนื่อยล้ากับวันนี้ ผมยังต้องอยู่ที่นี่อีก 364 วัน และผมจะเปิดเรียนในสัปดาห์หน้า ตอนแรกๆผมนึกว่าการอยู่ที่นี่นั้นจะเหมือนอยู่นรก แต่เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่นัก และพรุ่งนี้ผมจะออกไปเที่ยวอีก พรุ่งนี้มันอาจจะเป็นสถานที่ๆสนุกกว่านี้ก็ได้ สถานที่ที่ผมไม่ต้องฟังเรื่องประวัติศาสตร์ที่แสนจะน่าเบื่อ ผมอ้าปากหาวก่อนที่ผมจะหลับตาลง ก่อนที่ผมจะเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว

ผมยืนอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยชุดเกราะมากมายเรียงรายอยู่ พื้นที่ผมเหยียบอยู่นั้นถูกปูด้วยไม้ โดยรอบๆนั้นเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยงคนอื่นๆที่ต่างหยิบมือถือของตัวเองถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน ผมยืนอยู่บนพื้นไม้ กำแพงที่นั้นถูกตกแต่งด้วยอิฐ ราวกับผมยืนอยู่ในยุคกลางอะไรอย่างนั้น ข้างๆผมนั้นก็มีโรบิ้นที่กำลังเล่าเรื่องราวในอดีตอยู่ ดูเหมือนผมจะมองโลกแง่บวกไปเมื่อวาน นี่มันเลวร้ายกว่าผมที่คิดเยอะ...
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Exchange EP 1
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Exchange EP 2
» Exchange EP 3
» Exchange EP 0 (ใบสมัครข้างล่าง :v)

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: