Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Cataclysm: The Endless Hellfire V

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
Neferpitou
Moderators
Moderators
Neferpitou


จำนวนข้อความ : 552
Join date : 05/12/2012
Age : 27
ที่อยู่ : The Facility of Banned Organizer

Cataclysm: The Endless Hellfire V Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Cataclysm: The Endless Hellfire V   Cataclysm: The Endless Hellfire V EmptySat Aug 20, 2016 5:01 am

Cataclysm: Endless Hellfire
Act V

------------

  ที่เบื้องหน้าของกษัตริย์แห่งทวีปเอสซิโอนิคมันได้ปรากฏเป็นพลังปราณสีดำสนิทที่ก่อเกิดเป็นร่างของอสูรกายรูปทรงน่าเกลียด แสงจันทรานั้นไม่อาจจะสาดส่องลงสู่ผืนดินได้เนื่องจากสัตว์ประหลาดร่างใหญ่กำลังบดบังแสงเหล่านั้น มันมีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าอาคารเรือนธรรมดาหลังหนึ่ง มีหนวดที่แลดูคล้ายหนวดปลาหมึกดิ้นไปดิ้นมานับสิบ เหล่าปราณดำนั้นถูกปลกคุลมด้วยพลังสีแดงฉานราวกับเป็นของมารเพลิงไซอาลอท เหล่าเมือกทมิฬนั้นได้เริ่มทำลายสิ่งก่อสร้างรอบข้าง มันขยับร่างกาย กรีดร้องด้วยเสียงอันน่ากลัวราวกับเป็นปีศาจบุกเข้ามายังดินแดนสตอร์มโฮล์มเองเลย เหล่าหนวดสีดำมืดก็ทำร้ายเหล่าชาวบ้านที่อยู่รอบข้าง บ้างก็ดูดกลืนเข้าไปในร่างราวกับจะหลอมให้กลายเป็นหนึ่งเช่นตัวมัน โครนอสจ้องมองมันก่อนที่จะยกดาบของตนขึ้นมา ปราณแสงสว่างสาดส่อดออกมาดั่งแสงสุริยันจากฟากฟ้า

  ปราณแห่งแสงนั่นคือหนึ่งในพลังธาตุขององค์ราชาผู้นี้ โครนอสมีปราณแห่งเพลิงและแสงเป็นปกติของมนุษย์ในเอสซิโอนิคที่จะสามารถใช้พลังธาตุได้สองชนิด แสงจ้านั้นทำให้เมือกสีดำที่ก่อตัวเป็นปีศาจตื่นตน มันใช้หนวดเหล่านั้นแปลงสภาพเป็นหอกแหลมที่แข็งราวกับเหล็กไหลพุ่งเข้าสู่ร่างที่มันคาดว่าเป็นปรปักษ์ เมือกเหล่านั้นเสียบลงไปที่พื้น หินที่ใช้ประดับทางสัญจรเหล่านั้นทะลุลงจากการกระแทก โครนอสใช้ดาบของเขาฟาดฟันลงใส่หนวดเส้นหนึ่ง ดาบแห่งผู้พิทักษ์กระแทกลงกับเมือกที่จับตัวแข็งจนดังกึกก้องแต่กลับไร้ซึ่งรอยขีดข่วน ว่าแล้วที่หนวดเส้นนั้นก็มีกระสุนเมือกพุ่งออกมาราวร้อยลูกเห็นจะได้ เหล่ากระสุนที่แหลมคมดั่งห่าฝนทรงมีดแห่งความตายหวังจะสังหารองค์ราชา โครนอสถอยฉากออกมาก่อนที่จะใช้ดาบปักลงไปกับพื้นสร้างม่านพลังที่ใช้ป้องกันอันตรายไว้

 ถึงกระนั้นเหล่าปราณดำยังไม่ยอมที่จะหยุดการโจมตี มันตวัดหนวดของมันรัวๆ ใส่ม่านพลังราวกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย โล่ป้องกันร่างของโครนอสเริ่มที่จะเสื่อมคลาย ผู้ใช้ดาบแห่งแสงจึงดึงดาบขึ้นและใช้ความเร็วของตนวิ่งหลบแซ่เมือกทมิฬเหล่านั้น ถึงแม้ว่ามันจะใหญ่ขนาดที่ว่าคนธรรมดาไม่สามารถวิ่งหนีได้พ้น ด้วยปราณแห่งแสงขององค์กษัตริย์ทำให้ร่างของตนเคลื่อนไหวเร็วกว่าปกติ แต่แล้วที่ข้างหน้าของโครนอสก็มีเมือกอีกเส้นหนึ่งขวางทางเอาไว้หวังจะกวาดร่างอันเล็กของราชาดั่งมดปลวกให้เละไปตามพลัง ชายผู้นั้นไม่คิดจะหลบต่ออุปสรรคที่อยู่เบื้องหน้ากลับกันเขากลับรวบรวมพลังปราณเข้าไว้ที่ดาบเล่มนั้นและฟาดฟันจนมันก่อเป็นปราณแสงตัดพลังปราณแห่งความมืดจนขาดเป็นสองท่อน อสูรกายโคลนดำส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดเหมือนกับปีศาจเมื่อถูกทำร้าย มันใช้หนวดฟาดลงต่อตามสัญชาตญาณความโมโหของมัน

  โครนอสกระโดดหลบมันได้อย่างหวุดหวิด ไม่นานนักเหล่าปราณหนวดสีดำก็จำนวนมากก็พุ่งเข้ามาหาศัตรูอีกครั้งหวังจะสังหารในการโจมตีครั้งเดียว ชายผู้นั้นตั้งท่า ยกดาบขึ้นพร้อมกับเปล่งปราณเพลิงที่รอบดาบ ไฟเหล่านั้นลุกลามจนไปถึงแขนของเขา เพียงชั่วพริบตาเจ้าของดาบก็สะบั้นดาบเกิดเป็นการระเบิดเพลงดาบโดยรอบ เหล่าเมือกที่พุ่งเข้าไปถูกไฟแห่งธรรมกลืนกิน ขาดออกเป็นชิ้นๆ ราวกับดาบนับพันเล่มฟาดฟันในเวลาเดียวกัน เหล่าปราณดำที่ออกมาจากร่างของเด็กหนุ่มลูเซียสคำรามด้วยความโมโห เหล่าหนวดที่ขาดออกไปก็ค่อยๆ งอกออกมา ชายผู้ที่กำลังสู้กับปราณร้ายนี้มองถึงสิ่งที่มันเกิดขึ้น ไม่นานนักก็มีเมือกดำพุ่งออกมาจากร่างของปีศาจตนนั้นเหมือนกับเป็นหัวของสัตว์เลื้อยคลาน ไม่สามารถบ่งบอกได้แน่ชัดว่าเป็นหัวของจงอาจอสรพิษหรือว่าอะไร แต่สิ่งที่สามารถคาดเดาได้คือมันกำลังเพิ่มพูลพลังของมันเป็นเท่าตัว หากปล่อยไว้จะกลายเป็นการเสียเปรียบเป็นแน่แท้

  เศียรแห่งอสูรกายใช้เนตรแห่งตนจ้องมองไปยังปรปักษ์ที่เล็กเพียงแค่หยิบมือ สายตาของมันไม่ต่างจากสัตว์ร้ายที่ปล่อยความบ้าคลั่งออกมา เมื่อนั้นเมือกดำในรูปทรงหัวอสรพิษก็ง้างปากตนออกพุ่งเข้าเพื่อจะกลืนกินองค์ราชาทันที โครนอสใช้รความเร็วของปราณแสงหลบออกไปอีกครั้ง แต่ปีศาจตนนั้นก็ยังไม่เลิกลา มันพุ่งเข้าไปหาโครนอสด้วยความเร็วที่เหนือกว่าเดิม มันแลดูเร็วผิดปกติราวกับเพิ่งได้รับพลังมหาศาลเพื่อที่จะสังหารชายผู้นี้ โครนอสวิ่งไปตามทางราวกับกำลังครุ่นคิดว่าเขาจะทำเช่นไรถึงจะจัดการกับสิ่งนี้ได้ ข้างหน้าของชายหนุ่มมีแยกเล็กๆ อยู่ ชายผู้นี้จึงอาศัยจังหวะนั้นวิ่งหลบไปทางแยกนั้น มันเป็นช่องตึกเล็กๆ ที่หัวของปีศาจไม่อาจจะเข้ามาได้หากไม่ใช่กำลังในการทำลายสิ่งก่อสร้างเหล่านั้น ไม่ทันไรมันก็ใช้หัวที่ใหญ่โตของมันฟาดใส่อาคารเรือนเหล่านั้นจนพังทลาย เหล่าหินปูนที่แตกออกร่วงลงไปใส่โครนอส แต่เขาก็ใช้ปราณแห่งแสงหลบมันไปได้ เมื่อนั้นเขาจึงกระโดดเหยียบเหล่าซากหินที่ลอยอยู่กลางอากาศด้วยความเร็วที่เหนือกว่าหลายเท่า เป้าหมายของโครนอสคือเศียรของเมือกดำ เขากระโดดลงจากหินที่อยู่สูงหวังจะใช้ดาบเสียบลงหัวนั้นอย่างจัง

“ตุบ!” ร่างของโครนอสถูกกระแทกด้วยอะไรสักอย่างเข้าอย่างจังกลางอากาศ ราวกับแมลงวันที่ถูกซัดอย่างจังจนถึงแก่ความตาย

  ร่างของกษัตริย์ดิ่งลงกระแทกใส่กับอาคารเรือนหลังหนึ่งอย่างแรง มันทำให้ดินปูนที่สร้างเป็นกำแพงทะลุตามกายาที่กระแทกเข้าไป เขากลิ้งลงไปตามพื้นของสิ่งปลูกสร้างนั้น โดยที่ดาบที่เขาใช้ก็หลุดจากมือเขา ไหลไปตามแรงฟิสิกส์ การโจมตีนั้นสร้างอาการบาดเจ็บให้กับชายผู้นั้น เขาค่อยๆ พยุงตัวขึ้นมา จับช่วงเอวของตนราวกับว่ารู้สึกถึงความเจ็บปวดในช่วงนั้น หากเป็นมนุษย์ธรรมดาอาจถึงแก่ความตายไปแล้วก็ได้ ด้วยการที่มีปราณระดับสูงพอที่จะเทียบทัดกับผู้พิทักษ์จากดินแดนสวรรค์มันก็สามารถทำให้เขารอดตายมาได้อย่างปฏิหารย์ แต่กระนั้นมันก็จะเป็นข้อชัดเจนที่กระดูกของเขาจะหักไปสักซี่เป็นอย่างต่ำ และดูเหมือนว่าชายผู้นี้จะรู้ตัวเหมือนกันว่าในตอนนี้สภาพร่างกายของเขาไม่เต็มร้อย โชคดีที่ปีศาจตนนั้นไม่สามารถขยับร่างของตนได้ยกเว้นเพียงส่วนที่แตกแขนงเป็นหนวดและส่วนหัวที่ยาวไม่ถึงที่จุดที่เขาตกลงมา โครนอสหันไปมองปีศาจตนนั้นที่เริ่มพัฒนาร่างของตนเรื่อยๆ บัดนี้มันได้ปลูกแขนออกมาหนึ่งข้าง มันเป็นแขนที่ใหญ่โต มือของมันสามารถทลายอาคารเรือนกลุ่มหนึ่งได้เพียงแค่ลูกตบเพียงครั้งเดียว

“ปราณดำนั่นเริ่มกลายร่างจนแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม...” ราชากล่าว “แต่การที่ปราณของลูเซียสจะสามารถเติบโตได้มีอยู่หนทางเดียว”
“แย่แล้วสิ!” เขาอุทานขึ้น
“มันกำลังกลืนกินร่างกายของเจ้าของพลังเสียเอง”
“ถ้าไม่ทำอะไรตอนนี้ ตัวของลูเซียสคงถูกดูดเซลล์ชีวิตจนตายแน่”
“หากสถานการณ์เลวร้ายขึ้นมา มันอาจจะสามารถกลืนกินดินแดนสตอร์มโฮล์มนี้ได้เลย!”

  องค์ราชาเดินไปหยิบดาบของตนที่วางอยู่บนพื้น เขากำดาบเอาไว้แน่น มองไปที่ร่างกายแต่ละส่วนของปีศาจเมือก วางแผนที่จะเอาชนะมันในพริบตา ขืนปล่อยให้มันดูดพลังของร่างทรงของมันมากขึ้นจะกลายเป็นฝ่ายเขาที่เสียเปรียบซะเอง ดูเหมือนว่าจุดอ่อนมันจะเป็นหัวของปีศาจตนนั้น เพราะร่างกายส่วนอื่นเหมือนจะเป็นแค่ส่วนขาและมือที่เป็นองค์ประกอบที่สามารถสูญเสียไปได้เท่านั้น แต่เศียรของมัน เมื่อสะบั้นมันจนขาดจะเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ดีที่สุดว่ามันจะตายได้หรือไม่ เพราะถ้าหากการโจมตีที่หัวไม่ได้ผล มันก็แทบจะหมดหนทางที่จะโค่นมารโคลนทมิฬลงได้ แต่ว่าการที่จะโจมตีหัวที่อยู่สูงราวกับหอคอยนั่นได้จะทำได้เช่นไร ในเมื่อตัวของราชาไม่สามารถบินตามเวหาได้อย่างที่ตนต้องการ เพราะฉะนั้นแล้วเขาต้องคิดแผนที่ดีกว่านั้น หากมันไม่สำเร็จอาจหมายถึงการสูญเสียครั้งใหญ่ได้เลย

  เขายกมือข้างขวา ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางจ่อวางลงตรงข้างหน้าผากตามมือข้างนั้น มันเป็นเหมือนการส่งกระแสจิตหรืออะไรสักอย่างโดยใช้พลังปราณระดับสูงในการส่งความคิดเชื่อมต่อจากบุคคลหนึ่งสู่อีกคนด้วยสะพานมิติแห่งปราณ ดูเหมือนว่าโครนอสกำลังจะพยายามสื่อสารกับใครสักคนที่มีพลังปราณที่สูงพอที่จะรับสัญญาณปราณนั้นได้ ไม่ทันไรก็เหมือนจะมีคนรู้สึกถึงการติดต่อนั้น นั่นคือข้ารับใช้ขององค์ราชานามเซรดริก ณ ตอนนี้จิตของพวกเขาถูกเชื่อมกันอย่างสมบูรณ์พร้อมในการติดต่อทางจิต

“เซรดริก!” ผู้เป็นใหญ่กล่าว
“ขอรับนายท่าน...” ข้ารับใช้แห่งวิหารสตอร์มโฮล์มตอบรับอย่างเป็นมารยาท
“เจ้าสามารถเปิดประตูมิติที่พอจะส่งข้าขึ้นไปเหนือฟากฟ้าเพื่อให้ข้าใช้วิชาดาวตกเพลิงวิหคได้หรือเปล่า?” โครนอสตาม
“กระผมพอจะทำได้ขอรับ..” เขากล่าว “แต่ท่านต้องถ่วงเวลาปีศาจตนนั้นไว้จนกว่ากระผมจะเข้าสู่ระยะรัศมีของนายท่านเพื่อเปิดประตูให้ท่านขอรับ”
“อยู่ห่างกันมันมากเท่าไหร่?”
“ประมาณครึ่งกิโลเห็นจะได้ขอรับ” เซรดริกตอบ
“รีบจัดการซะ!”

  สิ่งที่โครนอสต้องทำในตอนนี้คือการถ่วงเวลาจนกว่าเซรดริกจะเข้ามาในจุดรัศมีที่ใกล้กับราชาแห่งสตรอมโฮล์ม ว่าแล้วเขาก็พุ่งตัวออกไปจากอาคารผ่านรูของบ้านหลังนั้นที่ถูกทำลายไปเมื่อครู่ แน่นอนว่าการรุดตัวเข้าไปสู่สมรภูมิอย่างเฉียบพลันแบบนั้นย่อมทำให้คู่ต่อสู้ไหวตัวทันอยู่แล้ว ปีศาจตนนั้นใช้แขนของมันที่เพิ่งงอกออกมาฟาดลงไปกับพื้น มันทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนจนองค์ราชาไม่สามารถทรงตัวไว้ได้ เมื่อนั้นอสูรกายตนนั้นก็ใช้จังหวะนั้นฟาดหนวดเมือกทั้งหมดที่มันมีลงที่ร่างของโครนอสอย่างรวดเร็ว

“ตึงงงงงงงง!” เสียงการโจมตีดังขึ้นสะเทือนแผ่นดิน ไม่นานนักทุกอย่างก็เงียบลง ไร้เสียงใดๆ ที่จะกู่ร้องขึ้นมา

  ปีศาจตนนั้นดึงร่างกายทุกส่วนที่ตนใช้ทำลายล้างองค์กษัตริย์แห่งสตอร์มโฮล์มจนสิ้น แต่มันกลับไร้ร่างของชายผู้นั้น ที่เบื้องบนก่อเกิดซึ่งประตูมิติขนาดที่ใหญ่พอจะให้ร่างของมนุษย์คนหนึ่งสามารถ เมื่อนั้นมิติแห่งนั้นก็ถูกเปิดออกและส่งร่างของชายที่ถูกเรียกว่าราชาลงสู่ฟากฟ้า สู่ผืนดิน ที่ดาบขององค์ราชาก่อเกิดเป็นเพลิงกัมปนาทที่แรงกล้าพอที่จะสามารถเผาผลาญเนื้อเยื่อแห่งมารให้สลายไปเป็นฝุ่นได้ ไฟนั้นลุกโชนไปทั่วร่างกายของโครนอส เหมือนกับว่าเซรดริกจะสามารถเปิดประตูให้กับนายของตนเพื่อที่จะใช้วิชาดาวตกเพลิงวิหคได้แล้ว อสูรกายตนนั้นสามารถรับรู้ได้ถึงพลังอันแรงกล้าที่พอจะสังหารมันได้ในพริบตา ว่าแล้วมันก็ใช้ร่างกายทุกส่วยที่สามารถขยับได้ในการสกัดกั้นการกระบวนท่าแห่งเพลิง หนวดเมือกทุกส่วนที่มันใช้ในการโจมตีสลายลงไปตามความร้อนที่มันได้รับจากเพลิงโลกันต์ มันไม่สามารถรับการโจมตีนั้นได้เลยสักนิด คมดาบเพลิงแห่งโครนอสพุ่งลงสู่ร่างของมัน ทะลุลงไปจนถึงใจกลางของเมือกปีศาจ โครนอสเข้าไปสู่ภายในร่างของมารตนนี้ ใจกลางของมันว่างเปล่ามีเพียงแค่ร่างของลูเซียสที่ยังคงนอนอยู่บนเตียงและปล่อยปราณไปเรื่อยๆ

  ราชาแห่งสตรอมโฮล์มมองดูร่างกายของบุตรบุญธรรมของตน เขารู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่มันแปลกไปจากเดิม ราวกับเขากำลังสัมผัสถึงอะไรบางอย่าง เขาค่อยๆ เดินเข้าไปหาร่างนั้น โครนอสหยั่งถึงจิตของลูเซียส มันแปรปรวนราวกับกำลังถูกควบคุมด้วยปราณแรงกล้า แต่สิ่งนั้นที่กำลังควบคุมหนุ่มผู้ใช้สิ่งที่เรียกว่าดูบาร์นนั้นหาใช่ปราณของตน องค์กษัตริย์สามารถรับรู้ถึงปราณอีกชนิดนึงที่ปะปนอยู่ในร่างกายของลูเซียส มันเป็นปราณของมารเพลิง

“ลูเซียสกำลังถูกควบคุมด้วยปราณ.... ของไซอาลอทงั้นหรอ?” ราชากล่าวขึ้น

เมื่อนั้นองค์ราชาก็รุดตัวเข้าหาร่างของผู้ใช้ปราณดำ ใช้มือสัมผัสที่หัวเหมือนกับกำลังตรวจสอบกระแสจิตและปราณ

“จิตถูกควบคุมถึงจะไม่สมบูรณ์ก็ตามที”
“ถ้าไม่ทำอะไรตอนนี้มีหวังกายและจิตที่ถูกควบคุมโดยสมบูรณ์”

  การที่จะช่วยบุคคลคนหนึ่งจากการถูกควบคุมจิตใจนั้นเป็นอะไรที่ซับซ้อนและผู้ใช้ปราณต้องมีระดับที่สูงพอเท่านั้น เพราะการที่จะแยกจิตนั้นออกจากการควบคุมคือต้องเข้าสู่จิตของเจ้าของร่าง สู่มิติแห่งจิตเพื่อยับยั้งการกระทำของอะไรก็ตามที่กำลังทำการเชิดปราณและร่างของลูเซียส แต่เพียงแค่ปราณอย่างเดียวมิอาจจะให้การปลดพันธนาการเชิดหุ่นสลายลงได้ ผู้นั้นย่อมต้องมีพลังจิตแรงกล้าด้วยเช่นกัน ในโลกนี้ถูกแบ่งพลังปราณแห่งมนุษย์ออกเป็นสองส่วน คือปราณทางร่างกายที่ใช้ในการโจมตีทางกายภาพและกระบวนท่าระดับสูงที่สร้างความเสียหายอย่างชัดเจนด้วยร่างกายเป็นหลัก ส่วนปราณจิตนั้นจะออกมาในรูปแบบจินตนาการการกระทำนั้นๆ ส่วนมากผู้คนที่สำเร็จวิชาปราณเหล่านี้จะเป็นเหล่านักเวทย์ หมอผีไสยศาสตร์ที่สามารถควบคุมปราณให้เป็นไปตามใจนึก โดยปกติแล้วคนทั่วไปในดวงดาวแห่งนี้จะบรรลุปราณชนิดใดชนิดหนึ่ง แต่บางบุคคลที่หมั่นฝึกฝนหรือมีพรสวรรค์มาแต่เกิดก็สามารถสำเร็จวิชาปราณทั้งสองได้

  ถือว่าโชคเข้าข้างที่โครนอสสำเร็จพลังวิชาปราณมนุษย์ทั้งสองประเภทจึงทำให้เขาแข็งแกร่งในการต่อสู้ทุกรูปแบบและมีพลังที่เพียงพอที่จะเข้าไปสู่จิตของลูเซียสได้ เมื่อนั้นราชาก็เข้าสู่มิติแห่งความฝันของบุตรบุณธรรมของเขา มันทำให้กายาที่อยู่ในโลกแห่งความจริงตกอยู่ในภวังค์ ภายในจิตเหล่านั้นมันเป็นความว่างเปล่า โครนอสพยายามเปล่งจิตให้คงตัวเพื่อจะไม่ทำให้เกิดช่วงติดขัดของร่างจิต ในมิติแห่งความฝันนั้นก่อเกิดภาพของมารเพลิงไซอาลอทที่ยืนดูร่างของลูเซียสอยู่ แต่จะพูดว่ายืนดูมันก็ไม่ใช่ซะทีเดียว ดูราวกับว่าเขากำลังยืนถ่ายพลังปราณสีแดงให้แก่ร่างจิตไร้สตินั้น ดูจากรูปการณ์แล้วพลังเมือกของลูเซียสที่คลั่งอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นเกิดมาจากปราณแห่งไซอาลอทที่กระตุ้นดูบาร์นให้มีจิตและชีวิตเป็นของตัวเอง ตัดขาดการควบคุมจากหนุ่มผมดำโดยสิ้น

  เมื่อนั้นมารเพลิงไซอาลอทที่หันหลังให้แก่โครนอสอยู่ก็หยุดที่จะถ่ายปราณ หันมาหาผู้ที่มาเยือนมิตินั้น สีหน้าที่แสยะยึ้มอย่างน่ารังเกียจที่เผยให้ผู้มาเยือนได้เห็น โครนอสกำดาบไว้แน่น แสดงสีหน้าที่เคียดแค้นพอดู คงเป็นเพราะราชาผู้นี้มีความสัมพันธ์ต่อลูเซียสเหมือนดั่งลูกชายแท้ๆ ของตน สำหรับการที่ต้องมาเห็นผู้ที่ถูกเรียกว่าลูกถูกทำร้ายแบบนี้มันย่อมทำให้เขาทนไม่ได้อยู่แล้ว มารเพลิงที่เห็นสีหน้าของชายผู้นั้นยังคงยิ้มแย้มอย่างมีความสุข ความทรมาณที่ก่อขึ้นจากสีหน้าของผู้เป็นพ่อทำให้ไซอาลอทหยุดที่จะขำไม่ได้

“ท่าทางแบบนั้น... อะไรดลใจให้ความพิโรธของเจ้าปะทุขึ้นหรือโครนอส?”
“เจ้ามาที่นี่เพื่อช่วยลูกของเจ้างั้นหรือ?” มารเพลิงถาม “น่าจะเรียกว่าลูกบุญธรรมเสียมากกว่านะ”
“เจ้าคิดจริงๆ งั้นหรือว่าพลังของเจ้าจะทำอะไรข้าได้?”
“และถ้าข้าจำไม่ผิด สิ่งที่แกทำได้ดีเลยคือการมุดหัวหลบอยู่หลังของโคลริมตลอด”
“ตั้งแต่สงครามเมื่อครั้งนั้นล่ะนะ..”

  แน่นอนว่าวาจาเหล่านั้นไม่ได้ทำให้โครนอสรู้สึกดีเลย เขาไม่ชอบการพูดจาของมารตนนี้ ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่คิดที่จะรุดตัวเข้าไปจู่โจมใส่จิตแห่งเพลิงนั่น เพราะสิ่งที่อยู่ต่อหน้าเขาคือร่างจิตของบุคคลที่สามารถทำลายล้างดวงดาวโพรโตเนี่ยนได้ภายในพริบตา ฉะนั้นแล้วการโจมตีโดยไร้แผนการก็ไม่ต่างจากการฆ่าตัวตายเท่านั้น แม้ว่านี่จะเป็นร่างจิต ขืนโครนอสพ่ายต่อจิตที่แกร่งกล้าของมารเพลิงในมิติแห่งนี้นั่นย่อมหมายถึงร่างจริงจะไร้ซึ่งวิญญาณในการควบคุมร่าง มันก็ไม่ต่างอะไรจากความตายนักหรอก ณ ตอนนี้มารเพลิงมองดูเครื่องแต่งกายของโครนอส มันเป็นเครื่องแต่งกายของชนชั้นสูงซึ่งนั่นทำให้มารเพลิงรู้สึกขำเสียยิ่งกว่าเดิม

“ไอ้เครื่องแต่งกายนั่น...” มารเพลิงกล่าว “เจ้าอย่าบอกข้านะว่าเจ้าคือองค์กษัตริย์แห่งสตรอมโฮล์ม”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ไซอาลอทระเบิดเสียงหัวเราะ ราวกับกำลังยั่วยุโครนอสอยู่
“มันช่างน่าขำเสียจริง ที่คนอ่อนแอเช่นเจ้า! คือผู้นำแห่งมวลมนุษย์แห่งเอสซิโอนิค!”

  วาจาเสียดสีเหล่านั้น คำพูดที่ดูทำร้ายจิตใจของศัตรูนั่นคืออีกนิสัยประจำของมารเพลิงตนนี้ มันชอบที่จะยั่วยุให้ศัตรูของตนเสียสมาธิ ก่อความโทสะให้แกคู่ต่อสู้เพื่อที่จะทำให้คนเหล่านั้นจู่โจมโดยยั้งคิดใดๆ ว่ากันว่าปากของไซอาลอทเป็นหนึ่งในสุดยอดอาวุธเช่นเดียวกับปราณและกายา รวมไปถึงสมองอันชาญฉลาดจึงทำให้มารเพลิงตนนี้เป็นสิ่งมีชีวิตตนหนึ่งที่น่ากลัวที่สุดในดินแดนแห่งนี้ ในตอนนี้ดูเหมือนว่าโครนอสจะทนแรงกดดันไม่ไหว เขารุดตัวเข้าไปฟันใส่ไซอาลอททันที แต่มารเพลิงนั้นสามารถรับคมดาบนั้นได้ด้วยมือเปล่า โครนอสพยายามดึงดาบมันกลับมาแต่อสูรเพลิงนั้นจับมันไว้แน่น ทันใดนั้นหมัดอีกข้างของเพลิงโลกันต์พุ่งเข้าสู่กลางท้องของโครนอส แรงกระแทกของมันทำให้ร่างของมนุษย์กระเด็นออกไป มารเพลิงเริ่มย่างกรายเข้าไปหาองค์ราชาตามทิศทางการปลิว โครนอสลุกขึ้นมาฟาดฟันดาบใส่อีกครั้ง ไซอาลอทใช้เพียงมือของเขาในการกำบัง มันไร้ซึ่งรอยขีดข่วนใดๆ ที่มือข้างนั้นจู่ๆ ก็มีลาวาสีแดงพุ่งออกมา มันมีลักษณะค่อนข้างแหลมคม ว่าแล้วมันก็พุ่งเข้าไปหาราชาทันที เขาไหวตัวทันจึงถอยฉากออกไป ตั้งกระบวนท่ารับรอมารเพลิงเป็นสัญญาณการเตรียมตัว

  ไซอาลอทยิ้มกับการกระทำนั้นดูเหมือนว่ากำลังเริงรมย์ไปกับมัน ทันใดนั้นมารเพลิงก็พุ่งตัวเข้าไปด้วยความเร็ว แต่ถึงกระนั้นโครนอสก็เร็วพอที่จะหลบการพุ่งทะลวงนั้นได้ มารเพลิงดูเหมือนจะไม่ได้รีบเร่งนักในการที่จะเผด็จศึก โครนอสก็ยังคงตั้งรับรอการเคลื่อนไหวจากอสูรโลกันต์เช่นกัน เพียงชั่วพริบตาทั้งสองก็พุ่งเข้าไป สะบั้นพลังแห่งตนเพื่อที่จะสยบผู้เป็นปรปักษ์ ปราณเพลิงของทั้งสองที่ปะทะกันทำให้เกิดแรงระเบิดขนาดใหญ่ ร่างของทั้งคู่ไถลไปตามแรงระเบิดแต่ท่าทางของโครนอสจะดูหนักกว่าเสียหน่อย เขาล้มลงไปกับพื้น ไหลออกไปแต่มารเพลิงกลับสามารถทรงตัวยืนได้ มารเพลิงรุดตัวเข้าไปเตะร่างของโครนอส เขาลอยไปตามอากาศ ว่าแล้วมารเพลิงก็ยืดอกปรากฏเป็นหัวมังกรเพลิงผุดออกมาจากอกของมารร้าย มันพ่นบอลปราณสีแดงขนาดใหญ่ที่สามารถแผดเผาร่างผู้ถูกโจมตีได้

  เมื่อโครนอสเห็นแบบนั้น เขาตั้งดาบในสภาพที่คิดจะสะบั้นลูกบอลเพลิงให้ขาดเป็นสองท่อน และนั่นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้น เขาสับบอลโลกันต์ขาดเป็นสองท่อน มันระเบิดออกอย่างแรงซึ่งแรงลมเหล่านั้นทำให้ราชาปลิวกลางอากาศ ร่วงลงมาสู่พื้น มิทันไรผู้เป็นองค์กษัตริย์ที่ลอยตามอากาศก็ถูกมารเพลิงบีบคอเอาไว้ เขาพยายามจะดิ้นให้หลุดจากหัตถ์แห่งเพลิงแต่ดูเหมือนกำลังของคนธรรมดาจะไม่อาจเอาชนะมารเพลิงนี้ได้ มันยกตัวของเจ้าแผ่นดินขึ้นเหนือหัวตน หัตถ์โลกันต์แห่งความตายเหล่านั้นค่อยๆ แผดเผาผิวหนังของโครนอส จากร่างจิตไปสู่ร่างความเป็นจริง การที่จะทำให้ร่างจริงรู้สึกเจ็บปวดกับบาดแผลแม้จะถูกทำร้ายเพียงแค่ร่างจิตนั้นมีเพียงแค่เหล่าผู้ใช้พลังแห่งบาปที่จะทำให้ได้ เมื่อปราณแห่งบาปสร้างความอลหม่านให้แก่ปราณของผู้ถูกทำร้าย มันจะเกิดความสับสนถึงปราณจิตและปราณกายาที่แยกกันโดยเด็ดขาดแต่เริ่ม เมื่อปราณบาปทำร้ายร่างใดร่างหนึ่ง มันเชื่อมต่อพลังปราณทั้งสองเข้าด้วยกัน และสร้างความเสียหายทั้งคู่ เพราะงั้นมันถึงเป็นพลังธาตุพิเศษที่สามารถกัดกินได้ทั้งกายและใจในเวลาเดียวกัน

  ร่างจริงของโครนอสที่ยังหลับไหลอยู่เกิดบาดแผลที่เกิดขึ้นจากการถูกไฟลนเข้า ส่วนร่างจิตยังคงถูกไซอาลอทใช้มือบีบรัดไว้ ร่างจิตของโครนอสเริ่มจะอ่อนแรง ไร้หนทางที่จะสู้กับกำลังของมารเพลิงได้ มันทำให้มารเพลิงได้ใจ แสยะยิ้มอันน่ากลัวอีกครั้งก่อนที่จะกล่าววาจาของเขา

“ลิ้มรสถึงมันสิโครนอส!” ไซอาลอทกล่าว “ความตาย.. ที่มันรอเจ้าอยู่เบื้องหน้า”
“ไม่!” เขาตอบกลับไป
“ข้าจะหยุดเจ้า! และ... ช่วยลูกของข้า!”

  บัดนั้นองค์ราชาแห่งดินแดนสตอร์มโฮล์มใช้ดาบแห่งธรรมของตนเสียบลงไปที่แขนของไซอาลอท สะบั้นแขนข้างนั้นจนขาดออก มารเพลิงร้องด้วยความเจ็บปวดพลางมองดูแขนของตนที่ถูกสับจนขาด โครนอสเริ่มพยุงตัวขึ้นยืน ตั้งท่าเตรียมจู่โจมอีกครั้งและในครั้งนี้สิ่งที่เขาจะสะบั้นไม่ใช่แค่แขนแต่เป็นหัว ไซอาลอทถอยฉากออกไปพร้อมกับโลหิตที่ไหลออกมา มันมีความร้อนพอๆ กับลาวาจากใต้ผืนดินหรืออาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ ไม่นานนักหลังจากที่อสูรเพลิงสามารถตั้งตัวได้เขาก็ค่อยๆ เปล่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่จะระเบิดเสียงบันเทิงออกมาอย่างบ้าคลั่งราวกับว่าพึงพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นย่อมสร้างความงุนงงให้แก่ปรปักษ์ที่เป็นองค์ราชาอยู่แล้ว สีหน้าของโครนอสดูเหมือนจะไม่ยินดีเท่าไหร่ ไม่สิ! ดูเหมือนว่าจะโมโหมากกว่าด้วยซ้ำ

“มันมีอะไรให้เจ้ารู้สึกขำนักงั้นหรอ?!” โครนอสตะโกนถาม
“โอ้แน่นอนสิ... ใครมันจะไปคิดล่ะว่าคนอ่อนแอเช่นเจ้าจะสะบั้นแขนแห่งข้าได้” มารเพลิงตอบ
“แต่อย่าเพิ่งดีใจไปโครนอส... มันไม่ได้หมายถึงความพ่ายแพ้ต่อเจ้าเสียหน่อย”

  สิ้นสุดวาจาของอสูรโลกันต์ เขาก็หัวไปมองที่แขนของตนที่ถูกสะบั้น ที่แผลของมันผุดขึ้นมาซึ่งเนื้อเยื่อ สร้างเป็นโครงจนกลายเป็นอวัยวะในที่สุด มันเป็นแขนที่มีสภาพดังเดิมราวกับว่ายังไม่ผ่านการต่อสู้ใดๆ มารเพลิงตรวจสอบสภาพแขนของตน กำมือและขยับนิ้วไปมาราวกับการเชื่อมต่อแขนเทียมสำหรับคนที่ทดสอบประสิทธิภาพแขนนั้น สิ่งนั้นทำให้โครนอสอึ้งอย่างชัดเจน เขาแทบไม่เชื่อสายตาว่าการโจมตีนั้นแทบจะไม่มีความหมาย เหมือนกับว่าเขาใช้พลังทั้งหมดในการทำให้มารเพลิงตนนี้เสียเปรียบ แต่กลับกันกลายเป็นว่าตัวเขาเสียเปรียบซะเองเพราะใช้พลังไปจนหมด ไซอาลอทหันไปหาโครนอสที่นิ่งไปราวกับแข็งเป็นหิน ความกลัวเหล่านั้นเริ่มก่อเกิดขึ้นมาในจิตใจขององค์กษัตริย์แห่งสตอร์มโฮล์ม มันทำให้มารเพลิงรู้สึกมีความสุขกับสิ่งที่เห็น ว่าแล้วอสูรตนนั้นก็เดินไปหาโครนอสช้าๆ ย่างกรายไปอย่างไม่เร่งรีบ

“ความกลัวโครนอส... มันทำให้เจ้าพ่ายต่อข้า”

“ฉึก!”

  เสียงของมีคมแทงเข้าที่ร่างของใครสักคน ของมีคมชิ้นนั้นมีคราบเลือดของผู้ถูกทำร้ายไหลรินลงพื้นช้าๆ ของมีคมชิ้นนั้นคือปราณเมือกสีดำของชายหนุ่มเจ้าของมิติและคราบเลือดที่ไหลลงไปกับพื้นก่อเกิดความร้อน มันเป็นเลือดของมารเพลิงไซอาลอท ผู้ที่แทงทะลุร่างของอสูรกายตนนี้ดึงมันออก ไซอาลอทหันไปกลับมองที่ลูเซียส เขาแสดงสีหน้าที่ตกตะลึง ทำไมชายผู้นี้ถึงสามารถหลุดออกจากพลังปราณของเขาได้ ซึ่งชายหนุ่มผมสีดำก็ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา เขาเพียงแค่ใช้เท้าถีบร่างของมารเพลิงลง เหยียบหน้าอกเอาไว้เพื่อไม่ให้ขยับกายได้ ใช้แท่งเมือกเหล็กแทงลงกลางไหล่ของไซอาลอท

“เจ้า...” มารเพลิงกล่าว “จิตของเจ้าแกร่งกว่าที่ข้าคาดการณ์เอาไว้เสียอีก”
“แต่อย่าหวังว่ามันจะจบเท่านี้เชียวล่ะ”

“ฉึก!” หนุ่มเจ้าของจิตแทงเมือกดำซ้ำลงไป

  ลูเซียสแทงร่างจิตของมารเพลิงซ้ำลงไปที่หัว มันทำให้ร่างกายทุกส่วนของมารเพลิงหยุดนิ่งลง ไร้ปฏิกริยาตอบสนองทุกประการ องค์กษัตริย์มองลูเซียสที่่ดูเหมือนจะไร้อารมณ์ เขาดูเหมือนกับกำลังจ้องมองปีศาจที่ไร้จิตใจยังไงยังงั้น ไม่นานนักร่างจิตของเจ้าของมิติก็ทรุดลงไป ร่างจิตของโครนอสรับร่างนั้นไว้ ดูเหมือนว่าลูเซียสจะหมดสติไปจากการใช้พลังทั้งหมดในการสู้กับจิตของไซอาลอท เมื่อนั้นโรนอสก็ดึงจิตของตนกลับเข้าไปในร่างจริงของเขา ภายนอกที่เป็นเมือกปีศาจเริ่มสลายตัวไปช้าๆ เขามองดูปีศาจปราณดำร้องอย่างทรมาณราวกับกำลังจะตายในไม่ช้าในขณะที่เจ้าของปราณดำยังคงหลับไหลอยู่ โครนอสเริ่มสังเกตที่คอของตน มันเป็นรอยไหม้เดียวกับที่เกิดขึ้นกับร่างจิตเขาไม่ผิดเพี้ยน ไม่ทันไรเขาก็ไอออกมาราวกับว่าตนเองเจ็บคอเอามากๆ เมื่อนั้นหนุ่มนามลูเซียสจึงค่อยๆ สะลึมสะลือขึ้น ซึ่งนั่นก็ทำให้ราชาหันไปมองลูกบุญธรรมของตนด้วยความเป็นห่วง ลูเซียสมองไปรอบข้าง บ้านของตนนั้นมีสภาพเละเทะดั่งคลื่นใหญ่ที่ซัดมาทำลายบ้านของตน เขามองมันด้วยความสงสัยราวกับว่าตนไม่รู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่นานนักเขาก็หันไปเห็นองค์กษัตริย์ของตน

“มัน... เกิดอะไรขึ้นขอรับ...”
ขึ้นไปข้างบน Go down
https://www.facebook.com/BillAlfenolf
 
Cataclysm: The Endless Hellfire V
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Cataclysm: The Endless Hellfire IX
» Cataclysm: The Endless Hellfire XXV
» Cataclysm: The Endless Hellfire X
» Cataclysm: The Endless Hellfire XI
» Cataclysm: The Endless Hellfire XII

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: