Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Prem-Time EP.2 - His Name Is "VICTOR".

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
PazzRazzGUN
Mid Card
Mid Card
PazzRazzGUN


จำนวนข้อความ : 209
Join date : 29/05/2013
Age : 25
ที่อยู่ : 72/281 Suratthani , Thailand

Prem-Time EP.2 - His Name Is "VICTOR". Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Prem-Time EP.2 - His Name Is "VICTOR".   Prem-Time EP.2 - His Name Is "VICTOR". EmptySat Oct 29, 2016 1:16 am

ท่าอากาศยานลอนดอนซิตี ลอนดอน , ประเทศอังกฤษ

ชายหนุ่มผมหยักศกสีน้ำตาลเข้มในชุดสูทสีดำ เนคไทสีทอง วิ่งหน้าตั้งเข้ามายังห้องโถงที่เต็มไปด้วยที่นั่งผู้โดยสายที่รอเข้าเกท เขาหันซ้ายขวาเหมือนหาอะไรบางอย่าง ดูเหมือนจะเจอสิ่งที่เขาพยายามมองหาแล้ว ขวามือของเขาเต็มไปด้วยกลุ่มคนในชุดสูทแบบเดียวกัน ชายหนุ่มวิ่งเขาไปรวมกลุ่มด้วยความดีใจ เขาหอบแฮ่ก ชายหนุ่มนั่งลงตรงเก้าอี้ริมซ้ายสุด ข้างเขาคือ แฟรงค์ แมตต์ ที่กำลังนั่งไขว่ห้างอ่านหนังสืออยู่ มันดูเหมือนหนังสือการ์ตูนมังงะของญี่ปุ่น ตรงข้ามของเขาคือสองผู้เล่นใหม่ มาเธียส ฟอน ชไนเดอร์ และ รอย เดอ เฮิร์ก ทั้งคู่หยุดบทสนทนาที่กำลังคุยกันอย่างออกรส แล้วหันมามองชายหนุ่มผมหยักศกที่กำลังนั่งพักเหนื่อยอยู่

“ให้ตายสิ เกือบไปแล้วจริงๆ ผมคิดว่าจะมาไม่ทันแล้ว” ชายหนุ่มหันไปพูดกับชายทั้งสองตรงข้ามเขา

“มะ…ไม่เป็นไรหรอก แกรี่ ไฟลท์บินของเราต้องเลื่อนไปอีก 3 ชั่วโมง เพราะสภาพอากาศที่ไม่ค่อยโอเค แต่จริงๆ นายโชคดีนะ ไม่งั้นโดนคุณแซนเดอร์สเล่นแน่ๆ” รอย อธิบาย

“อะ…เอ๋? เห!! สามชั่วโมง ไม่จริงน่า” แกรี่ตกใจ พลางถอนหายใจหลังสถานการณ์ของเขาพ้นขีดอันตราย

“ฉันก็เสียดายเหมือนกัน อยากจะไปจีนเร็วๆ แล้ว ฉันอยากไปเที่ยวเอเชียมานานแล้ว” รอยถอนหายใจอีกคน

“ส่วนฉันกับเอเชียนะเหรอ? ต้องไทยแลนด์สิ แม่ของฉันเคยเล่าให้ฟังบ่อยๆ ฉันเคยไปหาตากับยายตอนเด็กๆ ที่นั่นสวยมากเลย อยากกลับไปดูอีกครั้งว่าจะเปลี่ยนไปแค่ไหนแล้ว ไว้วันหยุดซัมเมอร์หน้า เราไปกันดีไหม” มาเธียสโฆษณาประเทศที่สองของเขาเป็นการใหญ่

“ก็ดีนะครับ ทะเลที่นั่นสวยดี แล้วช่วงนี้ก็ได้ข่าวมาว่าฟุตบอลของพวกเขาก็พัฒนาขึ้นมาเหมือนกัน  แล้วคุณแฟรงค์ละครับ ถ้าในเอเชียคุณ…“ แกรี่พยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะหันไปหาแฟรงค์

“ญี่ปุ่น….” แฟรงค์พลิกหน้าหนังสือการ์ตูนของเขาพลางตอบสั้นๆ

“เหอะ อย่างพวกแกได้ไปร่วมทัวร์ด้วยก็บุญโขแล้วมั้ง พวกเด็กใหม่โนเนมไม่มีดีกรี มาซ้อมวันสองวันก็ได้ไปพรีซีซั่นแล้ว ยังไม่เข้าใจเลยว่าพวกแกดียังไง ตาแก่วิตต์นั่นถึงคว้าตัวพวกแกมาแล้วปล่อยพวกซีเนียร์เก่งๆ ออกไป” เจ้าของเสียงนั่นคือ เบน เคิร์กส์ เขาคือรองกัปตันทีม ตัวสูงใหญ่ ร่างกายหนาไปด้วยกล้ามเนื้อ เขาพูดมันด้วยสีหน้าที่ให้ความรู้สึกแย่สุดๆ

“อย่าไปสนใจเขาเลย เขาแค่ไม่พอใจพวกนายที่ทำให้เพื่อนเขาต้องออกจากทีมไปนะ พวกนายแค่ทำให้เขาเห็นก็พอ” แฟรงค์บอกกับพวกแกรี่ พลางอ่านหนังสือไปราวกับว่าคำพูดของเบนเป็นแค่เสียงลมพัด

“ส่วนแกไอตัวฟรี แกอย่าคิดไปเลยว่าชาตินี้แกจะตามฉันได้ เหอะ รั้งฉันไว้ตั้งนาน นึกว่ากำลังติดต่อผู้รักษาประตูที่ดีกว่าฉันอยู่ ที่ไหนได้ ไอตัวสำรองที่ใครเขาไม่เอานี่เอง อย่าได้ใจไปละว่าแกจะมาแทนที่ฉัน แกไล่ฉันไม่ทันหรอก ฉันกำลังจะได้ไปลิเวอร์พูล นายจะต้องตามหลังฉันเพิ่มอีก 10 ก้าวใหญ่ๆ แน่ไอหนู”  เบนเดินไปจ้องหน้ารอยอย่างเย้ยหยัน

“หยุดดูถูกคนอื่นซักที เบน” แฟรงลดหนังสือลงครึ่งหนึ่ง แสดงให้เห็นสายตาที่แลดูซีเรียสและจริงจังของแฟรงค์ ตอนเขาโกรธมันแลดูน่ากลัวกว่าอะไรทั้งสิ้น เบนที่เห็นแฟรงค์เป็นแบบนั้น เขาเอามือป้องตัวเองพลางค่อยๆ เดินออก

“หา? โว้วๆ ใจแย็นก่อนเพื่อน ฉันไม่ได้ว่าแกเลยนะ แกไม่ต้องเจ็บแทนก็ได้นะ เพราะฉันก็เข้าใจระดับของแกดี แต่แกอย่ามาทำตัวซ่ากับฉันดีกว่า มาที่นี่แค่ปีเดียว ส่วนฉันเป็นเด็กปั้นของสโมสร และปัจจุบันคือรองกัปตันทีม ทีมชาติฉันก็ติด ส่วนทีมชาติของแก ตอนยูโรมันไปทำอะไรอยู่เหรอ? อย่ามาห้าวดีกว่า”
แฟรงค์ วางหนังสือแล้วพุ่งเข้าไปดึงคอเสื้อของเบนอย่างรุนแรง เบน เคิร์กส์ ผู้เย่อหยิ่งยืนยิ้มพร้อมเผชิญหน้ากับแฟรงค์อย่างเอาเรื่อง เบนยิ้มอย่างพอใจ เขากำลังจะอ้าปากพูดต่อแต่ว่า…

“พอแค่นั้นแหละ แฟรงค์! เบน! กลับไปนั่งที่ของพวกนายซะ สำรวมหน่อย ที่นี่สนามบินนะ คิดถึงภาพลักษณ์ของทีมด้วย”
เสียงของ เจย์ กอร์ดอน ดังขึ้น เป็นที่รู้กันว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่กัปตันทีมผู้นี้พูด ทุกอย่างที่เกิดขึ้นต้องหยุดนิ่งและเงียบสงัด เพื่อปฏิบัติตามสิ่งที่เขาบอก หาเปรียบ วิตต์ แซนเดอร์ส เป็นพ่อ เจย์นี่แหละคือพี่ชายคนโตของครอบครัวกรอสเวเนอร์

“ชิ ใหญ่เสียจริง” เบนบ่นอุบอิบด้วยความไม่สบอารมณ์ เขาเดินชนไหล่ของแฟรงค์ ก่อนจะเดินจากไป แฟรงค์ แมตต์ เหลือบมองคู่กรณีด้วยหางตา เขาดูใจเย็นเหลือเกิน หาถามว่าใครกันที่มีวุฒิภาวะดูเหมือนรองกัปตันทีม แฟรงค์ คงได้คะแนนโหวตท่วมท้นมากกว่าเบนในตอนนี้แน่นอน

“ฉันรู้ว่านายรู้สึกยังไงแฟรงค์ แต่เบนน่ะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว นายอย่าไปเดินตามเกมเขาสิ การปกป้องเด็กใหม่เป็นสิ่งที่ดี แต่ตอนนี้เราอยู่ในที่สาธารณะ” เจย์อธิบาย ในขณะที่แฟรงค์ยืนฟังด้วยความตั้งใจ พวกเขาดูเหมือนผู้ใหญ่ที่มีเหตุผลคุยกัน ดูน่าเกรงขาม

“มาเธียส รอย ฉันต้องขอโทษพวกนายด้วย แล้วก็แกรี่…” เจย์หันมาพูดกับสามแข้งจูเนียร์

“ผะ…ผมไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ได้คิดมากอยู่แล้ว” แกรี่ตอบด้วยน้ำเสียงนอบน้อม

“ไม่! ไม่ใช่ ทำไมนายถึงมาสาย! รู้ไหมว่าโชคเข้าข้างนายขนาดไหน ไฟลท์บินถึงเลื่อน นี่ถ้าวิตต์รู้เข้านายซวยแน่ๆ” กัปตันทีมต่อว่าแกรี่เป็นการใหญ่ ในขณะที่ดาวรุ่งผม
หยักศกทำได้เพียงฟังด้วยความรู้สึกผิด

“ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับกัปตัน ว่าแต่โค้ชละครับ พอดีผมมีธุระกับเขานิดหน่อย” แกรี่ยิ้มแหยๆ พร้อมเปลี่ยนเรื่องคุย

“พอไฟลท์บินเลื่อน เขาเลยออกไปทำธุระบางอย่าง เรื่องตลาดซื้อขายนั่นแหละ เห็นว่ากำลังวุ่นอยู่กับพวกดาวรุ่งนอกยุโรป”
เจย์อธิบายสถานการณ์ ในขณะที่แกรี่ตามน้ำไป

“งะ…งั้นหรอครับ สมกับเป็นเขาเลยจริงๆ”

“ไปนั่งดีๆ ได้แล้ว นายมายืนทำอะไรตรงนี้” เจย์ล้มตัวนั่งตรงเก้าอี้ที่แกรี่พึ่งลุกขึ้นไม่นาน ดาวรุ่งผมหยักศกขนลุกซู่ เขาพึ่งนั่งที่ของกัปตันไปหน้าตาเฉย เขายิ้มแห้งๆ ก่อนจะเดินแยกตัวออกมา
ปลายแถวอีกฟากหนึ่งของทีมมีเก้าอี้ว่างอยู่ตรงริม คนที่นั่งติดกับที่นั่งนั้นคือชายทรงผมอันเดอร์คัตพร้อมหนวดเคราแสนคลาสสิค “เควิน มอนทาน่า” กำลังนั่งสบายๆ บนเก้าอี้ เสียบหูฟัง พลางกำลังดูอะไรบางอย่างในสมาร์ทโฟนของเขาอย่างใจจดใจจ่อ
“ทำอะไรอยู่หรอครับ เควิน?” แกรี่ ริคเกอร์ เดินมานั่งข้างตัวรับดาวรุ่งแห่งกรอสเวเนอร์ พลางชะเง้อมองสิ่งที่อยู่ในมือของเควิน
“แมทช์กระชับมิตรระหว่าง เวสต์แฮม และ แมนฯซิตี้ พวกเขาเริ่มต้นพรีซีซั่นแล้ว” เควินเอียงหน้าจอให้แกรี่ดูได้สะดวก พลางยื่นหูฟังข้างหนึ่งให้แกรี่ เด็กหนุ่มผมหยักศกรับมันมาสวม ก่อนจะดูเกมที่กำลังจะเริ่ม

-----------------------------------------------------------

สนามฟุตบอลโอลิมปิค  , กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
แมทช์กระชับมิตร พรีซีซั่น
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด – แมนเชสเตอร์ ซิตี้

“ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีซีซั่น วันนี้เป็นแมทช์กระชับมิตรของสองยอดทีมจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด พบ แมนเชสเตอร์ซิตี้ครับ วันนี้มีผม คริส วอล์ช และ สตีฟ แชมป์แมน รับหน้าที่เป็นผู้บรรยายครับ” คริส วอล์ช ผู้บรรยายประจำเกมนี้กล่าวเปิดรายการถ่ายทอดสด

“วันนี้ทางเจ้าบ้าน “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ของกุนซือ สลาเวน บิลิช มาในระบบ 3-4-3 ไดม่อน โดยวันนี้มีผู้เล่นใหม่ลงสนามหลายราย 11 ผู้เล่นตัวจริง มี อาเดรียน เป็นผู้รักษาประตู กองหลังสามคนเป็น  วินสตัน รีด กัปตันทีม , ฮาวาร์ด นอร์ดทไวท์ , อังเจโล่ อ๊อกบอนน่า กองกลาง 4 คน ดิมิทรี่ พาเย็ต ประจำการปีกซ้าย , ปีกขวาใช้ อังเดร อายิว , มิดฟิลด์ตัวรับเป็น มาร์ค โนเบิล ส่วนตัวรุกเป็น มานูเอล ลานซินี่ ทำเกมหลังสามกองหน้า โซฟิยาน เฟกูลี่ , ซิโมเน่ ซาซ่า และดาวยิงที่น่าจับตามองในเกมนี้  ดิโน่ มาซโซลินี่”

“ทางฝั่ง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วันนี้มีการพักผู้เล่นหลักหลายรายครับ รวมทั้ง “บิคตอร์ เออร์นันเดซ” ที่พึ่งกลับมาเข้าแคมป์ฝึกซ้อมได้สองวัน โดยวันนี้ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาในระบบ 4-3-3 ครับ มี วิลลี่ กาบาเญโร่ เป็นผู้รักษาประตู , บาการี่ ซาญา เป็นแบ็คขวา , กองหลังสองคนเป็น แอชลี่ย์ เบรดี้ และ นิโคลัส โอตาเมนดี้ , แบ็คซ้ายเป็น อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ แดนกลาง 3 คนประกอบด้วย เฟร์นันดิญโญ่ , เฟร์นันโด , ฟาเบียน เดลฟ์ ส่วนกองหน้าสามคนเป็น เลรอย ซาเน่ , มิคาเอล ตอร์เรส และ เฆซุส นาบาส”

“เกมการแข่งขันเริ่มแล้วครับ เวสต์แฮมเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่นก่อน พวกเขาจะบุกจากซ้ายไปขวา! ฟุตบอลตื่นขึ้นอีกครั้งแล้ว!!”

-----------------------------------------------------------

เมลวู้ด ลิเวอร์พูล

ณ ห้องแต่งตัวที่สนามซ้อมของยอดทีมแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์ นักเตะของทัพหงส์แดงกำลังนั่งพักเหนื่อยจากการฝึกซ้อม บ้างก็เตรียมตัวไปอาบน้ำ ดูเหมือนพวกเขาพึ่งจะเสร็จสิ้นคอร์ดฝึกซ้อมของเซสชั่นในวันนี้ เด็กหนุ่มในทรงผมโมฮอว์กที่ดูเหมือนจะอาบน้ำเสร็จก่อนใครเพื่อน เขากำลังนั่งดูกระดาษบางอย่างในมือมันดูเหมือนตั๋วเครื่องบิน ด้านบนของมันมีตัวหนังสือตัวใหญ่ๆ เขียนว่า “ลิเวอร์พูล – ลอนดอน” บ่งบอกจุดหมายปลายทางเป็นอย่างดี เขามองมันด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์ ก่อนที่ใครบางคนจะล้มตัวลงมานั่งข้างเขา ชายคนนั้นคือกองหน้าผิวสีของทีมชาติอังกฤษ ทุกคนรู้จักเขาดี ”แดเนียล สเตอร์ริดจ์”

“ฉันรู้ว่ามันทำใจลำบาก โจเซ่ นายเป็นลูกหม้อของที่นี่ แถมนี่ยังเป็นทีมที่นายรัก ตอนที่ต้องออกจากซิตี้ ฉันก็ทำใจลำบากเหมือนกัน เวลาต้องจากกับที่ที่เราโตมา”

“ผมรู้ดี…ผมรู้ดีแดเนียล นี่แหละฟุตบอล หนึ่งร้อยยี่สิบปีมานี้มีนักเตะมากมายอยู่ในสถานการณ์เดียวกับผม และพวกเขาก็ผ่านมันไปได้ นั้นคือสิ่งที่ผมพยายามอยู่”

“ฉันเสียดายนะ ที่ดีลนี้มันเกิดขึ้นเร็วเกินไป ฉันอยากให้นายได้ไปพรีซีซั่นด้วยกันกับทีม พวกดาวรุ่งคนอื่นๆ เพื่อนๆ ของนายที่ถูกดันขึ้นมาต่างได้ไปกันทั้งนั้น ว่ากันด้วยฝีเท้า ในฐานะเพื่อนร่วมทีม ฉันเสียดายตัวรับอนาคตไกลแบบนายจริงๆ วันนี้นายได้รับอนุญาตให้พัก แต่ก็ยังอุส่าห์มาซ้อมและบอกลาพวกเรา นายเป็นเด็กดีไอหนู เพื่อนๆ คงคิดถึงนาย”

“มันคงไม่สมควรที่จะพูดว่าถ้าเบนิเตซอยู่อนาคตของผมกับทีมอาจจะไม่จบลงแค่นี้ มันรู้สึกหวิวแปลกๆ ที่อีกไม่นานผมจะไม่ใช่ผู้เล่นของลิเวอร์พูล ผมยังอยากจะไปส่งทุกคนพรุ่งนี้ที่สนามบิน ในตอนที่ยังทำได้ ในตอนที่เรายังเป็นพวกพ้องกันอยู่ ไม่ใช่ในฐานะศัตรู”

“ไม่ว่านายจะอยู่ที่ไหน แต่ถ้านายเคยเป็นผู้เล่นของลิเวอร์พูล นายจะไม่มีวันเดินอย่างเดียวดาย” เสียงที่คุ้นเคยของ “เจมส์ มิลเนอร์” ดังขึ้นและเพื่อนร่วมทีมของโจเซ่คนอื่นๆ ยืนยิ้มใก้เขาอยู่ดานหลัง พวกเขาเข้ามาให้กำลังใจและสั่งลาดาวรุ่งที่ชื่อว่า “โจเซ่ บอม” ที่กำลังเตรียมพร้อมสู่ความท้าทายใหม่

-----------------------------------------------------------

โกเธนเบิร์ก , สวีเดน

“วันนี้สกัดได้สวยมาก กัปตัน! สมแล้วที่ติดทีมชาติสวีเดนไปลุยยูโร พวกเราเจาะเกมรับของคุณไม่เข้าเลยจริงๆ คุมเกมรับได้เยี่ยมไปเลย”
เหล่าผู้เล่นในทีมเสื้อซ้อมสีฟ้าขาว กำลังพูดถึงชายผิวขาว รูปร่างกำยำ ผมชองเขามีสีน้ำตาลแดง ดวงตาสีฟ้าจ้องมองลูกทีมที่กำลังพูดถึงเขาด้วยอารมณ์ขัน เขาคือ เจคอป เทิร์นควิชส์ ปราการหลังกัปตันทีมของสโมสรฟุตบอล ไอเอฟเค โกเตบอร์ก ยอดทีมแห่งออลสเวนส์คาน ลีกสูงสุดของประเทศสวีเดน

“พวกนายเองก็ทำได้ดีมาก! แต่ยังไม่ดีพอ พวกนายต้องไล่ตามฉันให้ทัน…ไม่สิ! ต้องแซงหน้าฉันให้ได้ เอาชนะฉันให้ได้!”

“พรุ่งนี้เรากำลังจะไปจีนแล้ว นี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เราได้ไปพรีซีซั่นนอกยุโรป เจอกับทีมชั้นนำ ทั้งกรอสเวเนอร์ จากพรีเมียร์ลีก และที่สำคัญ คือยูเวนตุสของเอดิญโญ่”

“มาสร้างเซอร์ไพรส์ให้พวกเขาเห็นกัน เราจะเป็นข่าวหน้าหนึ่ง และซีซั่นนี้แชมป์ลีกต้องเป็นของเรา!!”
เจคอปพูดกระตุ้นลูกทีมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“โอ้ววววว!!” เหล่าลูกทีมโกเตบอร์กเฮด้วยความฮึกเหิมหลังจากได้ฟังคำพูดปลุกใจของสุดอดกัปตัน บททดสอบสำคัญของกรอสเวเนอร์กำลังรอพวกเขาอยู่ที่ศึกลูกหนังพรีซีซั่นฉบับแดนมังกรแล้ว…

-----------------------------------------------------------

“สกัดกั้นเกมสวนกลับของเวสต์แฮมได้ยอดเยี่ยมอีกครั้งครับ สำหรับปราการหลังดาวรุ่งป้ายแดงของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่าง แอชลี่ย์ เบรดี้!”

ใช่แล้ว เกมนี้แม้ทางฝั่งเรือใบสีฟ้าจะเป็นฝ่ายครองบอลบุกและสร้างสรรค์โอกาสยิงได้เยอะกว่า แต่โอกาสน้อยครั้งของเวสต์แฮมที่บุกขึ้นมาแต่ละทีนั้น ถือว่าหวือหวากว่ามาก โดยเฉพาะ ดิโน่ มาซโซลินี่ ที่ปั่นป่วนเกมรับของซิตี้เสียจนหัวหมุนในเกมนี้ กับถูกหยุดไว้ได้ด้วยเด็กหนุ่มเยาวชนทีมชาติอังกฤษนาม แอชลี่ย์ เบรดี้ และตอนนี้เวลาการแข่งขันเข้าสู่ช่วงท้ายของการแข่งขันแล้ว สกอร์ยังเสมอกันแบบสนุก 0-0 ของสองทีมจอมบุก

“สมราคาแข้งยอดเยี่ยมของบอร์นมัธ ไม่เบานี่เจ้าหนู” ดิโน่ เดินไปพูดกับแอชลี่ย์

“พี่ชายก็เอาเรื่องเหมือนกันนะ แต่แค่นี้ผ่านผมไปไม่ได้หรอก” แอชลี่ย์ พูดพลางมองบอลที่อยู่ข้างหน้า เขาไม่ได้ดูเสียสมาธิจากการเข้ามาชวนคุยของดีโน่แม้แต่น้อย

“งั้นเหรอ…ก็อาจจะเป็นอย่างนั้นแหละ” ดีโน่ตอบด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะวิ่งลงไปช่วยเกมรับของทีม แอชลี่ย์มองดีโน่ที่กำลังวิ่งไปอย่างสงสัย ปกติดาวยิงอิตาเลี่ยนรายนี้คือจอมสะสมใบเหลืองและใบแดง แต่ทำไมครั้งนี้เขากลับไม่มีปฏิกิริยากับจิตวิทยาการยั่วยุของแอชลี่ย์แม้แต่น้อย

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังโหมบุกอย่างหนักเพื่อหวังประตูขึ้นนำ ในขณะที่กล้องจับไปข้างสนาม บิคตอร์ เออร์นันเดซ ดาวดังของทีม กำลังพูดวิจารณ์เกมอย่างสนุกสนาน ทายได้จากรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา คนที่เขาพูดด้วยคือสองเพื่อนร่วมทีมที่กำลังนั่งขนาบข้างของเขา เซอร์กิโอ อเกวโร่ และ ดาบิด ซิลบา ทั้งสามกำลังพูดคุยกันด้วยภาษาสแปนิชอย่างออกรสในขณะที่เกมในสนามกำลังดำเนินต่อไป

ทีมเรือใบสีฟ้า ขึ้นไปบุกกันเกือบทั้งทีม ทิ้งไว้เพียง แอชลี่ย์ เบรดี้ ที่กำลังท็อปฟอร์มห้อยหลังทิ้งไว้เพียงคนเดียวในแดนตัวเอง หลังจากที่บุกอยู่นาน แต่ไม่สามารถเจาะเกมรับที่เต็มไปด้วยระเบียบวินัย ในที่สุด สตีเว่น  รีด กัปตันทีมของ เวสต์ แฮม ก็ตัดบอลได้จาก ฟาเบียน เดลฟ์ แล้วจ่ายต่อให้ ดิมิทรี่ พาเย็ต เพื่อเตรียมสวนกลับ ดีโน่ มาซโซลินี่ วิ่งเติมขึ้นไปบริเวณกรอบเขตโทษของฝั่งซิตี้ด้วยความเร็ว แต่แอชลี่ย์ เบรดี้ รออยู่แล้ว เขาตามประกบดีโน่ไว้แน่น พาเย็ กระชากบอลผ่าน บาการี่ ซาญ่า ได้อย่างเนียนตา

“ฟังนะ ทั้งโลกรู้ดีว่านายเจ๋งแค่ไหน แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่นายในตอนนี้ยังไม่สามารถไล่ตามฉันได้” ดีโน่พูดในขณะที่แอชลี่ย์ตามประกบเขาอยู่ สายตาของทั้งคู่มีสาธิอยู่กับฟุตบอล แต่บทสนทนานั้นทั้งคู่ก็รับรู้ความหมายของมัน

พาเย็ต รู้ถึงความยอดเยี่ยมของแอชลี่ย์เป็นอย่างดี เขาเลยหวังแทงทะลุช่องให้ดีโน่ได้หลุดเดี่ยว เข้าไปยิง แต่บอลนั่นตรงตัวของดีโน่มากเกินไป แอชลี่ย์เห็นถึงความผิดพลาดนั้น เขาได้อ่านมันไว้หมดแล้ว ดีโน่ไม่มีทางพาบอลผ่านเขาไปได้ แอชลี่ย์พุ่งเข้าไปหวังเสียบที่บอลในท่าล้มตัวกวาด….
.
.
.
Cuauhtemiña!!! ดีโน่ ใช้สองเท้าของเขาหนีบลูกฟุตบอลแล้วกระโดดข้ามตัวของแอชลี่ย์ไปอย่างสวยงาม มันคือเทคนิคที่มีชื่อเสียงที่สุดเทคนิคหนึ่งในวงการฟุตบอล!!

แอชลี่ย์ มองเห็นดีโน่ที่กระโดดข้ามตัวเขาไปพร้อมลูกฟุตบอล ทุกอย่างในวินาทีนั้นดูช้าไปหมด เวลาท้ายเกมที่เขาปล่อยให้ดีโน่ผ่านไป เบื้องหน้าของดีโน่มีเพียง วิลลี่ กาบาเญโร่ ผู้รักษาประตูคนเดียวเท่านั้น แอชลี่ย์นึกถึงคำพูดของดีโน่ที่ดังก้องซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัว…
“มีอยู่สิ่งหนึ่งที่นายในตอนนี้ยังไม่สามารถไล่ตามฉันได้….”

ดีโน่บรรจงหวดบอลที่กระดอนพื้นเป็นลูกวอลเล่ย์ บอลพุ่งเข้าเสียบสามเหลี่ยมประตูไปอย่างสวยงาม เขาหันหน้ามาครึ่งหนึ่งก่อนจะพูดกับแอชลี่ย์
“และสิ่งนั้นคือประสบการณ์”

“กะ….โกลลลลลลลลลลลล เวสต์แฮมขึ้นนำ 1-0! จากผุ้เล่นหมายเลข 12 ครับดีโน่ มาซโซลินี่หลังจากที่บุกอยู่นาน แมนฯซิตี้ พลาดท่าแล้วครับ เกมสวนกลับที่ยอดเยี่ยมของเวสต์แฮม และลูกนี้เป็น มาซโซลินี่ ที่ปิดบัญชีเข้าไปแบบเหนือชั้น เหลือร้ายจริงๆ ครับ”

ผู้เล่นของเวสต์แฮมเข้ามาดีใจกับดีโน่ ส่วน แอชลี่ย์ เบรดี้ มองคู่แข่งชาวอิตาเลียนอย่างเจ็บใจ เขากำหมัดแน่น และกัดฟันกรอด ก่อนที่จะเตรียมไปยืนตำแหน่งเพื่อเขี่ยนลูกเริ่มเล่น

“บริเวณข้างสนาม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถึงกับส่ายหัวให้กับความผิดพลาดของลูกทีม เขามองไปที่ซุ้มม้านั่งสำรอง แล้วเรียกชายที่แฟนบอลเรือใบสีฟ้ากำลังรอคอยออกมา ดาวเตะร่างเล็ก เขาคือสุดยอดโจรสลัดแห่งเรือใบแมนเชสเตอร์ลำนี้ “บิคตอร์ เออร์นันเดซ” ได้รับคำสั่งให้ออกไปวอร์มแล้ว!!

เกมในสนามดำเนินต่อไป แมนฯซิตี้ โหมบุกหนักขึ้นมากกว่าเดิม คราวนี้ผู้เล่นทั้ง 11 คนของเวสต์แฮมตั้งรับอยู่ในแดนตัวเองโดยไม่มีผู้เล่นรอสวนกลับแล้ว ส่วนทางฝั่งของซิตี้ แอชลี่ย์ เบรดี้ เติมเข้าไปอยู่ในเขตโทษของทีมขุนค้อน โดยทิ้งแดนของตัวเองไว้ว่างเปล่า
เฟร์นันดิญโญ่วางบอลเข้าไปลุ้นในเขตโทษ และเป็น แอชลี่ย์ เบรดี้ ได้โหม่ง บอลตั้งกลับมาให้เจ้าหนูมิคาเอล ตอร์เรส แต่อาเดรียน ผู้รักษาประตูของเวสต์แฮมกระโดดปัดไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ ทำเอามิคาเอลออกอาการเสียดายเป็นการใหญ่ ผู้ตัดสินให้สัญญาณว่าแมนซิตี้ได้ลูกเตะมุม ก่อนจะอนุญาตให้ข้างสนามดำเนินการเปลี่ยนตัวได้

“สโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่น เอาหมายเลข 18 ฟาเบียน เดลฟ์ ออก หมายเลข 16 ลงไปเล่นแทน บิคตอร์ เออร์นันเดซ!” สิ้นเสียงโฆษกสนามประกาศ เสียงเฮของแฟนบอลในชุดสีฟ้าดังกระหึ่ม บ่งบอกถึงความเก่งกาจของดาวเตะร่างเล็กผู้นี้ได้เป็นอย่างดี

“นายมีเวลา 10  นาทีรวมทดเวลาบาดเจ็บเพื่อตีเสมอให้กับเรา” เป๊ปกระซิบบอกกับบิคตอร์

“ผมจะใช้เวลา 5 นาทีเพื่อพาให้เรากลับมาขึ้นนำ” บิคตอร์ หันไปตอบพร้อมรอยยิ้มให้กับผู้จัดการทีม ก่นอที่จะแท็คมือกับฟาเบียน เดลฟ์ เพื่อลงสู่สนามไป

บิคตอร์เข้าไปรับผิดชอบลูกเตะมุมที่ทีมได้ เขาวางลูกบอลอย่างบรรจง กลิ้งลูกไปมาหาตำแหน่งที่เหมาะสม เขาถอยหลังไปนับก้าวเตรียมจะเตะ เสียงนกหวีดดังขึ้น เขายังพินิจพิเคราะห์ตำแหน่งการยืนของเพื่อนร่วมทีมด้วยความใจเย็น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาละเอียดในการเล่นขนาดไหน ดาวเตะหมายเลข 16 วิ่งเข้ามาก่อนจะบรรจงเปิดบอลด้วยเท้าขวา บอลนั้นพุ่งไปไกล และทิศทางของมันโค้งเข้าหาสามเหลี่ยมที่เสาสอง อาเดรียน เตรียมไปรอรับบอลที่จุดนัดพบ เช่นเดียวกับกองหลังเวสต์แฮมที่มองสถาการณ์อยู่

“มะ…ไม่ใช่! นั่นมัน…S Cross!! ประกบเบรดี้เร็ว ฮาวาร์ด!!” ดีโน่ มาซโซลินี่ ที่ยืนอยู่ห่างสุดจากกรอบเขตโทษ เป็นคนแรกที่สังเกตเห็นความผิดปกติของลูกบอล เขาตะโกนบอก ฮาวาร์ด นอร์ดทไวท์  กองหลังเพื่อนร่วมทีมที่หลงไปกับทิศทางบอลจนห่างจากตัวประกบของเขาอย่าง แอชลี่ย์ เบรดี้ โดยบอลที่ออกจากเท้าของบิคตอร์นั้นหลังหลังจากที่โค้งข้างหาประตู มันกลับส่ายออกซ้ายหนีห่างจากประตูพุ่งไปหา แอชลี่ย์ เบรดี้ ที่รออยู่แล้ว นี่คือเทคนิคขั้นสูงของการเล่นฟุตบอล แอชลี่ย์ เบรดี้ กระโดดเทคตัวขึ้นสูงเหนือใคร ตอนนี้กลางอากาศมีเพียงเขากับลูกฟุตบอล ลูกโหม่งที่แรงดุจปืนใหญ่พุ่งออกจากศรีษะของเข้าเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม เป็นประตูตีเสมอให้กับทีมเรือใบสีฟ้า

“โกลลลลลลลลลลลล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตีเสมอเรียบร้อยแล้วครับ จาก แอชลี่ย์ เบรดี้ โหม่งได้เยี่ยมจริงๆ ลูกเปิดลูกนี้ของบิคตอร์ก็สุดยอดเช่นเคย”

แอชลี่ย์ เบรดี้ เก็บบอลจากก้นตาข่ายเตรียมไปเล่นต่อ เข้ารู้ดีว่าหากมีบิคตอร์อยู่ในสนาม ทีมจะสามารถหวังถึงชัยชนะได้ แม้จะตามหลังอยู่กี่ลูกก็ตาม แอชลี่ย์ เดินสวนกับดีโน่ ที่ยังคงช็อมื่อสักครู่คกับสุดยอดลูกเปิดของบิคตอร์ แอชลี่ย์ หันไปยิ้มเยาะพลางพูด
“ไม่ได้มีแต่ทีมพี่ชายหรอกนะ ที่มีประสบการณ์ แต่ของทางนี้นะ ฝีเท้าดีด้วยนะ ฮ่า ฮ่า”

บอลถูกเขี่ยเริ่มเกมอีกครั้ง เวสต์แฮมเป็นฝ่ายครองบอลเอาไว้ พวกเขาหวังที่จะจบเกมด้วยผลเสมอ ตอนนี้ผู้เล่นของทีมเรือใบกำลังใจมาเต็ม โมเมนตัมเทคะแนนให้พวกเขาแล้ว พวกเขาขึ้นบีบสูงขึ้น สุดท้ายเป็น แอชลี่ย์ เบรดี้ ที่ตัดบอลได้ บอลถูกส่งให้บิคตอร์ ก่อนที่ดาวเตะทีมชาติสเปนจะโชว์เทคนิคและทักษะอันแพรวพราวล็อคหลบผู้เล่นเวสต์แฮมเกือบครึ่งทีม เขากำลังจะเข้าเขตโทษของเวสต์แฮมแล้ว แต่เป็น อังเจโล่ อ๊อกบอนน่า ตัดสินใจทำฟาวล์บิคตอร์ล้มลงก่อนเข้าเขตโทษ อ๊อกบอนน่ารับใบเหลืองไป ผู้เล่นเวสต์แฮมมาตั้งกำแพงเตรียมรับมือลูกตั้งเตะลูกนี้ เช่นเดียวกับดีโน่ที่ลงมาช่วยเพื่อนร่วมทีมตั้งกำแพง ตอนนี้เวลาเหลือไม่มากแล้ว

อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ หยิบบอลมาเตรียมจะไปตั้งตามจุดที่ผู้ตัดสินฉีดสเปรย์ แต่แล้ว บิคตอร์ เออร์นันเดซ ก็ลุกขึ้นพลางเดินไปแตะบอลที่อยู่บนมือของโคลารอฟ

“อเล็กซ์…ฟรีคิกลูกนี้ ฉันจะยิงเอง…” บิคตอร์พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งและเย็นชา เขาดูต่างไปจากเมื่อกี้นี้  ส่วนโคลารอฟพยักหน้าเป็นการตกลง ใบหน้าของเขารู้สึกกลัวเพื่อนร่วมทีมคนนี้ขึ้นมานิดหน่อย

บิคตอร์วางบอลตรงจุดตั้งเตะฟรีคิก เขาถอยออกไปไม่ไกลจากจุดมากนักพลางหลับตา ก่อนที่จะบ่นพูดอะไรบางอย่างกับดีโน่และเหล่ากำแพงของทัพขุนค้อน

“รู้ไหมว่าสิ่งที่ฉันเกลียดและยากที่จะให้อภัย ที่ผู้เล่นจากทีมที่กระจอกกว่ามาทำเป็นอวดเก่งต่อหน้าผู้เล่นของทีมคุณภาพอย่างเรา แกทำมันกับแอชลี่ย์ใช่ไหม ดีโน่?” ดีโน่งุนงงกับปฏิกิริยาของบิคตอร์ที่ดูต่างไป
“แต่วันนี้ฉันอารมณ์ดี เรื่องนั้นฉันจะหยวนๆ ให้”
“แต่เรื่องถัดมา ฉันไม่สามารถให้อภัยพวกแกได้จริงๆ”
ผู้ตัดสินเป่านกหวีดให้สัญญาณในการเตะ บุรุษนามบิคตอร์ลืมตาขึ้น เขาจ้องเขม็งไปที่เหล่ากำแพงเวสต์แฮม
“นั้นคือแกขัดขวางฉันจากการทำประตูด้วยความรุนแรง!” ดีโน่ตาเบิกโพลง เช่นเดียวกับกำแพงของเวสต์แฮมหลังจากได้ยินคำพูดของบิคตอร์
ชายหมายเลข 16 วิ่งเข้ามาดุจรถด่วน ซัดบอลออกจากจุดฟาวล์ บอลพุ่งเร็วและแรงโค้งเสียบสามเหลี่ยม ทุกชีวิตหยุดนิ่งในช่วงเวลานั้น อาเดรียนไม่ได้ขาตาย แต่เขาไม่ทันมองบอลที่ผ่านตัวเขาไปซุกก้นตาข่ายเลยต่างหาก!!

“โกลลลลลลลลลลลลลล แมนฯซิตี้ขึ้นนำ 2-1 จากฟรีคิกสุดสวยของ บิคตอร์ เออร์นันเดซ 1 ประตู 1 แอสซิสต์ไปแล้วสำหรับเขาในเกมนี้ ฮีโร่ ซุเปอร์ซับขนานแท้”

นักเตะทุกคนของเวสต์แฮมนิ่งและงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ดีโน่มองบิคตอร์ด้วยความหวาดกลัว ดาวเตะสแปนิชค่อยๆ เดินมาหาดีโน่

“ช่ายยยย…ใบหน้าแบบนั้นแหละ กลัวซะดีโน่ นี่แหละทีมที่จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในซีซั่นนี้ รับรู้รสชาติของมันซะ ความผิดหวังที่แกจะต้องเจอมันอีกสองครั้งในซีซั่นนี้ ฝันร้ายจากฉัน”

“ฉันตีราคาว่าจะใช้เวลา 5 นาที ในการเอาชนะพวกแก แต่นี่แค่ 4 นาที ดีโน่…พวกแกมันไร้ค่ากว่าที่ฉันประเมินไว้เยอะเลยว่ะ”
บิคตอร์เดินกลับไปดีใจร่วมกับเพื่อนร่วมทีม ใบหน้าของเขากลับมายิ้มแย้มและมีความสุขราวกับอารมณ์ก่อนหน้านี้เป็นเพียงภาพลวงตา
เกมถูกเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ช่วงเวลาที่เหลือแมนฯซิตี้ ยังคงไล่บดเวสต์แฮมอย่างหนัก ช่วงทดเวลาบาดเจ็บก่อนจบเกมเพียงไม่กี่วินาที บิคตอร์ เออร์นันเดซก็จ่ายบอลทะลุช่องให้เจ้าหนูมิคาเอล ตอร์เรส ดาวรุ่งของทีมยิงปิดกล่อง เสียงนกหวีดยาวเป่าหมดเวลาก็ดังขึ้น จบเกมด้วยชัยชนะของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และการร่ายมนต์ของ บิคตอร์ เออร์นันเดซ ดิโน่มองบิคตอร์ที่เดินกลับเข้าไปในอุโมงค์โดยไม่สนใจใคร จนกระทั่ง แอชลี่ย์ เบรดี้ เข้ามาแตะมือและสวมกอดกับดิโน่ ทั้งคู่แลกเสื้อกัน ผู้คนในสนามปรบมือใหกับผู้เล่นทั้งสองทีม แม้จะเป็นเกมกระชับมิตร แต่ทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสนุกและสมศักดิ์ศรีจริงๆ

-----------------------------------------------------------

ณ สำนักงานสเกาต์ของ กรอสเวเนอร์ ทาวน์ , มิลล์ตัน ฟิลด์ , ลอนดอน

“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรตั้งแต่เมื่อกี้แล้วน่ะครับบอส” ชายหนุ่มในเสื้อโปโลกรอสเวเนอร์ถามชายแก่ในชุดสูท เขาดูเหมือนหัวหน้าของที่นี่ พูดให้ถูกคือหัวหน้าทีมสเกาต์ของสโมสร

“ผลงานชิ้นโบว์แดงของฉันเอง…คุณวิตต์ชอบมันมาก เขาส่งคนไปเจรจาซื้อพวกเขามาร่วมทีมแล้ว” ชายแก่ตอบ

“เตวสหาดาวรุ่งนอกยุโรปของคุณนะเหรอครับ” ชายหนุ่มถามเจ้านายของเขา

“เรากำลังจะได้ดาวรุ่งชั้นยอดมาร่วมทีมแล้วเจ้าหนุ่ม…สุดยอดดาวรุ่งถึงสองคน!  นับตั้งแต่เจ้าหนูแกรี่ ฉันไม่เคยเห็นดาวรุ่งที่เก่งอย่างนี้มาก่อน” ชายแก่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความพอใจในผลงาน

-----------------------------------------------------------

เครื่องบินเดินทางของสโมสร กรอสเวเนอร์ ทาวน์  ท่าอากาศยานลอนดอนซิตี , กรุงลอนดอน

“เดี๋ยวถึงแล้วฉันจะโทรไปหาเธอนะแนท เครื่องจะออกแล้ว แค่นี้ก่อนนะ ฉันรักเธอนะ บายที่รัก”
แกรี่ ริคเกอร์ กดวางสายโทรศัพท์มือก่อนของเขา ก่อนจะปิดเครื่องแล้วเก็บใส่กระเป๋า คนที่นั่งข้างเขาคือ เควิน มอนทาน่า พี่ชายคนสนิท แกรี่เริ่มเปิดประเด็นคุยกับเควิน

“ซีซั่นที่แล้วผมไม่ค่อยได้ดูบอร์นมัธเตะเลย แต่แอชลี่ย์ เบรดี้ นี่เก่งสมกับที่คุณเล่าให้ฟังจริงๆ”

“ดีโน่ มาซโซลินี่ นั่นก็ใช่ย่อย สมแล้วที่เคยเล่นให้ลาซิโอ้ เหลือร้ายจริงๆ ฉันไม่เคยเห็นแอชลี่ย์เสียท่าแบบนั้นมาก่อนเลย” เควินหันไปพูดกับแกรี่

“แต่ที่สำคัญ บิคตอร์ เออร์นันเดซ เขาก็คือเขาจริงๆ ชักตื่นเต้นแล้วสิ พวกเราจะได้เล่นกับคนเก่งๆ แบบพวกเขาแล้วสินะครับ คนระดับบิคตอร์นะ” แกรี่พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แต่สำหรับ เควิน เขาดูต่างออกไป สำหรับแกรี่ มันอาจจะเป็นความตื่นเต้น แต่สำหรับผู้เล่นเกมรับอย่างเควิน ปีศาจอย่างบิคตอร์ถือเป็นฝันร้ายอย่างแท้จริง!

บริเวณที่นั่งแถวหน้าสุดคือที่นั่งของบรรดาสต๊าฟฟ์โค้ชและผู้จัดการทีม วิตต์ แซนเดอร์ส นั่งอยู่แถวหน้าสุดพร้อมผู้ช่วยของเขาที่กำลังนินหลับสบายอยู่บนที่นั่ง เขาสวมหูฟัง และเลื่อนหน้าจอสมาร์ทโฟน แลดูวัยรุ่น สัญลักษณ์บนขอบโทรศัพท์แสดงให้เห็นว่าเขาเปิดโหมดเครื่องบิน  เขากำลังเลื่อนหาคลิปวิดีโอบางอย่างที่เซฟมาจากทีมงานสเกาต์เมื่อเร็วๆ นี้ ในที่สุดเขาก็หามันเจอ เขาขยับตัวในท่าสบาย ก่อนจะกดเล่นวิดีโอนั้น

“ผ่านไปได้สวยครับ จิอันลุยจิ อมิลก้า กระชากผ่านไปอีกคนแล้ว ราโบน่า!! เปิดได้สวยครับ เปิดได้สวยมากๆ สำหรับเจ้าหนู อมิลก้า!”

“ล็อคหลบหนึ่งคน! สองคน! สามคน! แล้วซัดเข้าไปแล้วครับลูกนี้ เรียบร้อย! บราซิล ยู-17 ขึ้นนำไปแล้ว! ยอดเยี่ยมจริงๆ ครับ เจ้าหนู จิอันลุยจิ อมิลก้า”

“เปิดตัดเข้ากลางมา อมิลก้าาาา! โกลลลลลล พัลไมรัสขึ้นนำแล้ว! หาช่องได้ยอดเยี่ยมมากครับสำหรับศูนย์หน้าดาวรุ่งคนนี้”

วิตต์กดเลื่อนไปดูวิดีโอถัดได้วยความตั้งใจ

“ตัดบอลได้สวยครับ สำหรับดาวรุ่ง เคย์อิจิ ฮานะ เขาดูกล้าเล่นมากครับ ไม่ตื่นสนามเลย ลูกนี้ต้องให้เครดิตความขยันของเขาครับ บดบี้ได้ดีจริงๆ”

“เอาละครับฮานะตัดบอลได้ จะสวนละครับ ฮานะกระชากบอลไปแล้ว เร็วจริงๆ ครับ ท้ายเกมยังวิ่งไม่มีหมดเลย แทงทะลุช่องให้เพื่อนซัดลูกนี้ 1-0 ครับ!! จ่ายได้สวยจริงๆ“

“บอลกระฉอกมาที่แถวสอง เคย์อิจิ ฮานะ มายังไงครับเนี่ย ซัดไปแล้ว 1-0 ครับ โอ้โฮ!! ญี่ปุ่น ยู-18 ขึ้นนำแล้ว!! ยิงได้สวยมากครับเจ้าหนูฮานะ”

วิตต์ยิ้มแห้งๆ อย่างพอใจ เขาดูนิ่งสงบ เขาถอดหูฟังเก็บไว้พร้อมกับโทรศัพท์ พลางบ่นพึมพำก่อนหลับตา
“ให้ตายสิ...เด็กพวกนั้นมันอะไรกัน!?”

การเก็บตัวพรีซีซั่นเริ่มต้นขึ้นแล้ว!!
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Prem-Time EP.2 - His Name Is "VICTOR".
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Prem-Time EP.1 - Untitled
» Prem-Time EP.3 - บุกแดนมังกร!
» Prem-Time EP.4 - Dragon International Cup
» Prem-Time EP.0 - Garry Ricker [Prologue & รับสมัครตัวละครครับ]
» Prem-Time Special : Guide Book

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: