Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Cataclysm: The Endless Hellfire XXVIII

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
Neferpitou
Moderators
Moderators
Neferpitou


จำนวนข้อความ : 552
Join date : 05/12/2012
Age : 27
ที่อยู่ : The Facility of Banned Organizer

Cataclysm: The Endless Hellfire XXVIII Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Cataclysm: The Endless Hellfire XXVIII   Cataclysm: The Endless Hellfire XXVIII EmptyWed Dec 28, 2016 12:14 am

Cataclysm: Endless Hellfire
Act XXVIII

------------

“ตาย? ดั่งว่าเจ้าสามารถสังหารข้าได้อย่างเด็ดขาดยังไงยังงั้นล่ะ?”

  มารเพลิงกล่าวขึ้นมาพลางกางมือทั้งสองข้างออกสื่อถึงความไม่กลัวต่อวาจาที่โคลริมกล่าวขู่ไปเมื่อครู่ เช่นว่าเขาอ้าแขนรับความพิโรธแห่งบาบาเรี่ยนเฒ่า การกระทำนั้นหาได้ทำให้แสดงความโกรธอันใดออกมา ดั่งว่าตนกำลังพยายามไม่ให้แรงอาฆาตแค้นเป็นตัวตัดสินในการกระทำอะไร มันก็ควรที่จะเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว หากใช้เพียงกำลังและอารมณ์เข้าในการต่อสู้ครั้งนี้นั่นเท่ากับได้โยนชัยชนะออกไปแล้ว เขาหาได้สู้กับพวกนักสู้ปลายแถวแต่เป็นหนึ่งในสุดยอดผู้ใช้ปราณระดับสูง ไซอาลอทเองก็รู้ตัวดีว่าการยั่วยุของตนไม่อาจจะใช้กับอดีตสหายของตนได้ พวกเขารู้จักกันมานานจนแทบจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับบุคคลนั้นๆ การต่อสู้ในครั้งนี้จึงขึ้นอยู่กับสติปัญญา สมองคิดที่จะวางกลยุทธ์ทั้งสิ้น พลาดเพียงนิดเดียวศีรษะอาจขาดสะบั้นได้ โคลริมยังคงกำขวานไว้แน่นโดยใจอยากที่จะซัดหน้าของมารเพลิงเต็มแก่ แต่ก็มิอาจจะทำเช่นนั้นได้ ทั้งสองยังคงยืนนิ่ง มองดูท่าทางของฝ่ายตรงข้ามเพื่อหาจังหวะที่เหมาะสมที่สุด

“เจ้าไม่ใช่พระเจ้าไซอาลอท... และข้าจะกำจัดเจ้า” จู่ๆ โคลริมก็กล่าวขึ้นมา
“ไม่... ข้าไม่ได้เป็นพระเจ้า” ไฟแห่งความตายตอบกลับ
“แต่ข้ากำลังจะเป็น!”

  สิ้นวาจานั้นมารเพลิงกระโดดถอยฉากออก รัศมีห่างจากตัวของคู่ต่อสู้อยู่พอควร ในระหว่างที่ไฟแห่งความตายลอยอยู่กลางอากาศ เขาก็สูดอากาศเข้าเต็มปอดด้วยปากของตน ดูดลมเข้าสู่กายาก่อนที่จะเปล่งมันออก แต่สิ่งที่ถูกขับออกไปหาได้เป็นแค่ลมอากาศธรรมดาเท่านั้น แต่ยังเป็นเพลิงพิโรธอันร้อนระอุ มันเป็นหนึ่งในกระบวนท่าของมารเพลิงที่ใช้ในการต่อสู้ พ่นเพลิงดั่งมังกรในนิยายโบราณ เพลิงนั้นแผดเผาทุกอย่างที่อยู่โดยรอบมัน ไม่ว่าจะป่าไม้ รถม้าหรือม้าที่ยังมีชีวิตอยู่ และตัวของโคลริมเองก็ถูกไฟนั่นทำร้ายเช่นกัน ด้วยความที่วิชาคงกระพันของชายเฒ่ายังคงทำงานอยู่โดยไม่ติดขัดอะไร มันจึงทำให้การโจมตีนั้นสร้างความเสียหายให้เฒ่าผู้นั้นเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น กระนั้นเองหากตัวโคลริมอยู่ภายใต้ทะเลเพลิงมากเกินไปอาจทำให้ตัวเขาเป็นอันตรายได้ เมื่อนั้นบาบาเรี่ยนยักษ์เริ่มยองขาตัวเองลงสู่ผืนดิน เกิดเป็นแรงกดทำให้ปฐพีทรุดลงตามแรงนั้น เมื่อนั้นขาทั้งสองข้างจึงถูกดีดออกไปอย่างแรง ร่างของโคลริมลอยขึ้นสู่นภาในทันที เขาลอยอยู่ในระดับที่สูงพอที่จะสามารถลงทัณฑ์มารเพลิงด้วยกระบวนท่าจากฟากฟ้าได้ แต่มารเพลิงกลับหาได้อยู่ในบริเวณนั้นแม้แต่น้อย เขาหายไปราวกับกลีบเมฆดั่งว่าใช้เพลิงเป็นแค่เครื่องอำพรางตัวเท่านั้น

  ชายร่างยักษ์หันซ้ายแลขวาแต่ก็ยังไม่พบอัคคีชั่วนั้น ร่างของชายเฒ่าค่อยๆ ร่วงลงสู่ผืนดินช้าๆ ดั่งนกที่ถลาลง ในระหว่างนั้นเองมารเพลิงได้ปรากฏตัวบนผืนดิน ณ บริเวณที่ชายเฒ่ากำลังจะร่วงโรยลง ไซอาลอทยื่นมือทั้งสองขึ้นสู่ฟากฟ้า ใช้มือบดบังร่างของโคลริมเช่นว่าเขากำลังเล็งผู้นี้ ว่าแล้วก็มีปราณจำนวนมหาศาลรวมเข้าไปที่มือทั้งสองข้าง มันเป็นปราณสีแดงฉานดั่งโลหิตผสานเพลิง เมื่อนั้นปราณแห่งเพลิงจึงถูกขับออกเป็นดั่งคลื่นพลังขนาดใหญ่ มันพุ่งเข้าไปหาชายเฒ่าผู้ใช้ขวานนั้นอย่างจัง โคลริมมิอาจจะหลบมันไปได้เพราะความเร็วของการโจมตีนั้นเหนือกว่าความคล่องแคล่วทางกายาหลายเท่าตัว กระนั้นผู้ถูกโจมตีนั้นไหวตัวทันเช่นกัน เขาใช้มือทั้งสองบังหน้าของตนไว้เป็นการป้องกันการโจมตีที่มิอาจจะหลบไปได้ แม้นว่าเขาจะบดบังการโจมตีนั้นได้ในระดับหนึ่งก็ตามที แต่แรงปราณนั้นสูงมากจนผลักร่างของชายเฒ่าขึ้นไปในทิศทางที่โคลริมหาได้หวังให้เป็นเช่นนั้น

  ชายเฒ่าถูกดีดขึ้นไปอย่างแรงจนมิอาจจะควบคุมทิศทางการขยับกายาได้ เมื่อนั้นมารเพลิงจึงดีดตัวขึ้นไปกลางอากาศ รัวหมัดทั้งสองข้างของตนดั่งปืนกลที่ยิงกระสุนนับร้อยอย่างบ้าคลั่ง ชายเฒ่าถูกซัดด้วยหมัดทั่วร่างกาย มิอาจจะตั้งรับมันได้ทัน หมัดเหล่านั้นที่โหมกระหน่ำใส่โคลริมนั้นเร็วผิดมนุษย์จนแทบจะมองด้วยตาเปล่าไม่ทันว่ามันได้ซัดไปกี่ครั้งแล้ว สำหรับคนธรรมดาอาจจะมองเห็นว่าหมัดนั้นถูกซัดเพียงแค่ครั้งเดียวในช่วงเวลาไม่กี่วินาที แต่ความจริงแล้วมันถูกยิงออกไปกว่าร้อยหมัดในช่วงเวลาห้าวินาทีเท่านั้น การโจมตีนั้นยังคงดำเนินไปไม่รู้จบ ความตั้งใจของมารเพลิงคงคิดที่จะเผด็จศึกสหายของตนด้วยกระบวนท่านี้เป็นแน่แท้ ไม่ทันไรแขนทั้งสองข้างของโคลริมได้หยุดตั้งรับ ใช้ความเร็วในระดับที่ทัดเทียมกันจับรัดร่างของมารเพลิงเอาไว้ มันหยุดเพลงหมัดเพลิงพิโรธได้ในทันตา และตัวของไซอาลอทเองก็ไม่สามารถขยับได้เลย เมื่อนั้นโคลริมจึงหมุนตัวของตนกลางอากาศ มันบังคับให้ไซอาลอทเองต้องขยับไปตามโคลริมโดยที่มารเพลิงหาได้พึงประสงค์ พอรู้ตัวอีกทีหัวของไฟแห่งความตายได้ดิ่งลงสู่ผืนดิน พร้อมกับโคลริมที่รัดร่างไว้

“ตึงงงงงงง!” เศียรแห่งไฟกระแทกลงบนผืนดินอย่างแรง

  โคลริมที่สำเร็จกระบวนท่าจู่โจมของเขาได้ปล่อยร่างของไซอาลอทให้หลุดออกจากพันธนาการ เมื่อนั้นเขาจึงเรียกขวานแห่งตนมาที่มือเตรียมจะฟาดฟันใส่ร่างศัตรูต่อ กระนั้นเองไซอาลอทได้ใช้ขาของเขาที่ตั้งอยู่เหนือผืนดินเตะเข้าไปที่เอวของผู้กล้า ซัดร่างของโคลริมปลิวออกไปกระแทกใส่ต้นไม้ใหญ่ แต่ไม้นั้นหาได้รับร่างของโคลริมไว้ได้ มันแตกออกทันทีที่ถูกกระทบโดยผู้พิทักษ์ ไซอาลอทดึงหัวของตนขึ้นมาจากปฐพี วิ่งเข้าไปหาโคลริมอย่างรวดเร็วและยิงกระสุนเพลิงออกไปนับร้อย เพลิงเหล่านั้นกระแทกใส่ร่างของโคลริมแทบจะทุกนัดจนเริ่มทำให้ผิวของชายเฒ่าไหม้เกรียม เช่นเดียวกับเส้นผมของเฒ่าผู้นั้น การโจมตีที่ไม่รู้จักคำว่าพักผ่อนของมารเพลิงหาได้หยุดลงเพียงเท่านี้ มันยังคงดำเนินต่อไปแม้นว่าระยะของไซอาลอทและโคลริมจะเริ่มสั้นลงทุกที เมื่อมารเพลิงปรากฏอยู่ต่อหน้าของโคลริม การโจมตีนั้นจึงหยุดลง ทันใดนั้นหัตถ์ทั้งสองข้างจึงพุ่งเข้าไปที่ศีรษะของชายกล้า จับกะโหลกไว้แน่นดั่งจะบีบมันให้แหลกคามือ ว่าแล้วกระบวนท่าสูบชีวิตของไซอาลอทจึงทำงานขึ้น เขาดูดพลังของโคลริมออกมาทีละเล็กทีละน้อย

  สติสัมปชัญญะของชายเฒ่าบาบาเรี่ยนเริ่มจางลงไปทุกที ต่างจากมารเพลิงที่เริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เขาซึบซับปราณและพลังชีวิตเข้าสู่ร่างกาย ร่างของโคลริมเริ่มแสดงสภาพเป็นดั่งหุ่นเชิดที่ไร้การควบคุมจากผู้คน ดูอ่อนแอ ไม่อาจขยับกายาได้ด้วยตัวเอง เมื่อนั้นไซอาลอทจึงกดร่างของโคลริมกระแทกใส่กับไม้ใหญ่ระแวกนั้น ยกร่างของโคลริมขึ้นก่อนจะบีบศีรษะนั้นแรงกว่าเดิม ขวานของโคลริมที่จับไว้ในมือของเขานั้นหล่นลงสู่ผืนดิน ดูเหมือนว่าโคลริมจะหมดสติไปเสียแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเช่นนั้นก็ตามทีแต่มารเพลิงหาได้หยุดที่จะดูดกลืนพลังของปรปักษ์แห่งตน

“ฉับ!” “ฉับ!” “ฉับ!” มันเป็นเสียงของการฟันแทงอะไรสักอย่าง แต่ก็มิอาจจะรู้ว่าสิ่งนั้นมันคืออะไรกันแน่

  ตั้งแต่เสียงนั้นดังขึ้นมานั้น มารเพลิงก็ได้หยุดการกระทำของเขาในทันที เขาหยุดกลืนพลังของโคลริม ก่อนจะค่อยๆ ก้มลงไปดูข้างล่างซึ่งพบกับว่าร่างกายของเขาถูกฟันเป็นรอยแผลขนาดใหญ่นับไม่ถ้วน โลหิตสีแดงที่ร้อนระอุดูคล้ายดั่งลาวาเพลิงไหลรินออกมาอย่างไม่หยุดนิ่ง แต่สิ่งนั้นมันเกิดขึ้นได้เช่นไรกัน ใครกันที่ใช้กระบวนท่าจู่โจมเพลิงแห่งความตายผู้นี้ เขาเริ่มมองไปรอบด้านเพื่อหาดูว่าใครกันที่ทำเช่นนั้น แต่เขาก็หาได้พบเงาของใครเลย สิ่งเดียวที่เขาเห็นคือขวานที่ลอยไปตามตามอากาศอย่างไร้ทิศทาง เมื่อนั้นมันจึงปักลงไปกลางอกของมารเพลิงในทันที การโจมตีนั้นทำให้เทพอัคคีกรีดร้องด้วยความทรมาณ เสียงนั้นทำให้โคลริมตื่นจากการหลับไหล เมื่อนั้นโคลริมจึงกระโจนตัวออกไป เกาะร่างของไซอาลอท จับขวานของตนและใช้มันฟาดใส่อกนั้นของมารเพลิงอย่างไร้ปราณี โลหิตแห่งความตายสาดกระเซ็นทั่วผืนแดนที่มันได้หยาดลง โลหิตลาวาเหล่านั้นแผดเผาทุกสิ่งที่มันได้สัมผัส แม้กระทั่งหนักเหล็กของโคลริมเองก็เช่นกัน มันถูกเลือดนั้นกัดกินจนเกิดเป็นแผลอย่างชัดเจน แต่กระนั้นโคลริมก็หาได้หยุดที่จะออกขวานโจมตี แม้นร่างของไซอาลอทจะล้มลงไป เขาก็ยังไม่หยุด ขวานนั้นฟาดลงต่อไป ต่อไปและต่อไป

  โคลริมคิดจะออกขวานจู่โจมอีกครั้ง แต่กายาของเขากลับหยุดชะงักลง มันเป็นเพราลาวาโลหิตที่จับตัวเป็นก้อน กลายเป็นดั่งหนวดปลาหมึกได้รัดร่างของโคลริมไว้แน่นจนเขาไม่อาจจะขยับได้ ทันใดนั้นไซอาลอทจึงออกหมัดของตนออกไป กระแทกเข้าไปกลางหน้าของชายเฒ่าจนร่างปลิวออกไป ร่างกำยำแห่งโคลริมไถลไปตามทางและตัวของไซอาลอทก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมาในสภาพที่สะบักสะบอมไม่ต่างจากโคลริมนัก ไซอาลอทเดินเข้าไปหาคู่ต่อสู้ เตะเข้าที่กลางท้องของโคลริมจนล้มลงไปอีกครั้ง

“กระบวนท่าหนังเหนียวของเจ้า.. ข้าพอจะรู้แล้วว่าข้าจะปราบมันยังไง!” มารเพลิงกล่าว
“แกสั่งการให้ปราณทั่วทั้งร่างเดินไปตามเส้นเลือดโดยใช้การหายใจเป็นตัวแกนหลัก”
“วิธีจะเอาชนะกายาโลหะนิรันดร์ของแกมันก็ไม่ยากนัก”
“ถ้าฉันทำให้ร่างกายของแกทำงานไม่เสถียรดั่งที่แกต้องการ”
“ทำให้แกเหนื่อยหอบ หายใจไม่ออก..”

“หรือตัดเส้นเลือดซะ!”

  เขากล่าวประโยคล่าสุดโดยที่ใช้เล็บอันแหลมคมของตนเองแทงเข้าไปที่กลางอกของโคลริม และทำการตัดเส้นเลือดใหญ่สักเส้นให้ขาด ทำให้การเดินของโลหิตและพลังปราณไม่เสถียร เมื่อปราณไม่สามารถเดินไปได้ทั่วกายานั่นก็เท่ากับว่าจะไม่มีปราณที่สามารถคลุมกายปกป้องร่างของโคลริมได้อีก กล่าวโดยง่ายคือไซอาลอทได้ทำการทำลายสุดยอดกระบวนท่าของโคลริมลงแล้ว แม้นว่าเส้นเลือดใหญ่จะถูกตัดก็ตามที แต่กายาของเขายังคงสามารถทำงานได้ต่างจากคนปกติ นั่นเป็นเพราะปราณมหาศาลช่วยทำให้ร่างกายนี้ยังคงทำงานต่อไปได้ แต่คงจะได้เพียงสักพักเท่านั้น หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี ตัวของโคลริมเองก็สามารถตายได้ในไม่ช้า

“เมื่อแกไม่มีปราณที่สามารถคลุมกายได้ นั่นก็เท่ากับว่าการป้องกันของแกได้ถูกทำลายไป!” ไซอาลอทพูดต่อ
“และเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว..”
“การโจมตีทุกประเภทจึงสามารถทำให้แกบาดเจ็บได้!”

  สิ้นคำพูดนั้นมารเพลิงจึงกระทืบลงกลางอกของโคลริมในทันที เมื่อเท้านั้นได้ทาบลงบนอกของผู้กล้า ไซอาลอทจึงกดมันลงอย่างแรง มันได้สร้างแผลให้แก่โคลริมอย่างชัดเจน เป็นรอยไหม้ที่เกิดจากเท้าเพลิงที่แผดเผาจุดที่มันได้สัมผัส ผู้กล้าร้องด้วยความทรมาณดั่งว่าตนได้ตายทั้งเป็น ดูเหมือนว่าแรงกดที่ไซอาลอทได้กระทำลงไปได้ทำให้กระดูกซี่โครงของโคลริมบางซี่หัก ไหนจะไฟที่เริ่มแผดเผาไปถึงหัวใจอีก มันเป็นการสังหารที่ทรมาณน่าดู ผู้กระทำยิ้มแย้มชอบใจ พึงพอใจกับการกระทำของตนเป็นที่สุด แต่โคลริมก็มิอาจที่จะทำอะไรกลับไปได้ แม้นเขาจะใช้กำลังกายมหาศาลเพื่อที่จะยกเท้าข้างนั้นออกไป แต่มันก็ไม่เป็นผลดั่งใจที่ต้องการ ไม่นานนักไซอาลอทจึงยกเท้าของตัวเองออกจากอกของโคลริม มันกลายเป็นแผลเหวอะดูน่าเกลียด แต่ผู้ถูกกระทำยังคงหายใจอยู่ แต่ทำไมมารเพลิงถึงทำเช่นนั้น การที่เขายกขาของตนออกทั้งที่สามารถสังหารปรปักษ์แห่งตนได้ในตอนนี้ แต่เขากลับไม่คิดจะทำเช่นนั้นเลย ไซอาลอทเริ่มก้าวฝีก้าวของตนห่างจากตัวของโคลริมไปเรื่อยๆ ดั่งว่าตนเองไม่ได้สนใจชายผู้นี้แต่แรกอยู่แล้ว

“ด้วยแผลที่เจ้ามีในตอนนี้โคลริม... จะลุกขึ้นยืนยังแทบไม่ไหวเลย”
“ถือว่าซะข้าเมตตาที่ให้เจ้าหายใจได้นานกว่าเดิมล่ะกัน”
“และอีกอย่าง... ข้าอยากให้เจ้าเห็นด้วยตาตัวเอง”
“ข้าอยากเห็นความสิ้นหวังของเจ้า เมื่อเห็นโพรโตเนี่ยนต้องล่มสลาย”
“ให้รู้สึกเหมือนโดนมีดปักเข้ากลางหัวใจ... ดั่งที่เจ้าเคยทำต่อข้า”

  เมื่อนั้นมารเพลิงจึงเดินจากชายร่างยักษ์ที่ใกล้สิ้นใจผู้นี้ เขาอยากจะขยับกายให้ลุกขึ้นยืนแทบจะขาด อยากจะตะโกนวาจาของตนออกไป แต่เขาก็มิอาจจะทำได้ บาดแผลที่เขาได้รับมาทั้งหมดทำให้เขาแทบจะทำอะไรไม่ได้เลย และไซอาลอทเองก็มั่นใจว่าผู้พิทักษ์ผู้นี้จะไม่สามารถลุกขึ้นมาต่อกรกับเขาได้อีก เขาเลยปล่อยโคลริมทิ้งไว้ให้รู้สึกถึงความทรมาณที่เหนือกว่าความตาย ปีศาจเพลิงเริ่มย่างกรายไปช้าๆ ในทิศทางแห่งหนึ่ง ดูเหมือนว่าเขากำลังแสะหาอะไรสักอย่าง คงจะเป็นเป้าหมายที่เขาต้องการนั่นคือหญิงสาวผมสีน้ำเงินผู้ที่น่าจะมีพลังแห่งซินโดร่าในครอบครอง ฝีเท้าย่างออกไปโดยไม่เร่งรีบอย่างกับรู้ว่าเป้าหมายหาได้ขยับตัว และอยู่ไม่ไกลนัก

  ภายในป่าลึกแห่งนี้มีเสียงรอยเท้าดึงขึ้นมาตลอดทาง เสียงของฝีเท้าที่เหยียบผืนหย้า มันเป็นหญิงสาวผมสีน้ำเงิน เธอโอบกอดลูกของตนเองพร้อมกับกระเป๋าย่ามอะไรสักอย่างที่พายไว้อยู่บนไหล่ ไม่นานนักเธอจึงหยุดตัวลง ณ ผืนหญ้าโล่งโจ้งแห่งหนึ่ง ก่อนจะวางบุตรของตนลงบนหญ้านั้น ก่อนที่จะเริ่มควานหาอะไรสักอย่างในย่ามนั้น เธอหยิบกล่องประหลาดขนาดเล็กออกมา วางมันลงใกล้ตัวของเธอเอง สายตาของเธอดูเหมือนจะไม่ค่อยอยากทำแบบนี้นัก คล้ายว่าเธอจะทำตามในสิ่งที่พ่อของตนสั่งไว้ แต่จิตใจยังคงโลเลว่ามันสมควรหรือไม่ เธอก้มหน้าลง คุกเข่าลงไปกับพื้น ร้องไห้ออกมาโดยที่พยายามกัดฟันเอาไว้ ไม่อยากให้เสียงโหยหวนเปล่งออกไป

“ขอโทษค่ะท่านพ่อ... แต่ข้าทำไม่ได้จริงๆ” เธอกล่าวมันขึ้นมาดั่งเป็นการบ่นคนเดียว

  แม้นว่าเธอจะไม่อยากที่จะทำก็ตามที แต่มันก็จำเป็นที่จะต้องทำแบบนั้น หญิงสาวยื่นมือของตนเองไปที่กล่องนั้น หวังที่จะเปิดผนึกมันออก ทันใดนั้นได้เกิดเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาข้างหลังของหล่อน ดูเหมือนมันจะอยู่ไม่ไกลเสียเท่าไหร่ เสียงนั้นทำให้เธอตกใจจนหันกลับไปด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าเสียงนั้นจะเป็นของมารเพลิงแห่งความตายที่ตามเธอมา ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ทำอะไรไม่ถูก ร่างกายนิ่งไปราวกับถูกสาปให้กลายเป็นหินยังไงยังงั้น เสียงนั้นเริ่มดังขึ้นมาเรื่อยๆ เป็นจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆ มันใกล้เข้ามา จนมีร่างของใครสักคนวิ่งออกมาจากป่าแห่งนั้น ปรากฏตัวต่อหน้าของหญิงสาว คาดาเลียที่้เห็นเช่นนั้นดูตกใจกับการปรากฏตัวของบุคคลๆ นั้น

“แฮ่กๆๆ” เสียงของบุคคลๆ นั้นหายใจอย่างเหนื่อยหอบ
“ไม่เป็นไรนะขอรับนายหญิง” ชายหนุ่มนามโครนอสกล่าวขึ้นมา

ชายหนุ่มนามโครนอสปรากฏตัวต่อหน้าคาดาเลียพร้อมกับอาวุธดาบแห่งเอลทวอร์นที่ซึ่งน่าจะเป็นของสามีของเธอ หนุ่มผู้นั้นค่อยๆ เดินไปหาหญิงสาวผู้นี้

“ข้าเกรงว่าท่านต้องรีบทำการแล้วล่ะครับนายหญิง” จู่ๆ สีหน้าของโครนอสก็จริงจังขึ้นมาทันใด
“พ่อของท่านกำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก และตัวของมารเพลิงเริ่มตามคุณมาแล้วขอรับ”
“อะไรนะ?! เป็นไปได้ยังไงกัน?” หญิงสาวถามขึ้นด้วยความตกใจ
“ดูเหมือนมารเพลิงจะเข้าใจถึงแก่นแท้ของวิชาคงกระพันของท่านโคลริม”
“เจ้านั่นเลย... ตัดเส้นเลือดเพื่อทำให้การล่อเลี้ยงของพลังปราณติดขัด..”
“ตอนนี้พ่อของท่านแทบจะลุกขึ้นยืนไม่ได้เลย”

“ถ้าแบบนั้นก็เท่ากับ... เราไม่มีทางเลือกแล้วล่ะครับ” โครนอสกล่าวขึ้นมาต่อ

  การบอกเล่าของชายผู้เป็นข้ารับใช้ของหญิงสาวผู้นี้ ทำให้ตัวเธอเงียบไปเลย ดูเธอจะกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ พ่อของเธอที่แทบจะทำอะไรไม่ได้แล้ว ไหนจะเรื่องที่จะต้องทำโดยที่หล่อนไม่ค่อยอยากอีก หญิงสาวหันไปมองบุตรชายตัวเองอีกครั้ง ถอนหายใจออกก่อนจะตัดสินใจเปิดผนึกออกจากกล่องประหลาดนั้น ทันใดที่กล่องนั้นถูกเปิดออก มันได้เกิดแรงลมออกมาจากกล่อง มันเป็นอานุภาพแห่งปราณซินโดร่า พลังเอ่อล้นออกมาเป็นปราณสีดำทมิฬดั่งพลังชั่วร้าย ภายนอกแลดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือว่านี่คือพลังที่ใช้ในการปราบมารวอยด์เลยสักนิด เพราะมันเป็นเหมือนกับพลังของมารร้ายเช่นกัน นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมหญิงสาวผู้นี้จึงไม่อยากที่จะทำ สิ่งที่เธอต้องทำในตอนนี้ตามคำสั่งของพ่อเธอคือการฝังพลังแห่งซินโดร่าเข้าไปในร่างของทารก มันเป็นแผนสำรองหากว่าพวกเขาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เหตุที่ต้องทำเช่นนั้นเพราะหากพลังแห่งซินโดร่าสามารถผสานเข้ากับร่างของเด็กหนุ่มผู้นี้ได้อย่างสมบูรณ์ ไซอาลอทจะไม่สามารถทำอะไรกับเด็กคนนี้ได้ ไม่สามารถดูดกลืนพลังหรือขับมันออกมาได้หากไม่ผ่านเจ้าของร่างเอง กล่าวโดยง่ายคือไซอาลอทจะไม่สามารถเอาพลังไปได้ แต่ในทางกลับกัน หากเด็กน้อยไม่สามารถทนต่อพลังในยามที่กำลังทำการโอนถ่ายเข้าไปในร่าง ตัวร่างก็จะตายเสียเองและพลังจะไม่ถูกโอนถ่ายเข้าไป มันจึงถือว่าเป็นความเสี่ยงสูงสุดเลยทีเดียว

  ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ตามทีแต่หากไม่ทำอะไรในตอนนี้ล่ะก็มารเพลิงก็อาจจะได้ในสิ่งที่เขาต้องการไป และเมื่อนั้นดวงดาวแห่งนี้จะถึงกาลล่มสลายอย่างแท้จริง ไม่ว่าทางใดมันก็แย่สำหรับคาดาเลียเหมือนกัน เธอต้องเลือกทางที่ดีที่สุดที่ตนจะสามารถทำได้ หล่อนเริ่มเสกพลังปราณสีดำนั้นขึ้น ค่อยๆ ปล่อยพลังนั้นไปใกล้ลูกชายของตน ก่อนจะเริ่มพิธีการปลูกถ่ายพลังเข้าไปในตัวลูกชายของตนเอง

ในช่วงเวลาที่หญิงสาวนักเวทได้ทำการเปิดกล่องประหลาดนั้น มารเพลิงที่กำลังย่างกรายอยู่สามารถสัมผัสถึงพลังแห่งซินโดร่าได้ ทันใดนั้นมารร้ายจึงแสยะยิ้มขึ้น หันหน้าไปทางด้านซ้ายเล็กน้อยราวกับมองไปยังทิศทางที่ตนเองกำลังจะไป

“อยู่นั่นเองหรอ แถมใกล้ซะขนาดนี้ด้วย”

  ทันใดนั้นไฟแห่งความตายเริ่มมุ่งตรงไปยังทิศทางที่เขามอง เขาไปอย่างช้าๆ ดั่งว่าจะพยายามไม่ให้คาดาเลียรู้ตัวเอา แต่มันก็ไม่ใช่การย่องเบาแบบโจรลักขโมย ไซอาลอทเดินไปอย่างไม่เร่งรีบเสียมากกว่า ไม่นานนักตัวเขาก็เดินออกจากพุ่มหญ้า ปรากฏตัวต่อหน้าของโครนอสและหญิงสาวคาดาเลีย ทั้งคู่ที่เห็นการปรากฏตัวของความตาย จึงเริ่มเกิดอาการเกรงกลัวต่อมารเพลิงผู้นี้ เพลิงพิโรธแสยะยิ้ม เดินไปหาสิ่งที่เขาเรียกว่าพลังที่ควรจะเป็นของเขา แต่เมื่อไซอาลอทเห็นอย่างชัดเจนว่าสิ่งที่หญิงสาวกำลังกระทำอยู่นั้นเป็นการขัดขวางความต้องการของมารเพลิง อสูรตนนี้จึงรุดตัวเข้าไป หวังจะหยุดยั้งหญิงสาวผมสีน้ำเงิน มิทันไรโครนอสกลับเกิดมีความกล้าขึ้นมา แทรกตัวเข้าไปขัดมารเพลิง ใช้ดาบแห่งเอลทวอร์นแทงเข้าใส่กลางอกของอสูรร้ายที่เป็นแผลเหวอะอยู่ มันทำให้ไซอาลอทร้องอย่างทรมาณ แต่ด้วยการตอบโต้ของร่างกายอย่างอัตโนมัติ จึงทำให้มารเพลิงนั้นออกหมัดเข้ากระแทกใส่กลางท้องของเด็กหนุ่ม มันทำให้เขารู้สึกจุก เจ็บร้อนในท้องราวกับเพลิงที่ไหม้ภายในกายา โครนอสกระอักเลือดออกมา ทรุดตัวคุกเข่าลง ถูกมารเพลิงใช้เท้าของตนเขี่ยใบหน้าจนล้มลงไปนอน

“ขยะน่ารำคาญ” มารเพลิงกล่าวต่อโครนอสผู้นั้น

  มารเพลิงเริ่มย่างกรายต่อไปหาหญิงสาวคาดาเลีย หญิงผมสีน้ำเงินที่รู้ตัวว่ามารร้ายกำลังเข้าใกล้ตัวของเธอเรื่อยๆ เริ่มเร่งกระบวนการโอนถ่ายพลังปราณ หากมีการสะดุดกลางคัน ลูกของเธอจะยิ่งมีความเสี่ยงที่จะสิ้นใจตายได้ ถึงจะแบบนั้นก็ตามทีแต่จะเร่งรัดโดยเกินไปก็ไม่ใช่เป็นกาลอันใด หากทำเช่นนั้นลูกของเธอก็สามารถตายได้เพราะไม่สามารถปรับตัวกับปราณระดับนั้นได้นั่นเอง กล่าวคือมันต้องอาศัยจังหวะในการโอนถ่ายพลังงาน ห้ามเร็วและช้าจนเกินไป สามารถปรับความเร่งรีบได้แต่ห้ามให้มันเป็นการยัดเยียดทารกภายในคราเดียว แถมพิธีกรรมนี้ก็มิอาจจะหยุดลงได้ จึงทำให้ตัวเธอตกเป็นเป้านิ่งโดยสมบูรณ์ มารเพลิงยื่นมือออกไปข้างหนึ่ง แบมือออก ดั่งคิดว่าตนเองจะเปล่งพลังอัคคีสังหารออกไป

“หยุดคิดที่จะกระทำสิ่งที่เจ้ากำลังทำเสียคาคาเลีย...” มารเพลิงกล่าวเตือนหญิงสาวผมสีน้ำเงิน
“มิเช่นนั้นเจ้าจะต้องตาย”

  เธอหาได้ตอบกลับมาเพลิงแต่อย่างใด มันทำให้ไซอาลอทรู้สึกหงุดหงิด ทันใดนั้นลูกบอลเพลิงจึงถูกขับออกจากหัตถ์ข้างนั้น กระแทกเข้าใส่ไหล่ซ้ายของหญิงสาว มันทำให้การถ่ายพลังปราณสะดุดทันใด เธอไม่อาจใช้แขนซ้ายในการถ่ายพลังได้ แต่คาดาเลียยังคงไม่ยอมแพ้ มืออีกข้างของเธอยังคงใช้การได้อยู่ หล่อนทำให้กระบวนการถ่ายปราณกลับมาเสถียรได้แต่ไซอาลอทก็ไม่ชอบใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย

“ต่อไปจะเป็นอีกข้างหนึ่ง...” เพลิงพิโรธกล่าวต่อ
“เจ้าคงจักรู้ดีสินะว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหากข้าทำเช่นนั้น”
“ต่อให้ข้าหยุดไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง... ลูกของข้าจะไม่รอดแน่” เธอตอบ
“คิดหรือว่าตัวข้าจะเสียดายชีวิตตัวเองขนาดนั้นน่ะไซอาลอท”
“เพราะฉะนั้นข้าไม่มีทางหยุดหรอก!”

“ใช่ข้ารู้.. ว่าลูกเจ้าจะตายแน่หากเจ้าหยุดทำ” มารเพลิงตอบกลับไป
“ข้าแค่พูดขึ้นเพื่อให้ความหวังของเจ้ามันมลายหายไปเท่านั้น!”

หัตถ์ข้างนั้นของมารเพลิงก่อเป็นปราณอันแรงกล้า มันดูคล้ายกับจะเป็นกระบวนท่าคลื่นเพลิงซัดภูผาที่เขาเพิ่งใช้กับโคลริมไปเมื่อครู่นี้ หากเป็นเช่นนั้นทั้งตัวของแม่ลูกคู่นี้จะถูกคลื่นพลังปราณซัดจนตายเป็นแน่

“เจ้าตายตอนนี้... ข้าก็ได้พลังแห่งซินโดร่ามาเป็นของข้าอยู่ดี!”
“งั้นก็ลาก่อน คาดาเลีย”

สิ้นวาจานั้นคลื่นปราณสีแดงฉานก็ถูกซัดออกจากมือข้างนั้น ยิงออกด้วยอานุภาพอันแรงกล้า หญิงสาวที่มิอาจจะขยับร่างกายของตนได้หลับตาลง รับผลที่จะเกิดขึ้น

“เกร้งงงงงงงง!” คลื่นพลังนั้นกระแทกใส่อะไรสักอย่างจนเกิดเป็นเสียงดังราวกับว่ามันกระทบใส่กับเหล็กไหล

  หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เป็นอันตรายอันใดเลยและพลังปราณที่ถูกยิงออกมาโดยไซอาลอทก็หายไปแล้ว สิ่งที่หญิงสาวเห็นมีเพียงแค่ชายร่างยักษ์ที่เอาตัวเข้ามาบังการโจมตีนั้น ตัวเขามีแผลไหม้อยู่เต็มตัวไปหมด ไหนจะทั้งแผลที่ได้รับมาจากไซอาลอทเมื่อครู่อีกต่างหาก คาดาเลียตกตะลึงในสิ่งที่เห็น ไม่คิดว่าพ่อของเธอจะเอาตัวเข้ามารับแบบนี้ อันที่จริงจากสภาพแผลแบบนั้น หล่อนแทบจะไม่คิดด้วยซ้ำว่าบิดาของตนจะยังคงมีชีวิตอยู่ได้ ผู้ที่ตกใจยิ่งกว่าหาใช่ตัวของบุตรสาวผู้นี้ แต่เป็นเพลิงแห่งความตายเสียต่างหาก มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน? สิ่งที่ไซอาลอทกระทำต่อโคลริมเมื่อครู่นั้น ต่อให้เป็นสุดยอดนักสู้ขนาดไหนก็ตามแต่ หากไม่มีกระบวนท่าฟื้นฟูตัวเองก็แทบจะไม่มีโอกาสรอดได้เลย อย่าว่าแต่คำว่ารอดเลย แค่จะลุกขึ้นยืนด้วยขาทั้งสองแทบจะเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ ไหนจะถูกตัดเส้นเลือดทำให้การทำงานของปราณไม่เสถียร และหายใจติดขัดแบบนั้น เขากลับยืนต่อหน้าไซอาลอทได้ราวกับว่าตนเองยังสามารถต่อสู้ได้เลยยังไงยังงั้น

“เป็นไปไม่ได้...” ไซอาลอทกล่าวโดยที่ตนไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
“ข้าตัดการเดินกระแสปราณทั่วร่างของแกแล้วนี่หน่า!”
“ถูกต้อง เจ้าอาจจะตัดการเดินเส้นปราณของข้าไปแล้ว” ชายเฒ่าตอบ
“แต่มันไม่ใช่ว่าข้าจะไม่เหลือปราณในการต่อสู้เสียหน่อย”

  ด้วยความโกรธ มารเพลิงจึงใช้อารมณ์เป็นตัวตัดสินในการต่อสู้ เขารีบรุดตัวเข้าไป ง้างหมัดหวังจะพุ่งมันเข้าสู่กลางหัวใจของโคลริมผ่านทางรอยแผลกลางอกนั้น แต่ชายเฒ่ากลับมองการโจมตีนั้นออก เขาใช้แขนของตนตั้งรับแล้วต่อยสวนกลับไปอย่างแรง มารเพลิงเซออกไป เสียสมดุลตัวเองอย่างชัดเจน เมื่อนั้นผู้กล้าร่างใหญ่คนนี้จึงเหวี่ยงขวานของตนไป ตรงเข้าสู่กลางหัวใจของมารเพลิง มันแทงเข้าไปในแผลส่วนนั้น ทำให้ไซอาลอทกรีดร้องอย่างเจ็บปวด เขาทรุดลงไปกับพื้น อยู่ในสภาพคุกเข่าลงโดยที่ขวานเล่มนั้นยังคงปักเข้าไปกลางหัวใจอยู่ แม้นสิ่งที่เกิดขึ้นจะสร้างความเสียเปรียบให้แก่เพลิงพิโรธก็ตามที เขากลับหัวเราะออกมาอย่างกับว่าตนเองกำลังได้เปรียบอย่างสุดๆ ซะงั้น

“หึหึหึ...” มารเพลิงเปล่งเสียงหัวเราะออกมา “เจ้าก็รู้ว่าแค่นี้ไม่อาจสังหารข้าได้อย่างเด็ดขาด”

“ฉึกกกกกก!” ดาบอีกเล่มหนึ่งแทงเข้าไปกลางหลังของมารเพลิง ทิ่มเข้าไปสู่หัวใจเหมือนกับขวานเล่มนั้น ผู้ใช้ดาบแทงนั้นเป็นเด็กหนุ่มโครนอส เขากดดาบนั้นลงจนมิดด้าม ทำให้ไซอาลอทรู้สึกทรมาณเจียนตาย

“ก็ไม่ได้กะจะฆ่าสักหน่อย” เด็กหนุ่มกล่าวขึ้น
“ตอนนี้ล่ะครับท่านโคลริม!” โครนอสตะโกนกล่าว “จัดการปีศาจตนนี้ซะ!”

  โคลริมพยักหน้ารับคำกล่าวของเด็กหนุ่มผู้นั้น เมื่อนั้นโครนอสจึงดึงดาบเล่มนั้นออก ถอยฉากออกไป ไซอาลอทพยายามที่จะทรงตัวลุกขึ้นมาจากผืนดิน แต่เขาก็มิอาจทำได้ ปีศาจร้ายมองไปรอบๆ กายของตนและพบกับว่ามีปราณสายฟ้าจำนวนมากช็อตร่างของตนเอาไว้ มันเป็นพลังปราณที่มาจากดาบแห่งเอลทวอร์นเล่มนั้น สายฟ้าเหล่านั้นทำให้ร่างของมารเพลิงมิอาจจะขยับได้ เขานั่งนิ่ง กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด คำรามเสียงออกมาอย่างบ้าคลั่งราวกับสัตว์ป่าในยามโมโห

“อ๊ากกกกกกก!” ไซอาลอทร้องอย่างเจ็บปวด “สายฟ้าอัมพาตงั้นรึ?!”

  เมื่อนั้นโคลริมจึงผสานมือของตนเข้ากันราวกับว่าตนกำลังคิดจะใช้กระบวนท่าอะไรสักอย่าง ทันใดที่มือทั้งสองข้างประกบเข้าหากัน ขวานเล่มนั้นได้ก่อปราณแห่งปฐพีออกมา เกิดเป็นหินที่เกาะร่างของไซอาลอทเต็มไปหมด แม้นมารร้ายจะดิ้นสู้เพื่อให้หลุดออกจากพันธนาการ แต่ก็มิเป็นผล เขาไม่อาจจะหลุดจากพลังเหล่านั้นได้ ทั้งสายฟ้าและปราณดินได้ทำให้ร่างกายของเขาไม่สามารถขยับได้อีกต่อไป บัดนี้มันได้เกิดเป็นหินผาขนาดใหญ่ที่แทบจะปิดร่างแห่งเพลิงจนแสงไฟมิอาจสาดส่องได้

“โคลริม! นี่มันยังไม่ใช่จุดจบ... กายาของแกมันอยู่ไม่รอดถึงวันพรุ่งนี้หรอก”
“ถือว่าศึกนี้ข้าคือผู้ชนะ..”
“ข้าจะกลับมาโคลริม... ข้าจะกลับมา!”
“ข้าจะทำลายล้างโพรโตเนี่ยนแห่งนี้ทิ้งซะ”
“ข้าจะกลับมา!”
“ข้าจะกลับมา!”
“ข้าจะ....”
“....”

  และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเนลเรี่ยน มารเพลิงถูกผนึก ณ ดินแดนแห่งนั้น ด้วยความที่เอลทวอร์นพ่อของเจ้า ผู้ที่จะรับตำแหน่งองค์ราชาคนต่อไปแห่งสตอร์มโฮล์มสิ้นใจ ตัวของโครนอสได้ถูกเสนอจากโคลริมเองให้กลายเป็นผู้ปกครองดินแดนแห่งนั้น เขากลายเป็นราชาและครอบครองดาบของพ่อเจ้าไว้ ส่วนปู่และตัวแม่ พวกเรามิอาจจะทนพิษบาดแผลที่ไซอาลอทได้กระทำต่อเราไว้ นั่นเพราะปราณที่มารร้ายตนนั้นใช้ มันไม่ได้มีเพียงแค่เพลิงพิโรธเท่านั้นแต่เป็นพลังแห่งบาปของเขาด้วย เจ้าก็รู้ว่าพลังเหล่านั้นมันจะกัดกินร่างของผู้ถูกโจมตี ดูดกลืนพลังปราณจนพาหะสิ้นใจในที่สุด มันเป็นดั่งกาฝากที่เกาะร่างของเราเข้าไปสู่ชั้นเซลล์ ทลายพลังชีวิตทุกอย่าง ทั้งแม่และปู่ของเจ้าต่างสิ้นใจอย่างสงบโดยที่ก่อนพวกเราจะตาย เราได้สั่งเสียอะไรให้แก่คนๆ หนึ่ง หญิงสาวที่เจ้าคุ้นเคยเป็นเวลานานนามชารอน ให้ปกป้องดวงดาวแห่งนี้แทนพวกเราและปกป้องเจ้าแทนข้า และตัวเจ้าเองนั้นสำเร็จการผสานตัวกับพลังปราณแห่งซินโดร่าจนเป็นหนึ่ง ทำให้พลังความเย็นของเจ้าเป็นสีดำทมิฬในยามที่เจ้าใช้มัน

“แต่ข้ายังสงสัย” จู่ๆ เนลเรี่ยนก็ขัดขึ้นมา
“หากท่านแม่สิ้นใจไปแล้ว เพราะเหตุใดท่านจึงปรากฏต่อหน้าข้า”
“แล้วก็ด้วยจุดประสงค์อันใดกัน...”

“ในระหว่างที่แม่ได้ทำการโอนถ่ายพลังซินโดร่า... ส่วนหนึ่งในกายแม่ได้ผสานเข้าไปกับลูก” คาดาเลียกล่าวตอบ
“กล่าวคือส่วนหนึ่งของแม่เองอยู่ภายในตัวเจ้า”
“เพราะงั้นแม่จึงได้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเจ้า และสิ่งที่เจ้าประสงค์”
“และเหตุที่แม่มาปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าในยามคับขันเช่นนี้”

“นั่นเพราะว่าแม่จะฝึกเจ้าให้ใช้พลังแห่งซินโดร่า”
“เพื่อต่อกรกับเพลิงพิโรธไซอาลอท”
ขึ้นไปข้างบน Go down
https://www.facebook.com/BillAlfenolf
 
Cataclysm: The Endless Hellfire XXVIII
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Cataclysm: The Endless Hellfire VII
» Cataclysm: The Endless Hellfire XLI
» Cataclysm: The Endless Hellfire IX
» Cataclysm: The Endless Hellfire XXV
» Cataclysm: The Endless Hellfire X

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: