Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Amnesiac EP 6

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Amnesiac EP 6 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Amnesiac EP 6   Amnesiac EP 6 EmptyFri Jun 02, 2017 11:03 am

ชายผมขาวนั่งอยู่ในห้องแห่งหนึ่ง เรซอร์นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ที่ตั้งอยู่กลางห้อง มันเป็นห้องที่ไม่ใหญ่มากนัก ห้องแห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยตู้หนังสือและอุปกรณ์ปรุงยาหลายๆอย่างที่ถูกวางบนโต๊ะไม้ นอกจากในตู้ไม้ที่เต็มไปด้วยหนังสือแล้ว บนพื้นนั้นก็เต็มไปด้วยหนังสือเช่นเดียวกัน จำนวนหนังสือที่กองบนพื้นนั้นมันมากจนทำให้เรซอร์คิดว่าถ้าหากเขาเป็นหนูตัวเล็กๆและวิ่งอยู่ในห้องนี้ มันก็คงจะไม่ต่างอะไรกับการติดอยู่ในเขาวงกตที่ไร้ซึ่งทางออก บนผนังห้องนั้นมีอะไรบางอย่างติดอยู่ เรซอร์ไม่สามารถอ่านข้อความเหล่านั้นได้ เพราะมันเป็นภาษาเอลฟ์ ห้องนี้มันให้ความรู้สึกเหมือนกับร้านของแม็คกี้ ในขณะที่เรซอร์กำลังใช้สายตาสำรวจห้องนี้ เขาก็ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามา

“โทษที พอดีข้าไปหยิบอะไรนิดหน่อย” เอลฟ์ร่างบางปรากฏตัวขึ้นมา ในมือของเขาเต็มไปด้วยหนังสืออีกสองสามเล่ม
“ไม่เป็นไรขอรับ” เรซอร์เอ่ย

วาริสเดินไปวางหนังสือบนโต๊ะ เขาพลิกเปิดหนังสือเล่มนั้นก่อนจะพลิกไปมา สายตาที่จ้องมองตัวอักษรนั้นเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น เรซอร์ได้แต่นั่งเงียบๆ แสงแดดจากหน้าต่างนั้นส่องเข้ามาในห้องแห่งนี้ ห้องนั้นถูกปกคลุมด้วยความเงียบ มีเพียงแต่เสียงนกร้องจากภายนอกและเสียงของหน้ากระดาษที่ถูกพลิกไปมาดังขึ้นเป็นระยะๆ ซักพักหนึ่งวาริสก็เดินตรงมายังเรซอร์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ เขาหลับตาลง ปากของเอลฟ์ผมสีดำคนนี้ขยับไปมา เขาใช้นิ้วโป้งทั้งสองข้างแปะลงไปยังหน้าผากของเรซอร์ ดวงตาของเขายังปิดอยู่ วาริสลืมตาขึ้นช้าๆก่อนจะเปล่งเสียงออกมา

“ความทรงจำที่หลับใหลอยู่ จงตื่นขึ้นมา”

สิ้นเสียงของวาริส ภาพอะไรหลายอย่างมันก็กลับมาในหัวของเขา เรซอร์เห็นภาพที่ฉายขึ้นจำนวนมาก เสียงต่างๆดังขึ้นพร้อมๆกัน เขาไม่สามารถแยกออกได้เลยว่าเสียงอะไรเป็นเสียงอะไร เรซอร์เริ่มรู้สึกวิงเวียนกับข้อมูลที่เขาได้รับ มือของชายผมขาวจับไว้กับเก้าอี้เพื่อไม่ให้ร่างของล่วงหล่นกระแทกกับพื้น ซักพักเสียงที่อยู่ในหัวของเขาหายไป ภาพเหล่านั้นก็หายไปเช่นเดียวกัน เขาจำไม่ได้แล้วว่าภาพเหล่านั้นคือภาพอะไรและเสียงเหล่านั้นเป็นเสียงอะไร อาจจะเพราะเขาได้ยินและเห็นพวกมันจำนวนมากจนเกินไป

“เป็นยังไงบ้าง?” เอลฟ์เอ่ยปากถาม
“ข้าได้ยินและเห็นอะไรหลายอย่างมากมาย แต่ตอนนี้ข้าจำไม่ได้แล้วว่ามันเป็นอะไรบ้าง” เรซอร์ตอบคำถามของเอลฟ์

เอลฟ์ฟังแล้วก็เอามือวางไว้บนคางของตัวเอง ใบหน้าของเขาครุ่นคิดกับสิ่งที่เรซอร์พูด

“แปลกแฮะ ถ้าหากเจ้าสูญเสียความทรงจำ เพราะสมองกระทบกระเทือน คาถาเมื่อกี้น่าจะนำความทรงจำเจ้ากลับมาได้”
“งั้นแปลว่าเจ้าอาจจะสูญเสียความทรงจำด้วยวิธีอื่น” วาริสสันนิษฐานออกมา

เรซอร์ฟังแล้วก็เอียงคอด้วยความสงสัย วาริสลดมือของตัวเองก่อนจะตั้งคำถามต่อ

“จะว่าไป เจ้าได้ยินเรื่องที่เจ้าสามารถอัญเชิญอสูรได้แล้วใช่ไหม?”
“ขอรับ ข้าได้ยินจากท่านมาร์ตี้มาแล้ว” เรซอร์พยักหน้าและตอบคำถามของวาริส
“แล้วเจ้าจำอะไรได้ไหม?” วาริสถามพลางเดินไปหาสมุดของเขาทีเปิดอยู่บนโต๊ะ
“ไม่ได้เลย” ชายผมขาวส่ายหน้า

“ตอนนี้ข้าก็ไม่รู้จะทำยังไงล่ะนะ ข้าจะลองศึกษาดูดีๆก่อน”
“ขอบใจเจ้ามาก ถ้าข้าได้อะไรเพิ่มเติม ข้าจะเรียกเจ้าเอง” วาริสพูดกับเรซอร์

ชายผมขาวลุกขึ้นก่อนจะโค้งและเดินออกไปจากห้อง เขาใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าที่เขาจะออกมาจากราชวังได้ เมื่อเรซอร์ออกจากราชวัง ร่างกายของเขาก็ถูกอาบด้วยแสงตะวัน นี่น่าจะเป็นวันแรกในรอบสัปดาห์ที่เขาได้ยืนท่ามกลางแสงตะวันเช่นนี้ สภาพอาณาจักรกราเดลตอนนี้เต็มไปด้วยเหล่าแรงงานที่ต่างช่วยกันซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการทำสงคราม กำแพงเมืองที่ถูกทำลายตอนนั้น เหล่าชาวบ้านก็ต่างช่วยกันซ่อมแซมอย่างขยันขันแข็งจนตอนนี้กำแพงที่ถูกทลายลงนั้นใกล้จะกลับมาเป็นกำแพงที่สมบูรณ์ดั่งเดิมแล้ว

“ยอดไปเลยนะ” เรซอร์พูดเบาๆในขณะที่เขายืนดูอยู่ห่างๆ

เรซอร์ยังคงเดินต่อไป เขามุ่งหน้ากลับไปยังบ้านของเขาหรือคลินิกของมาร์ตี้ เรซอร์เดินไปถึงลานกว้างของเมือง เขายังคงเห็นรูปปั้นขององค์ราชินีคาสซานดร้าตั้งไว้อยู่เหมือนเคย แต่รายล้อมรูปปั้นนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้สีขาวที่ถูกวางไว้บนพื้น ใกล้ๆกับกองดอกไม้มีแผ่นป้ายไม้ตั้งอยู่ ซึ่งบนแผ่นป้ายนั้นมีกระดาษติดอยู่ มันมีข้อความว่า “แด่ผู้พิทักษ์และผู้เสียสละ” ถูกเขียนไว้ ผู้คนเดินมาวางดอกไม้อยู่เรื่อยๆ เพื่ออุทิศให้กับเหล่าทหารที่เสียสละให้กับอาณาจักรกราเดล ในขณะที่ดวงตาของเรซอร์จับจ้องอยู่กับแผ่นป้ายนั้น เขาก็รู้สึกได้ว่ามีใครเดินมาชนเขา

“ขอโทษค่ะ” เสียงใสพูดๆกับเขา

เรซอร์หันไปมองก่อนจะเห็นหญิงผมดำสั้นเพียงประบ่า เธอมีหูของแมวอยู่บนศีรษะของเธอ นอกจากนี้เธอยังมัดจุกไว้บนเส้นผมของตัวเองและมัดด้วยโบว์สีม่วง ใบหน้าของเธอนั้นดูจิ้มลิ้ม ชุดของเธอนั้นเป็นชุดกี่เพ้าสีม่วง และกระโปรงที่สั้นทำให้เห็นหางสีดำของเธอตวัดไปตวัดมา เรซอร์ไม่ได้พูดอะไรกับการที่หญิงปริศนาคนนี้เดินชนเขา เธอก้มโค้งให้กับเรซอร์ก่อนจะเดินจากไป ชายผมขาวหันกลับไปมองอนุสรณ์ของเหล่าผู้กล้าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะก้าวเท้าเดินออกเดินอีกครั้ง

ชายผมขาวเดินมาถึงตลาดที่ผู้คนยังหนาแน่นเหมือนทุกๆครั้ง ตราบใดที่พระอาทิตย์ยังส่องแสงและให้ความอบอุ่นจากฟากฟ้า สถานที่แห่งนี้ก็จะเป็นสถานที่ผู้คนคับคลั่งที่สุดในอาณาจักรกราเดล ชายผมขาวเดินเบียดกับผู้คนจำนวนมาก แต่ในขณะที่เขาเดินเบียด เขาก็เห็นร้านค้าผลไม้ที่มีผลไม้หลากหลายชนิดขายอยู่ เมื่อเห็นผลไม้มากขนาดนี้แล้ว มันก็กระตุ้นต่อมความอยากอาหารของเขา เรซอร์เดินเข้าไปใกล้ๆแผงผลไม้ก่อนจะหยิบแอปเปิ้ลลูกสีแดงเข้ามาก่อนจะกัดเนื้อของมัน รสชาติของมันนั้นเอร็ดอร่อย เนื้อของมันนั้นแน่นและอุดมไปด้วยน้ำที่มาจากตัวของแอปเปิ้ล มือของเรซอร์ล้วงไปยังกระเป๋ากางเกงเพื่อจะหยิบเงินและส่งไปให้เจ้าของแผงผลไม้

“เอ๊ะ?” เรซอร์อุทานด้วยน้ำเสียงตกใจ

เขาไม่เจออะไรในกระเป๋ากางเกงเลย เรซอร์ใช้ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงอีกข้าง ไม่ต่างกัน เขาหาไม่เจอ เรซอร์รีบกวาดสายตาลงพื้น เขาหวังจะเห็นถุงเงินของเขาตกอยู่บนพื้น แต่เขาไม่เจอถุงเงินของเขาเลย พ่อค้าที่อยู่หลังแผงมองหน้าของเขาด้วยสายตาที่ไม่ไว้วางใจ

“ข้าหาถุงเงินของข้าไม่เจอ” เรซอร์บอกปัญหาของตัวเอง
“ข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก เจ้าจะชักดาบข้าใช่ไหมล่ะ?” พ่อค้าพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว
“เปล่านะ ข้าหาถุงเงินของข้าไม่เจอจริงๆ” ชายผมขาวพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน

“ขาดอยู่เท่าไหร่” เสียงปริศนาดังขึ้นมา
“20 เหรียญทองแดง” พ่อค้าเอ่ย

เรซอร์หันไปตามเสียงก่อนจะเห็นชายผิวแทนยืนอยู่ เรซอร์รู้จักชายคนนี้เพราะเสื้อสีสดและสภาพเสื้อที่ดูซอมซ่ออันเป็นเอกลักษณ์ของเขา แม้เรซอร์จะไม่รู้จักชื่อของชายคนนี้ แต่ชายคนนี้มีนามว่า “เวตาล่า ดูลาฮาน” ชายผิวแทนคนนี้หยิบเงินยี่สิบเหรียญทองแดงและยื่นมาให้กับพ่อค้าคนนั้น เมื่อพ่อค้ารับเงินแล้ว ชายผิวแทนคนนี้ก็เดินจากไป เรซอร์วิ่งตามชายผิวแทนคนนี้

“ขอบคุณท่านมาก ท่านช่วยข้าไว้อีกแล้ว” ชายหนุ่มที่สูญเสียความทรงจำกล่าว

ชายผิวแทนคนนี้ไม่ตอบ เขายังคงก้าวเท้าไปข้างหน้า โดยไม่มีทีท่าจะหยุดลงเลย

“ให้ข้าได้ตอบแทนท่านเถิด ท่านช่วยข้ามาสองครั้งแล้ว”
“เจ้าอยากจะตอบแทนข้างั้นหรือ? งั้นก็เลิกอ่อนแอซะ” เวตาล่าต่อว่า

เวตาล่าเดินต่อไปข้างหน้า แต่นั้นไม่ได้ทำให้เรซอร์หยุดเดินตาม เวตาล่าหยุดก่อนจะหันกลับมามองเรซอร์ เมื่อเวตาล่าหยุดนั่นก็ทำให้เรซอร์หยุดเช่นเดียวกัน

“เจ้าเลิกตามข้าได้แล้ว” เวตาล่าพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“เอ่อ ข้าไม่ได้ตามท่าน ทางไปบ้านของข้ามันเป็นทางนี้” เรซอร์ตอบกลับ

เวตาล่าได้ยินคำตอบแล้ว เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ชายในชุดสีชมพูหันกลับก่อนจะเดิน เมื่อเวตาล่าออกเดินเรซอร์ก็เริ่มเดิมเช่นเดียวกัน เสียงฝีเท้าของทั้งสองนั้นดังไปพร้อมๆกับเสียงฝีเท้าของคนอื่นๆ เวตาล่าเดินนำเรซอร์ แม้มันจะไม่ใช่ระยะห่างที่ไกลมาก แต่หากเอื้อมมือไปมือของเรซอร์จะไม่สามารถสัมผัสแผ่นหลังของชายในชุดสีสว่างได้ เมฆนั้นเริ่มเคลื่อนตัวมาบดบังดวงอาทิตย์ แม้เวลาจะผ่านไปขนาดนั้นเสียงตะโกนของเหล่าพ่อค้าและแม่ค้าเพื่อกระตุ้นผู้จับจ่ายให้มาซื้อสินค้าของตัวเองยังดังตลอด เสียงของผู้ค้าดังตีกันไปจนหมด หลายครั้งเรซอร์ก็ฟังไม่ออกว่าคนเหล่านั้นพูดว่าอะไร

แต่ในขณะที่ชายทั้งสองกำลังเดินนั้น เวตาล่าก็หยุดอีกครั้ง เรซอร์ก็หยุดเช่นเดียวกัน ชายผิวแทนไม่ได้เห็น เมื่อรู้ตัวอีกทีชายฉกรรจ์ราวๆสิบคนนั้นก็ล้อมทั้งสองไว้ เรซอร์มองหน้าแล้วเขาก็นึกหน้าชายในกลุ่มนั้นออก เขาเป็นชายที่เคยถูกเวตาล่าไล่เมื่อหลายวันก่อน สีหน้าของชายเหล่านั้นดูโมโห ดูโกรธเกรี้ยว ผู้คนเหล่านั้นเริ่มต่างถอยห่างออกจากเหล่าชายผู้บึกบึนพวกนั้น

“เจ้าจำได้ไหมว่าเจ้าทำอะไรกับข้า” ชายฉกรรจ์คนหนึ่งในกลุ่มเอ่ยปากถาม
“โทษทีนะ ข้าจำไม่ได้” เวตาล่าตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

คำพูดประโยคนี้ทำให้ชายฉกรรจ์คนหนึ่งฉุน เขาพุ่งตรงมายังเวตาล่า พร้อมกับง้างหมัดจะต่อย แต่เวตาล่าโยกหลบไปทางซ้าย หมัดที่สัมผัสอากาศนั้นทำให้ผู้ชกเสียสมดุลก่อนจะกระแทกอัดเข้ากับแผงขายของที่อยู่ไม่ไกลนัก ชายที่เหลืออีกเก้าคนต่างตรงเข้ามาหาเวตาล่า พวกเขาพยายามจะออกหมัดเพื่อทำร้ายชายผิวแทน แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร หมัดนั้นไม่สามารถสัมผัสผิวหนังของเวตาล่าได้เลยแม้แต่น้อย ในขณะที่เรซอร์ยืนอยู่นั้นเขาก็ถูกชายคนหนึ่งรวบตัวขึ้น เรซอร์ถูกชายคนนั้นล็อคตัวไว้ เรซอร์พยายามดิ้น แต่ความพยายามนั้นไม่เป็นผล

“เฮ้!! ข้าว่าเราเล่นไอ้หนูนี่ก่อนดีกว่าว่ะ” ชายที่ถูกล็อคตัวของเรซอร์พูดขึ้นกับสหายของเขา

เวตาล่าหันมาหาชายที่ล็อคตัวของชายผมขาวไว้ เวตาล่าจับฝักดาบของเขา แววตาของเขานั้นดูลังเล ในขณะที่เขาลังเล เวตาล่าก็ถูกชายคนหนึ่งทุบเข้าที่หลัง ชายผิวแทนล้มลง ก่อนที่เหล่าชายฉกรรจ์จะรุมเตะหน้าท้องของเวตาล่าที่นอนอยู่บนพื้น ชายที่ล็อคตัวของเรซอร์ปล่อยตัวของหนุ่มผมขาวออกก่อนจะไปร่วมวงรุมทำร้ายเวตาล่าที่นอนอยู่บนพื้น

“หยุด..” เรซอร์พูดเบาๆ
“ขอร้องล่ะ หยุดเถอะ”
“หยุดได้แล้ว!!” เรซอร์ตะโกนสุดเสียงของเขา

เขารู้สึกถึงได้ถึงอะไรบางอย่างในตัวเขา เรซอร์รู้สึกถึงบางอย่างที่หมุนเวียนในร่างกาย ร่างกายของเขาสั่น มือของชายผมขาวนั้นยื่นไปข้างหน้า

=====

ภายในห้องทรงแปดเหลี่ยมของราชวัง ในห้องนั้นมีหญิงผมขาวที่พึ่งกลับมาจากการผจญภัย องค์ราชินี และพี่ชายของนาง หญิงผมขาวมองแผนที่ ในมือของโซรันมีแผนที่อีกฉบับ มันเป็นแผนที่ใบเล็กกว่าและในแผนที่ใบนั้นก็เต็มไปด้วยรอยขีดเขียนจำนวนมาก เธอมองแผนที่อันที่อยู่บนโต๊ะและอันที่เธอถืออยู่สลับกันไปมา โซรันใช้นิ้วอันเรียวบางของเธอและชี้ไปยังแผนที่

“ตรงนี้แหละ” โซรันพูดกับบิลลี่และคาสซานดร้า
“ถ้าหากเราสามารถเก็บทรัพยากรตรงนี้ได้ อาณาจักรเราคงจะแข็งแกร่งขึ้นเยอะ” หญิงผมขาวพูดต่อ

บิลลี่และคาสซานดร้ามองหน้ากัน ในขณะเดียวกันประตูก็ถูกเปิดออก เสียงเปิดประตูนั้นทำให้ทุกคนในห้องหันไปตามเสียง ทั้งสามเห็นหญิงผมแดงที่เหงื่อท่วมร่างของเธอ

“ท่านบิลลี่ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว” แฟลมม่าพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า
“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือแฟลมม่า?” บิลลี่เดินตรงไปหาหญิงผมแดงพร้อมตั้งคำถาม
“เกิดการทะเลาะวิวาทขึ้นพะยะค่ะ” หญิงผมแดงรายงานต่อ
“แล้วมันเรื่องใหญ่ยังไงหรือ?” ชายในชุดเกราะถามด้วยสีหน้าฉงน
“กระหม่อมว่าท่านไปดูด้วยสายตาตัวเองน่าจะเข้าใจง่ายกว่า” แฟลมม่าตอบ

บิลลี่หันกลับไปหาคาสซานดร้าและโซรัน

“ถ้างั้นกระหม่อมขอตัวก่อน เดี๋ยวกระหม่อมกลับมา” บิลลี่พูดกับหญิงทั้งสอง

บิลลี่และแฟลมม่าก้าวออกจากห้อง ชายผมสีทรายเดินไปยังโรงเลี้ยงม้าก่อนจะขึ้นขี่บนหลังของม้าตัวเอง เช่นเดียวกันกับแฟลมม่าและทหารยาวราวๆแปดคนได้ ทั้งหมดควบม้าไปยังที่เกิดเหตุ และเมื่อคนจากราชวังมาถึงยังที่เกิดเหตุ สายตาของทุกคนก็เบิกโพลนขึ้นด้วยความตกใจ พวกเขาเห็นเลือดจำนวนมากไหลนองไปทั่วพื้น พร้อมทั้งร่างไร้วิญญาณจำนวนมากที่นอนอยู่บนพื้น หน้าท้องและคอของคนพวกนั้นเหมือนถูกเขี้ยวของอะไรบางอย่างฝังลงไป รอบกองๆเลือดนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ มันคือชายผมขาว ชุดของเขานั้นเปื้อนไปด้วยเลือด ถัดออกไปนิดหน่อยมีชายผิวแทนที่นั่งกุมท้องด้วยสีหน้าเจ็บปวด ชายผิวแทนคนนั้นไม่มีบาดแผลอะไร

“เรซอร์?” บิลลี่เรียกด้วยความสงสัย

ชายที่ถูกเรียกเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยเลือดเช่นเดียวกัน ดวงตาของเขาดูว่างเปล่า ไม่มีชีวิตชีวา

“ตามแพทย์มาซิ!!” ชายผมสีทรายตะโกนสั่ง

คำสั่งนั้นทำให้ทหารกลุ่มหนึ่งควบม้าแยกออกไป บิลลี่รีบวิ่งเข้ามาดูอาการของเรซอร์ แต่หากทว่าเขาดูๆดีแล้วเขาก็ค้นพบอย่างหนึ่ง

“นี่ไม่ใช่เลือดของเจ้านี่” บิลลี่พูดด้วยน้ำเสียงตกใจ
“อย่าบอกนะว่าทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของเจ้า?”
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Amnesiac EP 6
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Amnesiac EP 7
» Amnesiac EP 8
» Amnesiac EP 9
» Amnesiac EP 10
» Amnesiac EP 11

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: