Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Amnesiac EP 12

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Amnesiac EP 12 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Amnesiac EP 12   Amnesiac EP 12 EmptyThu Jun 29, 2017 8:03 pm

“ตึง” เสียงของอะไรบางอย่างกระแทกกับประตูไม้ดังขึ้น

ชายวัยกลางคน ร่างกายผอมบางนั่งอยู่บนบัลลังค์ด้วยสีหน้าหวาดกลัว ทหารที่อยู่ข้างๆเขากุมดาบแน่นด้วยสีหน้าหวาดกลัวเช่นเดียวกัน เสียงกระแทกประตูยังดังขึ้นเรื่อยๆและทุกครั้งมันก็ดังขึ้น ประตูไม้ที่ถูกทำลายลง เมื่อประตูไม้ทุกทำลาย ชายสวมหน้ากากหินอ่อนร่างยักษ์ก็เดินเข้ามาในห้อง ชุดเกราะของเขาเปื้อนไปด้วยเลือด เช่นเดียวกันกับดาบของเขาที่ถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉาด ข้างกายเขามีหญิงผมดำสองคนยืนขนาบอยู่คนละข้าง คนหนึ่งเป็นหญิงในชุดเดรสสีแดงและอีกคนสวมกางเกงขาสั้นและชุดสีดำ

“ข้ายอมแล้ว เจ้าจะเอาอะไรก็ไปเลย ไว้ชีวิตข้าก็พอ” ชายวัยกลางคนก้มกราบลงพื้นเพื่อขอชีวิตชายในผู้สวมหน้ากาก

ชายสวมหน้ากากมองไปยังร่างของชายวัยกลางคนที่กราบเขา เจ้าเมืองคิโดร่าไม่มีความลังเลอะไร ก่อนจะใช้ดาบในมือเขาเสียบไปยังหลังของชายที่ก้มกราบเขา ชายที่ถูกคมดาบเสียบเข้าไปไม่ได้ร้องอะไรเลย เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาโดนอะไร ทหารองค์รักษ์เห็นดังนั้นก็ร้องด้วยความโกรธเกรี้ยวและตรงมายัง ผู้ที่ฆ่าเจ้านายของตน แต่ชายสองคนนั้นก้าวออกได้ไม่กี่ก้าว เสียงปืนก็ดังขึ้น กระสุนนั้นเจาะไปยังหัวใจของทั้งสอง และทั้งสองก็ล้มลงไปกับพื้น ควันนั้นลอยออกมาจากปากกระบอกปืนทั้งของเจโน่และอีฟ เคนเดินข้ามร่างไร้วิญญาณทั้งหลายก่อนจะเดินตรงไปนั่งบนบัลลังค์

ธงสีเขียวที่มีรูปวิหคถูกลดลงจากยอดเสา ก่อนมันจะถูกแทนที่ด้วยธงสีแดงที่มีตราราชสีห์ ธงนั้นถูกชักขึ้นบนยอดช้าๆ ธงสีแดงนั้นพริ้วไหวไปตามจังหวะของสายลม เหล่าทหารของคิโดร่าต่างโห่ร้องด้วยความยินดีและร้องเพลงสรรเสริญเคนผู้ซึ่งเป็นผู้นำของตัวเอง ชายร่างยักษ์ยืนมองภาพเหล่านั้นอยู่บนระเบียงของราชวังที่เขาพึ่งยึดมาได้ ข้างๆเขานั้นยังคงมีเจโน่และอีฟยืนอยู่ ในขณะที่ทั้งสามยืนอยู่ เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากข้างหลังทั้งสาม ทุกคนหันกลับไปและเห็นชายร่างสมส่วน เขาสวมเสื้อสีเขียวเข้ม พร้อมกับหมวกสีเดียวกัน ผมของเขาเป็นสีขาวและผมยาวออกมาจากหมวกของเขา ร่างกายของเขานั้นถูกคลุมด้วยผ้าคลุมสีเข้ม ผิวของเขาขาวซีดเซียว ราวกับเขาไม่มีชีวิต

“เจ้าเองหรือ ฮาร์ก้อน?” เคนขานชื่อของชายผู้นี้
“ขอรับกระหม่อมเอง” เขาตอบรับในขณะที่ก้าวเท้ามาข้างหน้า
“ดูเหมือนพระองค์จะสามารถคว้าชัยชนะมาได้อีกแล้วนะขอรับ” ชายผมขาวเอ่ยปากชม

“พวกนี้ไม่เท่าไหร่หรอก และบวกกับแผนของเจ้าแล้ว ชัยชนะครั้งนี้มันไม่ยากเย็นเลย” เคนตอบกลับ
“พระองค์ ต่อไปเราจะไปที่ไหนหรือ?” อีฟถามเคนที่ยืนอยู่ข้างๆตน

“พรุ่งนี้เราจะกลับไปยังเมืองหลวงของเรา เว้นแต่เจ้าฮาร์ก้อน”
“ข้าฝากเจ้าดูแลเมืองนี้” เคนตอบพร้อมกับออกคำสั่ง
“กระหม่อมจะทำสุดความสามารถ” ฮาร์ก้อนเอามือทาบอกของตัวเองพร้อมกับก้มโค้งให้กับเคน

เคนพูดจบก็หันหลังและเดินจากไป เมื่อเงาของเคนหายไปนั้น ก็เหมือนกับเป็นสัญญาณให้ทุกคนแยกย้าย อีฟและเจโน่เดินออกจากราชวัง ตลอดทางทั้งคู่เห็นร่างไร้วิญญาณจำนวนมากที่ถูกแบกออกไปจากราชวัง ไม่ว่าพวกเขาจะสวมชุดเกราะสีเขียวหรือสวมชุดเกราะของทหารแห่งอาณาจักรคิโดร่า หากพวกเขาตาย มันก็ไม่มีอะไรต่างกัน ร่างพวกนี้ถูกนำมารวมกันไว้ในหลุม นักบวชยืนสวดมนต์อยู่ที่ขอบหลุม เขากำลังสวดส่งวิญญาณพวกนั้นให้ไปสู่สุขคติ เมื่อบทสวดจบลง ทหารก็โยนคบเพลิงลงไปในหลุมและเผาร่างไร้วิญญาณพวกนั้น

“มันเป็นภาพที่ชวนหดหู่ ว่าไหม?” อีฟพูดขึ้นมา
“อืม” เจโน่ตอบสั้นๆ

สิ้นเสียงของเจโน่ทั้งคู่ก็เดินออกจากกำแพงราชวัง บรรยากาศในเมืองนั้นไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่นัก เสียงร่ำไห้ของคนรักที่โอดครวญถึงการจากไปของคนอันเป็นที่รัก ดังไปทั่วทุกมุมเมือง เสียงฝีเท้าของหญิงทั้งสองถูกกลบด้วยเสียงร้องไห้ของประชาชนในเมือง

“ข้าไม่อยากจะออกไปสู้แล้ว” เจโน่พูดขึ้นมา

ประโยคนี้ทำให้อีฟหยุดลง เธอหันกลับไปหาเจโน่ที่ยืนอยู่ข้างหลังตัวเอง รอบๆทั้งสองนั้นไม่มีคนอยู่เลย มีเพียงเด็กหญิงทั้งสองที่ยืนอยู่ในทางเดินที่ไม่กว้างนัก แต่มันก็กว้างพอที่จะเดินได้โดยไม่ต้องเบียดเสียดอะไร

“เจ้าว่าไงนะ?” อีฟถามซ้ำ
“ข้าไม่อยากออกไปฆ่าใครแล้ว” หญิงผมดำที่มีบาดแผลบนหน้าท้องตอบ

ประโยคนี้ทำให้อีฟปรี่เข้ามาหาเจโน่ก่อนจะใช้มือทั้งสองจับหัวไหล่ของเจโน่ แววตาของอีฟนั้นเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

“เจ้าพูดอะไรของเจ้า ท่านเคนรับพวกเรามา หาที่นอนให้เราและหาข้าวให้พวกเรา และนี่คือสิ่งที่เจ้าจะทำงั้นหรือ?” น้ำเสียงของอีฟนั้นเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด
“ข้ารู้ ท่านเคนมอบอะไรหลายๆอย่างให้เรามีวันนี้ แต่ข้าอยากจะใช้ชีวิตเหมือนดั่งเช่นมนุษย์อื่นๆ” เจโน่เริ่มเถียงกับอีฟ
“ข้าไม่อยากฆ่าใคร ข้าไม่อยากเห็นภาพที่ผู้คนร่ำไห้ให้กับคนรักของตัวเองที่จากไป”

“ความตายมันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว เจ้าก็ต้องตาย ข้าก็ต้องตาย ทุกคนก็ต้องตาย เจ้าหนีมันไม่พ้นหรอก”
“เราเป็นอาวุธยังไงล่ะเจโน่ เราเป็นอาวุธที่จะทำให้ท่านเคนสามารถทำความฝันเขาได้ เราต้องตอบแทนท่านเคน” หญิงในเดรสสีแดงเถียงกลับ
“ยังไงเสีย เจ้าก็มีชีวิตเหมือนคนธรรมดาไม่ได้หรอก ลืมไปซะ”

อีฟพูดจบและหันกลับไป

=====

เจโน่นอนอยู่ในเตียงของเธอ ห้องของเธอนั้นมืดมิดไม่มีแสงไฟอยู่เลย ดวงตาของเธอเปิดอยู่ แม้ดวงตาเธอจะเปิดอยู่แต่เพราะความมืดที่ไร้ดวงตะวันและไร้แสงไฟจึงทำให้เธอมองอะไรไม่เห็นอะไรเลย เธอยังคงนึกถึงคำพูดของเธอที่พูดกับสหายคนสนิทของเธอ ใบหน้าอันโกรธเกรี้ยวของอีฟยังคงตราตรึงอยู่ในดวงตาของเธอ เจโน่ลุกขึ้นมานั่งบนเตียง หญิงร่างบางเดินออกไปยืนบนระเบียงห้องของตัวเอง เธอเห็นราชวังที่มีแสงไฟสว่างอยู่ ดูเหมือนในพระราชวังนั้นกำลังเฉลิมฉลองกับชัยชนะในครั้งนี้ สถานที่ที่เธอนอนมันเป็นโรงแรมที่อยู่ห่างออกจากพระราชวังหลายไมล์ เธอไม่ชอบนอนพระราชวังเท่าไหร่นัก เพราะมันจะเต็มไปด้วยเสียงดนตรี เสียงหัวเราะ ซึ่งมันจะคอยขัดขวางไม่ให้เจโน่เข้าสู่โลกนิทรา

สายลมเย็นๆแตะร่างของเธอ เจโน่วางศอกของตัวเองลงบนระเบียง เธอโน้มตัวเล็กน้อย และมองออกไปด้วยสีหน้าครุ่นคิด เธอตั้งคำถามกับตัวเองมากมาย “มันจะเป็นไปได้รึเปล่าที่เราจะสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปได้?”คำถามนี้ดั้งอยู่ในหัวของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธออยากได้คำตอบ แต่คำตอบนี้คงไม่ปรากฏมาเพียงชั่ววินาที หรือบางทีต่อให้เป็นวัน เธอเองก็ยังคงไม่สามารถแก้โจทย์ข้อนี้ได้ ในขณะที่เจโน่ยืนอยู่นั้น เธอก็ได้ยินเสียงเปิดประตูจากระเบียงข้างๆ เธอหันไปตามเสียงและเห็นชายผมดำก้าวเท้าออกมาจากห้อง เขาเป็นชายร่างกายดูดบอบบาง ในมือของเขาถือแก้ว เพราะมันเป็นแก้วใสจึงมองออกว่าภายในนั้นเป็นแอลกอฮอลล์ ชายผมดำหันไปด้านข้าง มันทำให้ดวงตาของเขาผสานกับดวงตาของเจโน่ที่จ้องเขาอยู่เหมือนกัน

“เจ้าไม่นอนหรือ?” ชายผมดำที่มีแก้วเหล้าอยู่ในมือเอ่ยปากถาม

เจโน่ไม่ได้ตอบอะไร ชายผมดำคนนี้เห็นท่าทีหญิงคนนี้ไม่อยากตอบคำถามของเขา มันก็ทำให้ชายปริศนาผู้นี้ไม่ได้ถามต่อ เขายกแก้วของเขาและจิบเครื่องดื่มในแก้ว เขาลดแก้วลงและวางมืออีกข้างลงไปบนระเบียง

“ข้าดีใจจริงๆที่สงครามนี้จบลง เพราะนี่จะเป็นศึกสุดท้ายของข้า” ชายคนนี้พูดขึ้น
“ข้าจะได้แต่งงาน สร้างครอบครัว และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข พอกันทีกับชีวิตที่ต้องฆ่าฟันชาวบ้านไปเรื่อยๆ” เขาพูดพร้อมกับยกแก้วในมือ

“มันเป็นไปได้ด้วยหรือ?” หญิงผมดำพูดเบาๆขึ้นมา
“หืม? เจ้าว่าไงนะ?” เพราะเสียงที่เบาจึงทำให้ชายคนนี้ต้องทวนสิ่งเจโน่พูด
“มันเป็นไปได้ด้วยหรือว่าทหารอย่างพวกเราจะสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปได้?” เจโน่ระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจของตัวเองออกมา

ชายผมดำได้ยินคำถามแล้ว เขาไม่ได้ตอบทันที เขาหันออกไปมองยังราชวังที่มีธงของอาณาจักรคิโดร่าโบกพริ้วไหวไปกับสายลมยามวิกาล เขายกแก้วของเขาช้าๆและจิบเครื่องดื่มในแก้ว เขาลดมือลงพร้อมกับพูดขึ้นมา

“เอาจริงๆ ข้าเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นไปได้ไหม ชีวิตของข้านั้นมีแต่การฆ่าฟัน”
“ตั้งแต่ข้าจำความได้ ความตายก็เป็นเหมือนเพื่อนข้ามาตลอด” ชายคนนี้เล่าในขณะที่เขามองออกไปนอกระเบียง
“เจ้าชื่ออะไร?” ชายผมดำคนนี้หันกลับมาถามเจโน่

“เจโน่” หญิงที่ถูกถามตอบสั้นๆ
“เจโน่ ข้าว่าเพื่อความสุขแล้ว บางทีข้าว่ามันก็น่าลองนะ” ชายผมดำตอบด้วยรอยยิ้ม

=====

ดวงตาของเจโน่เปิดขึ้นมาช้าๆ แสงจากดวงอาทิตย์นั้นแยงดวงตาของเธอ เจโน่ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงของเธอ เธอมองไปรอบๆเธอรู้สึกไม่คุ้นกับที่นี่ เตียงของเธอนั้นเป็นเตียงที่ดูมีราคาและรอบๆห้องก็เต็มไปด้วยเครื่องเรือนมากมาย ดวงตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความงุนงง เธอพยายามไล่เรียงเหตุการณ์ในหัวของตัวเอง และเธอก็จำได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอจำเสียงระเบิดและเสียงดนตรีที่ถูกบรรเลงในตอนนั้นได้ นั่นยิ่งทำให้เจโน่สงสัยว่าเธอมาทำอะไรที่นี่ เจโน่ลุกขึ้นมาจากเตียงของตัวเองและเดินออกจากห้องนอน เมื่อออกไปดวงตาของเจโน่ก็เห็นทางเดินยาวที่ถูกปูด้วยสีแดง แต่หน้าตาของสถานที่แห่งนี้ไม่เหมือนกับราชวัง ในขณะที่เธอมองซ้ายมองขวา เธอก็เห็นแม่บ้านเดินผ่านเธอ

“เจ้า” เจโน่เรียกแม่บ้านคนนั้น

แม่บ้านคนนั้นหยุดและหันมาหาเจโน่ที่เรียกตนเอง

“ข้าอยู่ที่ไหน” เจโน่เอ่ยปากถาม
“ที่นี่น่ะหรือ? ที่นี่คือคฤหาสน์ของท่านบิลลี่น่ะ” แม่บ้านคนนี้ตอบ

สิ้นเสียงของแม่บ้าน เธอก็เดินต่อไป เจโน่ยืนนิ่งๆอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานนักเธอก็เริ่มเคลื่อนตัวอีกครั้ง เธอเดินไปเรื่อยๆ ก่อนที่เธอจะหยุดตรงประตูกระจกขนาดใหญ่ เจโน่มองผ่านกระจกก่อนจะเห็นเรซอร์ยืนอ่านหนังสืออยู่ หลังของเรซอร์นั้นพิงกับระเบียง เจโน่เดินเปิดประตูกระจก เสียงเปิดประตูนั้นทำให้เรซอร์หันไปตามเสียง เรซอร์เห็นเจโน่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเอง มันก็ทำให้เรซอร์ยิ้มออกมา

“เจ้าพื้นแล้วหรือ?” เรซอร์ถามด้วยรอยยิ้ม
“อืม...เกิดอะไรขึ้น? ทำไมข้ามาอยู่ที่นี่” เจโน่ตอบพร้อมกับตั้งคำถามกับเรซอร์บ้าง
“เจ้าจำได้ถึงไหนล่ะ?”
“ข้าได้ยินเสียงระเบิด และหลังจากนั้นข้าก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย” หญิงผมดำตอบ

“ข้าแบกเจ้าขึ้นมา” เรซอร์ตอบเจโน่
“ห๊ะ?” เจโน่อุทานออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจ
“ข้าแบกเจ้ากับองค์ราชินีออกมา หลังจากนั้นข้าก็เดินไปเรื่อยๆ ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าข้าเดินไปไกลขนาดไหน”
“และข้าก็ได้ท่านบิลลี่และท่านแฟลมม่าช่วยข้าไว้” เรซอร์ตอบ

สิ้นเสียงของเรซอร์ หญิงผมดำคนนี้ก็ฟุบลงไปกับพื้น เรซอร์รีบตรงไปก่อนจะดูด้วยความเป็นห่วง

“เจ้าเป็นอะไรไหม?”
“ข้าไม่ได้เป็นอะไร” เจโน่ตอบพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมา

ดวงตาของทั้งสองผสานกัน ใบหน้าของเธอนั้นใกล้กับเขามาก หัวใจของเรซอร์เต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ เขาอยากจะถอยออกไปเพราะความเขินอาย แต่เพราะดวงตาของเจโน่ที่จ้องอยู่นั้นเป็นเหมือนมนต์สะกดที่ตรึงเรซอร์ไว้กับที่

“ข้าเจโน่ รัน ข้าสาบานว่าข้าจะปกป้องเจ้า จนกว่าชีวิตข้าจะหาไม่”
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Amnesiac EP 12
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Amnesiac EP 1
» Amnesiac EP 2
» Amnesiac EP 3
» Amnesiac EP 4
» Amnesiac EP 5

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: