Triple H ที่ตอนนี้ขึ้นไปนั่งเก้าอี้ผู้บริหาร WWE แล้ว ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเขายังไม่รีไทร์เสียทีเดียว แต่ก็ยืนยันว่าไม่อยากเป็นเหมือน Hulk Hogan กับ Ric Flair ที่ปล้ำจนอายุ 60 กว่า และยังเผยว่าเขากับ Shawn Michaels เคยตกลงกันไว้ว่าจะบอกให้กันรับรู้เมื่อถึงเวลาที่จะรีไทร์ แต่เขาก็ยังไม่ได้บอก Shawn เลยว่าจะรีไทร์ ดังนั้นเขาก็อาจจะกลับมาปล้ำต่อได้เสมอ ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่นั้น Triple H บอกว่าน่าจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลินี้
นอกจากนี้ Triple H ยังเผยว่า Vince McMahon พยายามผลักดันให้เขาก้าวขึ้นสู่แนวหน้าของฝ่ายบริหาร ด้วยการให้ศึกษางานในออฟฟิศสำนักงานใหญ่ที่คอนเน็คติคัต และให้รับผิดชอบการจัดโชว์ศึกต่าง ๆ ด้วย
ส่วนเรื่องครอบครัว ล่าสุด Stephanie McMahon ภรรยาของเขาเพิ่งจะคลอดลูกสาวคนที่ 3 มาหมาด ๆ แต่ Triple H ก็บอกว่าคราวนี้อยากได้ลูกชายบ้าง และเขากับ Steph ก็ได้คิดชื่อลูกชายเตรียมไว้แล้วด้วย อันที่จริง Triple เคยคิดเอาไว้ว่าอยากมีลูกแค่ 2 คนก็พอ ส่วน Steph นั้นอยากปั๊มถึง 5 คนเลยทีเดียว
ทางด้านภาพยนตร์ The Chaperone ที่ Triple H แสดงนำ ล่าสุดก็เตรียมเข้าโรงฉายแล้วในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ โดยมีโรงภาพยนตร์บางโรงได้คอนเฟิร์มโปรแกรมฉายแล้วในรัฐแคลิฟอร์เนีย, อาริโซน่า และ เท็กซัส
มีข่าวว่าในบรรดา 40 นักมวยปล้ำที่จะขึ้นสู่สังเวียน Royal Rumble วันอาทิตย์นี้ ทาง WWE ก็เตรียมดึงตัวตำนานเก่า ๆ มาเซอร์ไพรส์แฟน ๆ 2 คนด้วยกัน นอกจากนี้ก็จะมีตัวละครลับอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่งที่จะมาให้แฟน ๆ ตกใจเล่นด้วย
นอกจาก WWE จะนำการประกวด Tough Enough กลับมาแล้ว ล่าสุดก็เตรียมรื้อฟื้นโครงการ Divas Search ขึ้นมาอีกครั้งแล้ว จากการประชุมล่าสุดของบริษัท Julie Stenz ผู้บริหารฝ่ายการตลาดของ WWE บอกว่าจะจัดการประกวดยาว 10 สัปดาห์ด้วยกัน โดยจะแทรกเข้าไประหว่างรายการโชว์ปกติของ WWE (ไม่ได้เพิ่มเวลาแยกออกไปแบบ Tough Enough) และก็กำลังมองหาสปอนเซอร์ของรายการด้วย ส่วนจะเริ่มเมื่อไหร่นั้นยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัด แต่สำหรับบรรดาสาว ๆ ที่เตรียมนำมาเข้าร่วมรายการนั้น WWE ได้ซุ่มคัดเลือกเอาไว้หลายคนแล้วในช่วงที่ผ่าน ๆ มา และคอนเซปท์ในการจัดรายการครั้งนี้ WWE ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะสร้างการแข่งขันให้เป็นเหมือนกับรายการ American Idol ในแบบฉบับของ WWE เอง
สำหรับ Divas Search 4 ครั้งที่ผ่านมา ผู้ชนะคือ Christy Hemme, Ashley Massaro, Layla El และ Eve Torres ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมประกวดแล้วไม่ชนะเลิศแต่ WWE ก็ยังเซ็นสัญญาด้วยอยู่ดี เช่น Maria, Rosa Mendes, Maryse และ Tiffany เป็นต้น
Joe DelGrosso รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดของ WWE ก็เผยว่า WWE จะไม่ลดจำนวนศึกใหญ่ PPV ลง โดยจะต้องมี 13 ศึกต่อปีเป็นอย่างน้อย และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มศึกใหญ่ให้มากขึ้นอีกด้วยซ้ำในอนาคต
"Cowboy" Bob Orton ตำนาน Hall of Fame ของ WWE และพ่อของ Randy Orton ได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Scrippsnews.com เกี่ยวกับเส้นทางการเข้าสู่วงการของลูกชายว่า "เขาฝึกมวยปล้ำมาตั้งแต่ 9 ขวบ และก็ไปได้สวยในการปล้ำสมัครเล่นในระดับโรงเรียน เขาเคยคิดจะเรียนต่อมหาวิทยาลัย แต่ตอนนั้นเขายังตัดสินใจไม่ได้ว่าอยากจะเอาดีทางด้านไหน สุดท้ายก็ตัดสินใจไปสมัครเป็นทหารเรือ แต่ก็ไม่ค่อยจะเวิร์คเท่าไหร่ เราก็เลยไปคุยกับ Jack Lanza กับ Tony Garea เอเย่นต์ของ WWE และในที่สุด WWE ก็เรียกเขาไปดูตัว แล้วก็เป็นจุดเริ่มต้นของตัวเขาในวันนี้"
สำหรับเรื่องของ Randy ในปัจจุบัน คุณพ่อ Bob บอกว่า "ตอนนี้เขากลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง จากที่เคยเจ็บเรื้อรังที่ไหล่และคอ เขาสามารถซื้อใจผู้ชมได้เป็นอย่างดี และยังควบคุมแมตช์การปล้ำให้ออกมาดีได้เสมอ เขาควรจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นอีกในช่วงที่เขากำลังได้บทบาทดี ๆ แบบนี้ และเขาก็ทำได้ดีมาก ๆ "
The Miz ให้สัมภาษณ์กับเว็บ PWInsider เกี่ยวกับเส้นทางอาชีพของเขาว่า "มองย้อนกลับไป 10 ปีก่อน ผมเป็นผู้เข้าประกวดรายการ The Real World ทำตัวบ้า ๆ บอ ๆ ให้รูมเมทรำคาญ เล่นกับเข็มขัดแชมป์ WWE ของเล่นที่ซื้อมา 15 ดอลลาร์ แต่ตอนนี้ผมได้ของจริงมาแล้ว แชมป์ WWE ของแท้ มีหลายคนบอกว่าผมไม่ดีพอ ไม่สมควรจะได้มัน ผมไม่ควรได้เข้า WWE ด้วยซ้ำ เพราะว่ามาจากดาราเรียลิตี้โชว์ จากนั้นเมื่อปีที่แล้วผมเปลี่ยนไปหลายอย่าง เปลี่ยนกิมมิคให้ซีเรียสขึ้น, เปลี่ยนกางเกงใหม่ และเป็นแชมป์ US เป็นแชมป์แทคทีมด้วย จากนั้นก็ได้แชมป์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างแชมป์ WWE พูดง่าย ๆ คือผมได้เป็น Triple Crown ผมได้ครบทั้ง 3 แชมป์ภายในปีเดียว มีไม่กี่คนหรอกที่สามารถพูดได้ว่าเคยทำแบบนี้มาแล้ว มันสุดยอดมาก เหมือนฝันที่เป็นจริง"
*หมายเหตุ: อันที่จริง Triple Crown จะนับเฉพาะการได้แชมป์ 3 ระดับคือ แชมป์โลกเส้นใดเส้นหนึ่ง + แชมป์อินเตอร์ + แชมป์แทคทีม แต่แชมป์ระดับ 2 จะนับเฉพาะแชมป์อินเตอร์ ไม่นับแชมป์ US ซึ่ง The Miz คงเข้าใจผิดว่าตัวเองเป็น Triple Crown แต่อันที่จริงไม่ใช่นะครับ
เมื่อถามถึงสถานการณ์หลังฉากในปัจจุบัน ซึ่ง Miz เคยบอกหลายครั้งว่าเขาเคยถูกกลั่นแกล้งและเหยียดหยามมาตลอด Miz บอกว่า "ตอนนี้มันเปลี่ยนไปเยอะแล้ว หลังเวทีมีแต่เรื่องดี ๆ เพราะพวกสตาร์รุ่นเก๋าหลายคนออกจากสมาคมไปหมดแล้ว ตอนนี้เราเป็นเหมือนกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ แต่ก็ยังมีบางคนที่อิจฉาผมอยู่ที่ผมเป็นแชมป์ แต่มันก็ไม่แปลกหรอกเพราะใคร ๆ ก็อยากได้มันทั้งนั้น ดังนั้นผมจึงตั้งเป้าทำผลงานให้ดี และรับประกันได้ว่าทุกคนจะไม่มีวันแย่งมันไปได้เพราะผมจะเป็นแชมป์ WWE ไปอีกนาน"
เมื่อถามถึงแมตช์ที่เขาพบกับ John Morrison ใน RAW ไม่นานมานี้ เป็นแมตช์ที่ดีมาก ๆ นี่คือแมตช์ที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาหรือเปล่า? Miz บอกว่า "อืม ไม่รู้สิ ผมปล้ำแมตช์ที่ยอดเยี่ยมมามากมาย มันยากที่จะเลือกมาแค่แมตช์เดียว เพราะผมคือสุดยอดนักมวยปล้ำอัจฉริยะ แต่แมตช์นั้นก็ถือว่าเป็นหนึ่งในแมตช์ที่ดี เพราะ Morrison กับผมเป็นเพื่อนสนิทกัน เราเริ่มเดินทางมาพร้อม ๆ กันและเคยท้าแข่งกันว่าใครจะก้าวไปสู่จุดสูงสุดได้ก่อนกัน และก็เป็นผมที่ชนะ เนื่องจากผมเป็นคนที่มีความสามารถมากกว่าตั้งแต่เราจับคู่แท็กทีมกันแล้ว ถึงแม้ว่าหลายคนจะบอกว่า Morrison เป็นคนที่คอยประคับประคองผม แต่ตอนนี้ทุกคนก็ได้รู้ความจริงแล้วว่าใครประคองใครกันแน่"
ต่อคำถามที่ว่า เขาบอกว่าการเปลี่ยนมาใส่กางเกงมวยปล้ำมีผลทำให้บุคลิคของเขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แล้ว John Cena ล่ะ ทำไมเขาดังได้ทั้งที่ใส่กางเกงยีนส์? Miz บอกว่า "ใส่ไปได้ยังไง กางเกงยีนส์สามส่วน? แฟชั่นนี้มันตกยุคไปตั้งแต่ยุค 80-90's แล้วนะ Cena พยายามทำให้มันกลับมาฮิต ซึ่งเขาไม่มีรสนิยมเอาซะเลย เขาใส่เสื้อสีม่วงน่าเกลียด สีส้มด้วย และก็เสื้อแบบเก่า ๆ ที่เขาใส่มาทั้งหมด แต่เด็ก ๆ กลับชอบ เด็ก ๆ ก็ใส่ทุกอย่างตามที่พวกเราใส่นั่นแหละ แต่ถ้าถามว่าคุณกล้าใส่กางเกงยีนส์สามส่วนออกไปเดินข้างนอกมั้ย ถ้ากล้าก็แสดงว่าคุณต้องมั่นใจในตัวเองมากเลยล่ะ"
เมื่อถามว่าใครเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อสไตล์คาแรคเตอร์ของ Miz มากที่สุด ใช่ Chris Jericho หรือเปล่า? Miz บอกว่า "ใช่ ผมคุยกับ Jericho บ่อยมากนับตั้งแต่เขากลับมา WWE คราวก่อน และเขาก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมอย่างมาก เช่นเดียวกับ Shawn Michaels และผมก็เป็นแฟนตัวยงของ The Rock ด้วย พวกเขาเหล่านี้มีอิทธิพลต่อคาแรคเตอร์ของผมในปัจจุบัน รวมถึง John Cena ด้วย ซึ่งผมปล้ำกับเขาบ่อยเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ผมได้เรียนรู้หลายอย่าง และทำให้ผมพัฒนามาถึงจุดนี้ได้"
Goldust ที่ตอนนี้พักรักษาอาการบาดเจ็บหัวไหล่ก็ให้สัมภาษณ์ว่า อาการไม่ค่อยจะดีขึ้นเลยหลังจากผ่าตัดมาแล้ว เขาต้องทำกายภาพทุกวันและเบื่อหน่ายมาก แต่คาดว่าคงจะกลับมาได้ในช่วงเดือนมิถุนายนปีนี้ เขาตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะกลับมาปล้ำให้ได้ในกลางปีนี้ และปล้ำอย่างเต็มที่ในปี 2012 ก่อนจะรีไทร์
Goldust ยังบอกอีกว่า WWE เตรียมจะออกแผ่น DVD รวมผลงานของเขาพร้อม ๆ กับช่วงที่หนังสือที่เขาเขียนจะออกจำหน่าย แต่เขาเองก็ไม่รู้กำหนดวันที่แน่ชัดเหมือนกันว่าจะออกแผ่น DVD วันไหน
เมื่อถามถึงผู้ชนะ Royal Rumble ในความเห็นของ Goldust เขาตอบว่า "ถ้า Triple H กลับมา ซึ่งผมว่าเขาน่าจะมา แต่ก็ไม่แน่ใจนะ ถ้าเขามาจริง ๆ ผมว่าเขาคงชนะ แต่ถ้าไม่ ผมว่าอาจจะเป็น Alberto Del Rio"
Diamond Dallas Page ยืนยันผ่าน Twitter แล้วว่าเขาจะได้เป็นพิธีกรใน DVD รวมฮิตศึก WCW Nitro ที่ WWE เตรียมออกจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้แน่นอน
เรทติ้งรายการของ WWE ทางทีวีเม็กซิโก ก็ทำยอดได้ดีต่อเนื่อง โดย RAW ทำได้ 8.2 ส่วน SmackDown ได้ 8.1 เหนือกว่าสมาคมของเม็กซิโกเองอย่าง CMLL และ AAA ที่ทำได้ 3.2 และ 2.3 ตามลำดับ
สมาคม Women Superstars Uncensored (WSU) ซึ่งเป็นสมาคมมวยปล้ำหญิงล้วน ก็เตรียมมอบรางวัล Hall of Fame ให้กับ Luna Vachon อดีตนักมวยปล้ำหญิง WWE ที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว ในวันที่ 5 มีนาคมนี้ในรายการปล้ำฉลองครบรอบ 4 ปีของสมาคม นอกจากนี้ในคืนเดียวกันก็จะมอบ Hall of Fame ให้กับ April Hunter และ Ivory อดีตแชมป์หญิง WWE ด้วย
Ric Flair ที่ก่อปัญหาก่อนหน้านี้ระหว่างทัวร์ยุโรปกับ TNA ล่าสุดก็ก็ไปร่วมศึกเฮ้าส์โชว์ที่เมืองกลาสโกว์, สก๊อตแลนด์ โดยทันทีที่ Flair ไปถึงก็ได้ขอโทษขอโพยเพื่อนร่วมงานทุกคนจากเรื่องที่เขาก่อขึ้นที่ดับลิน, ไอร์แลนด์
จากข่าวที่ว่า TNA เสนอให้ Chad Ochocinco นักฟุตบอล NFL ของทีม Cincinnati Bengals มาปล้ำกับโค้ชของเขาในแมตช์กรงเหล็กศึก TNA Lockdown ก็สืบเนื่องมาจาก TNA ได้เลือกสนาม US Bank Arena ในเมืองซินซินเนติ รัฐโอไฮโอ เป็นสังเวียนจัดศึก Lockdown นั่นเอง
Hernandez สตาร์ชาวเม็กซิกันของ TNA ที่ปล่อยให้สมาคม AAA ในบ้านเกิดยืมตัวไปใช้งาน ตอนนี้ก็หมดสัญญายืมตัวแล้ว และจะกลับมาปล้ำที่ TNA ในเร็ว ๆ นี้
เครดิต: WiT
