Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Sengoku : 5

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Sengoku : 5 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Sengoku : 5   Sengoku : 5 EmptyWed Aug 20, 2014 4:12 pm

https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xfp1/t31.0-8/1518303_710073819039676_5757571155031889952_o.jpg

ตารางความสัมพันธ์ตอน 4

=====

“เล็ง!!”

เคนตะนั่งบนม้าก่อนจะตะโกน เหล่าทหารธนูต่างยกธนูขึ้นตามคำสั่งของเคนตะ เช่นเดียวกันกับเคนตะที่ยกธนูขึ้นเล็งเหมือนกัน พลธนูทุกคนต่างเล็งไปที่กลุ่มทหารที่มีธงสัญลักษณ์ตระกูลเท็ตซึยะ

“ยิง!!”

เคนตะตะโกนดังลั่น ธนูลอยไปจำนวนหลายดอกก่อนจะลอยไปปักเข้าไปที่กลางหลัง กลางอก หรือกลางหน้าผากเข้าใส่ธนูของเท็ตซึยะจนหมด แน่นอนว่าทางซูตะไม่นิ่งดูดายให้ลูกธนูปลิดชีพทหารของเขาแน่นอน ซูตะออกคำสั่งให้พลปืนวิ่งไปตั้งแถว ก่อนที่เหล่าพลทหารพวกนั้นจะตั้งปืน ก่อนที่ซูตะจะสั่งให้ยิง กระสุนลอยออกมาจากกระบอกปืนก่อนจะยิงเข้าใส่พลธนูของเคนตะ เหล่าพลธนูต่างล้มลงไปกับพื้น เคนตะกัดฟันด้วยความเจ็บใจก่อนจะสบถคนเดียวเบาๆ

ก่อนอื่นขอพักเรื่องไว้นิดนึงและมาอธิบายเรื่องปืนกันดีกว่า ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ชาวต่างชาติเริ่มเดินทางเข้ามาค้าสินค้ากับชาวญี่ปุ่น และหนึ่งในนั้นก็คือปืนนั่นแหละ ซึ่งเหล่าไดเมียวๆหลายคนต่างปฏิเสธปืน เพราะมองว่าการใช้ปืนนั้นเป็นวิถีของคนขี้ขลาด หากทว่า...มีตระกูลหนึ่งกลับมองต่างออกไป คนๆนั้นคือมังกรผู้ทะเยอทะยาน “เท็ตซึยะ ซูตะ” เขาไม่สนใจว่ามันจะเสียเกียรติรึเปล่าแต่สิ่งที่เขาสนคือมันทำให้เขาชนะได้สงครามและทำให้เขาครอบครองใต้หล้าได้ แม้ว่าเขาจะเสียเกียรติเขาก็ยอม…โอเค ยืดยาวแล้วกลับเข้าเรื่องกันดีกว่า ในขณะที่เคนตะกำลังออกคำสั่งให้พลธนูเตรียมยิงธนูไปที่พลปืนของเจ้าของแคว้นมิโนะและโอวาริ นินจาคู่ใจผมสีทองก็โผล่ออกมาจากเงามืด มุนตะคุกเข่าก่อนจะรายงานข่าวให้กับเคนตะที่นั่งบนหลังม้า

“ท่านเคนตะขอรับ ข้าได้รับรายงานว่ามีทหารที่มีธงสัญลักษณ์ของตระกูลเคซึกะตรงเข้ามาขอรับ”
“นำทัพโดยจินงั้นหรือ?” เคนตะหันมาถาม
“ขอรับ” มุนตะตอบ
“มุนตะเจ้าไปสกัดจินเสีย ส่วนทางนี้ข้าจะจัดการเอง” เคนตะออกคำสั่งให้กับนินจาคนสนิท

นินจาคนสนิทพยักหน้าก่อนจะหายไปในเงามืด ในขณะนั้นเองจินในชุดเกราะหนักได้นำทัพของตัวเองมุ่งตรงมายังทัพของเคนตะหวังจะขยี้ให้สิ้นซาก ในจังหวะที่จินกำลังควบม้าอยู่นั้นดาวกระจายจำนวนมากลอยตรงมาที่เขา จินยกดาบหนักของเขาก่อนจะปัดดาวกระจายพวกนั้นออกจากเส้นทางจนหมด จินเบรกม้าของตน เช่นเดียวกันกับลูกน้องของจิน ลูกชายตระกูลเคซึกะ มองไปรอบหวังจะหาศัตรูที่หวังจะทำร้ายตน และเมื่อเขารู้ตัวอีกทีนินจาที่มีนามว่ามุนตะก็ใช้มีดสั้นของตนหมายจะแทงเข้าไปกลางหลังของจิน หากทว่าจินรู้ตัวทันก่อนจะใช้ดาบใหญ่ของเขาปัดมุนตะ มุนตะโดนกระแทกไป แต่ก็สามารถลังกาตัวเพื่อยืนบนพื้นดินได้ จินจ้องไปที่มุนตะที่ข้างหลังมีเหล่านินจาปรากฏตัวออกมาจากเงามืดทีละคน

“พวกเจ้าจัดการลูกน้องของมัน ข้าจะจัดการจินเอง” มุนตะพูดกับเหล่านินจาที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา

ชิโนบิพุ่งตรงไปที่ซามูไรของตระกูลเคซึกะ ส่วนมุนตะยืนเฉยๆพร้อมกับจ้องมองจินที่นั่งอยู่บนม้า จินลงมาจากม้าก่อนจะดึง “จูซึมารุ” ออกจากหลังของเขา จินตั้งท่าเตรียมจะรับมือกับศัตรูคนนี้ ดวงตาของจินภายใต้หน้ากากนั้นจ้องการเคลื่อนไหวของนินจาผมทองคนนี้ชนิดตาแทบไม่กระพริบ ในขณะที่การต่อสู้รอบๆนั้นยังดำเนินกันไปอย่างดุเดือด มีเพียงทั้งคู่ที่ยังหยุดนิ่ง มุนตะเริ่มออกตัวก่อนจะวิ่งตรงไปหาลูกคนโต จินยกดาบก่อนจะแกว่งเพื่อฟันเข้าไปกลางลำตัวของนินจาคนนี้ หากทว่าสิ่งที่เขาฟันนั้นกลับเป็นอากาศ จินหันหน้ากลับไปก่อนจะเห็นมุนตะปาดาวกระจายใส่จิน ดาวกระจายปักลงเท้าของจินทำให้จินไม่สามารถขยับออกได้

หัวหน้านินจาเห็นศัตรูของตัวเองขยับไม่ได้ก็วิ่งเข้าไปหาและหยิบมีดหวังจะปิดชีพของจิน หากทว่าเมื่อมุนตะเข้าใกล้สิ่งที่เขาได้รับกลับมือกำปั้นของชายเกราะหนัก นินจาที่โดนชกเข้าไปลอยออกมาก่อนที่หลังจะไถไปกับพื้น มุนตะส่ายหน้าตั้งสติก่อนจะเห็นจินยกดาบหวังจะสับร่างของตน มุนตะกลิ้งออกไปด้านข้างเพื่อหลบ ดาบของจินฟาดลงไปกับพื้นดิน มุนตะลุกขึ้นมาก่อนจะกระโดดและใช้เท้าเตะเข้าไปที่หน้ากากของจิน แรงกระแทกทำให้ศัตรูของนินจาคนนี้เสียสมดุลเล็กน้อย หน้ากากเริ่มมีรอยร้าว มุนตะดึงมีดสั้นออกมาก่อนจะหมุนตัวจะใช้มีดแทงเข้าไปที่กลางหัวใจ หากทว่าข้อมือของเขาถูกจับไว้ก่อนจะโดนจับทุ่ม ร่างของมุนตะกระแทกลงไปกับพื้นดินเต็มๆ มุนตะได้สติเห็นคมดาบจะปักลงไปที่กลางร่าง นินจาต้องรีบท่องคาถา ดาบของจินไม่ได้ปักร่างของนินจาหากทว่าเป็นท่อนไม้ต่างหาก จินหันกลับไปเห็นมุนตะยืนอยู่

“ข้าไม่ได้เจอคู่ต่อสู้มากฝีมือมานานแล้ว” จินพูดกับนินจาผมทองคนนี้
“ข้าก็เช่นกัน” มุนตะแสดงความเห็นเหมือนกัน

=====

หากทว่าไม่ได้มีเพียงนินจาคนเดียวที่สู้อยู่เท่านั้น ในอีกส่วนหนึ่งก็มีนินจาคนสนิทของซูตะกำลังต่อสู้เหมือนกัน ดวงตาของเธอนั้นจ้องมาที่โรนินที่มีนามว่าไทโซ เช่นเดียวกันกับไทโซที่มองมูชิอยู่เช่นกัน มูชิเริ่มวิ่งตรงไปหาไทโซ ก่อนที่จะเหวี่ยงแส้ แส้ของคุโนะอิจิ (นินจาหญิง) คนนี้ลอยเข้ามาพันดาบของไทโซ ก่อนที่มูชิจะออกแรงดึงดาบของไทโซ ดาบของไทโซถูกดึงออกจากมือของไทโซก่อนจะลอยเข้าไปปักต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆกับตัวของมูชิ เมื่อมูชิเห็นโรนินคนนี้ไม่มีอาวุธอยู่ในมือก็ได้พุ่งตรงเข้าไปหาไทโซ ก่อนจะใช้แส้ฟาดที่ไปใบหน้าของไทโซ หากทว่าไทโซใช้มือบังไว้ ทำให้แส้ฟาดไปที่ท่อนแขนของไทโซแทน เมื่อแส้กระทบลงไปกับผิวหนังของไทโซ ไทโซแสดงสีหน้าออกมาชัดเจนว่าเจ็บ มูชิเห็นดังนั้นก็ยังคงรัวแส้ลงไปที่ท่อนแขนของไทโซพร้อมกับหัวเราะชอบใจอย่างมีความสุข

“ท่านไทโซ!!” ยาโนะวิ่งมาพร้อมกับดาบในมือ

มูชิหันมาก่อนจะใช้แส้ของเธอฟาดเข้าไปที่เข่าของยาโนะ ยาโนะโดนแส้ฟาดลงไปล้มลงไปนอนกับพื้น ไทโซอาศัยจังหวะนี้ยกเท้าก่อนจะถีบเข้าใส่หน้าท้องของมูชิ แรงกระแทกดันมูชิออกไป ไทโซรีบคว้าดาบของยาโนะมาก่อนจะพุ่งไปหามูชิ มูชิเห็นดังนั้นจึงกระโดดเหยียบไหล่ของไทโซ ก่อนจะถีบขาคู่เข้าใส่กลางหลังของโรนิน โรนินโดนถีบออกไปหันมาเจอแส้ฟาดใส่เต็มๆแก้มของตน ไทโซลงไปนอนบนพื้น ก่อนที่จะใช้มือจับแก้มของตนเอง เลือดนั้นไหลออกมาจากบาดแผลที่อยู่บนแก้ม แต่ว่าในตอนนี้ไทโซไม่มีเวลาจะมาเจ็บปวดกับแผลของตน ไทโซพยุงตัวขึ้นมาพร้อมกับดาบ

“พวกเจ้าสองคนนี่น่าเบื่อจริงๆ ต่อให้ข้าลงมือฟาดขนาดไหนพวกเจ้าก็ไม่เคยโอดครวญเลย” มูชิบ่นด้วยสีหน้าเซ็งๆ
“ขอโทษทีนะ...แต่ถ้าข้าทำเช่นนั้น ข้าก็ดูแย่พอดี” ไทโซตอบกลับ
“หึ...ถ้างั้นข้าจะรอดูละกันว่าเจ้าจะทนได้นานอีกขนาดไหน” มูชิแสยะยิ้มก่อนจะหยิบเอามีดสั้นออกมา

มูชิตรงมาที่ไทโซอย่างรวดเร็ว มูชิใช้มีดนี้จะเชือดคอของไทโซ หากทว่าไทโซหลบได้ ไทโซใช้ดาบจะฟันไปที่มูชิ หากทว่ามูชิใช้มีดอีกข้างรับดาบได้ทัน มูชิใช้มีดอีกข้างหวังเสียบเข้าไปที่ร่างของไทโซ แต่ไทโซเองก็รู้ทันกระโดดหลบออกมาได้ก่อน มูชิขว้างมีดของตนที่อยู่ในมือออกไปหาไทโซ โรนินก้มหลบได้ทัน เมื่อมีดนั้นปักไปที่ต้นไม้ ต้นไม้นั้นเหี่ยวเฉาทันที ใบของมันจากสีเขียวกลายเป็นสีน้ำตาลทันที ไทโซหันไปมองต้นไม้ด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงก่อนจะหันกลับมามองมูชิที่ยืนแสยะยิ้มอยู่

“มีดอาบยาพิษงั้นหรือ...” ไทโซเอ่ยปากถาม
“เจ้านี่โชคดีจริงๆ ถ้าเพียงแค่มีดนี้โดนเจ้าเพียงแค่นิดเดียว เจ้าคงไม่ยืนอยู่ตรงนี้หรอก”  มูชิตอบ

=====

กลางสนามรบนั้นผู้คนตายมากมาย ไม่ว่าจะมีสาเหตุจากลูกธนูหรือลูกกระสุน หรือถูกดาบแทงทะลุร่างกาย หากทว่าไม่ว่าจะมีคนตายมากเท่าไหร่ ดูเหมือนการต่อสู้นี้ก็ยังไม่จบลงเสียที กลิ่นคาวเลือดที่ฟุ้งไปทั่วทุกแห่ง กองเลือดที่ไหลนองไปทั่วพื้นดิน ดาบของเหล่าทหารผู้ที่ตายไปแล้วกระจัดกระจายไปทั่วแผ่นดิน แต่การต่อสู้นั้นยังคงดำเนินต่อไป เหล่าทหารของทั้งสองตระกูลยังคงฟาดฟันดาบของตนเอง พวกเขาทำทุกอย่างเพื่อให้ชนะและมีชีวิตรอดต่อไปเพื่อกลับไปเจอหน้าคนที่พวกเขารัก แต่น่าเศร้าที่หลายคนไม่สามารถกลับไปหาคนที่พวกเขารักได้

“ท่านเคนตะขอรับ...ข้าว่าเราถอยทัพก่อนดีกว่าไหมขอรับ” กุนซือของเคนตะพูดขึ้นในขณะที่เคนตะกำลังเล็งธนู
“ไม่...ข้าต้องแก้แค้นเสียก่อน..ข้าไม่มีทางให้คนทรยศมีชีวิตอยู่แน่นอน” เคนตะปฏิเสธเสียงแข็งก่อนจะยิงธนูออกไป
“แต่ท่านขอรับ ทหารของพวกเราล้มตายเป็นจำนวนมาก ถ้าหากเราถูกทัพอื่นโจมตีเข้ามา”
“เกรงว่านั่นจะเป็นปัญหาอันใหญ่หลวงนะขอรับ” กุนซือพยายามโน้มน้าวเคนตะ

เคนตะเงียบก่อนจะหันมามองหน้ากุนซือคนนี้

“ท่านเคนตะขอรับ...ที่พวกเรายังสู้ได้เพราะมุนตะรั้งตัวจินเอาไว้”
“แม้ว่ามุนตะจะมากฝีมือแต่ด้วยจำนวนท้ายที่สุด จินก็จะหลุดเข้ามาได้”
“ถ้าเป็นเช่นนั้นพวกเราคงจบสิ้นอย่างแน่นอน” กุนซือคนนี้พูดต่อ

เคนตะเงียบอีกครั้งก่อนที่เขาจะมองไปที่สมรภูมิ ก่อนที่เขาจะเห็นคนที่รับใช้เขามากมายต้องจบชีวิตลง และมันจะต้องมากขึ้นเรื่อยๆหากเคนตะยังไม่สั่งถอยทัพ

“ชิ...ก็ได้...ถอยทัพ!!” เคนตะตะโกน

พลุสีแดงถูกจุดขึ้นฟ้าเป็นสัญญาณให้ถอยทัพ ทหารของเคนตะเห็นดังนั้นก็รีบถอย ทางด้านทหารของตระกูลเท็ตซึยะเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งไล่แต่ว่าก็มีสัญญาณของทัพตนเองให้ถอยทัพเช่นกัน ทหารของซูตะทำหน้างงๆกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทางด้านของมุนตะที่ยังสู้กับจินอยู่ก็เห็นสัญญาณถอยทัพจากทั้งสองฝ่าย มุนตะเก็บมีดของตนเองก่อนจะมองหน้าคู่ต่อสู้ที่มากฝีมือของตน

“ดูเหมือนเรายังคงตัดสินผลกันไม่ได้ซินะ” มุนตะพูดกับจิน
“หึ...ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น” จินเองก็เก็บดาบของตนในขณะพูดเช่นกัน

เช่นเดียวกันกับอีกมุมหนึ่ง ไทโซและมูชิต่างมองไปที่สัญญาณสั่งให้ถอยทัพ ไทโซหันกลับมาก่อนจะเห็นมูชิหายไปแล้ว ไทโซถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะหันหลังไปมองภาพทหารที่กำลังถอยทัพ ดูเหมือนสงครามครั้งนี้จะจบลงเสียที

=====

ณ ห้องพักเดิมที่ยาโนะและไทโซพัก ยาโนะนั่งอยู่บนพื้นโดยแขนของยาโนะนั้นพันไปด้วยผ้าพันแผล โดยผ้าพันแผลนี้ใช้ปิดแผลของยาโนะจากการต่อสู้กับมูชิในวันนี้ ส่วนไทโซนั้นสภาพก็ไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่นัก ไทโซนั่งมองหน้าของยาโนะก่อนจะบังคับให้ยาโนะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ยาโนะพยักหน้าก่อนจะเล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ที่เขาได้จดหมายจากองค์หญิงฮานะจนถึงแผนการของเขา เมื่อยาโนะเล่าจนจบก็ก้มกราบและเอ่ยขอโทษส่วนทางไทโซฟังจบก็พยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นจากพื้นและเดินไปที่ประตูห้อง ไทโซเลื่อนประตูไม้ก่อนจะเอียงคอมาพูดกับลูกน้องของตน

“เจ้าจะทำอะไรก็เรื่องของเจ้า...อย่าทำให้ข้าเดือดร้อนก็พอแล้ว” ไทโซพูดจบก็เดินออกจากห้องไป

ยาโนะได้แต่เงียบก่อนจะนั่งนึกสิ่งที่ตนเองทำ แน่นอนว่าสิ่งที่องค์หญิงฮานะไหว้วานเขานั้น เขาทำไม่ได้เขาหยุดสงครามไม่ได้ ยาโนะได้แต่นั่งมองออกไปข้างนอก ท้องฟ้านั้นมืดมิดไม่ต่างกับจิตใจของเขา ในขณะที่ยาโนะกำลังนั่งคิดอะไรหลายๆอย่างเขาก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตูไม้ ยาโนะหันกลับไปก่อนจะเห็นสตรีในชุดกิโมโนสีชมพูดุจดั่งซากุระ ผมเธอยาวสลวย ยาโนะเห็นแล้วรีบก้มกราบก่อนจะเอ่ยขอโทษเพราะเขาทำงานของฮานะล้มเหลว หากทว่าฮานะยิ้มให้ก่อนจะลงไปนั่งกับพื้น

“เงยหน้าขึ้นมาเถิดยาโนะ...มันไม่ใช่ของท่าน แต่เป็นความผิดของดิชั้นที่ขออะไรเกินจริง” องค์หญิงฮานะพูดกับยาโนะ
“ไม่..ข้าประมาทไป ข้าไม่คิดว่าท่านซูตะจะมองแผนของข้าออก ถ้าหากข้าวางแผนได้ดีกว่านี้”
“ข้าคงห้ามสงครามครั้งนี้ไว้ได้” ยาโนะต่อว่าตนเอง
“รู้ไหมยาโนะ....ตอนดิชั้นยังเล็ก ดิชั้นเลี้ยงลูกสุนัขตัวพันธุ์ชิบะตัวนึงชื่อว่าคาวะ”
“ส่วนดิชั้นเลี้ยงอีกตัวชื่อว่า ยามะ” ฮานะเริ่มเล่าเรื่องให้กับยาโนะฟัง
“แต่แล้ววันหนึ่ง...คาวะก็ป่วยและตายไป รู้ไหมมันทำให้ดิชั้นเศร้ามาก”
“ทุกๆวัน ดิชั้นจะคอยโทษตัวเองเสมอว่าเป็นความผิดของดิชั้นที่ไม่ดูแลมันให้ดี”
“แต่รู้ไหม...ท่านพี่ซูตะพูดว่าอะไร?”

ยาโนะส่ายหน้ากับคำถามของฮานะ

“บางสิ่งบางอย่างเราก็ทำอะไรกับมันไม่ได้ ถ้าเราทำเต็มที่ก็พอแล้ว” ฮานะให้คำตอบกับยาโนะ
“ท่านเต็มที่แล้วแค่นี้ดิชั้นก็พอใจแล้ว” ฮานะพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มที่อบอุ่นให้กับยาโนะ

ฮานะลุกขึ้นมาก่อนจะหยิบถุงเงินวางไว้บนโต๊ะ

“ข้ารับไม่ได้หรอก...ข้าทำงานที่ท่านสั่งข้าไว้ไม่สำเร็จ ข้าไม่สมควรได้รับเงินก้อนนี้” ยาโนะปฏิเสธ
“ถ้าหากไดเมียวซักครึ่งหนึ่งของประเทศนี้เป็นอย่างท่านแล้วละก็....”
“ดิชั้นว่าประเทศนี้คงไม่มีสงครามแบบนี้หรอก” ฮานะพูดก่อนจะเดินออกจากห้องไป

ในขณะเดียวกันไทโซที่กำลังจิบเหล้าสาเกและมองข้างนอก มันคืนที่มืดสนิทต่างกับเมื่อวานเสียสนิท ไทโซได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินตรงมาที่ตัวเขา ไทโซไม่ได้หยิบดาบเหมือนกับครั้งที่แล้ว ดูเหมือนเขาจะรู้ดีว่าเจ้าของฝีเท้านี้เป็นใคร และก็เป็นไปตามที่เขาคิดมันเป็นชายร่างเล็ก พร้อมกับผมสีขาว ไทโซยังคงจิบสาเกของเขาต่อไปก่อนจะมองหน้าของชายผมขาวคนนี้

“ข้าขอถามอย่างหนึ่งกับเจ้าได้ไหม?” เท็ตซึกะเอ่ยปากถามไทโซ
“เจ้าฆ่าพี่ข้าทำไม?”

ไทโซได้ยินก็หลับตาลงก่อนจะลืมตาพร้อมกับแหงนหน้ามองท้องฟ้า ไทโซก้มลงมาก่อนจะมองหน้าของเท็ตซึกะที่ยืนอยู่

“พี่ชายเจ้าวันๆเอาแต่เที่ยวเล่น ไม่ดูแลบ้านดูแลเมือง ปล่อยให้เหล่าขุนนางเอาเปรียบ”
“ประชากรต่างเดือดร้อน ข้าวของก็แพงขึ้น ข้าก็ทนอยู่เฉยไม่ได้ ข้าจึงจำเป็นต้องฆ่าพี่ของเจ้า”
“แต่รู้ไหมเท็ตซึกะ...ทุกวันนี้ข้ายังฝันถึงคืนที่ข้าฆ่าพี่ของเจ้า มันยังเป็นคงเป็นฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนข้า”

ไทโซแหงนหน้ามองท้องฟ้าก่อนจะพูดต่อ

“แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ไม่มีสิทธิไปฆ่าพี่ชายของเจ้าอยู่ดี”
“แม้ว่าเหตุผลของข้าจะดีขนาดไหน แต่มันก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ว่าข้าฆ่าพี่ชายเจ้าอยู่ดี”
“ข้ามาคิดดีๆแล้ว...ถ้าพี่ชายเจ้าสมควรตาย ข้าเองก็สมควรตาย” ไทโซพูด

สายลมยามวิกาลพัดผ่านใบหน้าของเท็ตซึกะ เสียงสายลมที่พัดผ่านต้นหญ้าบนพื้นดังขึ้นมา เท็ตซึกะไม่ได้พูดอะไร และไม่มีทีท่าจะหยิบดาบออกมาจากหลังของเขาด้วย เท็ตซึกะหันหลังก่อนจะเดินหายไปเงียบๆ ไทโซเองก็ได้ดูแต่เท็ตซึกะเดินหายไป ไม่รู้ว่าทำไมแต่บางทีคำพูดของไทโซอาจจะเปลี่ยนใจอะไรบางอย่างของเท็ตซึกะก็ได้
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Sengoku : 5
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Sengoku : 6
» Sengoku : 31
» Sengoku : 7
» Sengoku : 17
» Sengoku : 32

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: