Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Sengoku : 34

Go down 
2 posters
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Sengoku : 34 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Sengoku : 34   Sengoku : 34 EmptySun Nov 09, 2014 5:38 pm

ยาโนะยืนสวมชุดเกราะที่มีสีน้ำเงิน ยาโนะมองไปที่หมวกซามูไรที่วางอยู่ใกล้ๆ มันมีสัญลักษณ์ของดวงจันทร์อยู่บนหมวกด้วย เขาหยิบมันขึ้นมาก่อนจะสวมมันลงบนศีรษะ ก่อนที่เขาจะเอื้อมไปคว้าเชือกและผูกไว้ใต้คางตัวเอง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้สวมหมวกซามูไรแบบนี้ มันหนักสำหรับเขาไม่น้อย มันทำให้เขาสงสัยขึ้นมาเลยว่าทำไมไทโซผู้เป็นนายของเขาสวมหมวกอันสุดแสนจะหนักได้ทุกตลอดเวลา ยาโนะหันกลับไปก่อนจะเห็นอากิโตะที่สวมชุดเกราะแบบเดียวกันแต่ต่างกันที่ว่าเขาไม่มีหมวกอันสุดแสนจะหนักแบบนี้อยู่บนศีรษะของเขา โดยใกล้ๆกับอากิโตะก็มีชายอีกสามคนที่สวมชุดเกราะแบบเดียวกันกับองค์รักษ์ของชายหน้าสวย ยาโนะกวาดสายตาไปรอบๆก่อนจะเห็นต้นไม้มากมายถูกปลูกอยู่ มันเป็นต้นไม้หลากหลายขนาดและหลากหลายรูปร่าง รวมถึงบนพื้นดินยังมีบ่อน้ำ ยาโนะเดินไปใกล้ๆก่อนจะลองใช้มือจุ่มลงไปในน้ำ เขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงก้นสระ นั่นก็แปลว่าสระนี้ลึกไม่น้อย ในขณะที่ยาโนะกำลังนั่งสำรวจอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนกลุ่มหนึ่งเดินตรงมาที่เขา ยาโนะหันกลับไปก่อนจะเห็นเด็กสาวนามยูริโกะในชุดเกราะสีแดง มันเป็นชุดเกราะขนาดพอดีกับตัวของเธอ มันทำให้ยาโนะสงสัยไม่น้อยว่าชุดเกราะอันนี้จะหนักขนาดไหน บางทีมันอาจจะหนักสำหรับเธอ แต่อาจจะเบาเป็นขนนกสำหรับยาโนะก็ได้ ขนาบข้างของเธอนั้นมีน้าชายของเธอซึ่งสวมชุดเกราะสีแดงพร้อมกับหมวกซามูไรสีเดียวกันกับชุดเกราะของเขา เช่นเดียวกันกับมุนตะที่สวมชุดเกราะเหมือนกัน มันเป็นภาพที่แปลกตาไม่น้อยสำหรับนินจาที่ต้องมาสวมชุดที่ดูเทอะทะแบบนี้ เช่นเดียวกับฝั่งที่สวมชุดเกราะสีฟ้า สมาชิกรวมกับเคนตะ ยูริโกะ และ มุนตะ แล้วก็มีห้าคนเช่นเดียวกันกับฝั่งของยาโนะ

“ข้ายอมรับในความกล้าหาญของเจ้ายาโนะจริงๆ ที่กล้าเผชิญหน้ากับข้าใน สงครามเล็ก” ยูริโกะพูดด้วยรอยยิ้ม

ยาโนะเองก็ไม่ได้พูดอะไรได้แต่ทำหน้าประมาณว่า “มีทางเลือกซะที่ไหน?” เขาลุกขึ้นมาก่อนจะมองหน้าของคู่ต่อสู้ที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับเขา ในมือของทุกคนนั้นมีดาบไม้ที่รูปร่างเหมือนๆกันอยู่ในมือ เว้นเสียแต่ยูริโกะที่ถือดาบเล็กกว่าคนอื่น ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ด้วยอายุของเธอนั้นไม่สามารถถือดาบที่ใหญ่เหมือนกับคนอื่นๆได้หรอก ยูริโกะยืนอยู่กับที่ก่อนจะเปล่งเสียงของเธอขึ้นมา เสียงของเธอนั้นดังเพียงพอที่จะทำให้กลุ่มคนที่ยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามได้ยินข้อความของเธอ เธอใช้เสียงของเธอนั้นอธิบายกฏกติกาของ “เกมสงคราม”

“สงครามเล็ก” มันเป็นการละเล่นประจำของตระกูลโยชิคุนิ โดยกฎนั้นก็เข้าใจง่ายๆ มีสองฝ่ายฝั่งละห้า โดยถ้าหากดาบไม้ในมือสามารถตีเข้าใส่เกราะได้ คนที่ถูกตีก็ถือว่าจะต้องออกจาก “สงคราม” ไป และฝั่งใดที่ทหารถูกกำจัดออกจากเกมจนหมดก็ถือว่าจะต้องแพ้ไป นอกจากนี้ยังมีอีกวิธีคือการล้มแม่ทัพ สำหรับแม่ทัพนั้นก็คือคนที่สวมหมวกนั่นแหละ ซึ่งในตอนนี้สำหรับฝั่งสีฟ้าก็คือ “ยาโนะ” และในขณะเดียวกันฝั่งสีแดงก็คือ “เคนตะ” นอกจากนี้ก็ไม่มีกติกาอื่น จะปีนต้นไม้ จะดำน้ำ จะดำดิน หรือจะเหาะเหินเดินอากาศ ตราบใดที่สามารถตีเข้าใส่ชุดเกราะอีกฝ่ายได้นั้นก็ถือว่าโอเค สำหรับการละเล่นนี้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อให้เหล่ากุนซือและเหล่าแม่ทัพได้ฝึกแผนรบกันอยู่เรื่อยๆ และในทุกๆสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ปกติ สถานการณ์ที่จำนวนคนน้อยกว่า หรือ สถานการณ์ยามหิมะตก เหล่ากุนซือก็ยังคงการละเล่น “สงครามเล็ก” ทุกเมื่อ และไม่เว้นแต่ยูริโกะ

“เจ้าเข้าใจกฎแล้วนะ ยาโนะ” เด็กสาวผมดำยาวสลวยตะโกนถาม
“ข้าเข้าใจแล้ว” ยาโนะตอบกลับ

เมื่อยาโนะให้คำตอบกับเด็กสาวคนนี้ เขาก็หันกลับไปก่อนจะพูดคุยกับเพื่อนร่วมทัพจำลองของเขาและอากิโตะ ยาโนะพูดถึงแผนการคร่าวๆของเขาที่จะใช้เพื่อสงครามเล็กๆแห่งนี้ ส่วนทางตระกูลโยชิคุนิไม่ได้ปรึกษาอะไรกัน ได้เพียงแต่ยืนดูคู่ต่อสู้ของตนปรึกษาหารือกัน เมื่อกลุ่มชุดเกราะสีน้ำเงินคุยกันเสร็จแล้ว “แม่ทัพ” ก็หันมาทางกองทัพในชุดเกราะสีแดงก่อนจะตะโกนถามคู่ต่อสู้ของพวกเขา

“ข้าพร้อมแล้ว...แล้วพวกท่านล่ะ?”
“ข้าพร้อมตั้งนานแล้ว อัจฉริยะอย่างข้ามีแผนเตรียมไว้ตั้งนานแล้ว” ยูริโกะตอบด้วยใบหน้าอันเย่อหยิ่ง
“พวกเจ้ามีเวลา 3 นาทีในการไปยืนประจำตำแหน่ง และถ้าหากพวกเจ้าเห็นพลุสีเขียวถูกจุดขึ้น”
“นั่นก็แปลว่าสงครามเริ่มขึ้นแล้ว เจ้าเข้าใจนะ?” หลานสาวไดเมียวพูดต่อ

ยาโนะพยักหน้าก่อนที่จะวิ่งถอยเข้าไปในป่า ยาโนะรวมตัวกันเป็นกลุ่ม ดูเหมือนแผนที่ยาโนะว่าก็คือจะบุกไปพร้อมๆกัน ชายหนุ่มหน้าหวานยืนรอให้พลุสีเขียวถูกจุดขึ้นมา ไม่นานนักพลุก็ถูกยิงขึ้นฟ้า แสงเสียงเขียวสว่างขึ้นมา มันเป็นสัญญาณว่าสงครามจำลองได้เริ่มขึ้นแล้ว ยาโนะยกดาบไม้ขึ้นก่อนจะชี้ไปอีกด้านหนึ่งพร้อมกับตะโกนว่า “บุก” สิ้นเสียงของเขา เขาก็วิ่งนำทัพของที่สมาชิกอยู่ 4 คนวิ่งไปอีกด้าน ในขณะที่ทัพสีน้ำเงินกำลังวิ่งอยู่นั้น มุนตะที่มาจากทัพสีแดงนั่งอยู่บนต้นไม้สูงเพื่อสังเกตการณ์ เขารีบวิ่งกลับไปยังฐานของฝั่งสีแดง สิ่งแรกที่มุนตะเห็นนั้นก็คือเคนตะและยูริโกะที่นั่งอยู่ และทหารที่สวมชุดเกราะสีแดงอีกสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง

“ท่านยูริโกะขอรับ...ดูเหมือนยาโนะจะเดินทัพเป็นกลุ่มครับ” มุนตะรายงาน
“ใช้ได้นี่....อ่านแผนของข้าออกด้วย” ยูริโกะพูดหลังจากที่ได้ฟังรายงานจากนินจาในตระกูลตน
“เจ้านี่ก็ใจร้ายจังเลยนะ ยาโนะพึ่งได้เล่นสงครามเล็กครั้งแรก เจ้าก็ใช้วิธีแบบนี้แล้ว” เคนตะผู้เป็นน้าติงหลายสาวตัวเอง
“ถ้ายาโนะอ่านเกมของข้าไม่ออก และตัดสินใจแยกทัพแล้วล่ะก็”
“เขาต้องถูกทหารในทัพสีห้าหักหลังแน่ๆ เพราะว่ายังไงพวกของเขาก็เป็นทหารของเรา”
“ดูเหมือนการที่เดินเป็นทัพจะทำให้ คนของเราวิ่งมาที่นี่ไม่ได้...ใช้ได้นี่” ยูริโกะพูดพร้อมยิ้ม

รอยยิ้มของเธอนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เพราะสำหรับเธอนี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอคู่ต่อสู้ที่ฝีมือพอๆกับเธอ แต่ถึงกระนั้นไม่ว่าฝีมือคู่ต่อสู้ของเธอจะมากขนาดไหน ในหัวของยูริโกะก็ยังคงยืนกรานเสมอว่าเธอจะต้องชนะ และพิสูจน์ให้เห็นว่าเธอนั้นเหนือกว่ายาโนะแน่นอน

“มุนตะ เจ้าไปซุ่มโจมตีพวกมัน แต่อย่าไปที่บ่อน้ำ” เด็กสาววัย 10 ปีหันมาพูดกับนินจาผมทอง
“ทำไมล่ะขอรับ นายหญิง?” มุนตะเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าสงสัย
“ก่อนหน้านี้ ข้าเห็นยาโนะสำรวจบ่อน้ำอยู่ เป็นไปได้ว่ายาโนะจะรู้แล้วเจ้าอาจจะซ่อนในบ่อน้ำ และเลี่ยงเส้นทางนั้น” ยูริโกะแจง

มุนตะพยักหน้าก่อนจะหายตัวไปอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันนั้นยาโนะที่กำลังนำทัพด้วยความระมัดระวัง ทุกๆก้าวของเขานั้นเขาเดินอย่างระมัดระวัง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้ามาสนามแห่งนี้ เขาไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่า มันจะมีอะไรซ่อนอยู่บ้าง อากิโตะนั้นเดินตามหลังมาเจ้านายของเขา ชายหนุ่มตาเดียวคอยเหลือบมองกลุ่มคนข้างหลังตลอด เพราะเขานั้นไม่ไว้ใจคนที่ตระกูลโยชิคุนิจัดหามาให้ บางทีคนเหล่านี้อาจจะวิ่งมาโจมตีพวกเขา หรือ อาจจะวิ่งหนีไปเพื่อรวมกับอีกฝ่ายก็ได้ ยังไงก็ไว้ใจไม่ได้ ในขณะที่พวกเขาเดินอย่างช้าๆนั้น เขาก็เห็นมุนตะกระโดดลงมาจากต้นไม้สูงก่อนจะทะยานลงมาตรงที่กลุ่มพวกเขา เขาพุ่งมาคนเดียว มุนตะใช้ดาบไม้ของเขาหวังจะตีเข้าไปที่ชุดเกราะของยาโนะ หากทว่าอากิโตะกระโดดมารับดาบแทนเจ้านายของตน มุนตะรีบลังกาตัวออกมา ก่อนจะยืนมองยาโนะและอากิโตะ

“เจ้านี่กล้ามากนะที่มาคนเดียว” อากิโตะพูดเชยชมคู่ต่อสู้ของเขา

มุนตะไม่ได้ตอบ แต่สายตาของเขาไม่ได้ละไปจากยาโนะและอากิโตะเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่เขาจะเหลือบไปมองทหารในชุดเกราะสีฟ้าที่ยืนอยู่ข้างหลังทั้งสามคน มุนตะดีดตัวของเขาก่อนจะวิ่งตรงไปที่ชายทั้งสามคน เขาใช้ดาบไม้ของเขาตีเข้าไปที่ชุดเกราะของทหารทั้งสาม นั่นก็แปลว่าชายทั้งสามนี้ต้องออกจากสงคราม น่าแปลกว่าพวกเขาสามคนไม่คิดจะสู้หรือคิดจะหลบเลย แต่เรื่องนั้นไว้ทีหลัง เพราะว่าในตอนนี้ฝั่งของยาโนะนั้นเหลือเพียงแค่สองคนแล้วก็คือยาโนะและอากิโตะ เหล่าทหารที่ “ตาย” นั้นเดินออกจากพื้นที่แห่งนี้กันอย่างช้าๆ มุนตะที่ยืนอยู่นั้นยังคงจ้องมองมาที่แม่ทัพของฝั่งสีน้ำเงิน มุนตะวิ่งเข้ามา แต่อากิโตะรีบวิ่งมาขวางไว้ มุนตะต้องหยุด อากิโตะใช้โอกาสที่เขาหยุด ยกดาบขึ้นและจะสับลงบนเกราะของมุนตะหากทว่า เขาโยกหลบออกมาได้ มุนตะรีบใช้ความเร็วของเขา ถอยกลับไปตั้งหลัก อากิโตะรีบวิ่งตามไปโดยไม่คิดเลยแม้แต่น้อย

“เดี๋ยว อากิโตะ!!” ยาโนะตะโกนห้ามองค์รักษ์ของเขา

แต่ดูเหมือนเสียงของยาโนะจะไร้ซึ่งพลังอำนาจที่จะหยุดการกระทำอันบ้าบิ่นขององค์รักษ์ของตนได้ ยาโนะเองก็ไม่มั่นใจว่าพวกเขาสองคนจะหยุดมุนตะที่เชี่ยวชาญพื้นที่ได้ เขาตัดสินใจวิ่งยังทางฐานทัพของทีมสีแดง ทางชายตาเดียวนั้นก็ยังคงวิ่งตามมุนตะอยู่ หากทว่าเขาก็ต้องหยุดการไล่ล่าลงเพราะว่าเขาไม่สามารถหาตัวของมุนตะได้ เขากวาดสายตาไปรอบๆ แต่ไม่ว่ามองไปทางไหนก็ยังหาไม่เจอ ในขณะที่เขาย่ำเท้าเดินอย่างระมัดระวัง เขาก็มาหยุดอยู่ที่หน้าบ่อน้ำ อากิโตะก้มมองลงไปในบ่อน้ำ เขาไม่สามารถเห็นได้เลยว่าบ่อน้ำนั้นมีอะไรอยู่บ้าง ซึ่งบางทีคนที่เขาตามหาอยู่นั้นอาจจะซ่อนอยู่ในบ่อน้ำก็เป็นได้

“คงไม่ใช่ในบ่อน้ำหรอกมั้ง” อากิโตะพูดในขณะที่บ่อน้ำ

เขาหันกลับไปและมองไปทางอื่น แต่ในจังหวะนั้นเขาก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างมาจากบ่อน้ำที่อยู่เบื้องหลังตน เขาหันกลับมาก่อนจะเห็นมุนตะที่พุ่งขึ้นมาจากบ่อน้ำและอากิโตะหันกลับไปด้วยสีหน้าตกใจ มุนตะใช้ดาบแทงเข้าไปที่ชุดเกราะของอากิโตะ เช่นเดียวกันกับอากิโตะที่ใช้ดาบจะฟันเข้าไปที่ชุดเกราะของมุนตะ ดาบของทั้งคู่กระแทกเข้าไปที่ชุดเกราะของอีกฝ่ายนั่นแปลว่าทั้งคู่นั้น “ตาย” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เท้าของมุนตะเหยียบลงพื้นสีหน้าของเขานั้นดูเหมือนจะพอใจมาก แม้ว่าเขาเองก็ต้องเดินออกจากสนามแห่งนี้ ส่วนทางอากิโตะนั้นก็ได้แต่นั่งด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิด เพราะการกระทำอันบ้าคลั่งทำให้ทัพสีฟ้านั้นใกล้เคียงกับความปราชัย นั่นแปลว่าในตอนนี้ทัพสีฟ้านั้นเหลือเพียงแค่ยาโนะคนเดียวเท่านั้น

ในขณะเดียวกันในนั้น ยาโนะซึ่งเป็นแม่ทัพก็เดินอย่างระมัดระวังเพื่อไปให้ถึงทัพของฝ่ายแดง เขากวาดสายตาทุกๆครั้งที่เขาก้าวเท้าไปข้างหน้า เขาไม่รู้เลยว่าจะมีใครหรืออะไรซ่อนอยู่ ในที่สุดเขาก็เห็นทัพของสีแดง ยาโนะเห็นเคนตะที่นั่งอยู่ ในมือของเขานั้นถือพัดและโบกด้วยสีหน้าสบายใจ ใกล้ๆตัวของเขามีดาบไม้ปักไว้อยู่บนพื้นๆ ในขณะที่ยาโนะสังเกตุการณ์อยู่หลังต้นไม้ เขาก็เห็นได้ว่ายูริโกะไม่ได้นั่งอยู่ด้วย “เธอหายไปไหนนะ?” ยาโนะยืนคิด หรือบางทีอาจจะเพราะกิ่งไม้ที่บังสายตาของเขาอยู่ก็เป็นได้ ยาโนะใช้มืออันเรียวบางของเขาขยับกิ่งไม้ที่บดบังสายตาเขาอยู่ หากทว่าในขณะที่เขาขยับกิ่งไม้ เสียงใบไม้ขยับนั้นทำให้ทหารของฝั่งสีแดงได้ยิน พวกเขาสองคนหันตรงมาทางยาโนะก่อนจะวิ่งมาพร้อมกับดาบไม้ที่อยู่ในมือ ยาโนะก้มหลบก่อนจะวิ่งตรงไปที่เคนตะที่นั่งอยู่ ยาโนะหยิบดาบของเขาออกมาก่อนจะแกว่งไปที่เคนตะ ดาบนั้นกระแทกเข้าไปที่เกราะของเคนตะเต็มๆ ใบหน้าของยาโนะนั้นเมื่อรู้ว่าดาบกระแทกเข้ากับชุดเกราะของเคนตะ สีหน้าของเขาก็เบิกบานขึ้นมาเพราะว่านั่นแปลว่าเขาชนะสงครามเล็กนี้แล้ว แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่เขาสังเกตได้คือใบหน้าที่ยิ้มแย้ของเคนตะ ราวกับว่าเขาไม่รู้สึกว่าตัวเองแพ้เลยแม้แต่น้อย ยาโนะมองขึ้นไปบนศีรษะของเคนตะก่อนจะเห็นเคนตะนั้นไม่ได้มีหมวกแม่ทัพอยู่ นั่นก็แปลว่าสงครามนี้ไม่ได้จบลง

ยาโนะรู้ทันทีว่าเขาตกหลุมพรางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าหากหมวกแม่ทัพนั้นไม่ได้อยู่ที่เคนตะแล้วละก็ มันต้องอยู่ที่ยูริโกะ แล้วคำถามว่ายูริโกะอยู่ที่ไหน ยาโนะรีบหันกลับไปก่อนจะกวาดสายตาหาเด็กสาววัย 10 ปี หากทว่าในขณะที่เขาหาอยู่นั้น เขาก็เห็นมุนตะที่อยู่ตรงหน้าเขา ยาโนะไม่ทันจะขยับดาบไม้ของเขา มุนตะก็ใช้มือของเขาปัดดาบของยาโนะกระเด็นออกไปก่อนที่จะใช้ดาบตีเข้าใส่ชุดเกราะของยาโนะ แรงกระแทกนั้นทำให้ยาโนะลงไปนั่งกับพื้น เมื่อยาโนะล้มลงไป พลุสีแดงก็ถูกจุดขึ้นเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าฝ่ายสีแดงเป็นผู้ชนะในสงครามนี้ เมื่อพลุถูกจุดขึ้นเด็กสาวอัจฉริยะก็เดินออกมาจากพุ่มไม้ เธอยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความพอใจ บนศีรษะของเธอนั้นสวมหมวกแม่ทัพที่ใหญ่เกินศีรษะของเธอด้วยซ้ำ เธอถอดหมวกออกก่อนจะวางลงพื้น

“ยาโนะ ในสงครามจริงๆนั้นไม่มีกฎกติกาหรอก และนี่ก็เป็นแบบจำลองสงคราม”
“ดังนั้นที่นี่ก็ไม่มีกฎกติกาเช่นกัน ใครจะเป็นแม่ทัพตอนไหนก็ได้ ตราบใดที่หมวกอยู่บนศีรษะของข้า” ยูริโกะพูด

ยาโนะไม่ได้ตอบอะไรก่อนจะโค้งให้กับเคนตะและเดินจากไปเงียบๆ ส่วนทางยูริโกะนั้นก็ดูเหมือนจะพอใจกับชัยชนะครั้งนี้สุดๆ

=====

ณ ทางกลับไปยังแคว้นทังโกะ ยาโนะและอากิโตะขี่ม้าเดินกลับไปอย่างไม่รีบร้อน สีหน้าของอากิโตะนั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเพราะว่าเป็นเพราะเขาเองที่ทำให้เจ้านายของเขาพ่ายต่อ “สงครามเล็ก” ความพ่ายแพ้ครั้งนี้แม้จะไม่ได้ทำให้สูญเสียอะไรเว้นแต่ศักดิ์ศรี แต่สำหรับซามูไร ศักดิ์ศรีนั้นเป็นอะไรที่สำคัญมาก ถ้าหากเป็นไปได้อากิโตะอยากจะลงไปคว้านท้องของตัวเองตรงนี้เลยด้วยซ้ำ แต่แน่นอนว่ายาโนะไม่ยอมให้เกิดขึ้นแน่ๆ

“ไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอกอากิโตะ...เจ้าไม่ต้องกังวลไป” ยาโนะหันกลับมาพูดกับชายตาเดียว
“แต่ว่าเพราะข้า ทำให้ท่านต้องแพ้นะ แล้วถ้าหากมีข่าวออกไปว่าท่านแพ้เด็กอายุ 10 ขวบ”
“มันจะทำให้เสียชื่อเสียงขนาดไหน...ในฐานะที่ข้าเป็นองค์รักษ์ของท่าน ข้าต้องรับผิดชอบเรื่องนี้” อากิโตะพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

ยาโนะได้ยินก็หัวเราะ เสียงหัวเราะนี้ทำให้อากิโตะสงสัยว่าเจ้านายของเขาหัวเราะอะไร?

“ข้ารู้อยู่แล้วล่ะว่ายูริโกะวางแผนไว้แบบนี้” ยาโนะพูดขึ้นมา
“ท่านรู้?” อากิโตะถามด้วยแววตาสงสัย
“ข้าดูท่าทีของท่านเคนตะที่ดูเหมือนไม่มีการเตรียมพร้อมเลย ข้าก็รู้แล้วว่ายูริโกะต้องวางกับดักอะไรข้าแน่ๆ”
“และดูเหมือนข้าก็จะไม่ผิดนะ” ชายหน้าหวานพูดพลางยิ้ม
“แล้วถ้าหากท่านรู้แล้ว ท่านจะวิ่งเข้าไปทำไม?” อากิโตะถามถึงการกระทำของนายตัวเอง
“เพราะข้าไม่เห็นว่าการชนะเด็กอายุ 10 ขวบมันน่าดีใจตรงไหน” ยาโนะบอกเหตุผล
“นางเป็นเด็กที่มีหนทางอีกยาวไกล และถ้าหากนางแพ้ข้า ข้าก็ไม่มั่นใจว่ากำลังใจของเธอจะถูกทำลายรึเปล่า”
“และข้าก็ไม่อยากจะทำลายเส้นทางของเธอ” ยาโนะพูดพลางควบม้าไปข้างหน้า

อากิโตะได้ยินก็ไม่ได้พูดอะไร แม้ว่าสงครามเล็กนั้นจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของยาโนะและอากิโตะ แต่สงครามที่กำลังจะขึ้นที่แคว้นฮิดะนั้น พวกเขาจะแพ้ไม่ได้...เพื่อเมโกะ...และเพื่อตัวเขาเอง
ขึ้นไปข้างบน Go down
onemanshow
Jobber
Jobber
onemanshow


จำนวนข้อความ : 16
Join date : 02/11/2014

Sengoku : 34 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Sengoku : 34   Sengoku : 34 EmptySun Nov 09, 2014 5:50 pm

ผมสงสัยครับไรเตอร์ ผมอ่านมาตัวละครที่โดนพูดถึงต่างก็จะปรากฎตัวในอีก ตอนหรือสองตอน เเล้วไอ่ตัวละครฝรั่งที่พูดถึงก่อนหน้านั้นมันหายไปไหนครับ
ขึ้นไปข้างบน Go down
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Sengoku : 34 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Sengoku : 34   Sengoku : 34 EmptySun Nov 09, 2014 8:10 pm

ยังไม่ได้วางให้ปรากฏตัวในช่วงตอนนี้ครับ คิดว่าน่าจะปรากฏตัวมาก็น่าจะอีกตอนสองตอนครับ
ขึ้นไปข้างบน Go down
onemanshow
Jobber
Jobber
onemanshow


จำนวนข้อความ : 16
Join date : 02/11/2014

Sengoku : 34 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Sengoku : 34   Sengoku : 34 EmptySun Nov 09, 2014 9:59 pm

อ่อผมเห็นบางตัวมีเเต่ชื่อเลยสงสัย
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Sengoku : 34
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: