Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Shining in the Darkness : EP 18

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Shining in the Darkness : EP 18 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Shining in the Darkness : EP 18   Shining in the Darkness : EP 18 EmptySun Dec 20, 2015 11:34 pm

“ที่นี่แหละ” ไคแรนต้าพูดขึ้น

หน้าของโดเมนิกนั้นเป็นบ้านเล็กๆ มันเป็นบ้านสองชั้นเหมือนบ้านหลังอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสีของผนังหรือสีของหลังคา แม้จำนวนหน้าต่างก็เท่าๆกันกับบ้านหลังอื่นๆ โดเมนิกนึกสงสัยเหมือนกับว่าไคแรนต้าจำได้อย่างไรว่าบ้านหลังไหนคือบ้านของตัวเอง อาจจะเพราะเธออาศัยอยู่ที่นี่นานก็เป็นได้ เธอจึงสามารถจำได้ว่าที่พักของเธออยู่ที่ใด ด้วยเวลาหลายปีมันอาจจะทำให้สมองหญิงผมน้ำตาลนี้สามารถจำได้อย่างอัตโนมัติ เชื่อเถอะถ้าให้โดเมนิกมาอยู่ที่นี่ล่ะก็เขาคงไม่สามารถแยกออกได้อย่างแน่นอนว่าบ้านหลังไหนเป็นหลังไหน แต่ถ้าผ่านไปนานๆล่ะก็ เขาก็คงสามารถจำได้แหละว่าบ้านของตัวเองอยู่ตรงไหน

หญิงผมน้ำตาลเปิดประตูบ้านของตัวเอง เมื่อประตูไม้ถูกเปิดออกก็ทำให้เห็นสภาพภายในบ้าน มันเป็นบ้านแคบๆที่มีโต๊ะไม้ตั้งอยู่กลางห้อง ใกล้ๆนั้นมีห้องครัวเก่าๆอยู่ บ้านนั้นแคบมาก ด้วยจำนวนแขกที่มาเยือนแล้วมันทำให้บ้านหลังนี้ดูแออัดไม่น้อย ลูกสาวของฟาร์เรลล์เดินขึ้นไปชั้นสอง ในขณะที่เธอเดินลับหายไปจากสายตาของทั้งสี่นั้น มันก็เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนทั้งสี่ได้กวาดสายตามองไปรอบๆบ้าน มันเป็นบ้านที่ไร้สีสันนอกจากสองอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นอีกเลย ไม่นานนักทั้งสี่ก็ได้ยินเสียงของฝีเท้าใครบางคนเดินลงมาข้างล่าง

“ดูเหมือนพ่อชั้นจะยังไม่กลับมาแฮะ” หญิงผมน้ำตาลพูดขึ้นมา
“แล้วท่านฟาร์เรลล์ไปไหนงั้นหรือ?” โดเมนิกถามกลับ
“พ่อข้าไปทำงานน่ะ” ไคแรนต้าเดินมาก่อนจะนั่งลงไปยังเก้าอี้ไม้

โดเมนิกหันออกไปยังนอกหน้าต่าง นี่ก็เริ่มมืดแล้ว มันทำให้ชายผมขาวสงสัยว่าชายที่พวกเขามาหากำลังทำอะไรอยู่

“อย่าหาว่าข้าเสียมารยาทเลย ว่าแต่พวกท่านเป็นอะไรกับพ่อของข้าหรือ?” ไคแรนต้าเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าสงสัย

คำถามนี้ทำให้ผู้มาเยือนทั้งสี่มองหน้ากันเอง ถ้าหากจะพูดความจริงมันก็ง่ายอยู่หรอก แต่บางทีนั้นการพูดความจริงมันก็ไม่ได้ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อย่างเช่นถ้าหากทหารพึ่งพื้นมาจากสงคราม แล้วถามว่าสงครามเป็นยังไงบ้าง? ถ้าเราบอกไปว่าเราแพ้ซึ่งเป็นความจริงนั้น มันอาจจะทำให้ร่างกายของชายคนนี้ทรุดลงไปอีก บางทีการโกหกนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดก็เป็นได้ ทั้งสี่เงียบก่อนจะมองหน้ากัน เป็นการส่งสัญญาณบอกให้คนที่ถูกจ้องหน้าเป็นคนหาทางแก้ปัญหานี้ หญิงผมน้ำตาลไม่ได้พูดอะไร แต่เธอเองก็รอฟังคำตอบจากแขกผู้มาเยือนอยู่

“ดิชั้นได้ยินจากท่านโดเมนิกว่าเจ้าอ่านหนังสือไม่ออก? จริงหรือเจ้าคะ?” โดโรธีเปลี่ยนประเด็น
“ใช่ ข้าไม่โดดเรียนบ่อยๆ จึงทำให้ข้าอ่านหนังสือไม่ออก..ทำไมเจ้าถึงถามข้าเช่นนี้ล่ะ?” ไคแรนต้าตอบพร้อมกับถามกลับ
“ตอนแรกๆท่านโดเมนิกก็จะอธิบายให้เจ้าฟังหรอก แต่ดิชั้นคิดว่าคนที่โง่ขนาดคิดว่าหนังสือไม่สำคัญ”
“อธิบายไปก็คงไม่เข้าใจหรอกเจ้าคะ” หญิงหูจิ้งจอกยิ้มเยาะ

ประโยคนี้ทำให้หญิงผมน้ำตาลลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ที่ตัวเองนั่งด้วยความโมโห

“เจ้าว่าไงนะ!!” เธอชี้หน้าโดโรธีที่กำลังยืนยิ้มเยาะอยู่
“เจ้ามีดีกว่าข้าหรืออย่างไร เจ้าถึงมีสิทธิดูถูกข้าแบบนี้”
“อย่างๆน้อยดิชั้นก็ยังอ่านหนังสือออกแหละเจ้าคะ” โดโรธีพูดด้วยน้ำเสียงเย้อหยัน

ประโยคนี้เป็นเหมือนเชื้อเพลิงแห่งความพิโรธมอดขึ้นกว่าเดิม เธอกำหมัดแน่น เธอพยายามจะหาคำโต้แย้ง แต่ไม่ว่าจะคิดเข้าไปลึกขนาดไหน เธอก็ไม่สามารถหาคำโต้แย้งกลับมาได้ โดเมนิกลุกขึ้นมาก่อนจะโค้งให้กับหญิงผมน้ำตาลที่ถูกดูถูกในเรื่องของสติปัญญา

“ต้องขอโทษแทนโดโรธีด้วย...จริงๆ โดโรธี ไม่ได้ตั้งใจจะบอกว่าเจ้านั่นโง่เขลาหรอก”
“สิ่งที่โดโรธีกำลังหมายถึงนั้น คือเธอกำลังจะบอกว่ามันเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากเกินกว่าที่จะอธิบายได้น่ะ” โดมินิกพยายามแก้สถานการณ์

มันเป็นคำพูดที่ฟังดูไม่ขึ้นเท่าไหร่ แต่ไคแรนต้าก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากนั่งลงไปบนเก้าอี้ไม้ บ้านหลังนี้ถูกปกคลุมด้วยความเงียบอีกครั้ง ไม่นานนักประตูบ้านก็ถูกเปิดขึ้น ทุกสายตาหันไปยังต้นเสียง ก่อนที่ทุกคนจะเห็นชายผมน้ำตาลที่มีบาดแผลบนดวงตาของเขาขึ้นมาปรากฏตรงหน้า เขามองไปรอบๆด้วยสายตาฉงน เจ้าของบ้านมองไปรอบๆก่อนจะเห็นชายผมเขียวที่ยืนอยู่ เขาจำคนนี้ได้ ไม่ซิ บอกว่าจำได้อาจจะไม่ถูกนัก ต้องบอกว่าเขารู้จักชายคนนี้ดี ชายผมเขียวนามว่ามาร์คกับฟาร์เรลล์มองหน้ากันก่อนที่ทั้งคู่จะขานชื่อของอีกฝ่ายพร้อมๆกัน

=====

เด็กหญิงผมน้ำตาลร่างเล็กกำลังแกว่งกระบองไม้ของเธออยู่ กระบองของเธอนั้นกระแทกกับกระบองของคู่ซ้อมของเธอ สีหน้าของเธอนั้นมุ่งมั่นอยากจะชนะคู่ต่อสู้ของเธอให้ได้ เธอง้างกระบองไม้ของเธอ เตรียมจะแทงเข้าไปร่างของคู่ต่อสู้เธอ แต่เมื่อเธอรู้ตัวกระบองไม้ของอีกฝ่ายตีเข้าใส่มือของเธอ แรงกระแทกนั้นทำให้อาวุธที่ไคแรนต้าจับอยู่นั้นตกลงบนพื้นหญ้า ไม่ทันที่เธอจะได้หยิบอาวุธของตัวเองกลับขึ้นมา เธอก็ถูกกระบองไม้ของอีกฝ่ายหวดเข้าใส่เข่าของเธอ ไคแรนต้าล้มลงไปบนพื้นหญ้า หลังของเธอนั้นกระแทกลงไปกับพื้นดิน มันทำให้ไคแรนต้าร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ไม่ทันที่เธอจะได้ลุกมาคอของไคแรนต้าก็ถูกจ่อด้วยกระบองไม้จากคู่ต่อสู้ของเธอ

“นี่ก็ครั้งที่ 84 แล้วนะ ที่เธอชนะชั้นไม่ได้” หญิงผมสีขาวที่มีหูแมวปรากฏออกมาจากเส้นผมของเธอพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“ข้าไม่ยอมแพ้หรอกน่า...คริสตัล” ไคแรนต้าพยุงตัวขึ้นมาจากพื้น
“เธอนี่นะ ไม่ยอมแพ้เลยจริงๆ เอาเถอะ ถ้าไม่ยอม ชั้นก็จะยังเป็นคู่มือให้” หญิงผมขาวนามว่าคริสตัลพูดก่อนจะตั้งกระบองไม้ของเธออีกครั้ง

เวลาผ่านไป ตะวันเริ่มจะตกดิน เด็กหญิงที่ชื่อไคแรนต้านอนอยู่บนพื้นหญ้า บนหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยรอยถลอกมากมาย ส่วนใกล้ๆกับเธอนั้นก็มีหญิงผมขาวในชุดสีน้ำเงินนามว่าคริสตัลยืนอยู่ แม้ใบหน้าของผู้หญิงคนนี้นั้นจะมีเหงื่ออาบใบหน้าของเธอ แต่ต่างกับไคแรนต้าที่นอนหมดสภาพอยู่บนพื้น นั่นคือใบหน้าของเธอนั้นไร้ซึ่งรอยขีดข่วน คริสตัลใช้มืออันเรียวบางของเธอปาดเหงื่อของตัวเอง ก่อนจะมองหน้าของอีกฝ่ายที่นอนอยู่บนพื้น

“ถ้ารวมแล้วนี่น่าจะรอบที่ 100 ได้แล้ว..เจ้าจะยอมรึยัง?” คริสตัลเอ่ยปากถาม
“ยะ ยัง ข้ายังไม่ยอม ข้าต้องการจะชนะเจ้าให้ได้” หญิงที่ชื่อไคแลนต้าพูดพร้อมกับพยุงตัวขึ้น

แต่ด้วยสภาพร่างกายที่ยับเยินจึงทำให้เธอล้มลงไปอีกครั้ง หญิงผมขาวยื่นมือมาให้กับไคแรนต้าที่นอนอยู่บนพื้น หญิงผมน้ำตาลมองก่อนจะคว้ามือของเธอไว้

“มีความพยายามนะ แต่คงต้องใช้เวลาร้อนปีถึงจะชนะชั้นได้” หญิงผมสีขาวพูดด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มของเธอนั้นทำให้เห็นเคี้ยวในปากของเธอ
“คอยดูเถอะ...ข้าจะชนะเจ้าให้ได้ ซักวัน” ไคแรนต้าพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บใจ
“จ้าๆ”

คริสตัลเป็นเหมือนกับหญิงที่เก่งที่สุดในเมืองนี้ ไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน ทำไมการแต่งตัวดูต่างจากคนทั่วๆไป ทำไมสำเนียงการพูดต่างกับคนอื่น ไม่มีใครรู้ แต่เหล่านักสู้ในเมืองนี้ต่างมีเป้าหมายเดียวกัน นั่นก็คือการเอาชนะหญิงที่ชื่อคริสตัลนี่ให้ได้ หญิงผมน้ำตาลที่สภาพสะบักสะบอมเดินกลับมายังบ้านของตัวเอง เธอเปิดประตูบ้าน เธอเห็นแม่ของตัวเองกำลังยืนปรุงอาหารอยู่ เมื่อประตูบ้านถูกเปิด ผู้เป็นแม่ก็หันไปยังต้นเสียงก่อนจะหันไปยังลูกสาวของตัวเองที่ร่างกายมอมแมม สีหน้าของเธอไม่ตกใจนัก เพียงแต่เอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“ไปดวลกับคริสตัลมางั้นหรือ?”
“ใช่ ข้าไปดวลกับคริสตัลมา” ผู้เป็นลูกตอบด้วยความสัจจริง
“แพ้?” ผู้เป็นแม่ถามต่อสั้นๆ

ลูกสาวได้แต่พยักหน้าตอบ ผู้เป็นแม่ยิ้มให้ก่อนจะตักซุปออกมาจากหม้อและใส่ลงไปในชาม เธอวางไว้บนโต๊ะ ผู้เป็นลูกใช้ช้อนตักซุปเข้าปาก มันเป็นซุปที่มีรสชาติจัด แม่ของไคแลนต้านั้นเป็นคนที่ชอบทำซุปรสจัดมาก มันเป็นรสโปรดของพ่อ เมื่อซุปนั้นหมด เธอก็กระดกน้ำจากแก้ว แม่วางซุปอีกชามไว้บนโต๊ะ ผู้เป็นลูกรู้ว่าซุปนี้ไม่ได้ไว้ให้เธอ แต่ไว้ให้คนอื่น ไคแลนต้าคว้าซุบถ้วยนี้ก่อนจะเดินขึ้นบันได เมื่อขึ้นบันไดมานั้นก็เจอห้องอยู่สามห้อง เธอเปิดประตูห้องนึง ก่อนที่จะเห็นชายผมน้ำตาลนอนอยู่ ทั้งตัวของเขานั้นเต็มไปด้วยผ้าพันแผล บนเตียงนั้นเต็มไปด้วยคราบเลือด เขาหันมามองผู้เปิดประตูก่อนจะเอ่ยปากขึ้นมา

“กลับมาแล้วหรือ?” ฟาร์เรลล์เอ่ยปากถาม
“ค่ะ” ผู้เป็นลูกตอบก่อนจะวางซุปลง

ไคแรนต้าจับผู้เป็นพ่อนั่งก่อนที่จะวางไว้ถ้วยไว้ใกล้ๆ เธอลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆก่อนจะเริ่มตักซุปเข้าปากพ่อของตัวเอง ผู้เป็นพ่อกลืนลงไป

“วันนี้เจ้าไปสู้กับคริสตัลมาหรือ?” ฟาร์เรลล์เอ่ยปากถาม
“ใช่...ข้าแพ้เหมือนเดิม ข้าสงสัยจริงๆนะว่านางทำยังไงถึงได้เก่งขนาดนี้” ผู้เป็นลูกตอบด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ

ฟาร์เรลล์เงียบ ลูกสาวยังคงป้อนอาหารเย็นให้พ่อของตัวเองต่อไป

“เอางี้ไหม...ถ้าพ่อหายดีแล้ว พ่อจะช่วยฝึกลูก ให้ลูกชนะคนที่ชื่อคริสตัลนี่ได้”
“จริงหรือคะ?” ไคแรนต้าได้ยินแล้วก็ทำให้ดวงตาของเธอเปล่งประกาย
“แน่นอน ข้าจะฝึกเจ้า แต่ให้ข้าหายดีก่อนละกัน” ผู้เป็นพ่อยิ้มก่อนจะลูปหัวของลูกสาวตัวเอง

=====

ทุกอย่างนั้นมืดสนิท นี่ก็วิกาลแล้ว หญิงผมน้ำตาลนอนอยู่บนเตียงที่แออัด เพราะใกล้ๆนั้นมีโดโรธีนอนอยู่ด้วย มันทำให้ไคแรนต้านอนไม่หลับ จริงๆก่อนหน้านี้มีโรซารี่นอนอยู่ด้วย แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอไปไหน ไคแรนต้าลุกออกมาจากเตียงก่อนจะเดินลงมาข้างล่าง บางทีที่เธอนอนไม่หลับ อาจจะเพราะเรื่องที่รู้ถึงเบื้องหลังของพ่อเธอก็ได้ แม้มันจะน่าประหลาดใจเพียงใด แต่ไคแรนต้าก็กลับไม่รู้สึกตกใจนัก เธอไม่รู้สึกตกใจที่พ่อของเธอเคยรับใช้จอมมารอเล็กซิมัสมาก่อน เธอไม่ตกใจที่พ่อของเธอแปลงเป็นมังกรได้

“พรุ่งนี้เราก็คงต้องจากที่นี่แล้วซินะ” หญิงผมน้ำตาลในชุดนอนของตัวเองพูด

พรุ่งนี้เธอกับพ่อของเธอจะออกเดินทางไปพร้อมๆกับ “แขก” ที่มาเยือนในวันนี้ จะมีอะไรรออยู่นะ? เมื่อเธอเดินลงมาข้างล่างนั้นเธอก็เห็นเงาของใครบางคน ประตูนั้นถูกเปิดอยู่ ด้วยแสงจันทร์นั้นมันทำให้เธอเห็นหน้าของเจ้าของเงานั่น มันเป็นเงาของหญิงผมสีขาว เธอรู้ทันทีว่าหญิงคนนี้เป็นใคร แต่เธอไม่ได้อยู่คนเดียว เพราะเธอกำลังอุ้มเด็กหนุ่มผู้บอบบางอยู่ด้วย นั่นคือโดเมนิก หญิงผมสีขาวคนนี้รีบวิ่งออกไป

“เดี๋ยว!!” ไคแรนต้าตะโกนก่อนจะรีบคว้าเอากระบองไม้ของเธอขึ้นมา

เธอวิ่งตามหญิงคนนี้ไปก่อนที่เธอจะหยุดลงอยู่ที่นึง เธอปล่อยของในมือตัวเอง มันทำให้ร่างของโดเมนิกที่โดนปิดปากและมัดมือมัดเท้าอยู่กระแทกกับพื้น

“ดูซิว่าชั้นเจอใคร” หญิงคนนี้พูดก่อนจะหันมา

มันเป็นใบหน้าของหญิงผมสีขาวในชุดสีน้ำเงิน มันเป็นชุดเดิมที่เธอสวม ดวงตาของเธอแมว หูแมวสีขาวของเธอนั้นกระดิกไปตามสายลม เธอใช้ลิ้นเลียริมฝีปากของเธอ ไคแลนต้ามองหน้าของคู่ต่อสู้ของเธอ เธอเดาไม่ผิดเลย

“เจอกันอีกแล้วนะ...คริสตัล” หญิงผมน้ำตาลพูดพร้อมกับตั้งท่าของเธอ

=====

ณ ขณะเดียวกันที่ป้อมปราการของชาลตั้น เขาเดินลงมายังหน้าประตูป้อมที่เปิดช้าๆ เขาได้รับแจ้งมาว่าวันนี้วัลดัสและอาร์เบอโร่จะมาเยี่ยมเขาด้วย ไม่รู้ว่าทำไมแต่ถ้าสหายของเขาจะมา มันคงเป็นธุระด่วนไม่น้อย เพราะแม้นี่จะค่ำแล้ว แต่เหล่าผู้กล้าทั้งสองก็ยังคงมาที่นี่ ชาลตั้นรอต้อนรับ เมื่อเปิดมานั้น ชายผมหยิกก็เห็นวัลดัสและอาร์เบอโร่เดินเข้ามา เบื้องหลังของเขานั้นมีทหารมากมายเดินตามมาด้วย เหล่าผู้กล้าทั้งสองเดินเข้ามาหาชาลตั้นก่อนที่จะยื่นมือมาหาชาลตั้น ชายผมดำจับมือกับชายทั้งสอง ด้วยรอยยิ้มก่อนที่ชาลตั้นจะเอ่ยปากถาม

“พวกเจ้ามาหาข้ามีธุระอันใดหรือ?” ชาลตั้นเอ่ยปากถาม
“ข้าได้ยินอะไรมานิดๆหน่อย” อาร์เบอโร่พูดขึ้น
“เรื่องที่ว่าคือเรื่องอะไรหรือ?” เจ้าของป้อมปราการนี้เอ่ยปากถาม
“ข้าได้ยินมาว่า...เจ้าปล่อยโรซารี่และมาร์คไป และเจ้าหักหลังพวกเรา จริงหรือ?” อาร์เบอโร่ถาม

คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของชาลตั้นแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด เขาได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากข้างหลัง ก่อนที่เขาหันไปก่อนจะเห็นเหล่าทหารส่วนนึงของเขาเชือดคอทหารอีกส่วน ชาลตั้นหันกลับมาก่อนจะถูกอาร์เบอโร่ใช้มีดของเขาแทงเข้าไปที่ร่างของชาลตั้น ความเจ็บปวดนั้นไหลเข้าไปทั่วร่างกาย ชายผมทองดึงมีดออกก่อนจะแทงเข้าใส่อีกครั้ง ชาลตั้นมองหน้าของอาร์เบอโร่ เลือดนั้นไหลออกจากปากแผลก่อนจะหยดลงพื้นหญ้า ดวงตาของอาร์เบอโร่นั้นเต็มไปด้วยความเครียดแค้นและความโกรธเกรี้ยว

“เพื่อโบนีต้า” ชายผมบลอน์ดกระซิบ

เขาดึงมีดออกมาก่อนจะปล่อยให้ร่างของชาลตั้นตกกระทบกับพื้น เลือดนั้นไหลนอนไปทั่ว

“วัลดัส...เผาที่นี่ซะ”
“รับทราบ” วัลดัสตอบด้วยรอยยิ้มพร้อมกับจุดเพลิงออกจากมือของเขา
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Shining in the Darkness : EP 18
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Shining in the Darkness : EP 4
» Shining in the Darkness : EP 20
» Shining in the Darkness : EP 5
» Shining in the Darkness : EP 21
» Shining in the Darkness : EP 17

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: