Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Amnesiac EP 5

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Amnesiac EP 5 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Amnesiac EP 5   Amnesiac EP 5 EmptyWed May 31, 2017 1:15 pm

ดวงตาของชายผมขาวเปิดขึ้นช้าๆ สายตาของเขานั้นยังคงพร่ามัว เขาสัมผัสได้ถึงแสงที่แยงดวงตาของเขา ภาพของที่เขาเห็นเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เขาอยู่ในห้องนอนแห่งหนึ่ง มันไม่ใช่ห้องนอนของเขา และไม่ใช่ในโรงพยาบาลของมาร์ตี้ เขาลุกขึ้นมาช้าๆ เขามองไปรอบๆก่อนจะเห็นเครื่องเรือนที่ดูหรูหราและดูมีราคาแพง เตียงเขานอนอยู่นั่นเป็นเตียงที่นุ่มมาก นุ่มกว่าที่นอนของเขาหลายร้อยเท่า ชายผมขาวพยายามลุกขึ้นมา แต่เขารู้สึกถึงความเจ็บปวด เรซอร์ก้มมอลงไปบริเวณหน้าท้องของตัวเอง เขาเห็นผ้าพันแผลพันร่างของเขาไว้ เมื่อเห็นผ้าพันแผล มันก็ทำให้เรซอร์จำได้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น เขาจำได้ว่าเขาผลักร่างขององค์ราชินีเพื่อรับกระสุนแทน

“พื้นแล้วหรือ” เรซอร์ได้ยินเสียงอันคุ้นเคย

เรซอร์หันไปตามเสียงก่อนจะเห็นมาร์ตี้ยืนอยู่

“รู้สึกแปลกๆไหมล่ะว่าเจ้าพื้นมาเจอหน้าข้าอีกแล้ว” ชายผมสีทรายเอ่ยปากแซว

ประโยคทำให้เรซอร์ยิ้มออกมาก่อนที่ชายผมขาวจะหุบยิ้มและเอ่ยปากถาม

“แล้วพวกคิโดร่าล่ะ?”
“ถอยทัพไปแล้วล่ะ อาณาจักรกราเดลเป็นฝ่ายชนะ” มาร์ตี้ตอบคำถามของเรซอร์

ประโยคนี้ทำให้ชายผมขาวถอนหายใจด้วยความโล่งอกพร้อมกับฉีกยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุข

“จะว่าไป เจ้าจำอะไรได้รึเปล่า?” มาร์ตี้เอ่ยปากถาม
“ข้าจำได้แค่ว่าข้ารับกระสุนแทนองค์ราชินี” ชายผมสีขาวตอบ
“แล้วเจ้าจำได้รึเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น?” คุณหมอถามต่อ

เรซอร์ส่ายหน้า

“ฟังแล้วอย่าตกใจนะ”
“เจ้าน่ะเป็นคนที่ทำให้อาณาจักรกราเดลชนะศึกนี้” มาร์ตี้เล่าให้ฟัง
“ห๊ะ” เรซอร์อุทานออกมาด้วยสีหน้าฉงน

“ข้าว่าท่านมาร์ตี้ต้องเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ ไม่มีทางหรอกที่คนธรรมดาอย่างข้าจะทำอย่างงั้นได้” เรซอร์เอ่ยขึ้น
“ข้าเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่องค์ราชินีเล่าให้ฟังว่าเจ้าอัญเชิญสัตว์มากมายและควบคุมให้สัตว์เล่านั้นกัดกินร่างของพวกคิโดร่า” ชายผมสีทรายที่เส้นผมยาวถึงกลางหลังเล่าให้ฟัง

ประโยคนี้ยิ่งทำให้เรซอร์ฉงนมากกว่าเดิม สิ่งที่ออกมาจากปากของมาร์ตี้นั้นเป็นอะไรที่ดูไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย แต่ถึงกระนั้นเรซอร์ก็ไม่ได้ตั้งคำถามอะไร

“ว่าแต่ตอนนี้ข้าอยู่ที่ไหน?” ชายผมขาวเปลี่ยนประเด็น
“ที่นี่น่ะหรือ? ที่นี่คือราชวังแห่งอาณาจักรกราเดล รู้ไหมว่าเจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?” มาร์ตี้ตอบพร้อมกับตั้งคำถามขึ้นมา

เรซอร์ส่ายหน้าให้กับมาร์ตี้

“ราชินีคาสซานดร้าอุ้มเจ้ามาน่ะ พระองค์อุ้มเจ้าเข้ามาในเต้นท์ พร้อมกับตะโกนเรียกให้หมอมาดูเจ้า”
“มันเป็นภาพที่ประหลาดตามากเลยรู้ไหม” มาร์ตี้เล่าพร้อมกับแสดงความคิดเห็น
“แล้วมือสังหารคนนั้นล่ะ?” เรซอร์ถามถึงเจโน่
“อ่อ เจโน่หรือ? ข้าได้ยินว่าตอนนี้นางอยู่ในคุกของวังน่ะ” ชายผมสีทรายตอบกลับ

“ข้าว่าข้าคุยกับเจ้ามากเกินไปแล้ว เจ้าพักก่อนจะดีกว่า”
“ขอบคุณท่านมาร์ตี้มาก”

มาร์ตี้เดินออกไปจากห้องก่อนจะเปิดประตูและเดินออกไป ชายผมขาวหนุนศีรษะตัวเองลงกับหมอน ในหัวของเขานั้นเต็มไปด้วยความสับสน ประโยคที่มาร์ตี้พูดเกี่ยวกับเขานั้นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ ตัวเขาเนี่ยนะจะมีพลังอะไรขนาดนั้น? แต่ถึงกระนั้นมาร์ตี้ก็ไม่มีอะไรที่จะกุเรื่องขึ้นมา ชายผมขาวยื่นมือข้างหน้าก่อนจะมองมือของเขา มือที่ขาวเนียน ไร้ซึ่งบาดแผลหรือรอยขีดข่วน

“หรือนี่จะเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำเราที่หายไปกันนะ?” เรซอร์พูดกับตัวเอง

=====

คาสซานดร้านั่งอยู่บนบัลลังค์ ขนาบข้างของเธอนั้นมีบิลลี่และแฟลมม่า ในท้องพระโรงมีทหารจำนวนมากยืนเรียงกันอยู่ บนพื้นนั้นมีเจโน่ที่คุกเข่าอยู่ มือของเธอนั้นถูกผูกไว้ด้วยกัน คาสซานดร้ามองไปยังเจโน่ เช่นเดียวกันกับเจโน่ เธอเองก็มองใบหน้าของคาสซานดร้าอยู่เหมือนกัน ใบหน้าของเจโน่นั้นไร้ซึ่งความกลัวเลยแม้แต่น้อย แม้ตัวเธอจะรู้ว่าในตอนนี้ชีวิตของเธอนั้นเข้าใกล้ความตายขนาดไหน

“เจโน่ รัน นักฆ่าจากอาณาจักรคิโดร่า ตามโทษแล้ว เจ้าคงจะต้องถูกประหาร” คาสซานดร้าพูดกับนักโทษของตนเอง
“แต่ว่าข้าเห็นว่าเจ้าเป็นคนที่มีฝีมือ ข้าจึงอยากเสนอให้เจ้ามาทำงานกับพวกเรา” องค์ราชินีเอ่ย
“ข้าขอปฏิเสธ” เจโน่ตอบอย่างรวดเร็ว

ประโยคนี้ทำให้ดวงตาของคาสซานดร้าและคนอื่นๆในห้องเบิกโพลน มันถือเป็นคำตอบที่แปลก ถ้าหากมีใครหยิบยื่นโอกาสที่จะให้มีชีวิตอยู่ต่อ คนส่วนมากนั้นมักจะรับโอกาสนี้อยู่แล้ว แต่ทว่าหญิงผมทรงทวินเทลผู้นี้ปฏิเสธ

“เพราะเหตุใด?” องค์ราชินีเอ่ยปากถาม
“ข้าคิดว่าท่านไม่คู่ควรที่จะเป็นนายของข้า” เจโน่ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“เจ้า!!” แฟลมม่าได้ยินดังนั้นก็ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด

คาสซานดร้ายกมือห้ามหญิงผมแดงไว้ ใบหน้าของแฟลมม่านั้นแสดงให้เห็นว่าเธอโมโหกับสิ่งที่ออกมาจากปากของเจโน่ คาสซานดร้าลดมือของตนเองลงก่อนจะหันกลับมาหาเจโน่ที่คุกเข่าบนพื้น

“ข้าจะให้เจ้าคิดดีๆอีกสัปดาห์ ทหารนำตัวเจโน่กลับไปขัง”

ทหารสองคนเดินมาหาเจโน่ แต่เจโน่นั้นลุกขึ้นมาเองโดยไม่จำเป็นต้องให้ทหารสองคนนี้ช่วย เธอหันหลังก่อนจะเดินออกจากท้องพระโรงพร้อมกับทหารสองคนนั้น ในขณะที่เจโน่เดินออกไป เธอก็เดินสวนกับมาร์ตี้ที่เดินเข้ามายังท้องพระโรง ชายผมสีบลอนด์เดินตรงมายังองค์ราชินีที่นั่งอยู่บนบัลลังค์ก่อนจะคุกเข่าให้กับนาง

“พระองค์ เรซอร์พื้นแล้วพะยะค่ะ” มาร์ตี้รายงาน
“งั้นหรือ? ตอนนี้ข้าสามารถเยี่ยมเขาได้ไหม?” คาสซานดร้าเอ่ยปากถาม
“กระหม่อมไม่มั่นใจว่าตอนนี้เรซอร์หลับอยู่ไหม แต่ถ้าหากพระองค์อยากจะเยี่ยมเรซอร์ พระองค์ก็สามารถทำได้พะยะค่ะ” มาร์ตี้ตอบ

คาสซานดร้าลุกขึ้นจากบัลลังค์ของเธอ เธอหันไปบอกมือซ้ายและมือขวาของเธอว่า “เดี๋ยวกลับมา” คาสซานดร้าเดินตรงออกจากท้องพระโรง เธอเดินไปเรื่อยๆด้วยความไม่รีบร้อนอะไร ก่อนที่เธอจะเดินมาถึงห้องหนึ่ง เธอยื่นมือไปก่อนจะใช้มือเคาะประตูห้อง คาสซานดร้าเปิดประตูช้าๆ เธอเปิดไปก่อนจะเห็นเรซอร์ที่นั่งบนเตียง เมื่อชายผมขาวเห็นองค์ราชินีมาเยี่ยมตนนั้นเขารีบก้มโค้งให้กับคาสซานดร้าทันที องค์ราชินียิ้มอ่อนๆให้ก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง เธอปิดประตูห้องและลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆกับเรซอร์ที่นั่งอยู่บนเตียง

“เจ้าเป็นยังไงบ้าง?” คาสซานดร้าเอ่ยปากถาม
“กระหม่อมยังคงรู้สึกเจ็บบริเวณแผลอยู่นิดหน่อย แต่หากกระหม่อมไม่ขยับก็คงไม่เป็นอะไรมาก”
“ต้องขอบคุณพระองค์มากที่พระองค์ช่วยกระหม่อมไว้” เรซอร์พูดพร้อมก้บโค้งให้กับหญิงผมดำผู้มีใบหน้าสุขุม

ประโยคนี้ทำให้เธอหลับตาลงพร้อมกับยิ้ม

“ไม่ล่ะ คนที่ขอบคุณควรจะเป็นข้ามากกว่า เจ้าไม่ได้ช่วยข้าแค่ครั้งเดียว แต่เจ้าช่วยข้าถึงสองครั้ง”
“เจ้ารับกระสุนแทนข้า เจ้าอัญเชิญอสูรมาช่วยให้ข้าปกป้องอาณาจักรกราเดลไว้ได้”
“ข้าต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ” คาสซานดร้าพูดพร้อมกับก้มโค้งให้เรซอร์

“เอ๊ะ?! พระองค์ไม่ควรก้มหัวให้กระหม่อมนะ กระหม่อมเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น” เรซอร์พูดด้วยน้ำเสียงตกใจ
“แต่เจ้าช่วยข้าไว้ อีกอย่างในห้องมีแค่เราสองคน ถ้าเจ้าไม่เล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครรู้ใช่ไหมล่ะ?” คาสซานดร้ายิ้มให้กับเรซอร์

ชายผมขาวยิ้มแห้งๆกลับไป คาสซานดร้าลุกขึ้นมาจากที่นั่งของเธอ เธอเดินตรงไปยังประตู มือของเธอจับลูกบิดห้องและจะเดินออกไป แต่ไม่ทันที่เธอจะบิดประตู องค์ราชินีก็หันมายังเรซอร์

“อ่อใช่ ข้าได้ยินจากมาร์ตี้ว่าเจ้าสูญเสียความทรงจำ”
“ข้าจะให้วาริสช่วยเจ้าก็แล้วกัน” คาสซานดร้าพูดด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง
“ขอบพระทัยฝ่าบาท” เรซอร์ก้มโค้งให้กับหญิงผมดำ

คาสซานดร้าเดินออกจากห้อง เธอเดินตรงกลับไปยังท้องพระโรงของตัวเอง หญิงผมดำกลับไปนั่งบัลลังค์ของตัวเอง ในขณะที่เธอนั่งอยู่นั้นทหารคนหนึ่งก็ตรงเข้ามาและคุกเข่าหน้าของเธอ

“พระองค์ โซรัน เฟรย์กลับมาแล้วพะยะค่ะ” ทหารคนนี้รายงาน
“ให้นางเข้ามาได้” คาสซานดร้าตอบทหารคนนี้

ทหารคนนี้พยักหน้าก่อนจะวิ่งออกไป ไม่นานนักประตูก็ถูกเปิดขึ้น หญิงร่างกายสมส่วนเดินเข้ามา เธอสวมชุดสีขาวและด้วยชุดสีขาวของเธอทำให้เห็นดินและทรายที่ติดอยู่ในเสื้อของเธอชัดเจน เธอสวมกระโปรงสีดำและรองเท้าบูทสีเดียวกันกับกระโปรงของเธอ เธอสวมหมวกสีดำ ผมของเธอนั้นเป็นสีขาว ผมของเธอนั้นยาว บนหลังของเธอนั้นแบกสัมภาระมากมาย เธอเดินตรงมายังคาสซานดร้า หญิงผมสีขาวคนนี้วางกระเป๋าของตัวเองลงก่อนจะคุกเข่าให้กับองค์ราชินีแห่งอาณาจักรกราเดล

“กระหม่อมกลับมาแล้ว” หญิงผมขาวพูดกับคาสซานดร้าที่นั่งอยู่บนบัลลังค์
“ยินดีต้อนรับกลับนะโซรัน เจ้ามีอะไรจะรายงานให้ข้าฟังไหม?” คาสซานดร้าเอ่ยปากถาม
“กระหม่อมมีอะไรให้รายงานเยอะเลยล่ะ” หญิงผมขาวพูดด้วยรอยยิ้มและแววตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

=====

ห่างจากอาณาจักรกราเดลไปหลายพันไมล์ ณ ท้องพระโรงของอาณาจักรแห่งหนึ่ง มันก็เหมือนท้องพระโรงทั่วๆไปมีบัลลังค์ มีทหารยืนคอยคุ้มกันอยู่ และพรมที่ถูกปูบนพื้นและยาวจนไปถึงบัลลังค์ บนผนังนั้นเต็มไปด้วยผืนธงสีแดงที่มีรูปสิงโตสีดำถักอยู่ บนบัลลังค์นั้นมีชายร่างยักษ์นั่งอยู่ ใบหน้าของเขาถูกปกปิดด้วยหน้ากากที่ถูกทำจากหิน มันเป็นหน้ากากที่เป็นใบหน้าของมนุษย์ที่มีหนวดเครา ชายผู้นี้สวมชุดเกราะเหล็กที่ดูมีน้ำหนักมาก เขานั่งพิงกับบัลลังค์ของเขาด้วยท่าทีที่เบื่อหน่าย

ข้างๆชายคนนี้มีหญิงคนหนึ่งยืนอยู่ เธอเป็นหญิงที่มีหน้าตาน่ารักเหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไป แต่สิ่งที่ดูแปลกประหลาดนั้นคือดวงตาสลับสองสีของเธอ ข้างหนึ่งเป็นสีขาวและอีกข้างเป็นสีแดง ผมของเธอนั้นเป็นสีดำและเป็นทรงทวินเทล ผมศีรษะของเธอนั้นมีที่คาดผมสีแดงและชุดเดรสของเธอก็มีสีเดียวกันกับที่คาดผม แขนอันเรียวบางทั้งสองข้างของเธอสวมปลอกแขนสีดำ และบริเวณเอวของเธอนั้นก็เหน็บปืนสองกระบอกอยู่ด้วย

“ท่านเคน!! กระหม่อมมีข่าวจากอาณาจักรกราเดลพะยะค่ะ” ทหารคนหนึ่งวิ่งตาลีตาเหลือกเข้ามา
“มีอะไรหรือ? เราชนะแล้วใช่ไหม?” ชายที่นั่งบนบัลลังค์เอ่ยปากถาม
“...เปล่า พะยะค่ะ”
“อาณาจักรกราเดลเป็นฝ่ายชนะ” ทหารคนนี้รายงาน

ชายสวมหน้ากากได้ยินชันกายขึ้นมานั่งตรง เพราะหน้ากากที่ปิดบังใบหน้าของเขาจึงทำให้ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆแล้วชายคนนี้แสดงสีหน้าเช่นไร มือทั้งสองของเขาอยู่บนพนักวางแขนของบัลลังค์ นิ้วของเขานั้นกระแทกพนักไปมา ดูๆแล้วเขาอาจจะหงุดหงิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“แล้วเจโน่ล่ะ?” ชายสวมหน้ากากถามต่อ
“กระหม่อมได้ยินมาว่าถูกอาณาจักรกราเดลจับไป” ทหารคนเดิมรายงาน
“งั้นหรือ เจ้าไปได้”

ทหารคนนี้พยักหน้าก่อนจะเดินออกจากท้องพระโรง

“ให้ตายซิ เจโน่ นี่ไม่ได้เรื่องเลยนะ” สตรีที่ยืนอยู่ข้างๆชายนั่งบัลลังค์พูดขึ้น
“อีฟ...การรุกรานครั้งต่อไป ข้าฝากเจ้าได้ไหม?”
“ไว้ใจกระหม่อมได้เลย กระหม่อมจะทำให้อาณาจักรกราเดลรู้เลยว่านรกเป็นเช่นไร”
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Amnesiac EP 5
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Amnesiac EP 1
» Amnesiac EP 2
» Amnesiac EP 3
» Amnesiac EP 4
» Amnesiac EP 6

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: