New Checkmate

เกริ่นนำ

ในยุคที่ “โลกเสมือน” (Virtual Reality) หรือ “วีอาร์” (VR) มีบทบาทอย่างสูงในชีวิตประจำวันของมนุษย์ในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา ด้านความบันเทิง ด้านการท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งด้านการทหาร ที่เคยพัฒนาเทคโนโลยีโลกเสมือนสำหรับใช้ทดสอบการฝึกของทหารในกองทัพ โดยการจำลองสถานการณ์ในสนามรบได้อย่างสมจริง รวมทั้งจำลองความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อได้รับการบาดเจ็บ โดยที่ไม่เป็นอันตรายใดๆต่อผู้ฝึก แต่เพราะความรู้สึกที่ผู้ฝึกจะได้รับรู้เป็นเพียงความรู้สึกแบบปลอมๆเท่านั้น แม้มันจะสมจริงแค่ไหนก็ตาม จึงมีผลทำให้ประสิทธิภาพของกองทัพด้อยลงเนื่องจากผู้ฝึกจะไม่มีโอกาสรับรู้ถึงความรู้สึกอันแท้จริงของการรบได้เลย เทคโนโลยีดังกล่าวจึงถูกพับเก็บลงและไม่ได้นำมาใช้จริง

ทว่าบริษัทพัฒนาวีดีโอเกมยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นนามว่า “อินสไปร์ซอฟท์” (Inspiresoft) มีความสนใจในระบบโลกเสมือนดังกล่าวเป็นอย่างมาก และได้มองเห็นโอกาสในการพัฒนาให้มันกลายเป็นวิดีโอเกมชั้นยอด จึงดำเนินการติดต่อซื้อระบบดังกล่าวมาพัฒนาเป็นเกมวีอาร์ที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ โดยตั้งชื่อเกมดังกล่าวว่า “เช็คเมท” (Checkmate) และนั่นคือจุดกำเนิดของเกมวีอาร์ที่มีความสมจริงมากที่สุดในประวัติศาสตร์วงการเกม

เกมเช็คเมท คือเกมแนวต่อสู้แฟนตาซีที่ดูเหมือนจะธรรมดาและมีเกลื่อนตลาดวงการเกม แต่ความไม่ธรรมดาของมันคือ ผู้เล่นจะต้องใช้อุปกรณ์พิเศษที่ถูกเรียกว่า “อุปกรณ์จำลองประสาทสัมผัส” (Sensory Simulate Device) หรือเรียกสั้นๆว่า “ดีไวซ์” อุปกรณ์วีอาร์ที่มีความพิเศษคือ “การจำลองประสาทสัมผัสของผู้เล่นสู่ในเกม” กล่าวคือ ผู้เล่นเกมไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวร่างกายใดๆเพื่อบังคับตัวละครในเกม ทุกสิ่งทุกอย่างถูกบังคับผ่านทาง “ระบบประสาท” และที่เป็นไฮไลท์สำคัญของอุปกรณ์นี้คือ ระบบจำลองความรู้สึกเจ็บปวดได้ถูกนำมาใช้ด้วย ทำให้เมื่อผู้เล่นได้รับบาดเจ็บในเกม ความรู้สึกเจ็บปวดก็จะถูกถ่ายทอดไปยังตัวผู้เล่นด้วย ซึ่งระบบดังกล่าวก็สามารถเปิดปิดหรือปรับลดระดับความรุนแรงได้ตามที่ผู้เล่นต้องการ โดยไม่เกิดอันตรายใดๆกับตัวผู้เล่น ด้วยเหตุนี้ ทำให้เกมเช็คเมทได้รับความนิยมอย่างสูงทันทีที่เปิดตัว จนกลายเป็นเกมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในญี่ปุ่น และยังได้รับความนิยมในประเทศอื่นๆด้วย

แน่นอนว่า เกมเช็คเมทก็ได้ถูกบรรจุเข้าเป็นกีฬาอีสปอร์ตเป็นที่เรียบร้อย และกลายเป็นเกมกีฬาที่มีความเข้มข้นมากกว่าเกมไหนๆ ผู้เล่นเกมจะต้องฝึกซ้อมร่างกายอย่างหนักกว่าเกมทั่วๆไป เพื่อรองรับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในเกม (ในอีสปอร์ต ระบบจำลองความเจ็บปวดจะถูกตั้งให้เป็นระดับสูงสุด) การแข่งขันมีทั้งระดับประเทศ ระดับนานาชาติ ไปจนถึงระดับโลก เรียกได้ว่ามีการจัดการแข่งขันขึ้นทุกๆปี และได้รับความนิยมสูงในทุกๆปี จนแซงกีฬายอดนิยมอย่างฟุตบอลไปแล้ว ทำให้ผู้เล่นเกมนี้สามารถทำเงินได้มากกว่านักกีฬาประเภทอื่นๆหลายสิบเท่าเลยทีเดียว

จนกระทั่ง “ผู้เล่นเกมเช็คเมท” ได้กลายเป็นหนึ่งในสาขาอาชีพไปแล้ว มีการเปิดสอนหลักสูตรนี้อย่างจริงจัง มีสถาบันสำหรับฝึกสอนเกมนี้โดยเฉพาะ สถาบันที่บุกเบิกการสอนหลักสูตรนี้แบบเฉพาะทางคือ “โรงเรียนมิไรเคียว” (Miraikyo Academy) สถาบันเฉพาะทางระดับมัธยมปลายที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และเป็นความใฝ่ฝันสูงสุดของเด็กวัยรุ่นผู้คลั่งไคล้ในเกมเช็คเมทที่จะได้เข้าเรียนที่นี่ ไม่ว่าจะเข้ามาเรียนเพื่อเป็นนักกีฬาอีสปอร์ต หรือเข้ามาเรียนเพราะเพียงแค่อยากสนุก ไม่ว่าจะเหตุผลใดๆก็ตาม สถาบันแห่งนี้ก็จะทำความใฝ่ฝันของพวกเขาให้เป็นจริง

โหมดต่างๆภายในเกม

แรกเริ่มเดิมทีเกมเช็คเมทเป็นเพียงแค่เกมต่อสู้แบบตัวต่อตัวธรรมดาๆ ก่อนที่จะมีการอัพเดทโหมดต่างๆเพิ่มขึ้นมาในภายหลัง อันประกอบไปด้วย

โหมดตัวต่อตัวแบบคลาสสิค (Versus) คือโหมดดั้งเดิมของเกมและยังคงได้รับความนิยมมากที่สุด มีกฏกติกาที่แสนเรียบง่ายคือต่อสู้กันจนกว่าจะได้ผู้ชนะ ในการแข่งขันอีสปอร์ตก็จะใช้โหมดนี้เป็นหลัก

โหมดทีม (Team) คือโหมดที่แต่ละทีมมีผู้เล่นได้สูงสุด 3 คน สามารถเล่นในลักษณะของแฮนดิแคป (Handicap) เช่น 2 รุม 1 หรือ 3 รุม 1 ก็ได้ ทีมใดที่ทำให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามหมดสภาพทั้งทีมก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ

โหมดแบทเทิลฟิลด์ (Battlefield) คือโหมดที่นำกฏของหมากรุกสากลมาดัดแปลง โดยแบ่งผู้เล่นเป็นฝั่งละ 16 คน ประกอบไปด้วย คิง 1 คน ควีน 1 คน รุค 2 คน บิชอป 2 คน ไนท์ 2 คน และพอน 8 คน แต่ไม่จำเป็นต้องมีครบทุกคนหรือทุกตำแหน่ง (ยกเว้นคิงที่จำเป็นต้องมี) แต่ฝ่ายนั้นอาจจะเสียเปรียบอย่างมาก ตัวแปรสำคัญของโหมดนี้คือ หากคิงฝ่ายใดถูกกำจัดฝ่ายนั้นจะเแพ้ทันที (เหมือนเกมหมากรุก) และตำแหน่งพอนในโหมดนี้จะมีความพิเศษคือ หากพอนสามารถรุกล้ำเข้าไปในเขตแดนของอีกฝ่ายได้ พอนคนดังกล่าวจะสามารถใช้ความสามารถ “เลื่อนขั้น” (Promotion) เป็นตำแหน่งใดๆก็ได้ที่อยู่สูงกว่าตน และเพิ่มความสามารถให้กับพอนคนนั้นๆ (ส่วนมากจะเลื่อนขั้นเป็นตำแหน่งควีนที่มีความสามารถมากที่สุด)

โหมดแบทเทิลรอยัล (Battle Royale) โหมดกระแสนิยมของเกมที่รองรับผู้เล่นได้สูงสุด 50 คน กฏกติกาเหมือนเกมแบทเทิลรอยัลทั่วไป

ระบบตำแหน่งหรือแรงค์



ระบบตำแหน่ง (หรือเรียกอีกอย่างว่าแรงค์) มีลักษณะคล้ายกับเลเวลในเกมทั่วไป โดยใช้สัญลักษณ์เป็นตัวหมากในเกมหมากรุกสากล อันประกอบไปด้วย คิง ควีน บิชอป ไนท์ รุค และพอน ระบบตำแหน่งต่างจากเลเวลตรงที่แต่ละตำแหน่งต่างมีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันไป เว้นเพียงแต่พอนที่อาจจะมีความสามารถต่ำที่สุดหากเทียบกับตำแหน่งอื่น

โดยสถาบันที่เปิดสอนหลักสูตรเกมเช็คเมทแบบเฉพาะทาง จะมีการคัดเลือกตำแหน่งให้กับนักเรียนที่สอบเข้ามา โดยการประเมินจากศักยภาพระหว่างเข้าโปรแกรมทดสอบ ซึ่งตัวโปรแกรมจะประเมินให้เองว่าตัวนักเรียนเหมาะสมกับตำแหน่งใดมากที่สุด บางทีโปรแกรมอาจจะประเมินตำแหน่งให้กับตัวนักเรียนมากกว่าหนึ่งตำแหน่ง (โดยเฉพาะคิงกับควีน) ซึ่งตัวนักเรียนมีสิทธิ์ที่จะเลือกได้

เมื่อได้เข้าเรียนในตำแหน่งนั้นๆแล้ว นักเรียนก็ยังมีสิทธิ์ถูกคัดเลือกตำแหน่งอีกครั้งในการสอบปลายภาค ซึ่งโปรแกรมจะประเมินศักยภาพของนักเรียนอีกครั้ง โดยมีโอกาสทั้งได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นหรือต่ำลง ดังนั้นทุกคนจึงต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา หรืออย่างน้อยสุดก็พยายามให้ตัวเองยังคงอยู่ตำแหน่งเดิม

รายละเอียดของตำแหน่งต่างๆมีดังนี้

พอน (Pawn)
ตำแหน่งที่ต่ำที่สุดในเกมเช็คเมท ไม่มีความสามารถอะไรโดดเด่น แต่มีความสามารถ “เลื่อนขั้น” ในโหมดแบทเทิลฟิลด์ (ตามที่กล่าวถึงในหัวข้อ “โหมดต่างๆภายในเกม”)

รุค (Rook)
ตำแหน่งที่มีความโดดเด่นด้านพลังป้องกันและกายภาพ แต่ด้อยด้านความเร็ว

ไนท์ (Knight)
ตำแหน่งมีความโดดเด่นด้านพลังโจมตีและความเร็ว แต่ด้อยด้านพลังป้องกัน

บิชอป (Bishop)
ตำแหน่งมีความโดดเด่นด้านพลังเวท แต่ด้านอื่นๆไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ

ควีน (Queen)
ตำแหน่งที่มีความสามารถสูงและมีความสมดุลที่สุด มีความโดดเด่นในทุกๆด้าน เปรียบได้กับการนำความสามารถของรุค ไนท์ และบิชอปมารวมกัน

คิง (King)
ตำแหน่งที่อยู่ในระดับสูงที่สุด มีความโดดเด่นในทุกๆด้านเช่นเดียวกับควีน และเป็นตัวแปรสำคัญในโหมดแบทเทิลฟิลด์ (ตามที่กล่าวถึงในหัวข้อ “โหมดต่างๆภายในเกม”)

โดยความสามารถของตำแหน่งคิงและควีนแทบจะไม่มีความต่างกัน (หากไม่นับโหมดแบทเทิลฟิลด์) เพราะฉะนั้นโปรแกรมทดสอบมักจะประเมินตำแหน่งนี้มาคู่กันเสมอ ซึ่งโดยคอมมอนเซนส์ทั่วไปผู้ชายก็มักจะเลือกเป็นคิง และผู้หญิงก็มักจะเลือกเป็นควีน แต่ก็ไม่ได้มีการบังคับแต่อย่างใดว่าต้องเป็นแบบนั้น อย่างไรก็ตาม คิงที่เป็นผู้หญิงและควีนที่เป็นผู้ชายก็มีน้อยมาก (แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย)


ใบสมัคร

ข้อมูลส่วนตัว
รูป : อนิเมะเท่านั้น หารูปง่ายยิ่งดี
ชื่อ : คนญี่ปุ่นนามสกุลมาก่อนชื่อ
ชั้นปี : ม. ปลาย 1-3 (หรือเป็นอาจารย์ก็ได้แต่บทน่าจะไม่ค่อยมี)
ส่วนสูง/น้ำหนัก : อย่าสูงเวอร์หรือหนักเวอร์ เอาแบบที่มันมีความเป็นไปได้ในชีวิตจริงหน่อย
ตำแหน่ง : เลือกจากด้านบน
ฉายา : มีมากกว่าหนึ่งฉายาก็ได้ หรือไม่มีก็ได้
ประวัติโดยสังเขป :
อุปนิสัย :
อื่นๆ :

ข้อมูลในเกม
อาวุธ : ชื่ออาวุธและรายละเอียดของอาวุธ มีได้มากกว่าหนึ่ง
ท่าประจำตัว : ชื่อท่าพร้อมรายละเอียดของท่า กี่ท่าก็ได้แต่ไม่ควรต่ำกว่า 3 อาจจะมีท่าธรรมดา ท่าไม้ตาย ท่าลับอะไรก็ได้

อ่านก่อนสมัคร
-นอกจากพระเอกแล้ว พอนคนอื่นๆบทจะค่อนข้างน้อยมาก เพราะฉะนั้นผมแนะนำให้สมัครตำแหน่งอื่นจะดีกว่า
-ฉายาตัวละคร ชื่ออาวุธ และชื่อท่า รบกวนตั้งชื่อให้มันเท่ๆไม่ควรตั้งมั่วๆหรือแปลกๆมา เวลาเขียนในเรื่องจะได้ดูเท่ๆหน่อย หรือถ้าคิดไม่ออกเดี๋ยวผมคิดชื่อให้เอง (ในส่วนของท่าก็อธิบายแค่รายละเอียดของท่ามาแล้วผมจะจัดการคิดชื่อที่เหมาะสมให้เอง อาวุธก็เช่นกัน ระบุว่ามันคืออาวุธลักษณะแบบไหน) ถ้าชื่อที่คุณตั้งมามันมั่ว หรือมันแปลกๆ ไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ ผมขออนุญาตเปลี่ยนชื่อให้ใหม่โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้านะครับ

หมายเหตุ : เรื่องนี้ไม่ใช่แนวเกมออนไลน์นะครับ


พระเอก-นางเอก



รูป : Yaegashi Taichi
ชื่อ : คันซากิ อาสึนะ (Kanzaki Asuna)
ตำแหน่ง : พอน
ชั้นปี : 1


รูป : Kasumigaoka Utaha
ชื่อ : โยชิดะ ยูกิ (Yoshida Yuki)
ตำแหน่ง : ควีน
ชั้นปี : 3

---

---

นามสกุล - ชื่อ : เทนโจ นายะ (Naya Tenjo)
ชั้นปี : 1 (อายุเท่าๆกับคนอื่น)
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 154 ซม. - 41 กก. BWH (ซม.) : 76 - 56 - 79
ตำแหน่ง : บิชอบ (เวทมนตร์ล้วนๆเลย)
ฉายา : Sweet Mirage

ประวัติโดยสังเขป :

-'เทนโจ นายะ' เป็นลูกสาวเจ้าของกิจการเครื่องสำอางแบรนด์ดังในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังมีพี่สาวที่จบดีไซน์เนอร์อีกด้วย ครอบครัวของเธอจึงค่อนข้างมีฐานะและด้วยความที่เป็นลูกคนเล็กจึงได้รับการเลี้ยงดูแบบประคบประงม หรือไข่ในหิน มดไม่ให้แตะไรไม่ให้ตอม

-นายะจึงเติบโตมาด้วยการเป็นเด็กที่ค่อนข้างขี้แย หวาดกลัวง่าย ขี้อาย (แต่อย่างน้อยก็ไม่เอาแต่ใจและงี่เง่านะ) จึงทำให้ค่อนข้างโดนดูถูกจากคนรอบตัวว่าเป็นลูกแหงและในชีวิตนี้คงทำอะไรด้วยตัวเองไม่เป็น (ซึ่งก็เป็นอย่างงั้นจริงๆแหละ)

-ตรงนั้นจึงเป็นปมภายในจิตใจของเธอ นายะจึงอยากที่จะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าจริงๆแล้วเธอเองก็มีมุมที่แข็งแกร่ง สามารถทำประโยชน์ให้กับคนรอบข้าง แบกรับความกดดันได้และทำอะไรต่างๆได้ด้วยตัวเองเหมือนกัน (ถึงแม้ว่าคนรอบข้างจะมองเห็นอยู่ว่าเธอกำลังฝืนตัวเองอยู่ก็ตาม)

-พื้นฐานของนายะนั้นเป็นคนที่ค่อนข้างชื่นชอบการเล่นเกมและก็มีฝีมืออยู่เหมือนกัน (สไตล์การต่อสู้ของนายะจะเน้นการล่อลวงศัตรูให้มาติดกับดักจำพวกเวทมนตร์ภาพลวงตา)


อุปนิสัย :

-เป็นเด็กผู้หญิงที่บอบบางสมกับรูปลักษณ์ภายนอกนั่นแหละ

-เป็นคนขี้กลัว ขี้อาย ขี้แย กลัวคนแปลกหน้า มีปัญหาเรื่องการตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง

-ติดเพื่อน ต้องคอยมีเพื่อนมาปกป้องมาเป็นเกราะกำบังตลอดเวลา ทำอะไรด้วยตัวเองไม่ค่อยจะเป็น แถมยังไม่ค่อยสู้คนอีก

-ถึงอย่างไรก็ตาม... ทุกๆอย่างที่กล่าวมานั้นเป็นสิ่งที่ตัวนายะกำลังพยายามที่จะก้าวข้ามอยู่ ซึ่งชัยชนะในการแข่งขันก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เธอต้องการจะไขว่คว้ามันมาเพื่อพิสูจน์ตัวเองเช่นกัน เพื่อแสดงพลังของตัวเองออกมา !

-ข้อดีของนายะก็คือ เป็นเด็กที่สุภาพ เป็นมิตรกับทุกๆคน (ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาในเรื่องการเข้าหาเพราะเธอเป็นพวกขี้กลัวคนแปลกหน้า) ที่สำคัญที่สุดคือเป็นหวงความรู้สึกของเพื่อนๆทุกๆคน และมีความทะเยอทะยานที่จะพัฒนาตัวเองเสมอ (ถึงแม้จะฝืน และยากลำบากก็ตาม)

อื่นๆ : โลลิ

ข้อมูลในเกม

อาวุธ : Happy Party Friend (Magical Hand Puppet : ตุ๊กตาสวมมือซึ่งสามารถสร้างภาพลวงตาและเสกเวทมนตร์ออกมาได้)

ท่าประจำตัว :

-Happy Party World : เมื่อจะทำการต่อสู้ อย่างแรกที่นายะจะต้องทำก็คือต้องพาศัตรูไปอยู่ในโลกเวทมนตร์จำลองของตัวเองก่อนให้ได้ (ไม่งั้นเธอจะไม่สามารถทำการจู่โจมศัตรูได้เลย ซึ่งก็คือจุดอ่อนอย่างหนึ่ง เหมือนเฟรดดี้คูเกอร์ที่ต้องให้คนไปอยู่ในโลกความฝันก่อนอารมณ์คล้ายๆกัน) โดย Happy Party World เป็นผลอันเนื่องมาจากการที่ศัตรูได้สัมผัส ได้กลิ่น ได้ยินเสียงพูด ได้รับรสหรือแม้กระทั่งมองเห็นตุ๊กตาที่อยู่บนมือของนายะ โดยธีมของโลกเวทมนตร์ของเธอก็จะเป็นดินแดนขนมหวาน สีชมพู น่ารักสดใส หวานแหววอะไรทำนองนั้นแหละ เมื่อเข้าไปอยู่ในโลกเวทมนตร์ของนายะแล้ว ศัตรูจะเกิดอาการมึนงง จะเกิดอาการหลอนๆ ก่งก๊งบ้างเล็กน้อย (แต่ไม่มากยังต่อสู้กับนายะได้สบายๆ)

-Pooh Friendly Bear : อารมณ์ประมาณคถาอัญเชิญ นายะจะอัญเชิญตุ๊กตาหมีพูห์ขึ้นมาตัวนึงซึ่งเป็นตุ๊กตาหมีที่น่ารักใจดี ไม่ทำร้ายคน แต่จะล่อลวงคนให้ไปติดกับดัก เช่น...

-โดนชวนไปปาร์ตี้น้ำชาหรือ Magical Tea Time : เมื่อศัตรูหลงกลไปจิบน้ำชาที่พี่หมีให้แล้ว จะติดสถานะ Stunt ไปนานพอพอสมควรเลย (ซึ่งอาจจะเปิดช่องให้ถูกนายะโจมตีได้)

-โดนสาดด้วยน้ำผึ้งจนตัวเปื้อนหรือท่า Precious Honey Jar : เมื่อศัตรูพลาดท่า โดนพี่หมีชวนให้มองดูน้ำผึ้งที่อยู่ในไห เมื่อนั้นเองพี่หมีจะสาดน้ำผึ้งใส่และจะติดสถานะ Slow

-โดนพาไปกระโดดเล่นบนแทมโพรีน Funny Party Trampoline : เมื่อศัตรูหลงกลไปกระโดดเล่นบนแทมโพรีนกับพี่หมี จะติดสถานะ Blind ไปชั่วขณะ

-Say 'Hello' to Kitty : อันนี้เป็นท่าโจมตี (แต่ก็อัญเชิญมาเหมือนกัน) นายะจะอัญเชิญตุ๊กตา Kitty มา โดย Kitty จะทักทายศัตรูก่อนแล้วถ้าศัตรูเผลอไปทักทายกลับ Kitty ก็จะไล่ฆ่าไล่ฟันศัตรูทันที (ไม่มีอะไรมาก)

-Pink Panther Guardian : อัญเชิญแพนเตอร์สีชมพูขึ้นมา จริงๆเป็นท่าป้องกัน นายะจะอัญเชิญไว้ใกล้ๆตัวเสมอไว้คอยเป็นองครักษ์คุ้มครองแต่ก็สามารถนำไปใช้ในการโจมตีได้ และเวลาอัญเชิญขึ้นมาค่า Luck จะเพิ่มถึงขีดสุด


-Obstacle : เป็นท่าสิ้นคิด ก็เช่นอัญเชิญแคนดี้ยักษ์ๆขึ้นมา ให้มันมาล้มทับศัตรูเพื่อให้เกิดดาเมจแบบพอเป็นพิธีอะไรงี้ หรือไม่ก็อัญเชิญขนมสายไหมให้มาพันรอบตัวศัตรูอะไรอย่างงี้ หรือไม่ก็เสกพื้นให้กลายเป็นน้ำตาลกรวดแล้วก็ให้ศัตรูวิ่งมาลื่นล้มอะไรงี้ (เป็นท่าที่เอาไว้เวลาไม่รู้จะเขียนอะไร)

-(*ท่าไม้ตาย 1) Wild Party Friends : เปิดโหมดให้ตุ๊กตาอัญเชิญทุกตัวเป็น Aggressive หมด แล้วก็ไล่ฆ่า ไล่รุมกินโต๊ะศัตรูเลย (หนังชีวิตเลย)

-(*ท่าไม้ตาย 2) Happy Happy Sweet : เป็นท่าไม้ตายที่ไม่ต้องอัญเชิญอะไรมา นายะแค่เสกขนมหวานซักอย่างขึ้นมา แล้วทำยังไงก็ได้ให้มันเข้าปากศัตรู เมื่อนั้นแหละศัตรูก็จะได้รับดาเมจมหาศาล (แล้วก็อาจจะตายในทันที) (อาจจะให้พี่หมีพูห์เอาไปหลอกล่อก็ได้นะ)


-ปล. ท่ามุขต่างๆพวกนี้ใช้ไม่ได้ผล นายะก็ต้องใช้ภายภาพตัวเองเข้าไปต่อสู้ตรงๆ แบบตามมีตามเกิด ซึ่งนางกากมาก (จุดอ่อนหลักๆคือตรงนี้แหละ)

Status : ไล่เป็นสเกล A-F โดยจาก A คือสูงสุด F คือต่ำสุด ถ้าเติม
เครื่องหมาย + ตามหลังจะหมายถึงสูงกว่าระดับนั้นๆขึ้นมาอีกเล็กน้อย เช่น C+ ก็จะสูงกว่า C ธรรมดา เป็นต้น

โจมตี -D
ป้องกัน -D+
กายภาพ -D
ความเร็ว -C+
พลังเวท -A
โชค -A

(อยากเนิฟอะไรก็เนิฟได้เลยครับ)

รูป :

Modred (Fate Grand Order)

ชื่อ : มิอุระ ทามิโกะ
ชั้นปี : 1
ส่วนสูง : 160/43
ตำแหน่ง : Knight
ฉายา : Blood Knight (อัศวินสีโลหิต) << หรืออะไรที่แปลได้ทำนองนี้

ประวัติ/คาแรกเตอร์ : ทามิโกะนั้นมีความใฝ่ฝันว่าอยากจะเป็นอัศวินตั้งแต่เด็กๆเพราะว่ามันเป็นอะไรที่ดูเท่และดูสง่างาม ในช่วงวัยเยาว์ของเธอนั้น เธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองเหมือนอัศวินให้ได้มากที่สุด เมื่อโตมานั้นความรู้สึกแบบนี้ของเธอเริ่มจางหายไปเรื่อยๆ โลกแฟนตาซีที่เธอวาดนั้นหายไปทีละน้อยๆ จนในที่สุดเธอก็ลบมโนภาพของเธอออกจากหัวของเธอไปในที่สุด จนกระทั้งเธอได้เจอกับ Checkmate ซึ่งมันทำให้เธอได้ทำตามฝันของเธออีกครั้ง นั่นก็คือเป็นอัศวิน เธอทำได้ดี ดีจนที่เธอคิดว่าถ้าเธอเดินสายนี้น่าจะเป็นอะไรที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอ

แต่ถึงเธอจะเป็นอัศวินในโลกของเกม แต่ในชีวิตจริงนั้นกลับข้างโดยสิ้นเชิง เธอแทบจะไม่มีความอัศวินเลยแม้แต่น้อย ชอบใช้กำลัง ไม่มีความสง่างาม อ่อนด้านศิลปะ ปากร้าย จะเรียกว่านักเลงหน่อยๆก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอเป็นคนที่ห่วงพวกพ้อง เธอพร้อมที่จะปกป้องทุกคนหรือใครก็ตามถ้าหากเธอคิดว่านั่นเป็นสิ่งทีถูกต้อง (น่าจะเป็นความอัศวินอย่างเดียวที่เธอมี ซึ่งมันเป็นนิสัยที่เธอติดตัวมาตั้งแต่เด็กๆ)

อ่อ ใช่ เธอชอบหมาเป็นพิเศษ

อาวุธ : Crimson (ดาบแบบในรูปไปเลยละกัน)
ท่าประจำตัว : Song of Fire (หมุนแล้วทำให้เกิดไฟรอบๆตัวเอง ซึ่งมีความสามารถในการเผาไหม้สูงมาก)
Fire Strike (ฟันดาบไปข้างหน้า ซึ่งทำให้เกิดเป็นคลื่นไฟ)
Flame Barrier (ปักดาบลงกับพื้นทำให้เกิดไฟพุ่งขึ้นมาข้างหน้า ดังนั้นถ้าหากวัตถุที่ทำจากไม้ผ่านมาจากไหม้หายไป)

Status :
โจมตี - A
ป้องกัน - B
กายภาพ - B+
ความเร็ว - B
พลังเวท - D+
โชค - D

ข้อมูลส่วนตัว

รูป: Hajime Tenga (Kiznaiver)



ชื่อ: โนริอากิ โจอิจิ (Noriaki Joichi)
ชั้นปี: ม. ปลาย 1
ส่วนสูง/น้ำหนัก: 175 cm. | 70 kg.
ตำแหน่ง: KING
ฉายา: คิงคริมสัน (King Crimson) | ราชาสีเลือด

ประวัติโดยสังเขป: โจอิจินั้น จะบอกว่าเหมือนกับเกมเมอร์ทั่ว ๆ ไปก็คงได้ เขาชอบที่จะเล่นเกมนู่น เกมนี่ เล่นไปเรื่อยเปื่อย เพราะไม่มีอะไรทำในชีวิต บางเกมก็เล่นจนเซียน บางเกมก็กากอย่าบอกใคร ทว่าเมื่อพูดถึงเกม Checkmate แล้ว สามารถบอกได้เพียงแค่เป็นเกมที่โจอิจินั้นเล่นแล้วสนุกที่สุด แล้วชอบมันมากที่สุด ซึ่งก็มากพอจะทำให้เขาทุ่มเทกับเกม Checkmate เป็นอย่างมากตั้งแต่ที่รู้จักเข้าเลย ปัจจุบันนี้ก็ได้มายังโรงเรียนมิไรเคียว โรงเรียนสายเฉพาะของเกมนี้ ด้วยความหวังที่จะกลายเป็น Number One แห่งเกมนี้ให้จงได้!..

อุปนิสัย: โจอิจินั้นเป็นพวกที่พูดมาก ชอบพูดโอ้อวดหรือคุยนอกเรื่องกับเพื่อน ๆ เป็นสายชงมุกในแก๊ง พาเที่ยวไปทำอะไรเรื่อยเปื่อย เป็นคนที่ตลกเฮฮาสนุกสนานในแก๊ง เขามีความกล้าหาญเป็นอย่างมาก และไม่ค่อยกลัวอะไรเท่าไหร่นัก มีไม่กี่อย่างที่กลัวคือเกรด กับหมา.. หลาย ๆ ครั้งเขามักจะทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังอยู่เสมอ โรคจิตขี้เงี่ยน หื่นกามตัวพ่อ อีกทั้งยังเป็นพวกโมโหง่าย โดนยุยงอะไรง่าย ๆ ทำตัวห้าว ๆ อยู๋เสมอและมักจะทำให้เขาโดนอัดเป็นกระสอบทรายเล่นตลอด สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด..

แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนฉลาดด้านการคิดวางแผนซับซ้อน Strategy เท่าไหร่นั้น เขาก็เก่งในด้านการโกหก ตอแหล การพลิกแพลงสถานการณ์หรือการเบี่ยงเบนความสนใจ รู้จักการโจมตีทีเผลอ ประเภทที่ไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเลยก็ว่าได้ โดยเขาไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษในตัวเลยแม้แต่น้อย และเพื่อชัยชนะแล้ว ก็พร้อมจะทำเสียหมาเพื่อที่จะคว้ามันให้ได้ตลอด!.. นอกจากนี้แม้ว่าในโลกจริงจะดวงซวยชอบทำตัวเองเจ็บตัวตลอด แต่พออยู่ในเกมแล้วเนี่ย เหมือนเอาดวงทั้งหมดในชีวิตไปอยู๋ในเกมเลยทีเดียวล่ะนะ ส่วนมากที่ชนะ ๆ ตลอด ก็เพราะ โคตรพ่อโคตรแม่โชคนั่นแหละ

อื่นๆ:

-ฉายา ราชาสีเลือด เอาจริง ๆ คือมาจากแกเองกับสีผมที่ออกไปโทนแดง (แต่ก็ไม่ได้แดงจริง ๆ อ่ะนะ ออกชมพูด้วยซ้ำ) โดยแกแค่คิดว่ามันเท่ดีก็เลยตั้งอย่างนั้นเฉย ๆ
-ชอบโดนทักว่าเป็นรุ่นพี่ปี 2 หรือปี 3.. เพราะหน้าแก่ ( ͡° ͜ʖ ͡°)
-เอาจริง ๆ แล้ว ตัวเขาถือว่ามีพลังที่โกงเป็นอันดับต้น ๆ ของเกมเลยทีเดียว หากมีคนใช้ดี ๆ แล้วขึ้นไปเป็นอันดับต้นได้สบาย ๆ ทว่าด้วยความที่ ตัวเขาไม่ค่อยฉลาดการวางแผน เน้นพลิกแพลเฉพาะหน้า โจมตีทีเผลอ กับโชคเป็นหลัก จึงทำให้ใช้พลังได้ ไม่ดีเท่าที่ควรนั่นเอง (ง่าย ๆ ก็ ของดี แต่ ใช้ไม่เป็น)



ข้อมูลในเกม

อาวุธ: เขาถือครองถุงมือศักดิ์สิทธิ์สองอย่าง ซึ่งการจะใช้งานพลังของถุงมือแต่ละอันจะต้องเอ่ยนามของมันขึ้นมาขณะใช้



"Zoran (ซอรัน)" Gauntlet of Acceleration (ถุงมือแห่งการเร่ง)



"Eir (เออา)" Gauntlet of Restoration (ถุงมือแห่งการซ่อมแซม)

นอกจากนี้ตัวเขาเองก็พกพาอาวุธเหมือน ลูกเหล็กขนาดมือ ไว้ใช้การขว้างโจมตีอีกด้วยอยู่หลายลูก

ท่าประจำตัว:

เมื่อใช้ถุงมือ "ซอรัน"

-"Accel Boost (เสริมความเร่ง)" ใช้พลังของถุงมือแห่งการเร่งกับตนเอง ทำให้ตัวเขามีความเร็วมากขึ้น ซึ่งสามารถใช้ได้หลายแบบ ไม่ว่าจะในการหลบหลีก หนีจากสมรภูมิ หรือจะเป็นการใช้เพื่อรัวการโจมตีใส่ศัตรูก็ย่อมได้
-"King's Bullet (กระสุนราชันย์)" เมื่อขว้างลูกเหล็กที่เขาพกพาพร้อมกับใช้พลังของถุงมือแห่งการเร่งนั้น ลูกเหล็กลูกนั้นจะพุ่งตรงไปด้วยความเร็วทวีคูณหลายเท่าจนแทบจะเทียบเท่ากับกระสุนปืน ซึ่งยากต่อการหลบหลีกเป็นอย่างมาก

เมื่อใช้ถุงมือ "เออา"

-"King's Hand (หัตถ์ราชันย์)" เมื่อแตะต้องสิ่งใดด้วยถุงมือแห่งการซ่อมแซมนั้น ไม่ว่าจะเป็นวัตถุหรือบาดแผล จะถูกซ่อมแซมกลับไปเป็นเหมือนเดิม มักจะใช้ทักษะนี้เมื่อได้รับบาดเจ็บ ทั้งตนเองและเพื่อนสหาย
-"Shield of Reflection (โล่แห่งการสะท้อน)" ในขณะเดียวกัน หากมีศัตรูโจมตีมาทิศทางเขา ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีระยะใกล้ หรือไกล เมื่อสะบัดถุงมือแห่งการซ่อมแซมไปยังทิศทางนั้น จะสามารถสะท้อนการโจมตีของศัตรู กลับไปยังผู้โจมตี อาทิเช่นหากมีคนฟันดาบมาทางเขา และเขาใช้พลังนี้ ดาบเล่มนั้นจะสะท้อนกลับไปยังผู้ออกดาบแทน นั่นเอง


สุดท้ายแล้ว นั่นคือหากเขาใช้พลังของสองถุงมือศักดิ์สิทธิ์พร้อมกันนั้น จะสามารถสร้างท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดขึ้นมาได้ ทว่าก่อนจะใช้พลังนี้นั้น จำต้องสวดมนตร์ก่อน ซึ่งใช้เวลานานมากกว่าจะเสร็จ (นานจน 1 ใน 100 เกมจะใช้ที ไรงี้) จึงทำให้พลังนี้นั้นค่อนข้างไร้ค่าในการต่อสู้ตัวต่อตัว ทว่าในการต่อสู้แบบยื้อเวลานั้น ถือเป็นพลังที่ใช้การได้ดีที่สุดแล้ว

-"Valhalla's Blessing (พรแห่งวัลฮัลล่า)" เมื่อสวดมนตร์สำเร็จและใช้พลังได้นั้น ถุงมือทั้งสองจะเลืองแสงออก และสร้างเขตบาเรียรัศมีสามเมตรรอบตัวของเขาขึ้นมา โดยทุกการโจมตีที่พุ่งตรงมาทางนี้นั้น ความเสียหายจะถูกส่งไปยังบุคคลคนอื่นในสนามแบบสุ่ม อาทิเช่นมีคนโจมตีด้วยไฟใส่ จะมีคนอื่นที่ตัวลุกเป็นไฟแทนตัวเขานั่นเอง ทว่าแลกด้วยการที่เขาไม่สามารถใช้พลังของสองถุงมือได้ จกว่าจะยกเลิกพลังลง

วิธีการเคาท์เตอร์พลังนี้มีสามรูปแบบ หนึ่ง คือล่อให้เขาออกมาจากบาเรีย ซึ่งเมื่อตัวเขาออกมาจากบาเรียนั้น บาเรียจะสลายลงไปนั่นเอง สอง คือการโจมตีที่มีผลเป็นโมฆะ การโจมตีที่ลบล้างการโจมตีอื่น, การโจมตีที่มีผลทั้งสนาม, การโจมตีที่มีผลกระทำกับจิตผู้อื่น การโจมตีทั้งหลายนี้ สามารถมีผลกับเขาได้แม้จะอยู๋ในบาเรียก็ตาม สาม คือ บาเรียนี้นั้นจริง ๆ ไม่ได้คลุมหมดทั้งตัวหรอก มันเหมือนเป็นกำแพงขึ้นมานั่นแหละ ฉะนั้นแล้วหากเล็งจากใต้พื้นดิน หรือบนอากาศนั้น ก็ยังสามารถโดนตัวเขาได้อยู่นั่นเอง

Status:

โจมตี - D
ป้องกัน - A
กายภาพ - C
ความเร็ว - A
พลังเวท - E
โชค - A

ข้อมูลส่วนตัว
รูป :
ชื่อ : ชิมาสุ ชิน
ชั้นปี : 1
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 172/60
ตำแหน่ง : ไนท์
ฉายา : Supersonic ซุปเปอร์โซนิค
ประวัติโดยสังเขป : ชินเป็นนักเล่นเช็คเมทมาก่อนที่จะสอบเข้าโรงเรียน เขาคิดว่าเมต้าของการเล่นเช็คเมทมันน่าเบื่อสิ้นดี เขาชอบที่จะบุกตะลุยเข้าไปในดงศัตรูทันทีที่เริ่มเกม แต่ทว่าแนวทางนั้นมันก็ไม่ค่อยรุ่งและทำให้เขาเจ็บปวดร่างกายมาก เขาคิดว่าถ้าหากเข้าเรียนที่โรงเรียนมิไรเคียวได้ น่าจะสามารถพัฒนาสไตล์การเล่นของเขาให้แข็งแกร่งขึ้นได้เช่นกัน

อุปนิสัย : ชินเป็นคนเฮฮาและมักพูดอะไรที่แทนใจคนอื่นออกมาเสมอ เขาเป็นคนมุทะลุและมีความกล้ามากกว่าขนาดตัวไปหลายเท่า ชินมักจะใช้สเก็ตบอร์ดแทนการเดินเท้าและพกไม้เบสบอลไปไหนมาไหนด้วยเสมอ ในตอนแข่งเช็คเม็ทเขาจะใส่ที่อุดหูเพิ่มเข้าไปด้วยเสมอ เพื่อป้องกันเสียงที่มาจากตัวเขาเอง แต่ชินค่อนข้างโง่และมักจะทำอะไรฝืนร่างกายอยู่เสมอ เขาคิดว่าลุยไปข้างหน้าเท่านั้นคือสิ่งที่ลูกผู้ชายควรทำ ถึงแม้จะขาดทั้งแขนและขาแต่ไม่มีเวลาให้กูเจ็บ
เพราะกูแม่ง Foolest

อื่นๆ :

ข้อมูลในเกม
อาวุธ : สเก็ตบอร์ด + ไม้เบสบอล
ท่าประจำตัว :

Bitter - กระโดดขึ้นมาบนอากาศพร้อมสเก็ตบอร์ดแล้วพุ่งไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็วมากๆทำให้เกิดเสียงที่แสบหูคนอื่นๆสามารถใช้เพื่อหนี เพื่อจู่โจม หรือเพื่อค้นหาได้หมดเลย
Sweet - พุ่งตัวอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าท่าBitter แต่ใช้ได้แค่ระยะสั้นๆเท่านั้น จะใช้เพื่อหนี เพื่อจู่โจม แต่จะใช้เพื่อค้นหาไม่ได้แล้ว
Symphony - พุ่งตัวในความเร็วสูงสุด ในท่านี้เขาไม่สามารถควบคุมทิศทางหรือใช้ท่าอะไรอื่นๆได้อีกแล้ว เป็นท่าไม้ตายที่เขาจะใช้เมื่อหมดทางเลือกแล้ว เขาจะใช้มันเพื่อพุ่งชนอีกฝ่ายเอาให้น็อคกันไปเลย ทำให้สถิติของชิน มีการเสมอเกิดขึ้นบ่อยมาก

ทุกๆท่ามีความเร็วสูงส่งผิดให้เกิดเสียงที่ทำให้แสบหูขึ้นมา เป็นที่มาของฉายา Supersonic

Status :
โจมตี - A
ป้องกัน -F
กายภาพ -C
ความเร็ว -A
พลังเวท -F
โชค -F

ชื่อ : ฟุจิซากิ ฮายาโตะ

ชั้นปี : 2

รูปร่าง : 166/57

ตำแหน่ง : บิชอป

ฉายา : "Phantom Beast" อสูรมายา , "Leviathan" เลวี่อาธาน , "Trouble Maker" ผู้นำมาซึ่งความวุ่นวาย

ประวัติ : เป็นเด็กชายที่เกิดมาในครอบครัวที่แตกแยก พ่อกับแม่แยกทางกัน ต้องอยู่กับพ่อที่เป็นโจรคอยสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น ต้องคอยภาวนาให้มีชีวิตที่ดีขึ้นในวันต่อมา จนกระทั่งพ่อของเขาโดนจับ ทำให้เขาต้องย้ายบ้านมานอนข้างถนนแทน จนกระทั่งมีแม่ค้าคนนีงมารับไปเป็นลูกบุญธรรมและให้การเลี้ยงดูอย่างดี ตัวเขานั้นก็ตอบแทนโดยการค่อยช่วยงานที่ร้าน จนกระทั่งวันเกิดปีที่ 10 ของเขา แม่บุญธรรมของเขาได้ให้เกม "Checkmate" เป็นของขวัญวันเกิดของเขา ซึ่งนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเขากับเกม Checkmate แม่เขาเห็นว่าฮายาโตะเล่นเกมนี้ได้เก่งมากจึงส่งเสริมอย่างเต็มที่เพื่อที่จะได้นำไปต่อยอดในอนาคตได้ และแล้วฮายาโตะก็ได้เข้าโรงเรียนมิไรเคียวตามที่แม่เขาต้องการ เขาเข้ามาในฐานะ "คิง" ตอนแรกเขาก็ทำหน้าที่ในฐานะคิงได้ดีอยู่หรอก แต่ว่ามีคนบางกลุ่มที่ค่อนข้างแอนตี้เนื่องมาจากฐานะทางครอบครัวของเขา บางก็ว่าเด็กที่เกิดมาจากความผิดพลาดบ้าง บางก็ว่าเป็นลูกโจรบ้าง จนบางทีก็ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งหรือบางทีก็เป็นการทะเลาะวิวาทเลย ซึ่งเขาก็โดนคาดโทษไว้แล้ว 2 ครั้ง แล้วถ้ามีครั้งที่ 3 อีกจะโดไล่ออก และไม่ได้หมดแค่นั้นเขายังโดนอาจารย์ตัดคะแนนไปเยอะด้วย ทำให้ในปี 2 นั้น เขาโดนลดตำแหน่งมาเป็น "บิชอป" ซึ้งผิดคาดกับที่คนอื่นเก็งไว้ว่าจะถูกลดตำแหน่งมาเป็น "พอน" ซึ่งก็มีคนวิเคราะห์ไว้ว่าอาจจะเป็นเพราะว่าฮายาโตะทำคะแนนสอบได้ดีมันเลยไปหักล้างกับแต้มที่โดนตัด

คาแรกเตอร์ : ดูแค่ประวัติเฉยๆ ฮายาโตะอาจจะเป็นคนที่น่าสงสาร แต่ความจริงแล้วตัวเขานั้นเป็นคนขี้อิจฉา อิจฉาคนที่มีครอบครัว อิจฉาคนที่มีตำแหน่งสูงกว่าตัวเอง และเป็นพวกเห็นใครดีกว่าตัวเองไม่ได้ต้องไปฉุดให้ตกลงมาตลอด และมักจะคอยคับแค้นน้อยใจในชาติกำเนิดและโชคชะตาของตัวเองอยู่ตลอด และเวลาเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วเขาผิด เขาก็มักจะโทษ "พระเจ้า" ที่กำหนดโชคชะตาแบบนี้มาเห็นเขา พร้อมกับด่าทอให้ร้ายพระองค์ต่างๆนาๆ จนอาจารย์หลายๆท่านได้ลงความเห็นว่าฮายาโตะนั้นจัดเป็นวัยรุ่นที่มีพฤติกรรม "ถ่มน้ำลายรดฟ้า" ว่ากันว่าเหตุผลที่แท้จริงที่ฮายาโตะโดนลดตำแหน่งมาจากการ "ถ่มน้ำลายรดฟ้า" ของตัวเขาเอง แต่ใช่ว่าเขาจะหวาดกลัว หลังจากเขาโดนลดตำแหน่งเขาก็ยังไม่เลิกสาปแช่งพระเจ้า และก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด

ด้านอื่นๆ ฮายาโตะเป็นคนที่ช่างพูดช่างเจรจาคนนึงเลย และเป็นพูดได้น้ำไหลไฟดับเลย แต่รู้สึกว่าเขาจะใช้ปากเขาไปในทางที่ผิด เขาชอบให้คนอื่นแต่คอกันเพราะเขาคิดว่าต่อให้เขาเราคบกันนานแค่ไหนมันก็ต้องมีวันที่เลิกราอยู่ (พ่อแม่ของเขาก็เช่นกัน) ซึ่งเครื่องมือในการยุก็คือปากของเขาเองนั่นแหละ ตอนปี 1 นั้นเขามักจะเป็นฝ่ายถูกยั่วยุจนเกิดเรื่อง ตอนพอขึ้นปี 2 แล้ว เขาก็มักจะเป็นฝ่ายไปยั่วยุคนอื่นซะมากกว่า ถึงแม้ว่าฮายาโตะอาจจะมีมุมแย่ๆอยู่เยอะ แต่ความจริงแล้วเขาก็มีมุมดีๆอยู่เหมือนกัน นั่นก็คือเขาไม่เคยดูถูกคนที่มีตำแหน่งต่ำกว่าตนเอง หรือคนที่สถานะคล้ายตัวเขาเอง นอกจากนั้นแล้วเขายังเป็นพวกอนุรักษ์นิยมด้วย ชอบเดินดูชมนกชมไม้ แถมยังสะสมพืชและแมลงแปลกๆด้วย (แมลงสาปยังมี) เขาชอบที่จะเอาพืชที่เอาเก็บมานั้นมาปรุงยากินเนื่องจากตัวเขาเป็นที่ค่อนขี้โรคและมักจะไอเป็นเลือดอยู่บ่อยครั้ง และฮายาโตะก็เล่นกีฬาที่เกี่ยวกับการปาเก่งมากโดยเฉพาะการปามีด แถมยังมีข่าวลือว่าฮายาโตะเป็นคนที่มีซิกเซนต์มองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองเห็นและได้ยินในสิ่งที่คนอื่นไม่ได้ยิน

อาวุธ : Blade of Woe (มีดปาอาบยาพิษ) เนื่องมาจากมีดปาแต่ละเล่มของฮายาโตะมีชื่อเป็นของตัวเองหมดทุกตัว ก็เลยเรียกรวมๆว่า Blade of Woe

Hidden Blade (มีดลับ) เป็นมีดที่จะใช้ในจังหวะที่ศัตรูเผลอ รูปร่างดังรูป



ท่าประจำตัว :

Vision of Truth : มองเห็นสิ่งแปลกประหลาดต่างๆเช่น ผู้เล่นที่ล่องหน ผู้เล่นที่ตายแล้วฟื้น (ถ้านี้ใช้มากแล้วจะมีผลข้างเคียงคือจะมีอาการตาแดง)

Vanish and Muffle : ล่องหนแบบไม่มีเสียงอะไรสักอย่างแม้แต่เสียงเดิน

Hypnotic Gaze : คนที่โดนเวทย์นี้จะติดสถานะ Calm ซึ่งคนๆนั้นจะไม่ยอมต่อสู้เป็นเวลา 30 วินาที

Aspect of Terror : คนที่โดนเวทย์นี้จะติดสถานะ Fear ซึ่งคนๆนั้นจะวิ่งหนีหรือยอมแพ้ (ใช้ไม่ค่อยได้กับพวกที่ตำแหน่งสูงกว่า)

Mayhem and Rage : เป็นเวทย์ที่ยิงได้แบบระยะกว้าง ซึ่งไม่ว่าใครก็ตามที่โดนเวทย์จะติดสถานะ Frenzy และจะหันมาโจมตีสิ่งที่อยู่รอบตัวเอง

Mass Paralysis (ท่าลับ) : คนที่โดนเวทย์นี้จะติดสถานะ Paralyze และไม่สามารถขยับตัวได้

Darkness Surrounding (ท่าไม้ตาย) : กางปีกของผีเสื้อกลางคืนออก ซึ่งใครที่มองปีกนั้นจะทำให้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ผิดเพี้ยนไป และจะติดสถานะ Calm , Fear , Frenzy หรือ Paralyze อย่างใดอย่างหนึ่ง

โจมตี - C
ป้องกัน - B
กายภาพ - D
ความเร็ว - B+
พลังเวท - A
โชค - A

ปล. ฮายาโตะไม่ใช่พวกที่จะออกไปสู้ซึ่งๆหน้า แต่มักจะสร้างความวุ่นวายและอ้อมไปตลบหลังเก็บทีละคน

ข้อมูลส่วนตัว
รูป : Charlotte Belew



ชื่อ : Silvy La Vallière
ชั้นปี : 3
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 160 / 45
ตำแหน่ง : ควีน
ฉายา : The Princess of La Vallière

ประวัติโดยสังเขป : คุณหนูจากตระกูลขุนนางผู้สูงศักดิ์แห่งประเทศอังกฤษ เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากโรงเรียน Valkyria ตระกูลของเธอได้รับการประทาน เหรียญเกียร์ติยศ จากราชวงค์อังกฤษ จากการเคยช่วยประเทศเอาไว้ในอดีต ผลการเรียนของ Silvy นั้นติดอันดับ 1 ใน 3 ท็อปของโรงเรียน Valkyria เลยทีเดียว

อุปนิสัย : ทางด้านนิสัย Silvy นั้นออกจะดูเป็นคนเย็นชา และ ปากไม่ตรงกับใจ ขอบทำเหมือนเป็นคนปากร้าย  แต่จริงๆ แล้วในใจของเธอเป็นคนอ่อนโยน และ เป็นห่วงคนอื่นอยู่ในใจ (เข้าใจง่ายๆ คือ ซึนเดเระ นั่นแหละ)

อื่นๆ : ด้านการต่อสู้นั้น Silvy จะสู้โดยใช้ Dracian มังกรสัตว์ผู้พิทักษ์ประจำตัวของเธอในการโจมตีเป็นหลัก โดยเธอจะส่งพลังเวทย์ของเธอ เข้าไปในตัวของ Dracian และ ปลดปล่อยออกมาเป็นพลังทำลายล้างสูง และในยามที่ Dracian ไม่สามารถสู้ Silvy ก็ยังสามารถสู้ด้วยพลังของตัวเองได้อยู่ดี แต่พลังทำลายจะด้อยลง

ข้อมูลในเกม
อาวุธ : ใช้ Dracian มังกรผู้พิทักษ์คู่หูของ Silvy เป็นมังกรโบราณมีอายุมามากกว่า 150 ปี ในอดีต Dracian โดยผู้ที่สามารถสื่อใจกับมันได้เท่านั้น จึงจะสามารถใช้ความสามารถของ Dracian ได้ด้านการโจมตืพลังทำลาย จะขึ้นอยู่กับความสามารถของคู่หู ยิ่งคู่หูมีพลังมาก การโจมตีของ Dracian ก็จะรุนแรงขึ้น

นอกนี้ Dracian ยังมีร่างแปลงอีก 3 แบบ ที่จะปรับใช้ตามสถานะการณ์ได้

1). Baby เป็นร่างหลักที่ Dracian ใช้อยู่ มีขนาดร่างกายเล็ก ทำให้สามารถฟื้นฟูพลังกาย และ พลังเวทย์ ได้อย่างรวดเร็ว พลังโจมตีของร่างนี้จะต่ำที่สุดในบรรดาร่างทั้งหมด

2).Fly เป็นร่างที่จะขยายเฉพาะปีก เพื่อให้ Silvy สามารถบินบนท้องฟ้าได้ และยังสามารถใช้หางในการช่วยโจมตีได้ด้วย ในร่างนี้จะใช้การโจมตีจาก Silvy เป็นหลัก

3). Dragon เป็นร่างที่แท้จริงของ Dracian เป็นมังกรสีฟ้า ร่างโตเต็มวัย มีพลังทำลายสูงสุด และในร่างนี้ Dracian สามารถใช้พลังเวทย์ของตัวเองได้ และ เมื่อประสานพลังกับ คู่หูการโจมตีก็จะรุนแรงขึ้นไปอีก

ท่าประจำตัว :

( Silvy )

Silvy Explosion เป็นการปล่อยเวทย์สายฟ้าออกมาเป็นการโจมตี (แบบการปล่อยคลื่นพลัง)

God Speed เป็นการใช้พลังกระตุ้นให้ตัวเองเคลื่อนไหวได้เร็วราวกับสายฟ้า

Electric Lance เป็นการทำเวทย์สายฟ้าให้เป็นรูปร่าง และ ใช้ขว้างใส่คู่ต่อสู้ (เป็นการโจมตีระยะกลาง)

Spark Flash เป็นการยิงกระสุนพลังสายฟ้าแบบต่อเนื่อง ท่านี้เป็นการโจมตีที่มีความเร็วสูง แต่พลังทำลายจะต่ำ ทำให้ต้องโจมตีหลายครั้งกว่า จะสร้างความเสียหายที่รุนแรงได้

Electro Master เป็นการดึงพลังกระแสไฟฟ้าทั้งหมดจากรอบตัวมาเปลี่ยนเป็นพลังให้กับ Silvy ในระหว่างใช้ความสามารถนี้ ค่าความสามารถทุกด้านของ Silvy จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า แต่ท่านี้มีข้อเสียร้ายแรงตรงที่ สามารถใช้ได้แค่ 3 นาทีเท่านั้น และหลังจากใช้ครบ 3 นาที Silvy จะใช้พลังไม่ได้ไป1 ชั่วโมงเลยทีเดียว

(Dracian)

Fire Ball เป็นการใช้พลังเวทย์ของ Dracian สร้างกระสุนไฟ และ ยิงออกมา เป็นการโจมตีที่ Dracian ใช้บ่อยที่สุด เพราะใช้พลังน้อย

Dragonic Defence เป็นการใช้พลังเวทย์ของ Silvy มารวมไว้ที่ปีก เพื่อใช้ในการป้องกันการโจมตี

Dragonic Hyper Cannon เป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของ Dracian เป็นการรวมพลังเวทย์ระหว่าง Silvy กับ Dracian สร้างพลังลำแสงทำลายล้างออกมา

Dragonic Thunder Bolt เป็นการใช้พลังของ Silvy สร้างเป็นการโจมตี เป็นลำแสงสายฟ้าออกมา เป็นการโจมตี มีพลังทำลายด้อยกว่า Dragonic Hyper Cannon ทำให้สามารถใช้ได้บ่อยกว่า

Status :
โจมตี - A
ป้องกัน - B+
กายภาพ - C+
ความเร็ว - C
พลังเวท - A
โชค - B+

รูป :

Hishiro Chizuru

ชื่อ : ซาซางาวะ อายูมิ (Sasagawa Ayumi)

ชั้นปี : 2

ส่วนสูง/น้ำหนัก : 162/47

ตำแหน่ง : คิง

ฉายา : The Witchery Matriarch (กระษัตรีมารยา) / Necromancer (แม่มดแห่งความตาย)

ประวัติโดยสังเขป : หญิงสาวที่เป็นคนเก็บตัว ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง และขี้อายเป็นอย่างหนักครั้นสมัยยังเป็นเด็ก ซ้ำร้ายไปกว่านั้นการสูญเสียของบุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธออย่างพ่อและแม่ ผู้ให้กำเนิดและผู้เลี้ยงดูเธอมานั้นยิ่งทำให้เธอกลายเป็นคนเก็บตัวอย่างหนัก ไม่เข้าสังคม และไม่กล้าแม้แต่จะเผชิญหน้ากับผู้คน ประหนึ่งกับเป็นโรค Depression หรือโรคซึมเศร้า ซึ่งเธอก็ได้รับการอุปการะโดยลุงป้าของเธอแต่ว่าผู้ปกครองคนใหม่ทั้งสองก็ไม่อาจทำให้เธอกลับมาเปิดใจได้อีกครั้งหนึ่ง จนกระทั่งยุคสมัยและกาลเวลาที่ผ่านไป ถึงแม้ว่าจะพอก้าวข้ามผ่านโรคซึมเศร้าได้แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าสังคมได้เสียที จนกระทั่งเธอได้พานพบกับเกม Checkmate จุดเปลี่ยนจุดสำคัญของเธอ เมื่อค้นพบว่าฝีมือของเธอในเกม Checkmate นั้นไม่ธรรมดา จัดได้ว่าเป็นผู้เล่นระดับสูงทำให้เธอสร้างความมั่นใจในตัวเองได้หลังจากที่ผ่านมาเป็นเวลายาวนาน ซึ่งนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอแปรเปลี่ยนเป็นคนล่ะคน

อุปนิสัย : เป็นสาวคูลและดูเป็นผู้ใหญ่ มีความเชื่อมั่นในตัวเอง ดูพึ่งพาได้ ดูน่าไว้ใจ และดูน่าเคารพนับถือ ด้วยกิริยาและใบหน้าที่สวยงามและสง่างามของเธอ มิอาจเก็บเสน่ห์อันล้นพนไว้ได้ จนทำให้มีหนุ่มๆเข้ามาหา เข้ามาหลงใหลเธออย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็ด้วยความที่เธอรู้สึกว่าพวกผู้ชายเหล่านี้เข้าหาเธอเพียงเพราะรูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้สนใจถึงตัวตนที่แท้จริงด้านในจริงๆ เธอจึงชอบเล่นสนุกกับผู้ชาย ให้ความหวัง ใช้งานตามความต้องการจนกว่าเธอจะพอใจ เหมือนกับเป็นการแก้แค้นที่เธอต้องโดดเดี่ยวมาตลอดในช่วงวัยเด็ก จนทำให้มีการกล่าวขนานนามเธอว่าเป็นนังแพศยาจากพวกผู้หญิงที่ไม่ชอบขี้หน้าเธอ อนึ่ง เนื้อแท้จริงๆของเธอก็ยังคงเป็นคนที่ขี้กังวล เก็บตัวและขาดความมั่นใจในตัวเองอยู่ดี ถึงแม้เธอจะพยายามปกปิดและเปลี่ยนตัวเองมากแค่ไหนก็ตาม เธอก็ไม่อาจหนีตัวตนที่แท้จริงของเธอได้ ถ้าหากวันใดก็ตามที่เธอแพ้เกม Checkmate ซึ่งเป็นรากฐานของความมั่นใจของเธอขึ้นมาล่ะก็..

อื่นๆ : เหตุผลที่เธอเลือกตำแหน่งคิงแทนที่จะเป็นควีน เป็นส่วนหนึ่งมาจากการสร้างความมั่นใจของเธอ

ข้อมูลในเกม
อาวุธ : Spiritual Weapon (ศาสตราวุธแห่งจิต) - เป็นอาวุธวิญญาณที่สามารถก่อเป็นรูปร่างอะไรก็ได้ตามแต่ผู้ใช้ เช่น ขวาน ค้อน ดาบ ลูกตุ้ม เป็นต้น ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าอาวุธตามปกติ มีขนาดเท่ากับร่างกายของมนุษย์เลยก็ว่าได้ แถมยังสามารถควบคุมจากระยะไกลได้อีกต่างหาก

ท่าประจำตัว :
Hex (ศาสตร์แห่งสาป) - สาปศัตรู เมื่อศัตรูโดนได้รับดาเมจจากตนเอง ศัตรูจะได้รับดาเมจเพิ่มเติมดั่งโดนไฟแผดเผาไปทั่วร่างกาย
Circle of Death (วงเวียนของผู้วายชนม์) - ปลดปล่อยพลังด้านมืดเป็นรูปทรงกลมพร้อมกับสร้างความเสียหายกับศัตรูในบริเวณนั้น เสมือนกับว่าศัตรูกำลังเกิดแก่เจ็บตายวนเวียนเป็นวัฎจักรอยู่เรื่อยๆ
Finger of Death (ดัชนีปรลัย) - Circle of Death เวอร์ชันปล่อยจากนิ้ว
Internal Wounds (บาดแผลซ่อนเร้น) : เมื่อสัมผัสคนจะสร้างความเจ็บปวดอย่างรุนแรงเหมือนกับมีบาดแผลร้ายแรงเกิดขึ้นอยู่ใต้ผิวหนัง
Domination (รุกล้ำแดนจิต) - จ้องตาศัตรูก่อนจะพยายามควบคุมจิตใจของคนนั้น ถ้าควบคุมสำเร็จจะสามารถออกคำสั่งกับคนนั้นได้ตามใจชอบ แต่ศัตรูก็ยังสามารถหลุดจากการควบคุมนี้ได้ถ้าจิตใจแกร่งพอ ซึ่งเรียกได้ว่าท่านี้เป็นท่าไม้ตายของเธอยามเผชิญหน้าแบบตัวต่อตัวเลยก็ว่าได้ เพราะจะควบคุมให้อีกฝ่ายขอยอมแพ้แล้วเป็นฝ่ายชนะไปอย่างงั้น และมักจะไม่เคยใช้มันเลยในสถานการณ์ใดๆยกเว้นจะเข้าตาจนจริงๆ ซึ่งส่วนใหญ่เธอจะไปใช้ท่านี้ในโหมดที่ไม่ใช่โหมดตัวต่อตัวเสียมากกว่า
Dark Globe (โทษาพิทักษ์) - สร้างม่านพลังความมืดปกคลุมรอบตัวเองในระยะ 5 เมตร จะไม่ได้รับผลจากพลังหรือการโจมตีของคนภายนอกม่านพลังใดๆทั้งสิ้น แต่ในขณะเดียวกันเธอเองก็ไม่สามารถใช้พลังอย่างอื่นได้ และใช้ได้ไม่นานด้วย
Curse Resurrection (ชีวาต้องสาป) - ชุบชีวิตผู้เล่นที่ตาย(แพ้)ไปแล้วกลับมาในฐานะซอมบี้
Dead Last (อนธการนิรันดร) - ท่าไม้ตาย สร้างอาณาเขตที่ปกคลุมด้วยความมืดและพลังงานแห่งความตายปกคลุมตัวของศัตรูไว้ คนที่อยู่ในอาณาเขตดังกล่าวจะค่อยๆหมดสติจากแรงกดดันซึ่งสร้างจากความมืดและความตายที่ค่อยๆขยับใกล้เข้ามา จนเกิดความทรมาณแสนสาหัส แต่ในขณะเดียวกันผู้ใช้เองก็ต้องแบกรับการใช้พลังงานสุดแสนสาหัสเช่นเดียวกัน สรุปง่ายๆก็คือเป็นการแข่งความอึดถึกทนระหว่างผู้ใช้งานกับผู้ถูกเล่นงาน แต่มักจะจบลงด้วยชัยชนะของเธอตลอดมา..

Status :
โจมตี - A
ป้องกัน - C+
กายภาพ - E
ความเร็ว - D
พลังเวท - A
โชค - C+

รูป : Kobayashi Rindo



ชื่อ : โยซิซาวะ ซัทซึกิ
ชั้นปี : ปี 3
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 171 เซนติเมตร / 47 กิโลกรัม
ตำแหน่ง :  
ฉายา : The Reaper Queen , Death's Whisper

ประวัติโดยสังเขป : ซัทซึกิลูกสาวของมหาเศรษฐีในญี่ปุ่น ตระกูลของเธอเป็นเจ้าของอุตสาหกรรมรายใหญ่ในญี่ปุ่น พ่อของเธอนั้นมีตรรกะที่ว่าตระกูลของเธอต้องชนะอยู่เสมอ นั่นทำให้เธอถูกส่งเรียนคนเดียวเดี่ยวกับติวเตอร์ชั้นนำ พ่อของเธอทำลายทุกอย่างในความคิดของเธอกับสิ่งที่คิดว่ามันอ่อนแอ เช่นตุ๊กตานี้เธอก็แทบจะไม่เคยได้สัมผัสมันเลย พ่อของเธอมักพูดเสมอว่าเธอต้องได้ที่ 1 กับทุกๆอย่างที่ทำไป แล้วมันก็เป็นจริง ไม่ว่าจะเรื่องไหนที่เธอได้ทำเธอก็อยู่ที่ 1 ตลอด ทำให้ชีวิตเธอนั้นเป็นพวกเก็บกดมาก ที่จริงเธอยังมีแม่ของเธอที่ทำให้มีความสุขได้อยู่บ้าง ทำให้ซัทซึกินั้นยิ้มออกมาได้ แต่สุดท้ายแล้วทุกสิ่งทุกอย่างต้องพังลงไปเพราะแม่ของเธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ความสุขอย่างเดียวที่เหลือนั้นพังพินาศไปตั้งแต่เธออายุราวๆ 14 ปี จนสุดท้ายแล้วเธอมาสนใจ Checkmate ขึ้นมา พ่อของเธอจึงส่งไปที่โรงเรียน ''มิไรเคียว'' แต่มีข้อแม้ว่าถ้าเธอเกิดแพ้ขึ้นมา พ่อของเธอจะเลิกเล่นมันซะ

อุปนิสัย : ซัทซึกึเหมือนเป็นคนที่จะใจดีกับเหล่าน้องๆ เธอดูเฮฮาป่วนไปหมด โดยหารู้ไม่ว่าคนส่วนใหญ่นั้นแทบจะหวั่นเกรงเธอ ฉายา The Reaper Queen ของเธอนั้นไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ถึงเธอจะเป็นคนที่ใจดีขนาดไหนแต่คำพูดของเธอนั้นก็เหมือนจะจิกกัดคนอื่นตลอดเวลาด้วยสีหน้าที่ดูเฮฮาตามประสาผู้หญิงขี้เล่น แต่จริงๆแล้วนั้นเธอแทบจะไม่ใช่แบบนั้นเลย ทุกครั้งที่เธอจะเจอกับใคร เธอจะชอบบอกว่า "ชั้นให้โอกาศพูดยอมแพ้ตอนนี้ยังทันนะ" ซึ่งอันที่จริงแล้วมันคือการยั่วโมโหให้พวกนั้นมาสู้กับเธอ และหลังจากนั้นหละของจริงมันก็กำลังจะเริ่มขึ้น



เธอนั้นเป็นเพล์เยอร์ที่น่ากลัว เธอพร้อมจะทำลายทุกคนที่ขวางทางเธอ เธอพร้อมที่จะขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดของวงการนี้ เธอนั้นแทบไม่มีคำว่าปราณีให้คู่ต่อสู้ ความเงียบงันในการสังหารให้ผู้เล่น เธอไม่ต่างจากนักฆ่าที่พร้อมจะทำลายเหล่าผู้เล่นเกมส์นี้ให้สิ้นซาก รังสีแห่งความอำมะหิตที่ออกมาจากตัวเธอนั้นแทบจะสร้างความกดดันให้เหล่าเพล์เยอร์จนทำไรไม่ถูกถ้าเพล์เยอร์คนนั้นใจไม่แข็งพอ และยังมีพูดชวนคนหัวลุกที่ออกมาจากปากของเธอให้เหล่าเพล์เยอร์ตกอยู่ในภวังค์แห่งความหวาดหลัว เธอเหมือนเป็นคนที่มอบ ความหวาดกลัวและความสิ้นหวัง ให้กับเหล่าเพล์เยอร์คนอื่นๆ เพราะนี้คือความสุขที่เธอสร้างมาคือการเห็นผู้เล่นเจ็บปวด และ สิ้นหวัง เหมือนที่เธอเคยรู้สึก

อื่นๆ :
- เป็นคนชอบกินเวลาเห็นรุ่นพี่ซัทซึกิก็จะเห็นเธอกินอยู่ตลอดเวลา แต่ก็เบรินออกนะ ดูหุ่นจะเห็นซิกแพ็คด้วยนะ เซ็กซี่สุดๆไปเลย



อาวุธ :
Death Scythe (เคียวยักษ์แห่งความตาย คือเคียวที่มีออร่าออกสีม่วงๆ ออกมา) , Shadow (เงานั่นหละเธอสามารถควบคุมเงามืดได้) , Sword of Death  (ดาบแห่งความตาย เธอสามารถเปลี่ยนเคียวของเธอให้เป็นดาบได้ด้วยพลังเวทย์ของเธอ ไว้ใช้แก้ไขตามสถานการณ์)

ท่าประจำตัว :

Dark Scythe
- Whirling Scythe (แกว่งเคียวของเธอไปรอบตัว เป็นการลบล้างการโจมตีของคู่ต่อสู้ และยังสามารถโจมตีคู่ต่อสู้ได้พร้อมกันหลายคนในโหมดแบทเทิลรอยัล)

Sword of Death
- Swift Sword (พุ่งไปในจุดที่กำหนดด้วยความเร็วสูงจะเหมือนเงามืดพุ่งมาข้างหน้าแล้วซัทซึกิก็ฟาดฟันศัตรู)
- Darkness Wave (ฟาดฟันดาบเป็นตัว x ก่อนจะมีออร่าสีดำทมิฬพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้)

Shadow
- Shadow Shield (ใช้เงามาป้องกันเป็นโล่ล้อมรอบตัวเอง)
- Dark Dominion (เงามืดนั้นจะเข้ามาพันธนาการศัตรูให้ศัตรูไม่สามารถขยับได้ในช่วงเวลาหนึ่ง)
- illusion of Darkness (ใช้เงาขึ้นสร้างตัวเองขึ้นมา ซึ่งเป็นการรบกวนสมาธิคู่ต่อสู้ โดยเงานั้นจะเหมือนมีตัวเธออีกคน แต่ไม่สามารถสร้างความเสียหายได้ โดยจากสันดาบดิบของมนุษย์จะต้องมีหลุดกันบ้าง)

ท่าพิเศษ
Fear of the Dark (สร้างเงามืดปกคลุมคู่ต่อสู้ ก่อนจะสร้างภาพหลอนให้แก่คู่ต่อสู้จนคู่ต่อสู้เกิดความกลัว เป็นท่าที่ใช้เมื่อเธออยากให้ผู้เล่นคนนั้นกลัวจนต้องร้องขอชีวิต)
Camouflage (เป็นการที่ทำให้ศัตรูไม่สามารถมองเห็นเธอได้ในช่วงเวลาหนึ่ง)

ท่าไม้ตาย
Death’s Whrisper (เสียงกระซิบแห่งความตาย) เงามืดปกคลุมพื้นที่นั้นก่อนที่เธอจะสังหารโดยไม่สนตั้งตัว จะมีเสียงกระซิบข้างหูซ้ายทีขวาที ให้คู่ต่อสู้เริ่มกระสับกระสายและตกอยู่ในความกลัว

รูป : Suzuya Tohzuki


ชื่อ : Christopher Wright (คริสโตเฟอร์ ไรท์), เรียกสั้นๆ Kriffey (คริฟเฟ่ย์) สำหรับคนที่สนิทสนม
ชั้นปี : 2
ตำแหน่ง : Knight
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 181 ซม, 70 กก
ฉายา : Moonlight Prince (องค์ชายเดือนเพ็ญ), The Sacred Knight (อัศวินศักดิ์สิทธิ์)

ประวัติ/คาแรกเตอร์ : เด็กหนุ่มชาวสวีดิชแลกเปลี่ยนที่มีความสนใจในตัวเกม Checkmate ตัวเขานั้นถือว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดเพลเยอร์ที่สามารถโชว์ผลงานได้ดีมาโดยตลอด ตัวเขานั้นได้มีความสนใจกับเกมนี้มาตั้งแต่ต้นและทางครอบครัวก็ได้สนับสนุนให้กับเขาจนถึงขั้นย้ายมาโรงเรียนมิไรเคียวเพื่อศึกษาตัวเกมโดยเฉพาะ ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่คนเดียวตามอพาร์ทเม้นท์โดยที่ครอบครัวจะส่งเงินให้เขาทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยความที่เป็นลูกของคนมีเงินจึงไม่ถือว่าตัวเขาตกอยู่ภายใต้ความลำบากเลยในเรื่องการใช้ชีวิต แต่มักจะทำตัวสบายๆ ตามสไตล์ชาวสวีดิชที่ไม่ได้วัดคนเรื่องฐานะ จึงถือว่าเป็นหนึ่งในคนที่เฟรนลี่ต่อคนอื่น

ลักษณะนิสัยของเขานั้นเป็นคนง่ายๆ แต่ชอบในการเที่ยวเล่นตามสไตล์วัยรุ่น ค่อนข้างเป็นหนุ่มเพลย์บอลสุดหล่อสูงยาวเข่าดีจนสาวๆ ตามรุมล้อมราวกับตกอยู่ในมนต์สะกดเสน่ห์ของเขา แถมตัวเขาก็เป็นคนที่เจ้าชู้ในระดับหนึ่งอีกด้วย จึงไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็นเพราะความเจ้าชู้หรือความเฟรนลี่ที่ทำให้ชายคนนี้ตามเล่นกับเหล่าสาวๆ ที่หลงไหลในตัวเขา ปกติแล้วเขามักจะคาบกุหลาบไว้ที่ปากของตัวเองในยามหว่านเสน่ห์ จีบสาวๆ เล่นบ้างเป็นครั้งคราว แต่เขาหาได้ทำมันไปเพราะตัวเองจริงจังแต่เป็นเพราะอยากเล่นสนุกเท่านั้น กลับกันหากเขาได้เจอหญิงที่เกิดปิ้งอย่างแรงละก็... เขาจะตามเธอคนนั้น จะจริงจังกับสิ่งที่เรียกว่าความรักอย่างสุดๆ

ทุกครั้งที่เขาอยู่ในเกม ทุกคนจะไม่รู้เลยว่าแผนการที่เขาจะใช้ในการต่อสู้จะเป็นเช่นไร ราวกับว่าเขาได้ผันแปรแบบแผนทุกครั้งที่ต้องการจะสู้ยังไงยังงั้น ด้วยความที่ฉลาดเป็นกรดและมีพรสวรรค์แพรวพราว ทั้งด้านพลกำลังและความรวดเร็ว จึงทำให้ตัวเขายากที่จะสามารถโค่นลงได้ แต่ด้วยการที่เขาเป็นคนที่ขี้เล่น ใส่ใจเรื่องความสนุกกับเกมมากกว่าชัยชนะจึงมีบ้างที่เขาอาจจะแพ้เพราะประมาทหรือเล่นสนุกจนเกินไป ถ้าหากเจอกับคู่ต่อสู้ฝ่ายชายนั้นจะมีการหยอกล้อเล่นนิดๆ หน่อยๆ แต่จะเอาจริงเอาจังบ้างเช่นกัน ถ้าเป็นคู่ต่อสู้หญิงละก็เขาจะยิ่งประมาทเป็นพิเศษและใช้การหว่านเสน่ห์มนต์ความงามเข้ามาในการต่อสู้อยู่เสมอ พูดง่ายๆ จะบอกว่าจีบหญิงในเกมก็คงไม่ผิด

ปล. เขาจะให้เฉพาะคนที่สนิทหรือสาวๆ เรียกเขาว่า "คริฟเฟ่ย์" เพื่อให้ดูสนิทสนมใกล้ชิดยิ่งขึ้น ส่วนคนอื่นที่เขาไม่ชอบหน้าหากเรียกเขาในนามนี้อาจทำให้เขาโกรธเคืองก็เป็นได้

อาวุธ : Beauty Moonlight (โสภายามเย็น หรือในอีกนามคือดาบเสี้ยวพระจันทร์)


ท่าประจำตัว :
Offense Moves
- Vengeful Blade (กระบี่พยาบาท): ชาร์จพลังทั้งหมดเข้าที่ดาบเสี้ยวพระจันทร์ก่อนที่จะออกแรงโจมตีศัตรู ส่งผลให้เกิดแรงระเบิดในระดับหนึ่ง หากเพลเยอร์ในระดับธรรมดาโดนกระบวนท่านี้ไป ก็อาจจะแพ้ได้ในทันที
- Dancing Moonshade (เงาจันทร์เริงระบำ): กระบวนท่าที่เร็วที่สุดในท่าทั้งหมด เป็นการพุ่งโจมตีโดยรอบศัตรูอย่างรวดเร็วเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนแล้วแต่ผู้ใช้ด้วยดาบเสี้ยวพระจันทร์ราวกับว่าเขาแยกร่างโจมตีศัตรู
- Twilight Circle (พลบค่ำเต็มวง): โยนดาบเสี้ยวพระจันทร์ของตนเองออกไป โดยที่ตัวดาบเล่มนั้นจะหมุนไปของมันเอง ณ บริเวณที่โยนไปเป็นวงกลม สร้างการโจมตีไปเรื่อยเป็น Area of Effect ผลของมันจะดำเนินไปเรื่อยจนกว่าเจ้าตัวจะเรียกดาบคืนกลับเข้าหาตัว

Defense Moves
- Spectral Strike (เพลงเงาคลื่นซัดสาด): พุ่งตัวเข้าไปโจมตีด้วยกระบี่เสี้ยวจันทร์อย่างรวดเร็ว สามารถใช้ได้เป็นทั้งการโจมตีหรือการหลบกระบวนท่าที่จำเป็นต้องใช้ความเร็ว บางทีเขาก็ใช้ท่านี้ในการพุ่งหลบเพื่อตั้งหลักแทนเหมือนกัน
- Fullmoon Retreat (บ่ายเบี่ยงชมจันทร์): การถอยฉากโดยที่จะปล่อยคลื่นลมซัดใส่คู่ต่อสู้ มีโอกาสทำให้คู่ต่อสู้เสียงจังหวะในการโจมตี โดยที่ทุกครั้งที่ใช้กระบวนท่านี้ เขาจะอยู่ในลักษณะกระโดดตีลังกาเต็มลงเป็นการหลบการโจมตีห่างออกไปจากคู่ต่อสู้ในระยะหนึ่ง
- Blur Image (ภาพสลัวมายา): การทำให้ร่างกายทุกส่วนกลายเป็นดั่งภาพมายาที่ทำให้สามารถหลบการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย มีระยะในการใช้งานประมาณ 3-5 วินาที เหมาะสำหรับตำแหน่ง Knight ที่มีความเปราะมากที่สุด แต่เมื่อท่านี้ถูกใช้งาน เขาจะไม่สามารถโจมตีได้

Utility
- Mark of Annihilate (เครื่องหมายวินาศ): สร้างเครื่องหมายพยาบาทให้แก่ศัตรูส่งผลให้ศัตรูรับดาเมจมากกว่าเดิมโดยประมาณหนึ่งส่วนห้าของการโจมตีนั้นๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง
- Moonlight Prince (องค์ชายเดือนเพ็ญ): ชื่อท่าเดียวกับฉายาของเขา โดยท่านี้จะเปลี่ยนสภาพตัวเองให้เรืองแสงจันทร์ทั่วทั้งตัว เป็นการบลัฟให้ตัวเองแกร่งขึ้นมาเป็นเท่าตัว แต่ระยะเวลาในการคลูดาวน์จะเยอะที่สุดในทุกกระบวนท่าและระยะเวลาของกระบวนท่านี้ค่อนข้างสั้น จึงไม่ค่อยได้ใช้งานมากนัก แต่ครั้งไหนที่ได้ใช้นั่นคือเขาเอาจริงหรือเข้าตาจนจริงๆ

Ultimate Skill
- Moonlight Nova (แสงจันทร์ระเบิดภพ): เป็นการใช้สามกระบวนท่ารวมกันโดยเริ่มจากการใช้บ่ายเบี่ยงชมจันทร์เพื่อให้คู่ต่อสู้เสียจังหวะ ต่อด้วยเพลงเงาคลื่นซัดสาด พุ่งโจมตีเข้าไปจุดสำคัญโดยตรงให้คู่ต่อสู้บาดเจ็บก่อนที่จะปิดฉากด้วยกระบี่พยาบาท ว่ากันว่ายังไม่เคยมีใครรอดจากกระบวนท่านี้ได้สักคนเมื่อเขามีโอกาสได้ใช้งาน